นัดเจอหนุ่มทางเน็ทครั้งแรก แต่หนุ่มไม่ได้มาแค่ 1 แต่มาถึง 3!!!!
เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะนำให้ไปอ่านบล็อคก่อนหน้านี้ รู้จักที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัวที่จะเม้าก่อนที่
นัดหนุ่มที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเข้าไปจับกันในความมืดเป็นชั่วโมง แล้วไกด์ก็ฮามาก ได้ใจสุด ๆ
เพราะบล็อคนี้คือตอนต่อไปนะจ๊ะ อ่ะ เรามาต่อกัน หลังจากออกมาจาก dialogue in the dark แล้ว เรากะว่าจะกลับก่อนดีกว่า เพราะมากันตั้ง 3 คน ไม่รู้จะคุยอะไรดี กลัว dead air แล้วก็เขินด้วย แล้วหนุ่ม ๆ อาจจะอยากไปกินอะไรกันต่อ ฯลฯ พอดีซื้อขนมไทยแถวบ้านเจ้าอร่อยมาฝาก ก็เลยให้กันเสร็จสรรพ แล้วกะว่าจะลา เพราะร้านที่หนุ่ม ๆ จะไปกิน คือร้านเจ๊อ้อ เพชรบุรีซอย 5 ขายต้มยำล็อบสเตอร์ ซึ่งเราเป็นคนไม่กินล็อบสเตอร์ เพราะล็อบสเตอร์มีอายุยืนมากกกกกกกก เรารู้สึกว่ามันบาป หนุ่มก็งงกันใหญ่ แล้วก็แซวว่า แหม lobster…..long life
แล้วหนุ่มของเราก็บอกว่า ไปด้วยกันเถอะ ร้านนั้นมันไม่ได้มีแค่ล็อบสเตอร์หรอก เราก็ search ดู เออจริง มันมีต้มยำกุ้ง ต้มยำทะเล บะหมี่เกี๊ยวก็มี แล้วหนุ่มอิชั้นก็ขอตัวแยกไปคุยงาน เราก็เลยลังเล ๆ ไปดี ไม่ไปดี ระหว่างนี้ก็คุยเรื่องมาไหว้พระ เป็นยังไงบ้าง เรื่องปีชง ซึ่งบ้านเค้าก็มีปีชงเหมือนกันแฮะ (แน่ล่ะ คนจีนนี่หว่า เหอะ ๆ) แล้วหนุ่มก็ถามตรงกันหมดว่าเรียนภาษาอังกฤษในเมืองไทยเหรอ ทำไมภาษาอังกฤษดีจัง แฮ่ เรารู้สึกเลยว่า มี 2 หนุ่มนี่มาด้วยเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะไม่งั้นถ้ามีหนุ่มมากับเรา 2 คน แกร่วน่าดูเลย เพราะหนุ่มขอตัวไปคุยงานตลอดเลย แทบไม่ได้คุยกับเราเลย ปล่อยเราให้อยู่กับเพื่อนเค้า 2 คน แต่เพื่อนเค้า 2 คนก็ดีนะ ชวนคุยตลอด แบบว่าพอเหมือนจะมี dead air ปุ๊บ อีกคนก็ถามต่อทันที เหมือนมีเรื่องถามเรามากมาย ชวนคุยตลอดเวลา แล้วก็คุยอะไรอีกก็ไม่รู้ แต่รู้ว่านานจนแทบจะหายเขินไปเลยกว่าหนุ่มของเราจะคุยงานเสร็จแล้วกับมาจอย
ก็ลังเลอีก ไปดีมั้ยเนี่ย 2 หนุ่มที่เหลือก็บอกว่า ไปเถอะ เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะ เรายังไม่ได้คุยอะไรกันเท่าไหร่เลย ก็เลย โอเค ก็ได้วะ ไปก็ไป ผู้หญิงคนเดียวไปกับหนุ่มที่เพิ่งรู้จัก 3 คนตอนทุ่มกว่า เปรี้ยวสุดชีวิตวัย 33 ของชั้นละเนี่ย ฮา ๆ แล้วหนุ่ม ๆ ก็เรียลมากจ้ะ เสร็จกิจกรรมปุ๊บ ขอออกนอกห้างไปสูบบุหรี่กันเลยจ้ะ
