ปลูกดอกไม้ในฮาเร็ม...เติมเต็มหัวใจให้ชื่นบาน
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 

พะนอขวัญ บทที่ ๑๓

พะนอขวัญบทที่ ๑๓

พะนอขวัญมองผ่านกระจกใสของหน้าต่างรถทัวร์สองข้างทางกลายเป็นตึกสูงใหญ่เพราะเข้ามาถึงเขตกรุงเทพแล้วสามวันที่บ้านผ่านไปอย่างรวดเร็ว และต้องรอจนกว่าจะถึงวันหยุดยาวครั้งหน้าจึงจะได้กลับบ้านอีกครั้ง

การเลือกสิ่งหนึ่งมักจะต้องแลกด้วยสิ่งหนึ่งเสมอ

เมื่อทำงานอยู่กรุงเทพฯแต่ก็ไม่สามารถที่จะอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวได้

“กลับบ้านแล้วก็แอบคิดถึงกรุงเทพฯแต่อยู่กรุงเทพฯ นานๆ แล้วก็แอบเบื่อเหมือนกันว่ะ”เสียงเพื่อนสาวที่นั่งคู่กันทำให้พะนอขวัญหันกลับมา

“ฉันควรจะเป็นคนพูดมากกว่าไอ้เนตรแกมาแค่วันเดียว เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับไปโรงพยาบาลแล้วนี่”พะนอขวัญรู้สึกอิจฉาเพื่อนเล็กน้อยเนตราเข้ามากรุงเทพเพื่อพบอาจารย์ที่ปรึกษาก่อนจะกลับไปฝึกงานต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดที่ไม่ไกลกรุงเทพฯนัก ซึ่งเธอคิดว่าดีกว่าอยู่กรุงเทพฯ มาก

เนตราเป็นหนึ่งในเพื่อนไม่กี่คนที่เข้ามาอยู่เรียนอยู่ที่กรุงเทพฯพร้อมกับเธอ หากตอนนี้ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไป นานๆ จึงจะนัดเจอกันสักครั้ง

“แกจะเบื่อเหรอ...”เนตราลากเสียงยาว นัยน์ตาเป็นประกายวิบวับ “เดี๋ยวนี้ไม่ต้องโดดเดี่ยวเอกาเหว่หว้าเดียวดายแล้วนี่”

“พูดมากนะแก ยังไม่มีอะไรสักหน่อย” พะนอขวัญเสียงสูง รู้สึกเขินๆ เวลาถูกเพื่อนล้อขึ้นมา แต่ก็พยายามทำหน้าเฉยๆเข้าไว้

“ไม่มีอะไรเหรอ...ไอ้ที่แกบอกมาฉันว่ามันมีอะไรชัดๆ” เนตราหัวเราะถ้าไม่มีอะไรแล้วใครจะบ้ามารับเพื่อนสาวไปส่งที่สถานีขนส่งแต่เช้ามืด

พะนอขวัญยักไหล่

“ไม่รู้ว่ะ ไม่ค่อยอยากจะคิดเท่าไหร่เลย”

“ทำไมวะ ทำอย่างกับไม่อยากมีแฟน”

“เออ...ก็ไม่ค่อยอยากมีเท่าไร”

“พูดจริงเหรอวะ”เนตรามองเพื่อนสาว ความจริงก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเท่าไรกับคำตอบพะนอขวัญชอบมีความคิดแปลกๆ อยู่แล้วที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินพะนอขวัญบ่นอยากมีแฟนเหมือนเพื่อนคนอื่น

พะนอขวัญพยักหน้า

“ทีคนอยากมีไม่ยักกะจะมีคนมาจีบบ้าง...เซ็งว่ะ”เนตราบ่นอย่างไม่จริงจังนัก “แล้วตกลงแกจะทำไง”

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ” พะนอขวัญก็คิดจนเลิกคิดไปแล้ว เพราะไม่ได้ข้อสรุปสักที

คิดมากไปก็เท่านั้น....

