มิถุนายน 2553

 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ไหนว่าจะเจอกันที่ญี่ปุ่น..ไหงสุดท้ายมาเป็นเช่นนี้ไปได้
หลายเดือนก่อนเนื่องจากว่าเราเกิดอาการเบื่อๆกับการขอวีซ่าอเมริกา บวกกับเซ็งออฟิศว่าจะให้เราลางานสองอาทิตย์ได้หรือเปล่า เลยวางแผนกับแฟนว่างั้นเราไปเจอกันที่ญี่ปุ่นละกัน ในกรณีที่วีซ่าไม่ผ่านหรือลางานสองอาทิตย์ไม่ได้ เกิดมาก็ไม่เคยไปญี่ปุ่น แต่ด้วยแรงฮึดก็นึกอยากลองไปขอดูเผื่อได้ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่องานของแฟนเกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราก็ไม่มีอารมณ์จะไปหา เค้าเองก็ไม่่มีอารมณ์เที่ยว ถือเป็นช่่วงวิกฤติในชีวิตที่สุดก็ว่าได้ในช่วงที่ผ่านมา แต่เอาล่ะที่สุดเราสองคนก็ผ่านกันมาได้


อาทิตย์ที่ผ่่านมา หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย แฟนทำใจได้และเริ่มชิวๆกับชีวิตมากขึ้น จู่ๆก็บอกกับเราว่า จะมาเมืองไทยหาเรา เราก็มาก็มา (เข้าทางไม่อยากลางานพอดี) แถมบอกอีกว่าจะมาอยู่เป็นเดือนระหว่างรอเริ่มทำอะไรใหม่ๆให้กับชีวิต (ตอนนี้ขออุบไว้ก่อนนะคะผู้อ่าน) ในช่วงปลายปี เราก็เออ มาอยู่นี่ก็ดีเหมือนกัน ถือว่ามาพักผ่อน


ตัดมาเมื่อสามวันที่แล้ว แฟนก็เมลมาบอกไฟลท์ เราก็ต๊กกะใจเพราะดั๊นมาวันที่เราบินกลับมาจากภูเก็ตพอดี แต่เราจะมาถึงสุวรรณภูมิบ่ายสาม ส่วนคุณชายมาถึงห้าทุ่ม ตกลงชั้นจะต้องกลับไปสุวรรณภูมิอีกรอบหรือนี่ เพราะจะให้มาเองแท็กซี่คงพาไปหลอกเอาตังค์แหงๆ จะจองตั๋วไม่ปรึกษากันเล้ย เราก็บอกว่าจะไปภูเก็ตและกลับวันไหน ก็ยังจองไปได้ เราบ่น แต่คุณแฟนบอกว่าให้เราเลื่อนตั๋วกลับดึกหน่อยจะได้เจอกันที่สนามบิน และกลับบ้านพร้อมกัน ป้าดโท้ คิดง่ายทำยาก ชั้นจะอยู่ทำไรที่ภูเก็ตเพิ่อนที่ไปด้วยก็กลับมาหมดอีกอย่างช่วงเดือนนี้ก็เดินทางมันทุกอาทิตย์ อยากกลับบ้านมาเร็วๆ (ตอนแรกคนเชิญไปจองให้กลับถึงห้าทุ่มแต่เราเลื่อนกลับเร็วเองแหละ)


พอรู้ว่าแฟนจะมาก็ดีใจเป็นธรรมดา ยิ่งบอกว่าจะมาอยู่นานก็ลัลล้าๆ หาโปรแกรมเที่ยว กิน ตามประสาคนชอบเที่ยว แต่แล้วออฟิศก็โทรมาบอกว่า 26-30 มิ.ยนี้ จะให้เราไปญี่ปุ่น โตเกียว อ้าว ซะงั้น เราบอกเรื่องนี้กับแฟน ตอนแรกนึกว่าจะบอกว่างั้นผมก้จะกลับช่วงนั้นเหมือนกัน แต่คุณแฟนบอกหน้าตาเฉยว่า จะรออยู่เมืองไทยนะ อ้าว นี่คุณชายกะจะมาอยู่นานขนาดนั้นเลยรึนั่น เราบอกให้ไปอยู่บ้านนอกกับพ่อแม่เราละกัน แฟนบอกว่าก็อยาไปแต่ไม่มีใครคุยกับเค้านี่สิคือปัญหา ขออยู่ที่บ้านกทม.นี่ละกัน เพราะต้องดิวงานที่อเมริกาด้วย ที่นั่นไม่มีเน็ตใช้ เราว่าเหตุผลฟังขึ้น เลยอนุญาตตามนั้น

