เว็บไซต์ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น Macotakara ได้รายงานข่าวล่าสุดของ iPad รุ่นใหม่หรือ iPad(5th) ว่าจะมีการเปิดตัวในเดือนมีนาคมปี 2013 ที่จะถึงนี้ ที่มีการปรับปรุงใหม่ให้มีขนาดที่บางเบาลงเช่นเดียวกับ iPad mini โดยระบุอาจจะมีขนาดที่ต่างจากเดิมประมาณ สูง 4 มิลลิเมตร กว้าง 17 มิลลิเมตร และหนา 2 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ iPad 4 รุ่นล่าสุด ซึ่งถ่าข่าวนี้เป็นจริงจะทำให้อายุของ iPad 4 ที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมกับ iPad mini นั้นมีอายุเพียง 5 เดือนเท่านั้น

นอกจากนี้ Macotakara ยังระบุถึงการอัพเกรดของ iPad mini รุ่นใหม่อีกว่าจะมาพร้อมหน้าจอ 7.9 นิ้วความะเอียด 2048 x 1536 px (326ppi) จากเดิมที่มีความละเอียด 1024 x 768 (163ppi) และจะใช้ CPU A6X แทน A5 เดิมอีกด้วย

แหล่งข่าวจากเว็บไซต์ FCC ได้ประกาศผลการตรวจสอบมาตราฐานพร้อมทั้งยืนยันออกมาแล้วว่า Panasonic P-02E ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานของ FCC

Panasonic P-02E สมาร์ทโฟนรันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.1.2 Jelly Bean และยังมาพร้อมคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ มีหน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล พร้อมกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ใช้ชิฟเซ็ตประมวลผล quad-core APQ8064 QualcommSnapdragon S4 ความเร็ว 1.5 GHz รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, LTE และ NFC คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายผ่านทางผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ NTT DoCoMo ในประเทศญี่ปุ่นช่วงต้นปี 2013

Sony NEX-5R กล้องดิจิตอล Mirrorless รุ่นใหม่จาก Sony ที่เพิ่งเปิดตัวมาทดแทนกล้องรุ่นเก่าอย่าง Sony NEX-5N โดยมีการปรับปรุงคุณสมบัติด้านต่างๆ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกล้องให้ดีขึ้น ใครที่มองหากล้องเล็กๆ ถ่ายง่าย แต่ได้คุณภาพไฟล์เฉกเช่นกล้อง DSLR ลองดูว่า Sony NEX-5R ตัวนี้ จะตอบโจทย์คุณได้หรือไม่

เริ่มจากสัมผัสแรกที่ได้จับ Sony NEX-5R ตัวนี้ รู้สึกว่าการจับถือหนักแน่นและเหมาะเป็นกล้องสำหรับการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง ด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักที่ไม่เป็นภาระต่อการสะพายกล้องท่องเที่ยว เลนส์คิตที่ให้มาเป็นเลนส์ตัวเล็กกะทัดรัดอย่างเลนส์ 16-50 F3.5-5.6 OSS มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวเลนส์

กระบอกเลนส์รุ่นใหม่นี้มีขนาดเล็กกะทัดรัด และปรับปรุงระบบซูมเป็นแบบซูมไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้การซูมเวลาถ่ายภาพวีดีโอนั้นไหลลื่นกว่า แต่ปัญหาเกี่ยวกับเลนส์ซูมไฟฟ้ารุ่นใหม่บางประการก็คือเรื่องของฟิลลิ่งในการควบคุมการซูม หากใครคุ้นเคยกับเลนส์แบบเก่าอาจจะมีขัดใจบ้างในบางลีลา แถมอีกนิดเรื่องการออกแบบเลนส์ที่เก็บเอาส่วนยืดของเลนส์ไว้ในกระบอกเลนส์เมื่อปิดกล้อง ทำให้ขนาดเล็กลง เก็บใส่กระเป่าง่ายขึ้นครับ

