เีรื่องโรงพยาบาลเป็นเรื่องสำคัญนะ [อยากแนะนำให้ทุกคนรู้]
วันนี้ที่ออฟฟิศนั่งคุยกันเรื่องเมื่อต้องเข้าโรงบาลเมื่อป่วย
แทบทุกคนในออฟฟิศผมมีปัญหามาก ก ก ในการใช้บริการของโรงบาลครับ
โดยเฉพาะการใช้บริการของโรงบาลรัฐ
เรื่องนี้เด็กๆ วัยรุ่นอาจไม่สนใจ เพราะสุขภาพยังแข็งแรงดีอยู่
แต่ผมอยากเตือนไว้เลยว่า เมื่อประสบเข้าจริงๆ กับตัวแล้วไม่สนุกแน่ๆ ครับ
ตัวอย่าง...
พี่โฮม (นามสมมติ) ไปรพ.จุฬา ตั้งกะตี 6 กว่าจะได้รับการตรวจก็ปาเข้าไปช่วงบ่ายของวัน...เล่นเอาเสียการเสียงานไป 1 วันฟรีๆ เลยครับ
น้องปอ (นามสมมติ) ไปรพ.รามา ตั้งกะ 7 โมงเช้า ยื่นบัตรรอตรวจตั้งนานหลายชั่วโมง พอถึงเวลา จนท. บอกให้ไปรับบัตรคิวอีกแผนก
กลายเป็นว่าต้องไปเข้าคิวใหม่อีก . . . เหตุการณ์ปาเข้าไปจะเที่ยงแล้ว ยังไม่เห็นวี่แววจะได้เข้าตรวจ
สุดท้ายตัดสินใจไปโรงพยาบาลวิชัยยุทธ (รพ.เอกชนแถวๆ นั้น) แทน . . .ทำเรื่องอยู่ไม่กี่สิบนาทีจ่ายเงินรับยาเรียบร้อย
กลายเป็นว่า . . . เวลาหลายชั่วโมงที่รพ.รามาฯ เสียไปเปล่าๆ ฟรีๆ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
แต่ทั้งนี้ทั้งหมด เราพอจะแก้ไขได้ด้วยวิธีการนี้ครับ
ญาติๆ ผมมักรู้จักคนที่เป็นหมอเยอะพอสมควร
ดังนั้นเวลาจะต้องเข้ารับการรักษาที่รพ. ไม่่ว่าของรัฐหรือของหลวง ทางญาติๆ ผมมักจะติดต่อกับหมอคนนั้นคนนู้นก่อน
นั่นทำให้บรรดาญาติๆ ของผมไม่ค่อยมีประสบการณ์แย่ๆ เหมือนคนในออฟฟิศเลยครับ
รวมถึงเรื่องการผ่าตัดใหญ่ด้วย ที่มักจะไม่ต้องรอหมอนาน ไม่ต้องรอห้องของโรงพยาบาลว่าง ไม่ต้องลำบากในหลายๆ เรื่อง
เพราะเรื่องเหล่านี้ ถ้าหมอเป็นคนติดต่อให้ ทางจนท.ของโรงพยาบาลจะเกรงใจอย่างมากครับ
เรื่องนี้หลายคนอาจจะมองผมในแง่ลบที่ว่าเล่นเส้นเล่นสาย
แต่เรื่องเส้นเรื่องสายนี่ เราต้องยอมรับครับว่ามันเป็นเรื่องจริงในสังคมไทย (จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นวัฒนธรรมเลยล่ะ)
ดังนั้น ผมจึงอยากแนะนำว่า
"ถ้าไม่อยากไปโรงพยาบาลแล้วได้รับประสบการณ์แย่ๆ จงทำความรู้จักคุณหมอให้มากๆ และปฏิบัติต่อหมอคนนั้นอย่างดีๆ เลยครับ
ไม่่ว่าหมอคนนั้นจะเป็นญาติห่าง ๆ ๆ ๆ ๆ หรือเพื่อนของเพื่อน ๆ ๆ ๆ ๆ
เพราะผมรับรองได้ว่า การต้องพบประสบการแย่ๆ เมื่อต้องการรับการรักษา มันไม่สนุกแน่ๆ ครับ."