Big city, small me 大大的北京与小小的我 หนูน้อยในเมืองหญ่ายยยย
Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
29 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
Farewell my Concubine(1993)หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม

หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม
霸王别姬
Farewell my Concubine





เท่าที่ผ่านมาเวลาเขียนเรื่องหนัง เราจะเขียนผ่านมุมมองของเรา อาจนำสิ่งที่เคยผ่านหูผ่านตาเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้นจากความคิดเห็นของคนอื่นมาแทรกบ้าง

แต่คราวนี้ สำหรับหนังที่จะว่าไปก็ถือว่าเป็นมหากาพย์เรื่องนี้ ไม่สามารถจริงๆ

เพราะฉะนั้นจึงได้แต่ทำหน้าที่เป็นเสมียน นั่งพิมพ์เนื้อหาจากหนังสือสูจิบัตรที่แถมให้ผู้ชมเมื่อคราวที่หนังเรื่องนี้ฉายในเมืองไทยให้ได้อ่านกัน

แต่ก่อนอื่น มีแถมความเห็นส่วนตัว

จำได้ว่าเราได้ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกตอนเด็กๆ ที่อยากดูเพราะพี่เรา(คนแถวๆนี้)เอามาโฆษณาว่าดีอย่างโน้นดีอย่างนี้ ตอนนั้นเราก็มองตาตี่ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ จนมาสะดุดกับคำว่า เรื่องนี้พระเอกแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วสวยมากเลย (เออ สงสัยเราคงมีปมอะไรบางอย่าง) เลยโอเช ไปนั่งดูวิดีโอกับพี่ สรุปชายผู้แต่งกายเป็นหญิงแล้วสวยเลิศยังไม่ทันปรากฏตัว เดี๊ยนก็สลบคาเก้าอี้ไปซะแล้ว

ต่อมาโตขึ้น เริ่มกลายเป็นสาวกเลสลี่จาง ก็ยังไม่กล้าดู เพราะกลัวจะเข้าอีหรอบเดิมเหมือนสมัยเด็กๆ แต่ตอนหลังคิดว่า แหม เราก็โตแล้ว คงดูรู้เรื่องแล้วแหละ เลยได้ฤกษ์หยิบวิดีโอร้านลูกแมวเรื่องนี้มาดู

เออ พอดูจบ อืม จะใช้คำอะไรมาบรรยายดีนะ “สุดยอด” “สมบูรณ์แบบ” ดูเหมือนว่าไม่มีคำอะไรจะมานิยามหนังเรื่องนี้ได้ในคำเดียว

ทำไมเฉินข่ายเกอถึงได้สามารถทำหนังให้เข้มข้น ดึงอารมณ์ ครบทุกรสชาติ ละเมียดละไม ลึกซึ้ง และดึงเอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง(มากกว่าหนังสือเยอะเลย)อย่างแยบยลได้แบบนี้เนี่ย รู้สึกนับถือค่ะ

องค์ประกอบต่างๆในเรื่องทั้งแสง ภาพ นักแสดง ดนตรีประกอบ ดีมาก

เป็นหนึ่งในบรรดาหนังไม่กี่เรื่องที่เราดูแล้วรู้สึกว่า เลสลี่ จาง แสดงได้สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ นั่งจับผิดอยู่ตั้งนานก็ไร้ผล

ก่งลี่และจางเฟิงอี้ก็เริ่ดมากเช่นกัน โดยเฉพาะแววตาสิ้นหวังก่อนแขวนคอตายของก่งลี่นี่ ลืมไม่ลง ทรงพลังดีจริงๆ