“หึๆ ฉันว่าแกก็ดูไปก่อนเหอะไม่ต้องไปรีบคิดรีบตัดสินใจก็ได้” เนตราเอ่ยเมื่อเห็นเพื่อนเงียบไปเธอเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้น่าจะมีอิทธิพลต่อเพื่อนสาวไม่น้อยเพราะดูท่าทางพะนอขวัญใช้ความคิดมากทีเดียว

แต่เรื่องหัวใจ...มันก็ต้องให้เจ้าของหัวใจเป็นคนตัดสิน

“อือ...”พะนอขวัญเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลง หากแล้วก็ต้องลืมตาเมื่อได้ยินเสียงเพลงโปรดดังขึ้นเธอหยิบโทรศัพท์มือในกระเป๋าขึ้นมาดู หมายเลขที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้นั้นทำให้แปลกใจเล็กน้อยแต่ก็รับสาย

“สวัสดีค่ะ...”

“พี่เองนะครับน้องแพง” เสียงนุ่มๆ ดังมา พะนอขวัญรู้สึกร้อนวูบที่ใบหน้าและหัวใจเต้นระรัวขึ้นมาอย่างระงับไม่ได้

พะนอขวัญพยายามไม่แสดงพิรุธให้เนตรารู้สึกฝ่ายนั้นก็กำลังให้ความสนใจโทรศัพท์มือถือตัวเองอยู่เช่นกัน เพราะเนตราห่างจากโลกโซเชียลเนตเวิร์กไม่ค่อยได้เจ้าตัวยังชอบบ่นเธอบ่อยๆ ที่ไม่ค่อยเข้าร่วมสังคมนี้สักเท่าไร

ก็เธอไม่ค่อยชอบก้มหน้าดูโทรศัพท์นี่นา

‘แล้วพี่จะมารับนะครับ’ คำพูดก่อนที่เธอจะขึ้นรถขากลับบ้านหากการหายเงียบไปของเขาทำให้เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดจริง

“ค่ะ...”

“ใกล้ถึงหรือยังครับ”

“เอ่อ...กะ ใกล้แล้วค่ะ” พะนอขวัญตอบตะกุกตะกัก ขบริมฝีปากไม่ให้สั่น หากก็ไม่ได้ช่วยอะไรนักเธอไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

“ดีจริง...นึกว่าพี่จะมาไม่ทันซะแล้ว ถ้าอย่างนั้นพี่รออยู่แถวๆนี้ เดี๋ยวเจอกันนะครับ”

“เอ่อ...”พะนอขวัญไม่ทันได้เอ่ยอะไรอีกฝ่ายก็วางสายไปแล้ว เธอลดมือที่ถือโทรศัพท์ลงวางบนตักมองมันอย่างไม่อยากเชื่อ

‘ใจเย็นไว้...คำแพง’

“ไอ้แพง...ไม่ต้องดูแล้วเพื่อน แบบนี้ไม่มีให้หาเก็บเอาตามข้างทางนะแก”

พะนอขวัญหัวเราะแห้งๆขณะถูกเพื่อนเขย่าแขนอย่างตื่นเต้นเสียงกระซิบของเนตราฟังดูเหมือนอยากตะโกนเสียมากกว่า

“หล่อกว่าดาราอีกแก หามาจากไหนวะเนี่ย”

“สงบสติอารมณ์หน่อยเพื่อนเนตร” พะนอขวัญเอ่ยทั้งๆ ที่เธอเองก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นออกมาแทบทะลุอกผู้ชายคนนี้ทำให้หัวใจของเธอทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา

“แหม...ใครจะใจเย็นได้อย่างแก” เนตราแขวะเพื่อนสาวเล็กๆ ที่ทำหน้านิ่งอยู่ได้เธออยากจะกรีดร้องให้ลั่นหมอชิตเลยด้วยซ้ำเมื่อเห็น ‘เขา’ที่เพื่อนเผยอย่างไม่ค่อยจะยอมบอกรายละเอียดนัก

ไอ้แพงมันไม่บอกว่าเขาคนนั้นหน้าตาหล่อขนาดนี้!