ส่วนหนุ่มของอิชั้น ก็แยกตัวไปคุยโทรศัพท์เลยจ้ะ คืองานเค้าค้างคาน่ะนะ เค้าบอกเราตั้งแต่ก่อนมาแล้วล่ะ ว่ามันมีดีลนึงของเค้ามีปัญหา เค้ามากรุงเทพก็ต้องกังวลดีลอันนี้ซึ่งเค้าต้องติดต่องานไปด้วย แล้ว 2 หนุ่มที่เรายืนคุยไปด้วย ดมควันบุหรี่ไปด้วยก็พูดตรงกันเด๊ะว่าหนุ่มเรา ดีลเค้ามีปัญหา ยืนอยู่กัน 3 คนก็คุยกันไปเรื่อย ๆ หนุ่มก็ถามว่าบ้านอยู่ไหน บ้านเป็นยังไง คือแบบ เป็นพวกในวงการอสังหาเนอะ ย่อมอยากรู้ ตอนแรกพวกเค้าคิดว่าเราอยู่คอนโดกับครอบครัว ก็บอกว่าไม่ใช่ ๆ บ้านเป็นทาวเฮ้าส์หลังเล็ก ๆ 2 หนุ่มก็บอกว่า อ๋อ landed เหรอ บ้านมีเนื้อที่ปลูกต้นไม้มั้ย เอ่อ มากไปมั้ย เหอะ ๆ แล้วก็ถามต่อว่าที่ทำงานอยู่ไหน มาทำงานยังไง ใช้เวลานานมั้ย เคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ก็เล่าให้ฟังทริปล่าสุดที่เราไปกับคนแปลกหน้า ผู้หญิง 2 คนที่เจอใน pantip แล้วไปเที่ยวเชียงใหม่ กับแม่ฮ่องสอนด้วยกัน หนุ่ม 34 ก็เล่าให้ฟังว่าเคยไปเชียงใหม่มาเหมือนกัน อ.ฝาง (โห advance นะ แต่ทริปนั้นเค้ามีเพื่อนอยู่ที่นั่น ให้เพื่อนพาเที่ยว) ว่าแล้ว เท่าที่คุยกับหนุ่มสิงคโปร์มาเป็น 10-20 คน หนุ่มสิงคโปร์ ไม่เคยเที่ยวต่างประเทศคนเดียวเลยซักคน เที่ยวก็เที่ยวกับเพื่อนกันหมด ไม่มีเลยซักคนที่เคยมาเมืองไทยคนเดียวแบบไม่รู้จักใคร อันนี้ก็คงถือว่า advance สำหรับเค้าแล้วล่ะที่มาคนเดียว แต่ให้เพื่อนที่นี่พาเที่ยวน่ะนะ
คุยกัน 15-20 นาทีได้มั้ง หนุ่มเราก็เดินกลับมาบอกว่า ไปกันเถอะ แล้วเราก็เรียก taxi ไปกัน แล้วอายมากกก ขนาดเราเรียก เป็นคนไทยนะ taxi ไม่ไปจ้ะ บอกว่าตรงนั้นรถติด กว่าจะได้รถ คันที่ 3 หรือ 4 เนี่ยแหละ หนุ่ม ๆ ยังบอกเลยว่าที่ยูเป็นคนไทยนะเนี่ย ยังเรียกแล้วไม่ไปเลย ร้องเรียนได้มั้ยเนี่ย เราก็ได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ แหะ ๆ
แล้วด้วยความที่เราเคยชินกับการเรียก taxi ตอนไปกินข้าวกลางวันเนอะ คือเปิดประตูหลังถามคนขับว่าไปรึเปล่า พอคนขับบอกว่าไปปุ๊บ เราก็เข้าไปนั่งเบาะหลังด้านในเลย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ เราควรจะนั่งข้างหน้า ให้หนุ่ม 3 คนนั่งด้านหลัง ฮา ๆ ซึ่งหนุ่ม 34 ที่เข้ามานั่งติดกะเรา ก็พูดนะว่า อ้าว ทำไมยูไม่ไปนั่งข้างหน้า ยูอยู่ในกำมือชั้นละเนี่ย ดิ้นไปไหนไม่ได้ละนะ ก๊าก ๆ