การออกแบบและดีไซน์ยังคงเอกลักษณ์ Sony ตระกูล NEX อยู่เหมือนเดิม ในขณะที่ด้านบนตัวกล้องมีปุ่มสำหรับควบคุมการทำงานหลักๆของกล้องอยู่เพียงไม่กี่ปุ่ม แต่ก็ทำงานได้รวดเร็ว โดยเฉพาะแป้นหมุนที่ใช้ควบคุมกล้องนั้น ถือได้ว่าช่วยให้การปรับเปลี่ยนค่าต่างๆทำได้รวดเร็วและสะดวก และนี่เป็นจุดเด่นของกล้องเลยก็ว่าได้ เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกในการคอนโทรลกล้องให้ง่ายขึ้น

กล้อง Sony NEX-5R ตัวนี้ ไม่มีแฟลชป็อปอัพมาให้ แต่มีแฟลชแยกภายนอกรุ่นเฉพาะมาให้ ซึ่งก็สะดวกเวลาไม่ใช้งานสามารถถอดเก็บได้ แต่สำหรับมืออาชีพที่ต้องการฮอทชูแฟลชแบบมาตรฐานนั้น ไม่มีมาให้ครับ

ตัวแฟลชที่ให้มาในกล่องนั้นก็เล็กกะทัดรัดรับกับตัวกล้องได้สวยงาม เมื่อต้องการใช้งานก็แค่ดันหัวแฟลชให้เงยขึ้น ซึ่งเราสามารถเข้าไปตั้งค่าการทำงานของแฟลชเป็นระบบต่างๆได้จากเมนูในตัวกล้อง

ด้านหลังของกล้องนั้นยังคงดีไซน์อย่างเรียบง่าย ปุ่มต่างๆออกแบบมให้เข้าถึงง่ายและปรับตั้งค่าต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยเราสามารถที่จะใช้งานปุ่มต่างๆข้างหลังกล้องได้ตามปกติ หรือจะหันไปใช้งานระบบหน้าจอสัมผัสแทนก็ได้ เพราะ Sony NEX-5R มาพร้อมกับหน้าจอแบบทัชสกรีนครับ

หน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว ตัวนี้แสดงผลได้สวยงาม แสดงผลได้ชัดเจน แถมมีข้อดีของระบบหน้าจอทัชสกรีนที่เหมาะกับการถ่ายภาพก็คือ คุณสามารถจิ้มที่หน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัสและถ่ายภาพได้ทันทีคล้ายกับการใช้งานพวกกล้องมือถือสมาร์ทโฟน และจากการทดสอบปรากฏว่ากล้อง Sony NEX-5R ตอบสนองการทำงานระบบสัมผัสได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนด้วย

และด้วยจุดเด่นของหน้าจอที่สามารถบิดพับได้ของ Sony NEX-5R ทำให้การถ่ายภาพในมุมมองต่างๆทำได้ง่ายขึ้น แถมสามารถบิดหน้าจอได้ถึง 180 องศากลับมาถ่ายภาพตัวเองได้ด้วย อันนี้รุ่นก่อนอย่าง Sony NEX-5N ทำไม่ได้ครับ ฟีเจอร์เด็ดอันนี้เอาใจสาวๆที่ชอบถ่ายภาพตัวเองครับ และอย่างที่บอกว่าไม่ต้องไปยุ่งกับปุ่มชัตเตอร์เลย แตะที่หน้าจอก็สามารถถ่ายภาพได้

ตัวบานพับนั้นใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน ตรงจุดนี้ Sony ออกแบบมาได้ดีครับ สามารถบิดพับได้ง่าย

กล้อง Sony NEX-5R เป็นกล้อง Mirrorless ดังนั้นจึงสามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ครับ และแน่นอนว่าเลนส์ของ Sony ตระกูล NEX นั้น มีให้เลือกหลายตัวเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับอแดปเตอร์สำหรับเลนส์เมาท์ A ของ Sony เองได้อีกด้วย แถมเซ็นเซอร์ในตัวของ Sony NEX-5R มาพร้อมความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล ขนาก APS-C ซึ่งตรงนี้เป็นจุดขายเลยว่าคุณภาพไฟล์เทียบเท่ากล้อง DSLR หลายๆรุ่นในตลาด แถมระบบโฟกัสแบบใหม่ที่เรียกว่า Fast Hybrid AF ที่นำเอา Phase-Detection และ Contrast- Detection มาใช้ ทำให้การโฟกัสเร็วและสามารถโฟกัสได้ต่อเนื่องแม้ขณะถ่ายวีดีโอ