แหม....ตอนลงจากรถทำท่าอึกอักเมื่อเธอจะเดินตรงไปยังจุดให้บริการแท็กซี่เพราะเธอกับพะนอขวัญก็ต้องไปทางเดียวกันซ้ำเพื่อนสาวยังมีกล่องกระดาษกล่องใหญ่พอสมควรที่เป็นอุปสรรคต่อการหอบหิ้วขึ้นรถเมล์ไปต่อรถไฟฟ้า

ที่แท้ก็มีคนมารอรับนี่เอง

พะนอขวัญวางกล่องลงที่พื้นเมื่อร่างสูงใกล้เข้ามาใครๆ ก็หันมามองเขาเป็นตาเดียวเพราะทั้งรูปรางหน้าตาและการแต่งกายทำให้น่านฟ้าดูไม่เข้ากับสิ่งรอบตัวตอนนี้นัก

เธอได้ยินเสียงแว่วมาทำนองว่ามีการถ่ายหนังถ่ายละครที่นี่หรือเปล่า

ก็คุณพระเอก...เดินหล่อมาขนาดนั้น

จนเขาเข้ามาใกล้เธอจึงไหว้เขาเหมือนเช่นทุกครั้ง เนตราจึงไหว้ตามบ้าง น่านฟ้ารับไหว้ และยิ้มบางๆให้กับหญิงสาวทั้งสอง

“สวัสดีครับน้องแพง...” เขาหยุดอยู่ตรงหน้าสองสาว และมองไปยังหญิงสาวอีกคนที่มองเขาตาไม่กะพริบตั้งแต่แรก

“เนตร...เพื่อนแพงเองค่ะ ไอ้เนตร...นี่พี่ใหญ่” พะนอขวัญแนะนำเสียงเบาๆ และแอบถองข้อศอกใส่เพื่อนสาวเพราะเนตราเอาแต่มองน่านฟ้าตาค้าง

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” น่านฟ้ามองเพื่อนของพะนอขวัญ ฝ่ายนั้นยิ้มตอบมา นัยน์ตาเป็นประกายมีเลศนัยอะไรบางอย่าง

“เนตรก็ยินดี...มากๆ เลยค่ะ” เนตราหัวเราะคิกคัก ตอนนี้อยากยกโทรศัพท์ขึ้นมากระจายข่าวให้เพื่อนคนอื่นรู้เรื่องเหลือเกิน

พะนอขวัญกลอกตารู้ว่าเนตราหลุดออกจากสายตาเมื่อไร เธอถูกเผาไม่มีชิ้นดีแน่

“ไปกันเลยดีไหมครับ รถพี่จอดอยู่ทางนี้” น่านฟ้าสบตาพะนอขวัญและก้มลงหยิบกล่องที่เธออยู่เมื่อสักครู่ขึ้นมาถือเอง และเหลือบมองกระเป๋าเป้ที่ห้อยอยู่ด้านหลังเธอ“พี่ช่วยถือกระเป๋านะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ...เป้เบาๆ เอง” พะนอขวัญปฏิเสธเสียงเบา ปกติกลับบ้านเธอก็ใช้กระเป๋าเป้ใบเล็กๆ ใบเดียววันนี้เยอะหน่อยก็คือกล่อง ‘ของฝาก’ ที่พวกทโมนสี่คนโทรศัพท์ไปกำชับกำชานั่นแหละ

“อืม...น้องเนตรละครับมีคนมารับหรือเปล่า” น่านฟ้าหันมาถามคนที่มองเขาตาแป๋วเนตราแทบสะดุ้ง เพราะมัวแต่พินิจพิเคราะห์ ‘เขา’ อยู่เพลินๆ

“ไม่มีค่ะ เมื่อกี้กำลังจะไปขึ้นแท็กซี่พอดี”

“อืม...แล้วบ้านน้องเนตรอยู่ที่ไหนครับ”

“ไม่ได้ไปบ้านหรอกค่ะ...เนตรจะไปโรงพยาบาล...” เธอบอกชื่อโรงพยาบาลที่เรียนอยู่

“งั้นก็เดี๋ยวพี่แวะไปส่งไม่ได้ไกลจากอพาร์ทเมนต์ของน้องแพงเท่าไร” น่านฟ้าบอกทันทีหากสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมเนตราต้องไปโรงพยาบาลตอนเย็นขนาดนี้

“แหม...ขอบคุณมากค่ะ”

พะนอขวัญอยากเอามือก่ายหน้าผากทั้งแววตาและน้ำเสียงของเพื่อนสาวเต็มไปด้วยความสนุกหากเมื่อหันกลับมาสบตาคมที่เจือรอยยิ้ม เรื่องเพื่อนดูจะเป็นเรื่องเล็กเพราะผู้ชายตรงหน้าดูจะเป็นเรื่องใหญ่มากกว่า

