ลิดคนอารมณ์ดี
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2555
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 

การเดินทางของคำว่า "รอ"


เสียงจอแจตามป้ายรถเมล์ อาจจะเป็นที่บ่งบอกได้ถึงความเจริญ (จริงหรือปล่าว) อันนั้นผมไม่รู้ แต่สิ่งที่สัมผัสได้ที่ป้ายรถเมล์ที่ทุกคนมี
เหมือนกันนั้นคือการรอ คำในภาษาอังกฤษเขียนว่า wait อ่านว่า เวดท์ นั้นเป็นคำว่ารอ อย่าได้คาดหวังว่าในการรอนั้น จะโชคดีเสมอไป เพราะอีกฟาก
นึงของคำว่ารอ อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่ทุกคนมีความหวังเหมือนอย่างคำว่ารอที่มาจากป้ายรถเมล์แน่ๆ 
กลิ่นแอมโมเนียลอยมาเตะจมูก เรียกได้ว่าแทบจะชอนไช้เข้าไปถึงสมองชั้นในสุด กลิ่นน้ำยาต่างๆ ปนกันจนสิ่งที่เราใช้หายใจมันแทบจะแยกไม่ออกว่ากลิ่นอะไรเป็นกลิ่นอะไร เสียงรถเข็น ลากผ่านไปคันแล้วคันเล่า อย่าได้ไปเฝ้ามอง เพราะคออาจจะเคล็ดได้..เดินตามป้ายบอกห้องผู้ป่วย
ไปเรื่อยๆ ยิ่งเดินเข้าไปภายในลึกๆ ความซับซ้อน ความสาหัสของผู้ป่วยยิ่งเพิ่มมากขึ้นๆ 
สิ่งที่ได้ยินระหว่างเดินผ่าน มีทั้งคำพูดให้กำลังใจ คำพูดปลอบใจและสุดท้ายคำพูดให้ทำใจ คำสุดท้ายนี้เป็นสิ่งที่คุณหมอไม่อยากจะเปล่งเสียงออกมาเป็นแน่แท้ แต่คงเป็นคำเดียวที่จะทำให้ทุกคนคลายความทุกข์ได้
เปิดประตูเข้าไป ไม่เห็นคนไข้ที่อยู่บนเตียง เพราะผู้คนรายล้อมจนผิดสังเกต เสียงสนทนากับไม่มีเลย มีเพียงสายตาที่จ้องไปที่เตียงอย่างอาทร เสียงสะอื้นเสียงเหมือนคนเป็นหวัดที่ต้องคอยซึดน้ำมูกอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป 
บางครั้งสิ่งที่เราเห็นอาจจะบ่งบอกหรือคาดเดาได้ว่า ถ้าเดินเข้าไปใกล้อีกใกล้อีก เราคงจะเป็นสภาพเดียวกับผู้คนที่รายล้อมคนไข้คนนั้น แต่สิ่งที่คิดกับสิ่งที่ทำมันคงต้องสวนทางกัน เราจะเดินเข้าไป เพราะนั้นเป็นคนที่เค้าเอ่ยให้คำว่าเพื่อนกับเรา น้อยคนนักที่จะเข้าใจคำนี้ ให้สาธยายคำว่าเพื่อน กระดาษ A4 มันคงไม่เพียงพอในการบันทึก
ก้าวแรกที่เห็นและสัมผัสกับเป็นผู้ญหน้าตาซีดขาวสวย ผมดำเงามีไรแสงที่ส่องมาจากทางหน้าต่าง นอนอ้าปาก มีสายโยงใยไปทั่วร่างกาย 
มีเสียงติ๊ดๆ ดังเป็นจังหวะ จากเครื่องช่วยหายใจ ความเงียบมันนานเกินที่มนุษย์ธรรมดาจะทนได้ จนผมต้องเอ่ยปากถาม
น้าครับน้องเค้าคงไม่เป็นไรมากครับ คำพูดพร้อมกับการปลอบโยนด้วยร่างกาย แผ่มือขวาเข้าไปโอบคุณน้าอย่างเบาๆ ประดุจสำลี แต่กลับไม่ได้ช่วยเป็นการหยุด มันกลับเป็นการเร่ง เร่งความห่วงใย และอาทรต่อหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงออกมาอย่างพร่างพลู 
