หลงเงา/ว.วินิจฉัยกุล


ชื่อเรื่อง : หลงเงา
ชื่อผู้แต่ง : ว.วินิจฉัยกุล
สำนักพิมพ์ : ทรีบีส์
ราคา : 250 บาท



เรื่องย่อเอง


     “รัก” ที่ไม่อาจคว้ามาไว้กับตัวได้ ก็คงจะเป็นเพียงแค่เงาที่ได้แต่เฝ้าลุ่มหลงอยู่อย่างนั้น จนกว่าเข้าใจว่าอะไรคือรัก อะไรคือหลง และเมื่อต้องเลือก จะเลือกสิ่งใดไว้เป็นคำตอบแห่งหัวใจ

     "อ้อมรัก" หญิงสาวผู้เพียบพร้อมในทุก ๆด้าน แม้ความสวยอาจจะไม่โดเด่นมากนัก แต่ก็มีความน่ารักอ่อนหวาน สมกับที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี "เอราวัต" ชายหนุ่มผู้ภาพลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา สมกับเป็นดาราและพิธีกร และก็เพียบพร้อมไม่ต่างกัน จึงทำให้อ้อมรักพึงใจเมื่อได้รู้จัก ยิ่งได้รู้ว่าชายหนุ่มคือพี่ชายที่เคยคุ้นมาเคยตั้งมาแต่เด็ก ยิ่งทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว จนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่า ถ้าหากว่าทั้งสองคนจะแต่งงานกันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ถ้าว่า..เอราวัตไม่ใช่ตัวคนเดียว หากแต่มีเจนนี่นางแบบสาวสวยเป็นคู่รักอยู่แล้ว แม้ว่าเอราวัตจะบอกว่าเจนนี่เป็นแต่เพียงเพื่อนไม่สามารถเป็นอะไรได้มากว่านั้น แต่..อ้อมรักก็ยังทำใจให้ยอมรับกับการที่จะเข้าไปแทรกกลางระหว่างสองคนไม่ได้อยู่นั่นเอง

     ความเรื่อยเฉื่อย รอให้เหตุการณ์มันคลี่คลายไปเองของเอราวัต ยิ่งทำให้อ้อมรักอึดอัดกับสภาพที่เป็นอยู่ จึงคอยหลบเลี่ยงการเผชิญหน้าชายหนุ่มอยู่ล่ำไป จนเอราวัตเองแทบจะหมดความอดทนกับความเจ้าแง่แสนงอนเอาแต่ใจ ทั้งล่นตัว ทั้งถือดี ของอ้อมรักเหมือนกัน ซึ่งนั่นเป็นแต่เพียงความคิดแบบเห็นแก่ตัวของเอราวัตเท่านั้น ที่ชอบโทษแต่ผู้อื่น แทนที่จะโทษตัวเอง ว่าการที่คบผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน มันยอมรับกันไม่ได้ ในเมื่อเอราวัตไม่สามารถแก้ไขปัญหาของตัวเองได้ อ้อมรักจึงตัดสินใจเดินจากไปในที่สุด

     เมื่อความรักกับคนหนึ่งจบไป ใช่ว่าจะต้องสิ้นสุดเรื่องความรักลงเพียงเท่านั้น เมื่อรักครั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น อ้อมรักจะตัดสิ้นใจอย่างไรกับรักครั้งนี้...ติดตามต่อใน “พลอยเปลี่ยนสี” ซึ่ง จขบ.ทราบข่าวแว่ว ๆ มาว่าเป็นภาคต่อ แต่ยังไม่ทราบว่าจะตีพิมพ์เมื่อไหร่ค่ะ รบกวนท่านผู้รู้ ช่วยแจ้งแถลงไข..จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ ^^




ความเห็นส่วนตัว


     เรื่องนี้สนุกแบบเรื่อย ๆ ค่ะ ไม่หวือหวา ถึงไม่มีตัวร้าย แต่ผู้แต่งก็ยังนำเนินเรื่องได้อย่างน่าติดตาม พร้อมกับให้แง่คิดเรื่องการตัดสินใจการเลือกคู่ชีวิต ที่ไม่ได้ดูแต่เพียงเฉพาะภายนอกที่งามตา แต่ให้ดูลึกลงไปถึงลักษณะนิสัยใจคอด้วยว่าทั้งสองฝ่ายต่างยอมรับนิสัยส่วนดี-ไม่ดีของกันและกันได้มากน้อยเพียงไหน ถึงแม้ว่า..นางเอกเรื่องนี้จะรักพระเอก แต่ก็ไม่ปล่อยให้ความรักมามีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจของตัวเอง..ขจบ.คิดว่าจบ "หลงเงา"ได้อย่างลงตัวค่ะ ^^