เธอต้องตั้งสิ...รับมือกับคนนี้ให้ดีๆ

น่านฟ้ามองหญิงสาวโบกไม้โบกมือให้เพื่อนสาวที่เปิดประตูรถลงไปเมื่อเขาจอดเทียบทางเท้าริมประตูรั้วของโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งก่อนที่เขาจะเคลื่อนรถออกเพราะไม่สามารถจอดนานได้แม้จะค่ำแล้วหากปริมาณรถก็ไม่ได้ลดลงเลย

“คุณหมอสมัยนี้เปลี่ยนไปเยอะนะครับ” น่านฟ้าเอ่ยกลั้วหัวเราะเขาแปลกใจไม่น้อยที่เพื่อนของพะนอขวัญเป็นว่าที่คุณหมอเนตราดูท่าทางขี้เล่นและสนุกสนานเฮฮา เธอทำให้รถแทบไม่มีความเงียบเลยผิดไปจากนักศึกษาแพทย์ที่เขาคิดไว้มากทีเดียว

“สมัยนี้คุณหมอมีแต่คนสวยๆ ค่ะ”

“หืม...พี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องความสวยเลยนะน้องแพงหึงเหรอ...”

พะนอขวัญหันขวับ เบิกตาโตสบตาคมเจือยิ้มก่อนที่เขาจะหันไปมองถนนตรงหน้าอย่างเดิม หากหัวเราะเบาๆอย่างพอใจกับปฏิกิริยาของหญิงสาว

“แพง...ไม่ได้...”พะนอขวัญหันกลับมามองตรงไปข้างหน้า ขบริมฝีปากเบาๆ กลั้นความขัดเขินหากใบหน้าร้อนวูบอยู่ตลอดเวลา

“หึงได้นะ...พี่ชอบ”

พะนอขวัญได้แต่เงียบ ไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไรคำพูดของเขาเพียงแค่หยอกเย้าหรือว่าหมายความอย่างนั้นจริงๆ

ถ้าเขาให้เธอ...หึง...ได้

ก็หมายความว่า...

จริงๆ นะเหรอ

ใจเย็น...คำแพง

น่านฟ้าเหลือบมองหญิงสาวที่เอาแต่นั่งเงียบๆมองออกนอกรถด้านหน้าบ้าง ด้านข้างบ้าง ยกเว้นทางด้านเขาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

หากที่ค่อนข้างแน่ใจ

เธอไม่ได้ไม่ชอบเขาอย่างแน่นอน

พะนอขวัญเลิกคิ้วเมื่อรถเลี้ยวลงจากถนนหลักเข้าซอยก่อนจะถึงทางเข้าอพาร์ทเมนต์ของเธอจึงอดหันไปมองคนที่กำลังกุมพวงมาลัยอยู่ไม่ได้ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้เช่นกัน

“ค่ำแล้ว ทานอะไรก่อนนะครับ”

“แต่...”พะนอขวัญอยากจะปฏิเสธ แค่นี้เธอก็คิดมากคิดเยอะไปอยู่แล้ว

“น่า...พี่เองก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลยชักปวดท้องแล้ว”

พะนอขวัญปรายตาค้อนนิดๆท่าทางคนพูดไม่ได้ออกอาการหรอก หากก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รับคำปฏิเสธของเธอแน่

“ก็ได้ค่ะ”

น่านฟ้ายิ้มบางๆ

“เดี๋ยวก็ถึงแล้วครับ”

น่านฟ้าเปิดประตูร้านอาหารให้หญิงสาวก้าวเข้าไปก่อนเสียงกรุ๋งกริ๋งของระฆังใบเล็กที่แขวนอยู่หน้าเป็นสัญญาณเวลามีลูกค้าเข้ามาพะนอขวัญกวาดตามองภายในห้องขนาดสองคูหาอย่างสนใจ ผนังอิฐสีส้มตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลเข้ม ตกแต่งด้วยผ้าฝ้ายและดอกไม้สีสันสดใสให้ความรู้สึกเหมือนก้าวเข้ามาในบ้านชนบทแถบอิตาลี

