คันไม้คันมือ...อยากเล่า ฮ่า
ทีแรกคิดว่าจะปล่อยลานดอกไม้ไว้เป็นเรื่องครึ่งเดือนหลังจนจบเดือน แต่ก็ชักทนไม่ได้ เพราะคันปาก เอ๊ย คันมือ จริงๆ แล้วว่าจะเอาไปเล่าใน จิบกาแฟฯ แต่ยังเล่าเรื่องที่ไปทัวร์เหนือค้างไว้ เลยเอามาเล่าหน้าบ้านดีก่า เพราะก็เรื่องสั้นๆ เอง
วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมา ไปธุระที่สุพรรณบุรีมาค่ะ ขับรถไปกับพี่สาว ทีแรกนึกว่ามันไกล แต่จริงๆ แล้วไม่ไกลอย่างที่คิด ขับรถไม่ถึง ๕ ชั่วโมงดี แม้ว่าขาไปจะเลือกเส้นทางผิดนิดหน่อย คือเลือกเส้นที่แยกจากถนนมิตรภาพเข้าภาชี อยุธยา ในแผนที่จะตรงกว่าไปเลี้ยวเข้าพหลฯ ที่วังน้อย แต่เป็นเส้นสองเลนแล้วรถบรรทุกค่อนข้างเยอะ ทำให้เสียเวลาไปหน่อย ขากลับเลยมาตามพหลฯ โอ้โห ฉิวเลย นับเวลาแล้วเร็วกว่า
ก่อนเข้าสุพรรณ ก็แวะวันป่าโมก อ่างทองก่อน แวะไหว้พระนอนองค์ใหญ่ วัดหาไม่ยากมาก เพราะมีป้ายพอให้ไม่หลงทาง แล้วเราก็ตรงไปสุพรรณ ถึงตอนบ่ายนิดหน่อย เข้าไปพักที่รร.ไม้เอก เป็นโรงแรมสไตล์บังกะโล เพิ่งเปิดไม่นาน ห้องพักโอเค ราคาไม่แพงด้วย จากนั้นก็วนหาสถานที่ไปทำธุระ(เดี๋ยวจะบอกสุดท้ายว่าไปทำอะไร)
แล้วก็ไปวัดป่าเลไลย์ อยู่แถวๆ รอบเมืองนั่นแหละค่ะ จขฮ.เคยมาสุพรรณแล้วครั้งหนึ่งตอนเรียนโท แต่มากับค่ายของชมรม (ตอนนั้นยังมีแรงทำกิจกรรมอยู่ค่ะ) ในวัดก็มีหลวงพ่อโต พระยืนองค์ใหญ่ แต่ตอนที่ไปนั้นสี่โมงกว่า โบสถ์ปิดแล้ว แล้วก็เดินไปดูเรือนไท คุ้มขุนช้าง เพราะพี่สาวเค้าไม่เคยมา
ไหว้เพราะเสร็จเราก็ไปนี่....