ผู้กำกับ เฉินข่ายเกอ 陈凯歌
นักแสดง
เลสลี่ จาง张国荣 จางเฟิงอี้张丰毅 ก่งลี่巩俐

เนื้อเรื่องย่อ
เฉิงเตี๋ยอีกับต้วนเสี่ยวโหลว เป็นเด็กกำพร้าเติบโตในคณะงิ้วของอาจารย์กวน เฉิงเตี๋ยอีถูกบังคับให้แสดงเป็นตัวนางสนมหวีจี เพราะร่างกายเหมาะสม ส่วนต้วนเสี่ยวโหลวอาจารย์ฝึกให้แสดงเป็นป้าหวัง
10 ปีให้หลังทั้ง 2 คนมีชื่อเสียงในวงการงิ้ว ต้วนเสี่ยวโหลวรักกับจวี๋เซียน ซึ่งเป็นนางคณิกา เฉิงเตี๋ยอีทั้งริษยา แค้น และเศร้า จึงทุ่มเทจิตใจและร่างกายสู่การแสดงบนเวที เพื่อสานคำสาบานในวัยเด็ก เฉิงเตี๋ยอีได้มอบกระบี่เล่มหนึ่งให้กับต้วนเสี่ยวโหลว
ในช่วงที่ทหารญี่ปุ่นยึดครองประเทศจีน ต้วนเสี่ยวโหลวถูกทหารญี่ปุ่นจับขังคุก เฉิงเตี๋ยอีรับคำเชิญไปแสดงงิ้วให้ทหารญี่ปุ่น โดยมีข้อแลกเปลี่ยนให้ปล่อยตัวต้วนเสี่ยวโหลว แต่ต้วนเสี่ยวโหลวเข้าใจผิดคิดว่า เฉิงเตี๋ยอี ยอมสวามิภักดิ์ทหารญี่ปุ่น จึงด่าและตบหน้าเขา จิตใจของเฉิงเตี๋ยอีบอบช้ำแสนสาหัส ต้องพึ่งฝิ่นดับความทุกข์
หลังญี่ปุ่นแพ้สงคราม เฉิงเตี๋ยอีถูกจับข้อหาเป็นสายลับญี่ปุ่นต้วนเสี่ยวโหลวอ้อนวอนให้หยวนซื่อเยี๋ยช่วยโดยยอมขายสมบัติทั้งหมด จวี๋เซี่ยนไปเยี่ยมเฉิงเตี๋ยอีในคุก สอนให้เฉิงเตี๋ยอีให้การว่าถูกทหารญี่ปุ่นบังคับและทำทารุณ เแต่เมื่อขึ้นศาล เฉิงเตี๋ยอีไม่ทำตามคำแนะนำ กลับพูดความจริง แต่ในที่สุดเฉิงเตี๋ยอี ถูกปล่อยตัวโดยไม่มีความผิด เพราะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งของพรรคก๊กมินตั๋ง ต้องการชมการแสดงของเฉิงเตี๋ยอี
เมื่อถึงยุคการปฏิวัติวัฒนธรรม เฉิงเตี๋ยอีกับต้วนเสี่ยวโหลวตกเป็นเป้าของการโจมตีอีกครั้ง แล้วต่างก็ถูกบีบคั้นจนทุกขีวิตต่างก็เอาตัวรอดด้วยการเปิดโปงความลับของแต่ละคน จวี๋เซียนสะเทือนใจสิ้นหวังจึงฆ่าตัวตาย เหลือแต่สองหนุ่มที่ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสชั่วชีวิต ฝากกาลเวลาที่จะคิดบัญชีรักและแค้น

อ่านเนื้อเรื่องย่อแล้วก็คิดว่า คนเขียนเรื่องย่อนี่ท่าทางจะคอหนังจีนกำลังภายในแฮะ

เพื่อให้เข้าใจหนังมากขึ้น
ก็ลองมาอ่านอะไรเล็กๆน้อยๆจากปากคำของเฉินข่ายเกอดูบ้าง

เฉินข่ายเกอ ถ่ายทอดแง่มุมชีวิตจากตัวละครสามคน
หลายแผ่นดินแม้สิ้นใจก็ไม่ลืม
อะไรคือชีวิตจริง และอะไรคือละคร



รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เวบไทยจะฮิตภาพนี้ เห็นเวลาพูดถึงหนังจะแปะภาพนี้บ่อยๆ เครื่องแต่งกายในภาพนำมาจากอุปรากรเรื่อง "นางพญางูขาว" ซึ่งไม่ปรากฏในหนังแต่อย่างใด

ผมชอบความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องนี้ เนื้อเรื่องน่าสนใจ ผมกับหลี่ปี้หัวช่วยกันดัดแปลงนิยายเรื่องนี้ให้กลายเป็นผลงานใหม่ในอีกรูปแบบหึ่ง สิ่งที่ทำให้ผมสนใจเป็นพิเศษคือ คนเราสามารถ “แอบรัก” ได้นานตลอดกาลหรือไม่ ในเมื่อคนเราอยู่ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีทางเลือกหลากหลาย ถ้ามองจากความสัมพันธ์ของตัวละครเหล่านี้ ผมเห็นว่าจำเป็นต้องใส่บทจวี๋เซียนเข้าไปในระหว่างชาย 2 คน ทำให้เป็นรักสามเส้า เมื่อบทของจว่เซียนเด่นขึ้นมา เราก็สามารถมองอีก 2 คนได้จากมุมมองของบุคคลที่ 3 ในขณะที่บทเด่นยังอยู่ที่ตัว เฉิงเตี๋ยอี ซึ่งแสดงโดย เลสลี่ จาง

การแสดงบทเฉิงเตี๋ยอี เป้นงานที่ยากมาก เพราะเขาเป็นคนที่ใกล้ชิดยาก เขาเป็นคนยโสโอหัง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนซื่อๆ ง่ายๆ ทำแต่เรื่องโง่ๆ ตลอดชีวิต โศกนาฏกรรมที่เกิดกับชีวิตเขาเป็นเพราะเขาไม่สามารถแยกชีวิตจริงกับชีวิตละครออกจากกัน ผมเน้นเรื่องการแยกแยะไม่ออกของเขา การเดินสู่ความรักและความตายแบบ หวีจี เป็นความใฝ่ฝันของเขา ด้วยเหตุนี้ หลังการปฏิวัติวัฒนธรรมแล้ว เขายังคงต้องตาย เขากำลังรอคอยโอกาสที่เหมาะแก่การจบชีวิตของเขา และจากชีวิตนักแสดงงิ้ว 2 คนนี้ สามารถสะท้อนประสบการณ์อันขมขื่นตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมาของประเทศจีนได้เป็นอย่างดี

ผมเชื่อว่าในสังคมที่ดี ศิลปินสามารถทำงานที่สอดรับกับความใฝ่ฝันของเขาได้ แต่ในเรื่องนี้ไม่ได้สะท้อนสังคมด้านลึกเท่าที่ควร ไม่มากเหมือนกับความรักความแค้นของทั้ง 3 คน ผมตั้งความหวังไว้ว่า จะหนีจากรูปแบบเพื่อศีลธรรม ผมอยากจะนำเสนอธาตุแท้ของคนออกมา เคารพอำนาจการคงอยู่ของพวกเขา ไม่ต้องการบอกว่าพวกเขาควรจะอยู่อย่างไร ทำอย่างไร ความรัก ความแค้น รวมถึงการวิจารณ์ เฉิงเตี๋ยอี กับต้วนเสี่ยวโหลว ในขณะที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นฉากหลัง ต่างคนต่างมีเป้าหมายของตัวเอง การที่เฉิงเตี๋ยอี จะผูกมัดความรักของต้วนเสี่ยวโหลวไว้ได้ จะต้องไม่มีจวี๋เซียน ทั้งหมดนี้คือความเข้าใจต่อพฤติกรรมของคน ผมยิ่งเข้าใจมากเท่าไหร่ หนังก็ยิ่งมีความสนุกมากขึ้น