จำนวนโต๊ะอาหารไม่เกินสิบโต๊ะทำให้ดูไม่แน่นเกินไป และยังจัดได้มีความเป็นส่วนตัวของแต่ละโต๊ะให้ความรู้สึกเหมือนมารับประทานอาหารบ้านเพื่อนมากกว่าร้านอาหารตอนนี้มีโต๊ะว่างอยู่เพียงโต๊ะเดียว ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

“ไฮ...น่านฟ้า”ชายหนุ่มร่างสูงเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ตรงเข้ามากอดทักทายน่านฟ้าพร้อมกับพูดภาษาอังกฤษรัวเร็วจนพะนอขวัญแทบจับคำไม่ได้

เธอคิดว่าน่านฟ้าเป็นคนสูงมากแล้ว แต่ฝรั่งผมดำนั้นสูงกว่าน่านฟ้าอีก

“โอ๊ะ...นี่สินะ แขกพิเศษของนาย”

พะนอขวัญแทบสะดุ้ง เมื่อจู่ๆทั้งคู่ก็หันมายังเธอ นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองเธอย่างสนใจ หญิงสาวยิ้มแหยๆเพราะไม่สันทัดภาษาอังกฤษสักเท่าไร

“อืม...นี่น้องแพงน้องแพงครับนี่คริสเพื่อนพี่ แล้วก็เป็นเจ้าของร้านนี้”น่านฟ้าแนะนำทั้งสอง เปลี่ยนกลับมาใช้ภาษาไทย

“สวัสดีครับ...นองแพง”

“สวัสดีค่ะ...ร้านสวยมากเลยค่ะ” พะนอขวัญไหว้ฝรั่งหนุ่ม เขาเป็นเพื่อนของน่านฟ้ายังไงก็ต้องอายุมากกว่าเธออยู่แล้ว และแอบโล่งใจเมื่อดูท่าทางเขาจะพูดไทยได้แม้ว่าจะไม่ค่อยชัดนักก็ตาม

เธอชักสงสัยว่าคนหน้าตาดีเขาจะคบหาแต่คนหน้าตาดีด้วยกันหรือเปล่าเพราะนอกจากจะรูปร่างสูง แต่ไม่ได้สูงใหญ่เทอะทะ เขาดูปราดเปรียวแบบนักกีฬาโครงหน้าแบบยุโรปที่เหมาะกับเป็นแบบปั้นหุ่นที่ดูสะดุดตามากก็คงจะเป็นนัยน์ตาสีฟ้าใสกับผมสีดำ

ถ้าบอกว่าเขาเป็นนายแบบอินเตอร์เธอคงเชื่ออย่างสนิทใจ

“ขอบคุณครับ...”คริสยิ้มกว้าง

“คริสเขาเป็นคนแต่งร้านนี้เอง” น่านฟ้าบอกหญิงสาว แล้วตบไหล่เพื่อนสนิท “น้องแพงเป็นนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์มีรางวัลการันตีเพียบ อะไรที่ชมแปลว่าดีจริงๆ”

“โอ...ยอดมากๆ เป็นสาวน้อยที่เก่งและน่ารักมากนายโชคดีจริงๆ” คริสตบไหล่เพื่อนสนิทหนักๆยิ้มกว้างอย่างชอบใจ แม้จะแปลกใจที่รูปลักษณ์ของหญิงสาวจะต่างไปจากที่เขาคิดทีเดียว

หญิงสาวที่ดูเหมือนจะเป็นสาวน้อยเสียมากกว่าในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์แสนจะธรรมดาไม่ใช่สาวสวยจัดและดูหรูหราราวกับกุหลาบอังกฤษแบบที่น่าจะเหมาะสมกับน่านฟ้า

แต่ก็นั่นแหละ...โยนความเหมาะสมทิ้งไปเสีย

“ขอบใจ...”น่านฟ้าหัวเราะเบาๆ เขากับคริสเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษ แม้จะคนละเชื้อชาติแต่เป็นเพื่อนที่รู้ใจมากกว่าใคร

คริสชอบทำอาหารและชอบเมืองไทยจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารที่นี่

“มา...ฉันจัดโต๊ะไว้แล้ว เชิญครับนองแพง” คริสผายมือ เดินนำทั้งคู่ไปยังโต๊ะตัวที่ว่างเพราะน่านฟ้าโทรศัพท์มาว่าจะพาคนพิเศษมาที่ร้าน เขาจึงรีบจัดโต๊ะไว้ให้

