Bloggang.com : Miran : กระสือวาเลนไทน์...วันที่ต้องใช้กรรม

กระสือวาเลนไทน์...วันที่ต้องใช้กรรม

กระสือวาเลนไทน์...วันที่ต้องใช้กรรม

“แม่จะร้องไห้ทำไม ยังมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว” เป็นประโยคจบของหนังเรื่องนี้ที่ทำให้ต้องหวนกลับไปคิดว่า การมีชีวิตอยู่นั้นดีกว่าแน่หรือ ถ้าคุณต้องอยู่ด้วยความอัปยศอย่างพระเอกที่พิการเป็นอัมพฤกไปครั้งหนึ่ง หรือว่าเธอที่เป็นนางเอกที่ต้องเป็นผีกระสือทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากเป็น

ในหนังว่าไว้ว่าเหตุที่ทำให้เกิดโรคมี 4 ประการ

1.เกิดจากการประพฤติตัวบกพร่อง
2.เกิดจากรับเอาเชื่อโรคเข้าสู่ร่างกาย
3.เกิดจากถูกของหรือคุณไสย
4.เกิดจากกรรมที่กระทำมาแต่หนหลัง

หลังจากเรื่องที่แล้วไปดูหนังมาอีกตั้ง 2 เรื่องแต่ไม่ได้เขียนถึง ไว้จะเขียนไว้ตอนท้ายรวบยอดทีเดียวละกัน สำหรับเรื่องนี้ ได้ยินชื่อเรื่องรู้สึกว่าแปลกๆ ดี แต่พอเห็นตัวอย่างหนังแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่ดูไม่ได้ หนังเล่นกับคำว่ากรรม ในเรื่อง XXXHolic เจ๊คนนึงพูดไว้ว่าไม่มีเรื่องบังเอิญมีแต่พรหมลิขิต แต่ในเรื่องนี้เราต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เป็นว่า ไม่มีคำว่าพรหมลิขิต มีแต่ชะตากรรมใครทำสิ่งใดมาได้รับสิ่งนั้น กรรมดีรับไป กรรมชั่วรับใส่ เพียงแค่เริ่มต้นเรื่องก็ได้รับรู้ถึงความเก่าแก่ ที่ซึมลึกเข้ามา อดีตที่รอวันสะสาง เพลงเก่าๆ ที่ยังคงตราอยู่ในใจ โดยเฉพาะเพลงประกอบที่เป็นทีมหลักของเรื่องช่างดูหลอนและน่าเศร้ามาก ชอบตั้งแต่ตอนที่ได้ฟังในเว็บไซด์ของหนังแล้ว พอเข้าไปแล้วก็ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ ฉากเปิดของเรื่องคือฉากที่นางเอก “สาว” ที่หอบหัวใจที่บอบช้ำเดินทางเข้ามาสู่โรงพยาบาลที่จะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่อยู่ พอดีกับที่น้องหนูที่เอาดอกกุหลาบมาขาย “หนุ่ม” ภารโรงผู้มีร่ายกายบิดเบี้ยวในวันวาเลนไทน์ เขาซื้อไว้แต่บอกกับเด็กว่าเอาไปให้ใครก็ได้ แม่หนูเลยเอาไปให้นางเอกของเราซะเลย และเธอได้ทำความรู้จักกับผู้มีความสำคัญในเรื่องอีกคน “หมอใหญ่” ชายผู้แพ้ดอกกุหลาบ หลังจากนั้นก็เริ่มหลอนตั้งกะตอนที่เธอได้ไปอยู่บ้านพักข้างกองขยะ เห็นแล้วกลิ่นลอยคลุ้งขึ้นมาจริงๆ เลยแฮะ ทั้งๆที่กลางวันแสกๆ แต่เราก็เห็นฉากหลอนเล็กๆ น้อยๆ แต่ยังไม่เท่าตอนที่เธอตื่นมาตอนเช้าก็เจอกับเรื่องที่สยองกว่า ทำให้เราได้รู้ถึงความผิดปกติของเธอพร้อมกับข่าวลือเรื่องกระสือที่แพร่อยู่ในโรงพยาบาล แล้วสาวก็ได้พูดคุยกับแม่ชีผู้มาไขความกระจ่างให้เธอทั้งๆ ที่ท่านนอนเข้าโคม่าอยู่นานหลายเดือนและไม่มีวี่แววว่าจะตื่นกลับพูดคุยกับเธอได้พร้อมกับบอกให้เธอหมั่นทำบุญและแผ่เมตตาก่อนนอน เพราะกรรมที่เธอเคยฆ่าคนและคนที่ถูกฆ่านั้นอาฆาตแรงนัก แล้วไม่นานนักที่เธอได้พบเจอคนที่เธอรอกลับต้องได้รับความชอกช้ำตามมาอีกระลอกเมื่อเธอรับรู้ว่าที่แท้จริงเธอเป็นอะไร และเขาได้รับอุบัติเหตุจนต้องเป็นอัมพฤกทำได้แค่กระพริบตาเท่านั้น กรรมนั้นไม่รอเลย ไม่รอให้เราได้หยุดพักหายใจสักนิด กลับจู่โจมเข้าใส่ต่อทันที ให้เราได้รับรู้ความสูญเสียของเธอ และอดีตที่ทำให้เขาและเธอเป็นเช่นนั้น และมาถึงฉากไคลแมกซ์ที่น่ากลัวหลอนและเง็งในตอนแรกที่น้องหนูก็สารภาพออกมาทุกสิ่ง แต่ที่งงคือผีชายแก่ที่ปรากฏออกมาแต่ต้นคือ วิญญาณเดียวกับน้องหนูหรือนี่ ตอนแรกงงว่าเพราะแรงอาฆาตถึงได้เปลี่ยนร่างพอนึกคำพูดที่เธอพูดว่าเพราะแม่ทำแท้งเลยไม่ได้เกิด ต้องตายในท้อง เลยเข้าใจว่าวิญญาณคนแก่นั้นกำลังจะมาเกิดเป็นเด็กผู้หญิง แต่ไม่ได้เกิดเพราะถูกแท้งซะก่อน นึกถึงศัพท์อังกฤษเลย คำว่าเกิดใช้คำว่า borning แต่คำว่าทำแท้งใช้คำว่า aborning และสยองที่สุดกับคำพูดตอนจบนี่แหละ เพลงกุหลาบ 9,999 ดอกพร้อมกับภาพเฉลยเหตุการณ์บางส่วนเรียกให้ไม่อยากลุกเลย