ทุกคนกำลังแสดงงิ้ว ต่างเข้าใจดีว่าตัวเองกำลังแสดงบทอะไร มีแต่ เฉิงเตี๋ยอี คนเดียวที่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นมุมมองของก่งลี่ คือมุมมองของคนดู โรงงิ้วทั้งโรงกลายเป็นเวทีงิ้ว โดยที่ฉากหลังแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ผมใช้การเคลื่อนกล้องไปเรื่อยๆ เพราะอยากให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่อยากให้ดูเป็นการจงใจ

ช่วงวัยเด็กเป็นการปูทางให้เฉิงเตี๋ยอีกับต้วนเสี่ยวโหลว ตอนโต ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในภายหลังของพวกเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การสะท้อนความโศกเศร้าและอารมณ์ในโลกมนุษย์นี้ออกมา อย่างเช่น ในวัยเด็ก ต้วนเสี่ยวโหลวเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ใจคอกว้างขวาง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ถึงจะยากจนและลำบากแต่เขาเปลี่ยนความลำบากให้เป็นความสุข แต่เมื่อโตขึ้น มีชื่อเสียง เขาก้เปลี่ยนไป ต้วนเสี่ยวโหลวที่น่ารักในอดีตจะขายเพื่อนได้หรือไม่ ที่ผมต้องการนำเสนอคือการเปรียบเทียบตรงนี้ ในที่สุด ต้วนเสี่ยวโหลว ขายเพื่อนได้จริงๆ ในขณะที่ เฉิงเตี๋ยอี ยังคงเหมือนเดิม เช่น เขาเผาเสื้อนวมที่แม่ให้มากับการเผาชุดงิ้ว สภาพจิตใจของเขายังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้ จวี๋เซียนจะร้ายกาจ ใช้เล่ห์เหลี่ยม แต่ที่เธอทำไปนั้น เธอทำเพื่อความหวังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของเธอ คือการได้อยู่ร่วมกับคนที่เธอรัก เหมือนดังที่ อาจารย์กวน กล่าวไว้ว่า “คนมิอาจต้านชะตาฟ้า”ในที่สุดเธอก็ถูกคนรักหักหลัง มันเป็นชะตาชีวิตของเธอ เฉิงเตี๋ยอีต้องการสานความฝันของเขาให้สมบูรณ์ เขาจึงต้องตาย ตรงจุดนี้เป็นความเข้าใจของผมที่มีต่อชีวิตคน ส่วนคำวิจารณ์ว่า เนื้อหาเกี่ยวพันไปถึงรักร่วมเพศนั้น ผมเชื่อว่า ผมไม่เคยเอาเรื่องรักร่วมเพศมายุ่งในหนังของผมเลย คงจะเป็นเพราะพวกเขาไม่เข้าใจ ถ้ามีความอดทนพอที่จะไปค้นหาความจริงของหนังเรื่องนี้ ผมเชื่อ่าพวกเขาจะค้นพบความสัมพันธ์ที่น่าสนใจของตัวละครในเรื่องนี้
กระบี่เล่มนั้นสำคัญมาก เหมือนที่ หยวนซื่อเยี๋ย พูดไว้ว่า “กระบี่วิเศษมอบแก่ผู้รู้ใจ” กระบี่เล่มนี้เปลี่ยนมือไปหลายทอด จนถึงยุกปฏิวัติวัฒนธรรม จวี๋เซียน จึงแย่งกลับมามอบให้เฉิงเตี๋ยอี ความสัมพันธ์ของ 2 คนนี้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสะท้อนผ่านทางกระบี่เล่มนี้ ท้ายที่สุด ในความแค้น ความรักที่กินเวลากว่า 50 ปี คนที่รู้จักและเข้าใจเฉิงเตี๋ยอี มากที่สุด คือ จวี๋เซียน ทั้งคู่กลายเป็นผู้รู้ใจกัน ถึงแม้เฉิงเตี๋ยอีจะให้ร้ายจวี๋เซียน แต่จวี๋เซียนซึ่งเข้าใจดี ก็ได้มอบความรักประดุจแม่แก่ เฉิงเตี๋ยอี ความเคียดแค้นจากการเกิดเป็นลูกโสเภณีของเฉิงเตี๋ยอีถูกระบายใส่ตัวจวี๋เซียนจนหมดสิ้น ตรงนี้กี่ยวพันกับความเป็นชายหญิงอยู่บ้าง โศกนาฏกรรมของจวี๋เซียนไม่ใช่ความรัก แต่เป็นเพราะต้วนเสี่ยวโหลวไม่อาจทนต่อมรสุมที่กระหน่ำเข้าใส่ชีวิตของขา ส่วนชะตากรรมของเฉิงเตี๋ยอียิ่งชัดเจน ความจริงคนที่ควรจะเข้าใจเขาได้ดีที่สุดคือต้วนเสี่ยวโหลว แต่ต้วนเสี่ยวโหลวกลับเป็นคนที่ไม่เข้าใจเขามากที่สุดนี่อาจเป็นการกลั่นแกล้งของชะตากรรม

