|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
จดหมายจากฝั่งกว๊าน 21 (ย้ายหอ)
กราบเท้า คุณพ่อคุณแม่ที่เคารพ
ตอนนี้ลูกย้ายมาอยู่ที่หอ 1 ห้อง 207 เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะค่ะ สมาชิกในห้องของเรามีทั้งหมด 18 คน เป็นห้องนอนที่มีสมาชิกมากที่สุดในวิทยาลัยเลยค่ะ ห้องovoใหม่นี้ได้รับการขนานนามจากเพื่อนๆว่าห้อง AF ค่ะแม่ เตียงนอนใหม่ของลูกจะเตี้ยกว่าเตียงเดิมที่เคยนอนที่หอเก่า ลูกย้ายมาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2551 ในแต่ละวันลูกจะต้องได้แผลฟกช้ำจากการเดินไม่ระวัง ในตอนนี้ก็ยังมีอยู่เลยค่ะ เตียงที่ลูกนอนเป็นเตียงที่ 4 นับจากด้านใน ห้องของเราแบ่งออกเป็น 3 แถว แถวละ 6 เตียงโดยมีไม้กระดานมากั้น ลูกนอนเตียงตรงกลางระหว่างส้มกับอ้อ เตียงที่ลูกมักจะเดินไปแตะใส่บ่อยๆเป็นเตียงของอ้อกับลูก เพราะจะเดินเข้าออกตรงช่องทางเดินนี้จากเตี้ยงมาที่ตู้เสื้อผ้า
ในคืนแรกที่ย้ายมานอนทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยกับการขนข้าวของเครื่องใช้ เราจึงหลับกันตั้งแต่ยังไม่ถึงเที่ยงคืนเลยค่ะแม่ ในห้องนอนที่มีคนเยอะๆแบบนี้จะมีเสียงต่างๆ แม่ต้องจินตนาการเวลาลูกนกในรังร้องหาแม่ หรือไม่ก็เสียงเวลามีคอนเสิร์จนะค่ะ จะไม่รู้สึกเหงาเลยค่ะ รู้สึกอบอุ่นอีกแบบ อีกอย่างเช้าๆมาก็จะมีเสียงคนคอยปลุก เป็นเสียงเพื่อนที่ตื่นแล้วคุยกันนั้นเอง ตื่นเช้าๆมาเราก็จะได้เห็นอะไรที่ทำให้เรานั่งดูเพลินๆบนเตียงได้ มันจะน่าตลกที่ทุกคนจะต้องรีบจัดการกับตัวเอง หากเราเองก็ไม่ต้องรีบเหมือนกัน ทุกคนตื่นมาก็จะมายืนเรียงกันที่ตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ ปากบอกว่ารีบแต่เรามักโอเอ้กับการคุยกัน กว่าจะได้ออกจากห้องนอนไปห้องอาบน้ำ และกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เกือบสาย เมื่อถึงเวลานี้ทุกคนก็จะกระตือรือร้นรวบผมแต่งตัวให้เรียบร้อยและลงไปทานข้าวกัน
แม่เช้าวันนี้เป็นเช้าวันเสาร์ แต่เรามีอบรม 5ส ดังนั้นเราจำเป็นต้องตื่นแต่เช้า ใส่ชุดนักศึกษามานั่งฟังการอบรมทั้งวัน ร่วมถึงวันพรุ่งนี้ด้วยนะค่ะ เช้านี้ลูกตื่นก่อนใครๆในห้อง เมื่อคืนฝนคงจะตกอากาศเช้านี้ถึงได้เย็นสบาย และยังมีร่องรอยที่แสดงให้เห็นว่าฝนพึ่งจะตกผ่านไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ แม่ลืมบอกแม่ว่าหอที่ย้ายมาอยู่ใหม่ อยู่ติดกับตึกของผู้ป่วยของโรงพยาบาลและห้องดับจิต ไม่ได้อยู่ติดกับกว๊านเหมือนหอเดิม ตั้งแต่มาอยู่ก็จะชินตากับห้องดับจิตที่มีรถผ่านเข้าออก มีญาติพี่น้องมารอรับศพ มีพระสงฆ์มาสวด มีคนร้องให้ ส่วนในตัวตึกของโรงพยาบาล ก็สามารถมองเห็นผู้ป่วยที่มานอนพักรักษาตัว ญาติผู้ป่วยมาเฝ้า ลูกคิดว่าผู้ป่วยเองก็คงจะมองเห็นเราที่อยู่บนตึกเช่นกัน เพราะระเบียงที่อยู่ตรงข้ามกับตึกผู้ป่วยมักจะเป็นที่ทานข้าว อ่านหนังสือ ทำการบ้าน และการนั่งพูดคุยกัน