สรุปแล้วออกมานี่ขนลุก เกิดหิริ-โอตัปปะขึ้นมาทันที กรรมหนอกรรม

ทีนี้มาย้อนความกันต่อ ที่ Memoirs of a Geisha

ที่เข้าไปดูเรื่องนี้เพราะโปรดักชั่นจริงๆ กับอยากดูฉากเต้นรำกะเจ๊กงลี่ ที่แสดงได้เด่นสุดๆ ถ้าไม่มีเธอเรื่องนี้คงไม่ดีเลิศขนาดนี้ ตัวหนังออกแนวเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ แต่ขับเข่นเคี้ยวฟันจนแทบหายใจรดต้นคอ และบางส่วนดูสรุปเร็วเกินไปที่จะตัดสิน แน่ล่ะนางเอกลื่นไหลดุจดั่งกระแสน้ำที่กล่าวไว้ในตอนแรก กับความที่ยังเอ๊าะเลยเกิดการเขม่นกันขึ้นระหว่างเสือในถ้ำเก่า กับเสือที่จะมาแทนที่ แต่ฉากแค่ให้เธอรำเล็กๆ น้อยๆ นั่นจะมาบอกเด็ดขาดว่าเธอชนะไม่ได้หรอก และการกลั่นแกล้งก็ตามมาจนนางเอกเธอต้องโชว์พาวโดยการขึ้นไปร่ายรำได้ชวนขนลุกจนสร้างประวัติศาสตร์แก่บรรดาเกอิชาทั้งหมด เมื่อทุกอย่างมีรุ่งโรจน์ ก็มีทางแตกดับ เมื่อภัยสงครามรุกเข้ามา ความรื่นเริงเป็นอันต้องพับเก็บไว้พร้อมกับความรักฝังใจของนางเอก นั่นแหละเวรกรรมก็มีจริง กว่าที่คนเราจะสมหวังต้องโดนหักหลังจากคนที่เชื่อใจซะก่อน เรื่องนี้กงลี่ข่มคนอื่นมากจนรัศมีนางเอกไม่จับรวมถึงตัวละครหลักที่เป็นครูของนางเอกด้วยอีกคน จึงทำให้ดูไม่สนุกอย่างที่คิด

A Chinese Tall Story

หรือชื่อที่รู้จักกันดีก็ไซอิ๋วนี่แหละ เรื่องนี้ดูโปสเตอร์กับรายละเอียดก็รู้ว่าขายดารา แต่ยอมเสียตังค์ไปดูเพราะอยากดูเซียะถิงฟงในมาดพระถังหลังจากติดใจพี่ท่านในมาดของท่านอ๋องจาก The Promise ดูจบก็รู้สึกว่าถึงมันจะมั่วแต่ก็คุ้มค่าตั๋ว สิ่งที่ไม่ชอบมากที่สุดคือซีจีแทบทั้งหมดเพราะดูหลอนมากเกินไป และปริมาณที่ยัดเยียดซะเกินรับ เป็นหนังที่รวมดาราวัยรุ่นไว้ซะเพียบเลย เราชอบการตีความใหม่ในอีกมุม เรื่องนี้ก็ตีความพระถังในอีกมุมเช่นกัน ปกติจะเห็นภาพพระถังเป็นพระผู้ทรงศีลสงบเสงี่ยมงดงามทุกอิริยาบท แต่นี่ อีตานี่มันไม่ใช่...มันแหกทุกอย่าง และในหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นพระถังแอบ Y กะหงอคง ไม่แน่ว่าโค้ดที่หงอคงตั้งเพื่อสั่งกระบองวิเศษนี่เพราะอยากบอกใครรึเปล่า ยังไม่จบแค่นั้น เราจะได้เห็นพระถังที่แวดล้อมด้วยสาวแท้ และสาว Yuri รวมถึงอะไรที่มันไม่น่ามารวมกันได้ ถูกยัดมารวมกัน เป็นต้นว่าพระถังท่านมีชุดไอ้แมงมุมไว้ใส่จีบสาว หรือท่าเต้นส่ายสะโพกโยคย้ายอะไรปานนี้ กับตอนจบที่ออกจะเบี่ยงเบนจากเรื่องจริงที่คู่รักทั้งคู่ต้องเผชิญ คือต้องไปผจญภารกิจ 88 อย่างเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎก โดยที่สาวเจ้าต้องมากลายเป็นม้า ทั้งๆ ที่เรื่องจริง ม้าของพระถังคือ องค์ชาย 4 แห่งวังบาดาลที่เป็นมังกร แล้วเกิดไปงาบม้าของพระถังเลยต้องแปลงตัวเป็นม้าแทน

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2549

Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2549 20:20:01 น.

4 comments

Counter : 14379 Pageviews.