ในฐานะของคนทำหนัง ความหวังของผมฝากไว้กับ เฉิงเตี๋ยอี เขาเป็นคนจริงใจ ตลอดชีวิตของเขาเดินอยู่บนความเป็นคนที่แท้จริง เริ่มจากชีวิตวัยเด็ก จนถึงหลงรัก ต้วนเสี่ยวโหลว ทำทุกอย่างเพื่อเขา แต่กลับไม่ได้รับความเข้าใจจากเขา จนกระทั่งถูกจับตัวขึ้นศาล เขายังคงพูดความจริงตราบกระทั่งเวลาผ่านมาถึงหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมความเลวร้ายที่ซ่อนอยู่อีกด้านหนึ่งของเขาจึงเปิดเผยออกมา เขาเริ่มสัมผัสความสุขของการทำผิด

สำหรับต้วนเสี่ยวโหลวนั้น เป็นอีกด้านหนึ่งของเรื่องนี้ คุณต้องมอง เฉิงเตี๋ยอี กับต้วนเสี่ยวโหลว เป็นคนเดียวกัน จึงจะเข้าใจความขัดแย้งของพวกเขา

เฉิงเตี๋ยอี เชื่อในความสมบูรณ์แบบ เข้าใช้ทั้งชีวิตของเขาแสดงงิ้ว หมายถึงเขาจะแสดงงิ้วไปตลอดจนกว่าจะตาย ส่วนต้วนเสี่ยวโหลว จะเข้าถึงอารมณ์การแสดงเฉพาะตอนที่กำลังแสดงอยู่บนเวทีเท่านั้น ชีวิตคนเราจะแสดงตลอดเวลาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรเราไม่มีเหตุผลอะไรจะไปประณามเขา โดยเฉพะาในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม สำหรับผม ต้องการเพียงแต่เปิดเผยความเป็นไปของเรื่องราว ไม่ต้องการสรุปเหตุผลหรือความถูกผิด

โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมเห็นว่าเลสลี่ จาง แสดงได้ดีเป็นพิเศษ ดวงตาของเขาถ่ายทอดความอ่อนโยนออกมาดี จุดนี้เป็นจุดสำคัญในการตัดสินใจเลือกเขา บทเฉิงเตี๋ยอีเป็นบทที่แสดงยาก อย่างน้อย เขาก็สามารถเข้าใจถึงการหลอมชีวิตการแสดงและชีวิตส่วนตัวเขาด้วยกันของนักแสดงงิ้วปักกิ่ง เลสลี่ จาง ทำความเข้าใจได้ทะลุปรุโปร่ง เขาจึงแสดงได้อารมณ์ส่วนลึก จุดผิดพลาดของเฉิงเตี๋ยอี คือ สับสนเรื่องการแบ่งแยกเพศ (Sex identity) เขาแบ่งไม่ออกความเป็นหญิงและชายถึงเป็นเช่นนี้ มันก็เป็นเพียงความผิดพลาดอันสวยงาม สำหรับ ก่งลี่ ความสามารถในการแสดงของเธอสูงจริงๆ ความเป็นละครในตัวเธอก็เยี่ยม เพราะเธอเตรียมตัวค่อนข้างน้อยการแสดงของเธอจึงอยู่ระหว่างรู้ตัวกับลืมตัว อีกคนคือจางฟงอี้ ผมเห็นว่าเขาแสดงได้เหมาะที่สุด