พะนอขวัญอดยิ้มไม่ได้ไปกับการเรียกชื่อเธอเมื่อถึงโต๊ะเธอก็ชะงักนิดๆ เมื่อน่านฟ้าเลื่อนเก้าอี้ให้ เธอพึมพำขอบคุณอย่างขัดเขินเพราะไม่ชินกับมารยาทแบบนี้ก็เจอรอยยิ้มในดวงตาคมนั้น

เขาทำสิ่งเหล่านี้ได้ดูเป็นธรรมชาติมาก

คริสพยักหน้าให้บริกรเป็นคนนำเมนูมาแต่เขาเป็นคนแนะนำอาหารเอง

“คริสเป็นลูกครึ่งอังกฤษอิตาเลียนครับทำอาหารอิตาเลียนเก่งมาก” น่านฟ้าเอ่ย พะนอขวัญมองเมนูแล้วยิ้มแห้งๆอาหารอิตาเลียนเธอรู้จักแต่พิซซ่ากับสปาเกตตีเท่านั้นแหละ

“เอ่อ...สปาเกตตีก็ได้ค่ะ”

สีหน้ายุ่งๆ ของหญิงสาวทำให้เขายิ้มเขารู้ว่าเธอชอบอาหารไทยแต่ที่พามาที่นี่ก็เพราะต้องการให้เธอได้รู้จักกับเพื่อนของเขา

“จริงๆ แล้วน้องแพงชอบอาหารไทยน่ะ” เขาบอกกับคริส

“เอ่อ...แพงทานได้ค่ะ” พะนอขวัญเหลือบมองฝรั่งหนุ่ม ยิ้มอย่างเกรงใจหากอีกฝ่ายกับยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้ขุ่นเคือง

“โอ...ถ้าอย่างนั้นนองแพงจะต้องลองเสน่ห์แห่งอิตาเลียนบ้าง...แล้วจะรู้ว่าเรามีเสน่ห์แค่ไหน” คริสขยิบตาให้

พะนอขวัญยิ้มได้เต็มที่ มาดเจ้าชู้นิดๆของคริสดูมีเสน่ห์อย่างที่เจ้าตัวแสดงเพียงแต่...มันไม่ได้ทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดปกติหรอก

“หึ...ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องลองเสน่ห์แห่งอิตาเลียนของนายแล้วละคริส” น่านฟ้าปิดเมนู มองเพื่อนสนิทที่แสร้งหว่านเสน่ห์ใส่หญิงสาวอย่างขำๆแทนที่พะนอขวัญจะเขินอาย เจ้าตัวกลับยิ้มขำเสียอย่างนั้น

“โอเค... รอสักครู่นะนองแพงผมจะปรุงเสน่ห์แห่งอิตาเลียนมาเสิร์ฟ” คริสหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกลับเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารมื้อพิเศษสำหรับทั้งสอง

น่านฟ้าหันกลับมา สบตาหญิงสาวก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ

“ความจริงคริสทำอาหารไทยอร่อยนะครับชอบทานอาหารไทยด้วย ร้านที่เราเจอกันวันนั้น คริสเป็นคนแนะนำพี่ไปเองแต่สงสัยว่าวันนี้อยากจะให้น้องแพงหลงเสน่ห์...หนุ่มอิตาเลียนละมัง”

“เอ่อ...” พะนอขวัญได้แต่หัวเราะแหะๆ

“พี่ให้น้องแพงชอบอาหารอิตาเลียนได้...แต่อย่างอื่น...ไม่ได้” น่านฟ้าจ้องตาโตๆ คู่นั้นขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ

พะนอขวัญพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ เอาไว้

กลับมาเป็นตัวเองได้แล้ว...คำแพง

“คงจะไม่ได้ล่ะค่ะ...”