ด้านล่างของตัวกล้องบริเวณกริปเป้ช่องใส่แบตเตอรี่และเมมโมรี่การ์ด ซึ่งเมมโมรี่การ์ดที่ใช้นั้นรองรับทั้งแบบ SD และ Memory Stick และทั้งหมดของตัวกล้อง Sony NEX-5R นี้ Made in Thailand ครับ น่าภูมิใจจริงๆ

พอร์ตเชื่อมต่อของกล้องนั้นมีมาให้ 2 พอร์ตหลักคือ USB และ HDMI โดยเราสามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่านพอร์ต USB ได้โดยตรงไม่ต้องเปิดฝากล้องด้านล่าง แงะเอาแบตเตอรี่ออกมาชาร์จ จุดนี้ให้เรื่องความสะดวกสบายไปเลยครับ

สำหรับคุณสมบัติการทำงานของกล้อง Sony NEX-5R ตัวนี้ ยังคงมีอินเทอร์เฟซแบบเดิมครับ การเข้าถึงโหมดการถ่ายภาพต่างๆต้องเข้ามาเลือกในเมนูกล้อง แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือในส่วนของ Application ซึ่งกล้อง Sony NEX-5R นั้น รองรับแอพพลิเคชั่นที่สามารถหาดาวน์โหลดมาใช้งานได้ (แต่ในเมืองไทยยังไม่เปิดให้ดาวน์โหลดครับ)

การเข้าถึงโหมดการถ่ายภาพทั่วไปนั้นสามารถกดปุ่มตรงกลางตรงแป้นหมุนหลังกล้องได้เลย ไม่ต้องเข้าไปในเมนูก่อน ซึ่งโหมดการถ่ายภาพมาตรฐานนั้นมีมาให้ครบถ้วน และมีโหมดพิเศษอย่าง Scene Mode , Sweep Panorama , Intelligent Auto และ Superior Auto

การทำงานของพวก Scene Mode นั้น ยังคงมีให้เลือกครบถ้วน ไม่ว่าคุณอยากจะถ่ายภาพแนวไหน กล้องจะทำการคำนวณให้ เช่นการถ่ายภาพมาโคร การถ่ายภาพกีฬาหรือการถ่ายภาพกลางคืนโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง ส่วนโหมด Intelligent Auto นั้น กล้องจะคำนวณทุกอย่างเองหมดเลยแต่เราสามารถควบคุมหน้าชัดหลังเบลอ ความสว่าง สีสัน และเอฟเฟคท์ภาพได้ และสุดท้าย Superior Auto จะเพิ่มฟีเจอร์การทำงานในส่วนของการลด Noise และคำนวณเรื่องการความเร็วชัตเตอร์ , ISO เพื่อป้องกันภาพสั่นไหว

จุดเด่นจุดขายของ Sony NEX-5R ก็คือ เจากล้องตัวนี้มี Wi-Fi ในตัวครับ ซึ่งการจะโหลดแอพพลิเคชั่นก็ต้องใช้ Wi-Fi นี่แหละครับ ส่วนการแชร์รูปต่างๆก็สามารถใช้งาน Wi-Fi แชร์รูปขึ้น Facebook ได้ทันที สะดวกและง่ายดาย ซึ่งจากการทดสอบแล้วผ่าน 100% ครับ สามารถโพสภาพลง Facebook จากกล้องได้เลย ไม่มีปัญหา

ในส่วนของเอฟเฟคท์พิเศษของกล้อง Sony NEX-5R นั้น มาหลบอยู่ในเมนู Application เพราะปกติเมนูนี้จะอยู่ด้านนอก หาได้ง่าย ตรงนี้เอาไว้ใช้เอฟเฟคท์พิเศษสำหรับการถ่ายภาพให่้แปลกตาครับ ซึ่งเดี๋ยวไปภาพตัวอย่างว่าแปลกตายังไง

ที่น่าสนใจสำหรับการใช้งาน Application อย่างนึงสำหรับ Sony NEX-5R ก็คือ การใช้งาน Smart Remote Control โดยเราสามารถใช้มือถือของเราเป็นรีโมทควบคุมกล้องได้ ซึ่งอาศัยการทำงานผ่าน Wi-Fi ซึ่งขั้นตอนการใช้งานก็ไม่ยากครับ