นอกจากจะประทับใจกับ 'ถนน' ของเมืองสุพรรณบุรีแล้ว จขฮ. ก็ชื่นชอบ 'ป้าย' ค่ะ คือไม่ว่าจะไปสถานที่ท่องเที่ยวไหนในเมืองสุพรรณ เขาจะมีป้ายนำทางส่งถึงที่เลยค่ะ แค่มองหาป้ายสีน้ำเงินข้างทางค่ะ ไม่เหมือนเมืองอื่น จะมีป้ายให้แค่อันสองอันแล้วก็ให้คนจะไป 'งม' หาทางเอาเอง
ข้างบนหอบรรหาร-แจ่มใสค่ะ เป็นกระจกใสชมเมืองได้รอบ ส่วนเจ้ากล้องนี่ต้องหยอดเหรียญสิบนะคะ ดูได้ประมาณสองสามนาที อ้อ..ค่าขึ้นหอนี่ ๓๐ บาทค่ะ แต่ถ้าตอนค่ำ ๔๐ มีค่าเข้าสวนอีก ๑๐ บาท ตอนเย็นๆ จะมีการเปิดน้ำพุดนตรีด้วยค่ะ บรรยากกาศดี
วันเสาร์ ทำธุระ(วันแรก) เสร็จตอนบ่ายค่ะ ก็เลยตกลงกับพี่สาวไปดอนเจดีย์กัน ถนนจาก อ.เมืองไปถึง ดอนเจดีย์สุดยอดมากค่ะ ชอบจริงๆ วันที่ไปเป็นวันถัดจากบรวงสรวงองค์พระนเรศวรเจ้า มีงานออกร้านและการแสดงยุทธหัตถี
ถวายสักการะท่านแล้ว ก็ไปกันต่อค่ะ เป้าหมายถัดไปคือ ตลาดร้อยปีสามชุก ห่างจากดอนเจดีย์ไปยี่สิบโลกว่าๆ ถนนดีมาก แป๊บเดียวก็ถึง ขนาดไปถึงเย็นๆ แล้วคนยังเยอะอยู่เลยค่ะ ของกินเยอะอ่ะ แต่ก็อย่างว่าล่ะค่ะ พอเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว กลิ่นอายบางอย่างก็เริ่มหายไป แต่ก็ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจค่ะ คนได้งานเพิ่มขึ้น เดินดูจนหนำใจ อิ่มปาก แล้วก็กลับมากินปลาม้าที่สุพรรณต่อค่ะ อิอิ
วันอาทิตย์ เสร็จธุระราวๆ ๑๑ โมง ก็แวะซื้อสาลี่สุพรรณกลับบ้านค่ะ ขากลับรถค่อนข้างเยอะทั้งพหลฯ และมิตรภาพ แต่ก็ยังขับสบายค่ะ (ผลัดกันขับกับพี่สาว) กลับมานอนแผ่ กินหนมต่อที่บ้าน
สรุปว่า... จขฮ. ไป 'สอบ' มาค่ะ
เมื่อวาน บก. ก็เลยเมลมาถาม 'ข่าวคราว' แปลเองนะค้าว่าข่าวเรื่องไร ใกล้งานหนังสือแบบนี้ เหอๆ แต่ก็มีเรื่องมาให้ปลื้มเหมือนกันค่ะ บก. ส่ง ปกใหม่ ของนิยายเรื่องเก่าๆ ของ ฬีฬา มาให้ดู คาดว่าอย่างช้า ในงานหนังสือจะได้เห็นกันนะคะ ถ้าเร็วก็คงเป็นก่อนงาน(ไม่ได้กวนนะคะ แต่ความหมายประมาณนี้แหละ)
ปกใหม่นี้หวานมักๆ เป็นสไตล์เดียวกับปก ฝนโปรยรัก และ มนตร์เพียงรัก ค่ะ ถ้าทุกอย่างผ่านเรียบร้อยแล้วจะ โพสต์รูปให้ดูกันนะคะ
อ้อ...แถมนิดหน่อยค่ะ สองสาวที่ส่งที่อยู่มาทีหลัง จขฮ.ยังไม่ได้ส่งโปสการ์ดไปให้นะคะ เพราะตอนนี้ที่ทำการไปรษณีย์โดนปิดถนนค่ะ เพราะมีงานประจำปีของจังหวัด จขฮ. ขี้เกียจเดิน เลยขอรออีกสักสองสามวันค่ะ เดี๋ยวก็เลิกงานแล้ว
เฮ้อ...หมดเรื่องคันไม้คันมือแล้วค่ะ ขอไปปั่นนางฟ้าต่อล่ะ
นางฟ้า...นางฟ้า...นางฟ้า...นางฟ้า....เอิกส์ นางมารคนเขียนจะเป็นลม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Create Date : 22 มกราคม 2551 |
|
75 comments |
Last Update : 22 มกราคม 2551 19:54:52 น. |
Counter : 1872 Pageviews. |
|
|
|