       ขอแถม..ประโยคเด็ดที่อ้อมรักยกมาใช้ตัดสัมพันธ์กับเอราวัตค่ะ

     "พ่อเคยบอกว่า ถ้าอ้อมอยากได้อะไรมาก ๆ อย่ารีบไปเอามาทันที แต่ว่าให้รอไปอีกสักพัก..ดูซิว่านาน ๆ อ้อมยังรู้สึกอยากได้อยู่หรือเปล่า ทำอย่างนี้ จะทำให้เรารอบคอบ ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมองมาก ๆ"..เด็ดมั๊ยละคะ ^^








Create Date : 28 พฤษภาคม 2554
Last Update : 28 พฤษภาคม 2554 14:24:06 น.
Counter : 8091 Pageviews.

23 comments
  
น่าอ่านนะคะคุณฝน
ประโยคเด็ดที่ยกมาก็สุดยอดเลยค่ะ
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:30:23 น.
  
ขอแปะโป้งไว้ก่อนนะคะเรื่องนี้
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:59:05 น.
  
ชอบเรื่องนี้ค่ะ มีขัดใจอยู่นิดเดียวตรงที่ตอนหลังๆ อยู่ดีๆ ชนาณัติ ก็โผล่มาเหมือนมาเป็นตัวปลอบใจ อ้อมรัก ยังไงก็ไม่ทราบ

มีภาคต่อหรือคะ จะได้ตั้งหน้าตั้งตาคอย
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 29 พฤษภาคม 2554 เวลา:3:29:24 น.
  
รอภาดต่อด้วยคนค่ะ รู้สึกว่าจะลงในสกุลไทย(ถ้าจำไม่ผิดนะคะ)
โดย: อุณากรรณค่ะ IP: 110.49.243.0 วันที่: 29 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:41:55 น.
  
แม่เราเคยสอนด้วยประโยคนี้เหมือนกันค่ะ

แต่ลูกสาวทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แหะๆ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 มิถุนายน 2554 เวลา:17:38:21 น.
  
แวะมาสวัสดีพร้อมยิ้มหวานให้ พี่ฝน ในวันหยุด ที่แสนจะปวดหัว
โดย: ม่านแพร IP: 223.204.33.222 วันที่: 18 มิถุนายน 2554 เวลา:13:36:36 น.
  
ก๊อกๆๆ

คุณฝนเป็นไงบ้างคะ...ไม่ค่อยได้เห็น
จนนึกว่าจะเลิกบล็อกเสียแล้วสิคะ

คิดถึงเหมือนกันค่ะ
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 22 มิถุนายน 2554 เวลา:5:21:46 น.
  
ชื่อเรื่องกระชับแต่ได้ความหมายครอบคลุมมากเลยค่ะ
โดย: Kitsunegari วันที่: 7 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:01:51 น.
  
หวัดดีค่ะคุณไลเดเลีย

แวะมายั่วต่อค่ะว่า มงกุฎกุหลาบอ่านแล้วจะหวานตรงความผูกพันระหว่างอิษมะกับมาร์วาค่ะ เพราะมันเริ่มจากการเป็นอริ มาเป็นเงา และลงท้ายกลายเป็น 'เรา'
โดย: Kitsunegari วันที่: 10 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:56:11 น.
  
วันหยุดพระใหญ่
กลับบ้านหรือเปล่าคะคุณฝน
โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:20:55 น.
  
หวัดดีค่ะคุณไลเดเลีย

ไม่ทราบว่าหามงกุฏกุหลาบได้หรือยังเอ่ย
โดย: Kitsunegari วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:37:45 น.
  
หวัดดีค่ะคุณไลเดเลีย

มาแจ้งว่าณ บ้านฯ ไปออกบูธที่งาน Thailand Best Buy เมืองทองธานีถึงสิ้นเดือนนี้น่ะค่ะ ถ้าแวะไปก็ลองไปดูได้นะคะ คิดว่าน่าจะมีให้จ้า แต่ไม่แน่ใจว่าที่คั่นฯ จะยังเหลืออยู่หรือเปล่านะคะ ถ้าหมด อาจจะต้องรอที่คั่นฯ มงกุฎกุหลาบล็อตใหม่
โดย: Kitsunegari วันที่: 29 กรกฎาคม 2554 เวลา:11:33:30 น.
  