น่านฟ้าเลิกคิ้ว ก่อนจะขยายรอยยิ้มเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นประกายท้าทายมาจากนัยน์ตาคู่นั้นรู้สึกเหมือนได้เห็น ‘เด็กดื้อ’ ที่เคยเห็นมาก่อน

“อิตาลี...เป็นเมืองแห่งศิลปะนะคะทั้งศิลปะ ทั้งผู้คน...น่าหลงใหลทั้งนั้น”ถึงเธอจะไม่ถนัดอาหารอิตาเลียนนัก แต่ศิลปะของอิตาลีก็เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญ

พะนอขวัญยิ้มอย่างรู้สึกดีที่เริ่มเรียกตัวตนกลับมาได้

“แต่ที่น้องแพงชอบที่สุดก็คงจะเป็นแบบไทยๆใช่ไหมละ” น่านฟ้ายิ้มบางๆ นัยน์ตาคมเป็นประกายระยับ “ทั้งอาหาร ศิลปะ และ...คน”


 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ปล. ช่วงนี้เป็นงานหนังสือ ฬีไปมาเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ค่ะ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่แวะไปทักทาย+ทวงถาม กันอย่างมากมายที่บู้ธ ณ บ้านวรรรณกรรม นะคะ แต่ว่าอาจจะไม่ได้ไปงานอีกนะคะ ต้องขออภัยด้วย แต่ถ้ามีโอกาสให้ได้ไป ก็จะแจ้งที่หน้าบล็อกและเฟซบุ๊ก นะคะ

ขอบคุณค่ะ ^^




 

Create Date : 22 ตุลาคม 2555
24 comments
Last Update : 22 ตุลาคม 2555 14:29:34 น.
Counter : 9787 Pageviews.

 

ขอบคุณคะที่มาอัพตอนใหม่ให้อ่าน พื่ใหญ่เริ่มรุกหนักแล้ว อยากอ่านต่อเร็วๆจัง

 

โดย: Burin IP: 101.51.169.228 22 ตุลาคม 2555 15:44:11 น.  

 

อยากเป็นน้องแพงงงงงงงงอ่ะค่ะะะะะะ

 

โดย: หนุ่ย IP: 110.49.235.219 22 ตุลาคม 2555 15:56:14 น.  

 

ชอบตรงนี้

"หากที่ค่อนข้างแน่ใจ

เธอไม่ได้ ไม่ชอบ เขาอย่างแน่นอน"

 

โดย: หนุ่ย IP: 110.49.235.219 22 ตุลาคม 2555 16:20:50 น.  

 

คุณใหญ่... รุกหนัก รุกฆาตเลยนะ
น้องแพงตั้งรับไม่ไหวแล้วววค่า

 

โดย: ปูจ้า IP: 49.144.11.136 22 ตุลาคม 2555 18:18:47 น.  

 

คุณใหญ่ จะหวานไปไหน หนูแพงตั้งรับไม่ทันนะคะ
เขิน ^_^
เอ่อ พูดซักหยั่งกะเป็นนางเอกซะเอง อิๆ

 

โดย: koffee IP: 115.87.210.111 22 ตุลาคม 2555 19:44:49 น.  

 

เขินอ่ะ แอบจิ้นว่าตัวเองเป็น "น้องแพง" นิ๊ดส์ นึง จะได้นอนหลับฝันดี
พี่ใหญ่รุกจีบขนาดนี้ น้องแพงไม่รอดแน่ อิอิ

 

โดย: bijin-k IP: 125.25.139.216 22 ตุลาคม 2555 19:54:48 น.  

 

อยากมีคนมารับแบบนี้บ้างค่ะพี่ฬี ^^

 

โดย: ลูกหมู IP: 202.29.54.58 22 ตุลาคม 2555 20:28:45 น.  

 

คุณพี่พระเอก แอบคิดอะไรป่ะ

 

โดย: Fiction addict IP: 101.109.68.215 22 ตุลาคม 2555 22:05:34 น.  

 

คำแพงสู้ สู้นะคะอย่าให้พี่ใหญ่รุกคนเดียว....

 

โดย: ต้นอ้อย IP: 115.87.92.173 22 ตุลาคม 2555 23:06:58 น.  

 

คำแพงสติสตังหายหมด รวบรวมสติหน่อย สู้ ๆ

 

โดย: yao chan IP: 125.27.64.245 23 ตุลาคม 2555 1:06:13 น.  