เพิ่มเติม - เพื่อเป็นการฉลองที่ Farewell my Concubine ได้รับการโหวตจากประชาชนในฮ่องกงให้เป็นหนังจีนยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษ (อ่ะนะ เห็นวุ่นกันน่าดู ช่วงนั้น) RED Mission(คล้ายๆองค์กรแฟนๆเลสลี่จางน่ะแหละ) ร่วมกัน ทอมป์สันฟิล์ม ผู้สร้างหนังเรื่องนี้ได้จับมือกันจัดนิทรรศการเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ขึ้น ในช่วงกลางเดือนกันยายน 2005 (วันเกิดใครล่ะ) ผลออกมาว่าประสบความสำเร็จดี (เห็นในทีวีก็ดูเหมือนจะดีทีเดียวแหละ)

ขณะนี้นิทรรศการดังกล่าวกำลังจะเคลื่อนพลขึ้นบกไปที่เซี่ยงไฮ้ โดยจะจัดงานขึ้นในวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ 2006 นี้ ใครสนใจก็ไปชมกันได้นะคะ
หรือชมได้ทางเวบไซต์
//www.farewelltomyconcubine.com/ ค่ะ

โปสเตอร์นิทรรศการ



ในเมื่อเป็นหนังดี หนังเรื่องนี้ต้องได้รับรางวัลมากมายแน่นอน
แฟร์เวลได้รางวัลเยอะมากจนขี้เกียจบรรยาย เอาเป็นว่า ตอนที่หนังเรื่องนี้ชวดรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ กรรมการบอกผู้กำกับว่า "ก็คนอื่นเขาให้คุณไปเยอะแล้ว ให้คนอื่นบ้างแล้วกัน" ผลก็คือหนังฝรั่งเศสพูดสเปนเรื่อง Belle Epoque ได้รางวัลไป(เราดูแล้วก็งั้นๆแหละนะ)

รายละเอียดเรื่องรางวัล เช็คเอาใน imdb.com ค่ะ

สามนักแสดงที่คานส์ 1993





Create Date : 29 มกราคม 2549
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2549 14:40:08 น. 19 comments
Counter : 15773 Pageviews.

 
ไปที่นี่เพื่อฟังเพลงประกอบที่เหมือนจะถูกใจใครหลายคน(แต่ไม่ใช่เราแฮะ)
当爱已成往事 (เมื่อรักกลายเป็นอดีต)
//www.sing8.com/ting.php?id=1327


โดย: concubine วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:13:16:21 น.  

 
เป็นภาพยนตร์ในดวงใจเรื่องนุงเลยค่ะ อยากได้วีซีดี ไม่ทราบว่าที่ไหนมีขายบ้างค่ะ อยากได้จริงๆค่ะ


โดย: อพันตรี วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:15:13:28 น.  

 
เจ๊ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่หนูจะเขียนถึงเรื่องนี้ เพราะถ้าเป็นบล็อคของเลสลี่จาง แล้วไม่มีเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนขาดๆ อะไรไป

เรื่องนี้ สามารถทำให้เจ๊ชอบงิ้วได้น่ะ สุดยอดแล้ว จำได้ว่าไปดูมา 3 รอบมั้ง ที่โรงหนัง ร้องไห้สงสารเตี๋ยอีมันทุกรอบ


โดย: je zus IP: 82.171.31.71 วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:16:44:45 น.  