ลูกนั่งโต๊ะตรงระเบียงมองไปที่ห้องดับจิต ประตูห้องปิดอยู่แสดงว่าไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น ถ้าวันไหนที่ห้องดับจิตเปิดประตูเอาไว้ จะต้องมีคนร้องไห้บางทีเสียงดังจนคนที่นั่งอยู่บนอาคารได้ยินชัดเจน ลูกไม่เคยเข้าไปข้างในหรือย่างกรายเข้าไปใกล้บริเวณนั้นในรัศมีเกิน 2 เมตร แต่เวลาที่ประตูห้องนั้นเปิดก็มักจะนั่งมองลอดประตูเข้าไปในห้อง แต่ก็ไม่เคยเห็นอะไรนอกจากเตียง 2 ตัวแรกที่ตั้งใกล้ๆกับประตูทำให้สามารถมองเห็นได้ ลูกไม่ได้รู้สึกกลัวเพราะมักจะเห็นบ่อยๆตอนที่มาหาเพื่อนที่หอนี้ และมักจะมานั่งคุยกันที่ระเบียงนี้ เลยห้องดับจิตไปเราจะสามารถมองเห็นกว๊านในทัศนีย์ภาพที่ต่างจากหอเดิม
ตรงอาคารของโรงพยาบาล ลูกเดาว่าน่าจะเป็นหอพักฟื้นผู้ป่วย มักจะเห็นผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยออกมาตากผ้าที่ระเบียง นกร้องเสียงดังตามบริเวณต้นไม้เหมือนพวกเราเวลาตื่นมาในตอนเช้าเลย เพื่อนเริ่มทยอยใส่เสื้อคลุมออกมาจากห้องแล้ว แสดงว่าถึงเวลาที่เราจะต้องเตรียมตัวไปร่วมกิจกรรมในวันนี้แล้ว ห้องนอนใหม่ที่ลูกเคยรู้สึกกลัว ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แม่รู้ไหมทำไมลูกถึงกลัว คำถามแรกที่ลูกถามติกก่อนย้ายมาหอนี้ ลูกถามว่าคนในห้องอยู่กันอย่างไร .แต่งตัวที่ไหน ลูกกลัวที่สุดคือทุกคนจะออกไปแต่งตัวในห้องน้ำหมด มีแต่ลูกที่แต่งตัวในห้องนอน ลูกเดาว่าอ้อมันจะต้องด่าและบังคับลูกให้ไปแต่งตัวที่ห้องน้ำ ถ้าเป็นแบบนั้นลูกคงไม่ชอบใจนัก ก็เราเคยชินกับความรู้สึกที่ว่า ห้องนอนเป็นโลกส่วนตัวของเรา แต่ที่นี้อาจจะมีหลายคนอยู่ร่วมกัน เราก็จะได้เห็นโลกส่วนตัวของคนอื่นด้วย แต่พอติกบอกว่าทุกคนแต่งตัวในห้องนอน ลูกถึงโล่งอกย้ายมาหอใหม่โดยไม่มีข้องกังขาใดๆ เพราะที่ห้องเดิมอยู่กัน 4 คน 2 คนไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง แต่ลูกกับตะวันที่ลูกบ้าพอๆกัน เรามีความคิดตรงกัน ห้องนอนคือโลกส่วนตัว ขออิสรภาพบ้างเถอะ เราจึงคิดว่ามันคือห้องนอนที่บ้าน
แม่ตอนนี้ลูกมีความสุขกับการย้ายมาอยู่ห้องนอนใหม่ แต่คงจะดีกว่านี้ค่ะ ถ้าลูกจะไม่เดินแตะเอากับเตียงวันละหลายๆรอบ เล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนนะค่ะ เหลืออีกไม่กี่วันก็จะสอบปลายภาคแล้วก็จะปิดเทอมแล้วค่ะ จะกลับไปกอดพ่อกับแม่ให้หายคิดถึงค่ะ
รักและคิดถึง เบญจวรรณ 5 มีนาคม 2551
Create Date : 05 เมษายน 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 5 เมษายน 2551 21:55:25 น. |
Counter : 722 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เบญจวรรณ IP: 61.7.231.130 7 เมษายน 2551 10:18:52 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พี่นะไปเรียนกรุงเทพฯสี่ปีไม่เคยเขียนจดหมายหาคนที่บ้านเลยอ่ะ
อาจเพราะการดำเนินชีวิตที่ต่างกันก็เป็นได้เนอะ
จดหมายฉบับนี้บอกว่าเขียนไว้เดือนมีนา ป่านนี้น้องเบญจ์
คงจะสอบเสร็จรู้ผลสอบไปแล้ว
พี่หวังว่าคงจะทำได้ดีและพอใจกับผลที่ออกมานะจ๊ะ
...ถ้าพี่นอนใกล้ๆห้องดับจิตแบบนั้น จิตคงไม่สงบอย่างน้องแหงๆ