แฟนบอกว่าตอนแรกเราจะไปเจอกันที่ญี่ปุ่น แต่ไปๆมาๆ เป็นว่าเราได้ไปคนเดียว เราก็บอกดีแล้วล่ะเพราะยูก็เคยไปแล้ว อีกอย่างที่นั่นอะไรๆก็แพงหูฉี่ สู้เอาเงินมาใช้เมืองไทยดีกว่าคุ้มสุดๆ ว่าแต่ว่าระหว่างไอไม่อยู่ห้ามนอกลูกนอกทางล่ะ แฟนเราบอกจะไปไหนถูกบ้านยูอยู่นอกเมืองขนาดนี้ (รังสิต) คาดว่าคงไปถูกแค่ฟิวเจอร พาร์ค รังสิต เราก็ได้แต่หัวเราะเก็นทีต้องหัดให้นั่งรถเมล์ ก่อนจะไปญี่ปุ่นให้ได้เพื่อการประหยัดและป้องกันการถูกหลอกจากแท็กซี่หน้าเลือด จะได้ไปไหนต่อไหนได้เองมั่ง


ตอนนี้เลยเป็นว่าการไปญี่ปุ่นของเรามันเฉยๆมาก เพราะเราตื่นเต้นกับการมาของแฟนมากกว่า หุหุ คิดเมนูว่าจะทำอะไรให้กิน คิดโปรแกรมเที่ยวนั่นนี่ มีความสุขจริงๆ ไม่ได้สนใจเรื่องไปญี่ปุ่นเล้ย นึกว่าออหิศทำไมต้องส่งชั้นไปตอนนี้เนี่ย ไม่เข้าใจจริงๆ ทีอยากไปไม่ให้ไป ทีงี้ให้ไปเฉยเลย วัยรุ่นเซ็งเป็ดสุดๆ แต่ก็เอาวะ ไม่เคยไปก็ควรไปสักครั้งในชีวิต ตามโปรแกรมเห็นว่ามีเวลาว่างหนึ่งวัน เรากะว่าจะไปโอซาก้าอ่ะ แต่ต้องศึกษาข้อมูลอีกหน่อย ไม่รู้ว่าจะมีใครร่วมเสี่ยงกับเรามั้ย ...

แต่แฟนบอกว่าเราควรไปโอซาก้าหากมีโอกาส ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกสำหรับคุณ (ชมใช่มั้ยเนี่ย) ออกหัวหรือก้อยก็จะรู้กันสิ้นเดือนนี้



Create Date : 03 มิถุนายน 2553
Last Update : 3 มิถุนายน 2553 23:30:40 น.
Counter : 553 Pageviews.

2 comments
  
อยากไปญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่คงเที่ยวไม่สนุกแหละนะ เพราะทิ้งหัวใจไว้ที่เมืองไทยแน่เลย อิอิ

น้องสาวพี่เพิ่งกลับไปจากยุโรปเหมือนกัน พวกนักข่าวนี่ ชีพจรลงเท้ากันทุกคนเลยเหรอ

โดย: คุณนายก้อ วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:5:31:52 น.
  
ถูกต้องค่ะคุณนายก้อ ชาติก่อนเป็นเครืื่องบินจ้า
โดย: อ้อ (loveTRAVEL1977 ) วันที่: 18 มิถุนายน 2553 เวลา:8:55:39 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

loveTRAVEL1977
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นคนชอบเดินทางและท่องเที่ยว ว่างๆก็อ่านหนังสือ มีความหวัง มีความฝัน และต้องอยู่อย่างมีความหมายบนโลกนี้