 
เหอเหอ เจ๊จ๋า
ขอโทษนะ วันศุกร์หนูสลบไปเลยอะ ไหว้เจ้าเหนือ่ย

คุณอพันตรี
อันนี้เราตอบไม่ได้ค่ะ(ขอโทษน้า) เพราะว่าเราสั่งซื้อเอาทางเน็ตค่ะ เวบ yesasia.com มันจะมีหลายเวอร์ชั่น แล้วแต่เลือก เราเลือกเวอร์ชั่นออกใหม่ช่วงที่เลสลี่เสีย เริ่ดมาก กล่องสวยสุดๆ มีแถมเบื้องหลังยาวประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ซับไตเติ้ลมีแต่จีนตัวเต็มกับอังกฤษ

แต่คุ้นๆเหมือนเราเคยได้ยินพี่คิวบ์บอกว่าที่เยาวราชมีขายค่ะ เป็นของจีนล่ะมั้ง อันนี้รอพี่คิวบ์มาคอนเฟิร์มอีกที


โดย: concubine วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:16:54:58 น.  

 
อ้าว เราลืมเอาความเห็นส่วนตัวมาใส่
วุ้ย เป็นไรวะ แย่จัง
จะใส่ให้ใหม่เดี๋ยวนี้ล่ะจ้า

ต้องขอขอบพระคุณ คุณเจ๊ je zus ผู้ทิ้งมรดกสูจิบัตรตอนหนังเข้าฉายไว้ให้เรา(ความจริงแกจะทิ้งน่ะ เชอะ) เลยได้ฤกษ์เอามาอัพลงบล็อก


โดย: concubine วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:17:00:17 น.  

 
หนังเรื่องนี้ดูในโรงนานมากแล้วครับ...แต่ผมชอบจริงๆ จำได้ว่า ปีนั้น Farewell My Concubine ขึ้นรับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเมืองคานส์ปี 1993 พร้อมกับ The Piano ด้วยกัน


โดย: ตี๋หล่อมีเสน่ห์ วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:23:20:29 น.  

 
ชอบประโยคนี้มากๆ "ตัวข้าคือชายชาตรี...หาใช่สตรีไม่"
ราวๆนี้อ่าดูนานมากๆแล้ว T[]T จำได้ว่าดูไปน้ำตาไหลเต็มหน้าเลย
ตอนที่เตี๋ยอี แสดงงิ้วครั้งสุดท้ายก่อนเชือดคออะ
น้ำหูน้ำตาไหลยังกะน้ำป่ามา...ร้องไห้ไปเป็นอาทิตย์ ติดตาเลย

จำได้ว่าดูเรื่องนี้สมัยยังเด็กมากๆ...ตอนนี้อยากได้แผ่นมาดูใหม่ละสิ

ปล.เกลียดพระเอกที่สุด


โดย: kisara วันที่: 30 มกราคม 2549 เวลา:2:07:36 น.  

 
อยากได้วีซีดีหรือดีวีดีลองเข้าไปตรงนี้ค่ะ

//global.yesasia.com/en/Browse/ProductGroupList.aspx/section-videos/code-c/version-all/pid-1002898446/ เป็นคอลเลคชั่นของเฉินข่ายเกอ

เวอร์ชั่นหรูเริ่ดอลังการของเราตอนนี้ในเวบบอกว่าของหมดพอดี



โดย: concubine วันที่: 30 มกราคม 2549 เวลา:7:20:52 น.  

 
ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกันครับ แต่ว่าตอนที่ดูนั่นยังเด็กมากๆ เลย ก็เลยยังไม่ค่อยซาบซึ้งมากเท่าไหร่ แล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการเมืองที่แทรกอยู่ในหนัง

สงสัยต้องกลับไปหาแผ่นมาดูอีกรอบหนึ่งแล้ว


โดย: seabreeze_psu วันที่: 30 มกราคม 2549 เวลา:8:33:10 น.  

 
ไม่ใช่เราค่ะ ที่บอกว่าที่เยาวราชมีขาย
แต่เราก็ไปที่นั่นบ่อย ไม่ยักกะเจอเรื่องนี้แฮะ
ของเราสั่งซื้อที่เว็บหนึ่งค่ะ


โดย: cube IP: 203.146.128.138 วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:8:59:12 น.  