สวัสดีครับ หญิงไล ฯ

555+ แวะมาทักทายครับ คิคิ
หลังจากห่างหายไป นานโข เลย ^^


ว่าแต่ คุณฝน ว่าง ๆ แน่ะนำ ตกแต่งบล๊อกบ้างนะครับ ดูของไร้คลื่น ดูบ้านนอกมากเลย 555555+

หลับฝันดีครับ ^^
โดย: กลิ่นอายแห่งความเหงา (ทะเลที่ไร้คลื่น ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:48:26 น.
  
ขอบคุณ จร้า ^^

คุณฝน น้องน้ำไป ถึงยังอ่ะ ครับ

โดย: กลิ่นอายแห่งความเหงา (ทะเลที่ไร้คลื่น ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:28:02 น.
  
ดีครับ หญิงไลฯ
แหม เตรียมรื้อฟื้นเลย มาช่วยไร้คลื่น แต่งบ้านเลย ^^

หญิงไลฯ แค่บล๊อกเท่านั้นที่เปลี่ยน ไร้คลื่น ก็ยังเหมือนเดิมแหละ ไม่มีอะไรเลย ^^ (ไม่มีอะไรในก่อไผ่ คิคิ)
โดย: กลิ่นอายแห่งความเหงา (ทะเลที่ไร้คลื่น ) วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:50:52 น.
  
ดีครับ หญิงไลฯ

แวะมาอัพเดพบล๊อกอ่ะ เลยมาทัก หญิงไล ฯด้วย สงสัยติดหมูงอมแงมเลย เงียบกิ๊บเลย 55+ (แซว ๆ )

ขอให้มีควาสุขในวันอาทิตย์ ครับ
โดย: กลิ่นอายแห่งความเหงา (ทะเลที่ไร้คลื่น ) วันที่: 4 ธันวาคม 2554 เวลา:19:00:07 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณฝน


โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:5:32:00 น.
  
คุณฝน.....

เมื่อวานฝนตกตั้งหัวค่ำจนถึงดึกเลยค่ะ
ตกตลอดตั้งแต่ที่ทำงานถึงที่บ้าน...
เปิดงานก็ชุ่มฉ่ำกันตั้งแต่วันแรกเลยเนอะ

นางยังไม่ลืมคุณฝน...กับคุณอัล ง่ายๆ หรอกน่า
เรียกว่าจำไว้เลยไม่มีลืม....อิอิ

คุณฝน กับคุณอัล สบายดีนะคะ....ส่วนนางสบายดีค่ะ...
เข้าบล็อกน้อยลง...เพราะช่วงหลังอารมณ์อักษรศิลป์ไม่ค่อยบรรเจิด...
เพราะถูกเวลางานเบียดเบียนไปหมด...อิอิ

รับความคิดถึงจากคุณอัลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมแปะโป้งลายเซ็นมาส่งให้ถึงที่...
จะได้ไม่ตกหล่นกลางทางไงคะ

คิดถึงสหายทั้งสองเสมอค่ะ

โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:5:28:47 น.
  
แวะมาทักทายค่ะ

หายไปนาน ยังจำกันได้ป่าวคะเนี่ย อิอิ

โดย: Jah Ja ka (jar_pnoom ) วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:9:47:48 น.
  
สวัสดี จร้า คุณฝน แฮะ ๆ ไร้คลื่น แวะมาทัก ขอรับ เป็นไงบ้างน๊า สบายดีก่า คิคิ
โดย: กลิ่นอาย แห่งความเหงา (ทะเลที่ไร้คลื่น ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2555 เวลา:21:57:44 น.
  
สวัสดีค่ะพี่ฝน ยังจำเจได้มั้ยคะ ไม่ได้เข้ามานานเลย เกือบ 2 ปีแน่ะ
โดย: เจ (panaejon ) วันที่: 18 กันยายน 2555 เวลา:10:16:52 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณฝน


โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 30 ธันวาคม 2555 เวลา:8:45:04 น.
  
สวัสดีครับ หญิงไลฯ ภู แว่ะมาทักทาย ครับ หลายปีแล้ว น๊ะ อัพบ้าง อะไรบ้าง คิคิ (แซวๆ ขอรับ ^^)
โดย: กลิ่นอาย แห่งความเหงา (ทะเลที่ไร้คลื่น ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2556 เวลา:18:00:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
พฤษภาคม 2554

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
All Blog