แล้วหนุ่มเราดันไปนั่งข้างหน้า พอขึ้นรถ หนุ่มของเราก็ถามว่า บ้านยูอยู่ไหน ป๊าด อี 2 หนุ่มข้างหลังก็รีบบอกเลยว่า โว้ย เค้าถาม เค้าคุยหัวข้อนี้กันไปแล้ว แล้วก็แซวว่า water under the bridge ประมาณว่าสายน้ำไม่ไหลกลับ มันผ่านไปแล้ว โอ้ว ชอบประโยคนี้เลย ฮา ๆ หนุ่ม ๆ ก็ถามว่า ยูจะไปสิงคโปร์เมื่อไหร่ เดี๋ยวพวกชั้นจะเคลียร์คิวแล้วพาเที่ยว เราก็ไม่อยากบอกเนอะว่าไปเมื่อไหร่ ก็แหม จ่ายเงินค่าตั๋ว ค่าที่พักไปถึงสิงคโปร์ทั้งที ทำไมต้องไปเที่ยวกับพวกที่มีแฟนแล้วด้วยวะ ตรูก็ต้องให้พวกโสด ๆ ที่ตูคุยด้วยพาเที่ยวสิ ฮา ๆ ก็เลยบอกว่า ไม่บอกตอนนี้นะ แต่เดี๋ยวไปแล้วจะบอก คือเราไม่อยากให้สัญญาน่ะ ถ้าเค้ารู้ว่าเราไปเมื่อไหร่ แน่นอน เค้าก็ต้องเคลียร์คิวพาเราไปเที่ยวตอบแทนอยู่แล้วล่ะ เพราะพวกเค้าก็คุยกันเป็นภาษาจีนกลางกันแล้วหันมาบอกเราว่า พวกเรามีที่ ๆ จะพายูไปเลี้ยงดินเนอร์ที่สิงคโปร์แล้วนะ มาเมื่อไหร่ก็บอกได้เลย เดี๋ยวพาไปร้านนั้น อร่อยเริ่ดแน่นอน แต่เราอาจจะไม่อยากไปกับพวกมีแฟนแล้วไง ถ้าเราไปแล้วไม่ไปเจอพวกเค้า ก็เท่ากับว่าเราผิดสัญญาเนอะ
(แหม พูดเหมือนตัวเองสวยยังไงก็ไม่รู้ ฮา ๆ)
แล้วรถในกรุงเทพก็ติ๊ด ติด แล้วมันจะมีช่วงเงียบอยู่พักนึงที่ทั้ง 3 คนก้มหน้าก้มตากับมือถือตัวเอง แต่เราเป็นคนไม่ก้มกับมือถือเวลาอยู่กับคนน่ะ มันดูเสียมารยาท แต่ก็เข้าใจพวกเค้านะ มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง คงอยากจะ text คุยกับคนที่บ้านหรือเพื่อนเป็นธรรมดา แต่เราไม่ปล่อยให้ dead air มันนานหรอก เราก็จะหาเรื่องมาคุยต่อ ให้หนุ่มเงยหน้าจากจอมือถือมาคุยกะเรา ฮา ๆ
แล้วหนุ่มก็ถามว่า โอเค ไม่บอกก็ได้ว่าจะไปสิงคโปร์เมื่อไหร่ แต่ยูจองตั๋วเครื่องบินแล้วใช่มั้ย (ใช่) แล้วจองที่พักไว้รึยัง เดี๋ยวพวกเราเลือกให้มั้ย ก็บอกว่า ไม่ต้อง ๆ ชั้นจะนอนโฮสเทลเตียงรวม ชั้นไปต่างบ้านต่างเมืองคนเดียว ชั้นนอนคนเดียวไม่ได้ ชั้นกลัวผี อยากให้มีเสียงดังรบกวน ดีกว่านอนในห้องคนเดียวแบบเงียบ ๆ แล้วหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ เราก็แซวว่า อ๋อ งั้นเดี๋ยวจองห้องให้มีผู้ชาย 3 คนนอนเป็นเพื่อนมั้ย น่ากลัวกว่าผีอีกนะ ก๊าก ๆ แล้วแบบทำมือเป็นกรงเล็บจะมาขย้ำเราอ่ะ เล่นมุกแบบนี้นี่ เราสนิทกันแล้วใช่มั้ย ฮา ๆ