 
อาลัยแด่เลสลี่จางค่ะ


โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:15:51:54 น.  

 
วันนี้ได้ฟังเพลงประกอบหนังคุณพี่เลสลี่บางเพลงทางเวบ leslietong มีเพลงจากเรื่องนี้ด้วย
เป็นเสียงบรรเลงจากวง City of Prague Philharmonic Orchestra ฟังแล้วไพเราะไม่เบาค่ะ
//www.leslietong.com/lovehouse/dispbbs.asp?boardid=290&id=29564

ภาพของคุณ ทูน่าค่ะ สวยเฉี่ยวมากๆค่ะ ชอบ
แปลกเนอะ ทำไมมีคนใช้ชื่อเกี่ยวกับทูน่าเยอะจัง
หรือเพราะมันฟังน่ารักหว่า


โดย: จขบ(คอนคิว) IP: 161.200.131.198 วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:21:30:27 น.  

 
คุณ seabreeze_psu (เห็นชื่อคุณแล้วอยากไปเที่ยวทะเลจัง)

เรื่องนี้ต้องดูหลายๆรอบค่ะ ถึงจะย่อยรายละเอียดได้เพิ่มขึ้น


โดย: จขบ IP: 161.200.131.100 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:54:53 น.  

 
เราก็ดูตั้งแต่ตอนเด็กๆมั้งเรื่องนี้ ซาบซึ้งนะ กลัวด้วยไม่รู้เป็นไร เลสลี่จางแสดงได้จนน่าขนลุก


โดย: โจเซฟิน วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:21:07:14 น.  

 
อ่านรวดเลยน้องเอ๊ย..
ดูครั้งแรก ตลกเสียงร้อง
พอดูครั้งที่สอง เริ่มซึม
หลายปีผ่านไป ดูครั้งที่ 3 อาเจ๊เล่นมิวสิคเลยฟะ


โดย: tempopo IP: 203.188.37.83 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:23:23:46 น.  

 
หวัดดีคุณโจเซฟินค่า

มาขำพี่เทม กิ๊กๆ อุ้ย ตัวนี้หัวเราะชั่วไปหน่อย เอาใหม่


โดย: concubine วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:56:40 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากครับ ดูวีดีโอ 2 รอบตอนเด็กๆ

ดูช่อง7 อีก

ล่าสุดซื้อ ดีวีดีมาดูแต่เป็น แผ่นเมกาไม่มีซับไทย T_T


โดย: Johan carey (Johan Carey ) วันที่: 1 เมษายน 2550 เวลา:19:49:50 น.  

 
//www.youtube.com/watch?v=iI92htHnWRA มีให้ดูทั้งเรื่อง


โดย: เจต IP: 117.47.7.192 วันที่: 25 ตุลาคม 2551 เวลา:0:34:16 น.  

 
ตอนนี้เรากำลังทำวิทยานิพนธ์ด้านวรรณกรรมจีน เรื่อง Farewell to my concubine กับสังคมเกย์ในจีน ใครมีข้อมูล ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ช่วยแนะนะด้วยนะคะ ยินดีค่ะ ส่งมาที่อีเมล์ garita2004@hotmail.com ขอบคุณค่ะ


โดย: garita2004@hotmail.com IP: 125.24.179.142 วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:4:44:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

concubine
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อกของหญิงสาว ขาว หมวย ไม่สวยแต่ดุ กินจุ ปากร้าย แต่จริงใจนะเคอะ

ขณะนี้หญิงผู้นี้เรียนจบปริญญาโทด้านการแปลและล่ามจีนไทยเรียบร้อยแล้ว และได้กลายสภาพมาเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบนดอยแห่งหนึ่ง พร้อมทำงานแปลควบคู่ไปด้วยยามว่างเว้นจากงานประจำ
Friends' blogs
[Add concubine's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.