ขั้นแรกคือไปหาโหลดแอพ Playmemories Mobile ลงในมือถือก่อน จากนั้นก็เปิดเลือกระบบ Wi-Fi ตามชื่อที่กล้องแจ้งเอาไว้ พร้อมใส่รหัสเพื่อทำการซิงค์มือถือเข้ากับกล้อง โดยเราสามารถใช้มือถือถ่ายภาพได้ครับ (แต่โฟกัสไม่ได้ครับ ต้องตั้งโฟกัสที่กล้องก่อน)

ภาพบนหน้าจอของกล้อง Sony NEX-5R จะซิงค์กับมือถือของเรา ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานถ่ายภาพบนขาตั้งกล้องแล้วไม่ต้องหาซื้อรีโมทถ่ายภาพให้เกะกะครับ เป็นยังไงบ้างสำหรับกล้อง Sony NEX-5R ตัวนี้ เดี๋ยวไปอ่านสเป็คกันก่อนที่จะไปชมภาพตัวอย่างนะครับ ว่ากล้องตัวนี้จะให้คุณภาพไฟล์ที่ดีมากน้อยแค่ไหน

มาดูในเรื่องของไฟล์ภาพกันบ้างดีกว่าครับ หลังจากที่ดูในเรื่องรูปร่างหน้าตาและสเป็คไปแล้ว เจ้ากล้อง Sony NEX-5R ยังคงคุณภาพของไฟล์ที่ดีในแบบ DSLR ไว้เหมือนเดิมเนื่องจากใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ APS-C ซึ่งหากมองในเรื่องของการถ่ายทอดสีสันและมิติภาพที่ได้นั้น ทำได้ตามมาตรฐานของกล้อง Sony รุ่นใหม่ๆ เรียกว่ารุ่นก่อนอย่าง Sony NEX-5N ทำดีไว้อย่างไร ตัวนี้ก็ยังคงมาตรฐานไว้ทุกเม็ด

ในเรื่องมิติภาพของ Sony NEX-5R กุมความได้เปรียบจากขนาดเซ็นเซอร์ APS-C ที่ให้หน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายกว่ากล้องคอมแพกต์ทั่วๆไป และที่สำคัญคือมีระยะเลนส์ให้เล่นหลายตัวอีกด้วย ใครที่อยากถ่ายรูปสวยๆด้วยกล้องตัวเล็กๆนี่ ลองจับ Sony NEX-5R ดูครับ

เรื่องของ Noise นั้น จากการทดสอบถือว่ารับได้ครับกับการจัดการเรื่อง Noise ของกล้อง แต่ดูเหมือนว่า Sony จะไม่ได้พัฒนาในจุดนี้เพราะยังไม่เห็นข้อแตกต่างมากนักและถึง แม้ว่า ISO ที่สามารถจะดันได้สูงสุดถึง 25600 แต่การใช้งานจริงอาจจะไม่ถึงครับ มีเผื่อไว้ก็ดี และถ้าให้แนะนำคือไม่ควรเกิน 6400 เพราะภาพที่ได้จะสูญเสียความคมชัดไป ลองดูตัวอย่าง ISO 1600 นะครับ ย่อภาพลงมาแล้วถือว่ารับได้พอสมควร

เรื่องของ White Balance จากกล้องเวลาถ่ายภาพวัตถุสีขาว ระบบออโต้ WB ก็ฉลาดพอสมควร ไม่ค่อยออกอาการเอ๋อสักเท่าไรนัก เรียกได้ว่าตัวเก่าดียังไง ตัวใหม่ก็ยังดียังงั้นอยู่เหมือนเดิมครับ

จุดเด่นของกล้องไปอยู่ที่การพัฒนาเรื่องของการโฟกัสที่ดีขึ้นเนื่องจากมีการปรับปรุงระบบโฟกัสเป็นแบบ Fast Hybrid AF ซึ่งจากการทดสอบถือว่าทำได้รวดเร็ว และจับโฟกัสได้แม่นมาก ไม่ค่อยมีอาการวืดวาดสักเท่าไรนัก ตรงนี้ Sony ทำการบ้านมาดีครับ