แล้วเราก็แอบดูเนอะว่าไอ้หนุ่ม 34 ที่นั่งข้าง ๆ เราดูอะไรหน้าจอ อ๋อ facebook นี่เอง แล้วฮีก็ขอ fb เรา แต่เราเลี่ยง ๆ ตอบว่าเราไม่ค่อยได้อัพอะไรใน fb หรอก ไม่ต้องเอาไปหรอก เอา whatsapp เราไปแล้วกัน เราเปลี่ยนรูป profile ใน whatsapp บ่อยกว่าใน fb ของเรามากอ่ะ แล้วหนุ่มถามต่อ แล้ว ig น่ะมีมั้ย เราก็บอกว่า ig ชั้น ๆ เอาไว้ช้อปปิ้ง ดูรูปสวย ๆ สร้างแรงบันดาลใจไปงั้นแหละ ไม่ได้โพสอะไรเลย ฮีก็บอกว่า ยูเนี่ย ความลับเยอะจังเนอะ fb ก็ไม่ให้ ig ก็ไม่ให้ ฮา ๆ ก็บอกว่า ชั้นจะพยายามไม่ติด social media เยอะ อย่าง fb ก็เข้าเดือนละครั้ง 2 ครั้ง (คือเข้าแล้วเห็นชีวิตคนอื่นดูดีกว่าแล้วมันอิจฉาน่ะ log in เข้าไปแล้วทุกข์ก็ไม่รู้จะ log in เข้าไปทำไม) แล้วอีกอย่าง แค่คุย whatsapp กับหนุ่มสิงคโปร์หลายคนก็หมดเวลาไปเยอะแล้ว เลยอยากโฟกัสแค่ whatsapp อย่างเดียว แหะ ๆ
แล้วรถก็ผ่านหน้า CTW ผ่านพระตรีมูรติ เราก็บอกว่าเนี่ย พระตรีฯ เนี่ย ศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะในเรื่องความรัก มีเวลาขอพรที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดด้วยนะ วันพฤหัส ตอน 3 ทุ่ม คือวันที่เราเจอหนุ่มคือวันอังคารเนอะ แล้ว 2 หนุ่ม 33 กับ 34 กลับวันพุธ แต่หนุ่ม 37 กลับวันศุกร์ หนุ่ม 37 เลยสนใจจะมาให้ได้คืนวันพฤหัส
แล้วหนุ่มก็คุยถึงเรื่องนวด ว่าเมื่อวานไปนวดมา เราก็เลยคุยเรื่องร้านนวดประจำของเราที่ดีมาก ดีที่สุดในกรุงเทพ ในราคาชั่วโมงละ 250 บาทน่ะนะ เราเคยบอกหนุ่มของเราแล้วตั้งแต่ก่อนมากรุงเทพว่าดีมาก แต่หนุ่มก็เปลี่ยนเรื่อง แต่ดูเหมือนเพื่อน 2 คนของเค้าสนใจมากเลย ต่อว่าหนุ่มเราใหญ่เลยว่าทำไมไม่รู้จักบอก เนี่ยได้คุยกับคน local จริง ๆ เค้ารู้ว่าที่ไหนถูกและดี หนุ่ม 37 ที่กลับช้าก็สนใจ เราก็เลยโทรไปจองให้ โชคดีมีคนแคนเซิลพอดีเลยได้เสียบ ไม่งั้น ต้องจองอย่างน้อยเป็นอาทิตย์ล่วงหน้านะ
และแล้ว พวกเราก็มาถึงหน้าปากซอยเพชรบุรีซอย 5 ที่เราต้องเดินเข้าไปเพราะซอยมันเล็กมาก เป็นครั้งแรกของเราเหมือนกันที่เรามาซอยนี้ ก็เดินหลง ๆ กันมา 3 หนุ่มอิชั้น ลงรถมาก็ขอจุดบุหรี่ดูดเลยจ้า เรียลมาก ณ จุดนี้ วันนี้ตูจะฉีดน้ำหอมมาทำไมวะ เจอควันบุหรี่หนุ่มเข้าไป หัวเหม็น เสื้อเหม็นบุหรี่ไปหมด ฮา ๆ
พอไปถึงร้าน หนุ่ม 3 คนก็สั่งต้มยำล็อปสเตอร์ราคา 1200 มาเลยจ้า ส่วนอิชั้น กินต้มยำทะเล มีกุ้งแม่น้ำตัวเล็ก ๆ ชามละ 50 บาท ฮา ๆ คือรู้ว่าเค้าต้องออกให้อยู่แล้ว ไม่อยากสั่งของแพง อิอิ (รูปด้านล่าง ไม่ใช่รูปเรานะ เอารูปชาวบ้านมาทั้งหมด)
พอนั่งโต๊ะได้ หนุ่มอิชั้น ที่นั่งตรงข้ามก็เอาละ เอามือถือขึ้นมา 2 เครื่อง ติดต่องาน ส่งอีเมลแล้วก็ขอโทษก่อนเลยว่าขอติดต่องานแป๊บนะ มันมีปัญหาคาราคาซัง เออ เมิงอยากทำไร ทำเถอะ ตูก็แทบไม่ได้คุยกะเมิงอยู่ละ คุยแต่กะเพื่อนเมิง 2 คนเนี่ยแหละ เหอะ ๆ