คุณน้าร้องไห้ออกมาอย่างไม่อัดอั้นอีกต่อไปแล้ว ใบหน้าเอียงมาที่อก พยายามใช้อกเป็นที่ปิดเสียงร้องและเสียงสะอื้น 
"น้องเค้าจะไม่ฟื้นอีกแล้ว" คุณน้าพูดคำนี้ย้ำไปย้ำมา คำพูดมหาชนที่เราต้องพูดคือ ใจเย็นๆ ครับ ทั้งๆ ที่เราก็พอเดาสถานการณ์ออก 
"อย่าได้ห่วงแต่คุณน้าเลยกระมัง เพราะตอนนี้น้ำที่เคยเก็บสะสมไว้ในดวงตามาหลายสิบปี มันได้ล้นเอ่อออกมาโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว "
คำพูดฟูมฟายฟังไม่ค่อยจะออกได้พูดออกมาว่า คุณหมอบอกน้องจะไม่ฟื้น น้องจะนอนแบบนี้ไปตลอด นอกจากถอดเครื่องช่วยหายใจ จะให้น้าต้องทำไง....." ผู้คนที่รายล้อมเตียงทุกคนก็เร่งเกียร์น้ำตาได้ไม่แพ้ คุณน้าเหมือนกัน 
แต่สิ่งที่คุณน้าพูดไว้ก่อนที่จะจากลากัน คุณน้าได้พูดไว้ว่า 
"น้าจะรอ รอน้องฟื้น" 
ทั้งๆ ที่มันเป็นไปไม่ได้ หลังจากนั้น ผมก็ได้ไปเยี่ยม น้องกับคุณน้าอีกหลายครั้งคุณน้ารออย่างยิ้มแย้ม เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นคุณน้าบรรจงเช็ดตัวหลานสาว คนสวยอย่างนุ่มนวลประดุจเธอเป็นสำลี ความฉงนมันเข้ามาครอบงำเต็มสมองผมว่าทำไมน้าเค้ายังคงยิ้มได้อยู่ 
รอยยิ้มที่เราเห็นไม่ได้เป็นรอยยิ้มที่ฝืนยิ้ม แต่เป็นยิ้มอย่างมีความสุข ทั้งๆ ที่เป็นการรออย่างไม่มีความหวัง
แต่กลับมาอีกด้านนึงในท้องถนน รถไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ ทุกคนรอ และรอเหมือนกัน แต่คำว่ารอทำไมซึ่งต่างจากอีกฟากฝั่งนึงเสียเหลือเกิน
ทุกคนรออย่างมีความหวัง เดียวรถก็มา เดียวก็ถึง เดียวก็ไป แต่มีหลายคนกลับรออย่างราชา คือรอรถอย่างกับว่าบังคับรถได้ ให้รถเมล์มาตามสั่งงั้นเหรอ ให้ bts มาตามต้องการ ให้ไฟสัญญาณมันเปิดทันที (เพราะจะรีบกลับไปดูอีแพงใช่มั้ย) !!!! 
ในเวลาที่เรากำลังรอสิ่งใดแล้วไม่สำเร็จไม่ทันใจ ให้คิดถึงอีกด้านนึงของคำว่ารอ...การเดินทางของคำว่ารอ มันช่างเจ็บปวดเสียจริง
(ไม่มีใครชอบการรอ แต่รอได้ รออย่างมีเหตุมีผล)

ด้วยรักและห่วงใยจากมนุษย์ธรรมดาคนนึง
...... รกแพะ แรกแย้ม......




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2555
0 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2555 17:44:13 น.
Counter : 1756 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


lid-d-sign
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พยายามมองทุกอย่างในแง่บวก เพื่อให้สุขภาพจิตแจ่มใสกันนะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add lid-d-sign's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.