มาดูจุดที่ประทับใจสำหรับกล้อง Sony NEX-5R อีกจุด นั่นก็คือโหมดถ่ายภาพแบบ Sweep Panorama ที่ใช้งานง่ายขึ้นกว่าเดิม นั่นก็คือการลากกล้องสามารถทำได้หลายทิศทางมากขึ้น ทั้งจากซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย ลากจากล่างขึ้นบนหรือบนลงล่างก็ทำได้ แถมจังหวะการลากกล้องก็ไม่ยาก ไม่ต้องรอเป็นจังหวะเหมือนรุ่นก่อนๆที่ถ่ายได้ยากกว่าเพราะต้องรอสเต็ปการลั่นชัตเตอร์ของกล้องให้พอดีกับการลากกล้อง

ลูกเล่นเอฟเฟคท์ต่างๆของกล้อง Sony NEX-5R เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ตัวเก่ารุ่นก่อนมีอะไร ตัวใหม่นี้ก็มีมาให้ มีเพียงบางลูกเล่นเท่านั้นที่มีการปรับปรุง ซึ่งจะเป็นอะไรนั้นต้องอ่านต่อจากนี้ครับ

ลูกเล่นที่ว่าก็คือการเลือกสีเด่น ที่คราวนี้สามารถปรับเลือกได้มากขึ้นเป็น 2 สี จากเดิมแค่สีเดียว ทำให้เราสามารถเลือกว่าจะเอาสีอะไรแสดงผลออกมาได้มากขึ้น อย่างเช่นตัวอย่าง ลองเลือกสีฟ้าและสีแดงครับ ส่วนที่ไม่ใช่สีทีเราเลือกไว้ก็จะกลายเป็นขาวดำทันที

ส่วนลูกเล่นอื่นอย่างเช่นเอฟฟเฟคท์ Miniature ก็ยังมีอยู่แถมสามารถเลือกได้เองว่าจะให้ภาพนั้นชัดตรงจุดไหนได้ เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพและสร้างสรรค์ภาพให้แปลกตาได้มากขึ้นด้วยครับ

สุดท้ายเลย ตัวกล้องเองก็ยังมีโหมด HDR ที่เอาไว้ทำภาพสไตล์ High Dynamic Range ที่เก็บเอารายละเอียดภาพส่วนมืดและสว่างไว้อย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องมานั่งปรับแต่งในคอมครับ แถมภาพที่ได้ก็น่าทึ่งซะด้วยครับ ตรงนี้ขมชมเชยว่า กล้องตัวนี้สามารถจบหลังกล้องได้เลย

หลังจากชมภาพตัวอย่างไปแล้ว หวังว่าน่าจะถูกใจคนที่กำลังมองหากล้องตัวเล็กๆที่ให้ไฟล์ภาพดีๆสักตัว อย่าง Sony NEX-5R น่าจะอยู่ในตัวเลือกของคุณ ซึ่งหากมองในเรื่องของการใช้งานโดยทั่วไปแล้ว ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมและให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ต้องการกล้องดีๆสำหรับการถ่ายรูปท่องเที่ยว หรือวันพักผ่อนที่ไม่ต้องแบกกล้องใหญ่ๆหนักๆ แถมให้ไฟล์ภาพสวยถูกใจ ลูกเล่นเยอะ ใช้งานง่ายๆ แชร์ภาพผ่าน Wi-Fi ได้อีกต่างหาก

จุดเด่น

น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก สะดวกต่อการพกพา
ไฟล์ภาพที่ดี สวยงามเทียบเท่ากล้อง DSLR
การควบคุมกล้องทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น
ระบบหน้าจอสัมผัสทำงานได้ดี ตอบสนองเร็ว
ระบบโฟกัสที่พัฒนาดีขึ้น สามารถโฟกัสได้ต่อเนื่องแม้ขณะถ่ายวีดีโอ
มี Wi-Fi ในตัว
หน้าจอบิดพับได้ 180 องศา

จุดด้อย

ไฟล์ภาพยังคงเหมือนกับรุ่นก่อน ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเท่าไรนัก
ในประเทศไทย การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆยังไม่รองรับ ณ เวลานี้