 

โห ปล่อยออกไปแต่ละหมัดหนัก ๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะน่านฟ้า สงสัยน้องแพงคงต้องตั้งการ์ดเตรียมรับดี ๆ เสียแล้วล่ะซิเนี่ยะ

 

โดย: ต่างแดน IP: 213.245.202.92 23 ตุลาคม 2555 3:05:44 น.  

 

ว้าววววววววววววววววววววเริ่มรุกแย้วววววววววววววววววววววววุ้ยๆๆๆๆๆๆๆรักพี่ใหญ่

 

โดย: panon IP: 203.158.141.8 23 ตุลาคม 2555 5:00:39 น.  

 

"เธอต้องตั้งสิ....รับมือกับคนนี้ให้ดี" น่าจะเป็น ตั้งสติหรือเปล่าคะคุณฬี?

บทนี้พี่ใหญ่รุกเต็มตัว เปิดตัวได้แรงมากค่ะพี่ หยอดกันตลอดเลยเนอะ

 

โดย: mooda IP: 223.205.246.55 23 ตุลาคม 2555 6:46:19 น.  

 

ดีใจที่ได้อ่านค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: Nateethip IP: 98.175.224.60 23 ตุลาคม 2555 7:29:47 น.  

 

พี่ใหญ่บุกแบบไม่ให้คำแพงตั้งตัวได้เลย น่ารักซะไม่มีละรู้ว่าชอบก็เดินหน้าลุยเต็มที่ ชอบคุณใหญ่ๆๆๆ ตอนนี้กำลังเอาเล่มเก่าๆของคุณฬีฬามาอ่านค่ะ แก้คิดถึง

 

โดย: wow IP: 118.173.219.177 23 ตุลาคม 2555 8:48:05 น.  

 

น้องแพงเขินมั้ย อ๊ายยย คนอ่านเขินอ่ะ ^^5555 รุกให้หนักไปเลยพี่ใหญ่ คู่แข่งเยอะ กิกิ เชียร์ๆพี่ใหญ่

 

โดย: ฟ้าใส IP: 113.53.200.45 23 ตุลาคม 2555 16:46:36 น.  

 

กรี้ด~~! พี่ใหญ่มาแบบเนียนๆแกมบังคับ(ขอมีส่วนร่วมในชีวิตคำแพง)แบบนี้ก็น่ารักขาดใจเลยค่ะ รุกแบบตรงดิ่งไม่ให้ทันตั้งตัวกันเลยนะคะเนี่ย...อ้ายยยยย น่าร้ากกกก!

 

โดย: ของขวัญ...^=A=^... IP: 171.99.13.198 23 ตุลาคม 2555 22:10:50 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: โนโตะ IP: 110.77.178.105 24 ตุลาคม 2555 12:52:27 น.  

 

อยากอ่านแบบต่อๆๆๆๆ แบบยาวๆๆๆๆ

 

โดย: nian IP: 223.207.198.141 25 ตุลาคม 2555 20:20:31 น.  

 

อยากได้เป็นหนังสือแล้วค่ะ ไม่อยากรออ่านที่ละนอ้ยเลย ไม่เต็มอิ่มเลยค่ะ

 

โดย: เมา IP: 125.25.34.52 26 ตุลาคม 2555 16:23:32 น.  

 

ฮึยขอกับบ้าน เอ๊ย ไปอยู่ด้วยได้ไหมเนี่ยพี่น่านฟ้าาาาาาาา

 

โดย: enjoy IP: 27.55.1.249 27 ตุลาคม 2555 22:50:22 น.  

 

ถ้าพี่ใหญ่บอกรักมีหวังคำแพงหัวใจวายแน่ๆ 555

 

โดย: wa-ne IP: 166.137.208.38 1 พฤศจิกายน 2555 0:52:59 น.  

 

หายไปไหนแล้วเอ่ย .. คิดถึงแล้วนะคะ

 

โดย: เพาพะงา IP: 118.174.31.50 1 พฤศจิกายน 2555 23:01:29 น.  

 

เมื่อใหร่จะมีหนังสือเล่มใหม่ค่ะคุณฬี

 

โดย: รัชณา IP: 171.7.26.122 2 พฤศจิกายน 2555 20:12:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ดอกไม้ของฬีฬา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 84 คน [?]




จิบกาแฟ...อ่านนิยาย...ชมดอกไม้...ในสวนสวย
Friends' blogs
[Add ดอกไม้ของฬีฬา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.