แล้วหนุ่มอิชั้นก็ถามว่า แล้วทริปปีใหม่ที่ไปเชียงใหม่กะแม่ฮ่องสอนเป็นยังไงบ้าง เพื่อนมัน 2 คนก็เอาเลยจ้า water under the bridge เค้าคุยกันไปแล้วตอนเอ็งไปคุยงานอีกนั่นแหละ ก็ฮากันไป หนุ่มเราไม่ยอมแพ้จ้ะ ถามอีกว่าแล้วทริปก่อนหน้านั้นล่ะ ที่ยูส่งรูปมาให้ดูน่ะ เราก็ อ๋อ ภูทับเบิกน่ะเหรอ แล้วเพื่อนมัน 2 คนก็คิดว่าเป็นทริปเดียวกันก็พยายามจะบลัฟอีกว่า คุยไปแล้ว อ่อ แต่ทริปนี้ยังไม่คุย คุยได้ ๆ ฮา ๆ
แล้วเราก็ถามเนอะว่าสถานการณ์ real estate ที่สิงคโปร์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง คนนึงบอกว่า good อีกคนบอกว่า bad อ้าว นี่เมิงทำด้วยกันรึเปล่าวะ หนุ่มก็อธิบายว่า ดูกันคนละ area ของใครของมัน จริง ๆ มันก็ดีหมดแหละ ขึ้นอยู่กับว่ายูมีเงินเท่าไหร่ แหม่ คุยเล่น ๆ มาซะจริงจัง ฮา ๆ
แล้วต้มยำล็อปสเตอร์ก็มา หนุ่ม ๆ ก็ถ่ายรูปความใหญ่กันใหญ่ คือมันก็จานใหญ่จริง ๆ นะ กุ้งตัวใหญ่มาก มีหอย มีแซลม่อน แล้วก็อะไรอีกก็ไม่รู้ ดูแกรนด์มาก สมราคา 1200 รึเปล่า อันนี้ไม่รู้นะ พวกมันก็ไม่รู้จะเทียบกับอะไรให้ดูแกรนด์ เลยเอากล่องบุหรี่มาเทียบ ฮา ๆ
แล้วก็มีถามว่าเราเป็นจีนอะไร ก็ตอบว่าเป็นแต้จิ๋ว เพราะหนุ่มของเรา ๆ รู้อยู่แล้วตอนแชทว่าเค้าเป็นฮกเกี้ยน ส่วนอีก 2 หนุ่มเพื่อนเค้าเป็นกวางตุ้ง แล้ว 3 หนุ่มก็พูดแต้จิ๋วใส่เรารัว ๆ ปรากฎว่า อิชั้นฟังไม่รู้เรื่องจ้า ตอบก็ไม่ได้ ฮา ๆ หน้าหมวยอย่างเดียว แต่สื่อสารจีนอะไรก็ไม่ได้เลย ก๊าก ๆ คนสิงคโปร์ก็ดีเนอะ พูดได้หลายจีนดี เค้าได้ทั้งอังกฤษ จีนกลาง จีนภาษาถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้ฮกเกี้ยนกัน เพราะจีนที่นั่นส่วนใหญ่เป็นฮกเกี้ยน แต่หนุ่มสิงคโปร์ที่เราคุยส่วนใหญ่เป็นกวางตุ้งนะ น่าชวนไปเดทที่ฮ่องกงจริง ๆ เราจะได้สบาย หนุ่มพูดกวางตุ้งได้ แต่ไม่เป็นไร เราก็มีคุยกับหนุ่มฮ่องกงด้วย แต่ไม่กี่คน เพราะหนุ่มฮ่องกงไม่ยอมคุยภาษาอังกฤษด้วย ฮา ๆ
ระหว่างกินล็อปสเตอร์ไป เราก็เพิ่งมีโอกาสได้คุยกับหนุ่มเราเนี่ยแหละ แต่จะบอกว่า ช่วงเวลานั้น เราจำไม่ได้เลยล่ะว่าเราคุยอะไรกับเค้าไปบ้าง ไม่เหมือนกับคุยกับเพื่อนเค้า 2 คน เรายังจำได้ว่าคุยอะไรไป ตลกมาก เราคงไม่ได้อินกับเค้าจริง ๆ แหละ
แล้วไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ ตรงที่ว่า หลังจากที่หนุ่ม ๆ กินล็อปสเตอร์กันเสร็จเรียบร้อย แต่เราเหลือกุ้งแม่น้ำไว้ (เพราะว่าเราไม่อยากมือเปื้อนแกะกุ้ง เลยเหลือเอาไว้ ขี้เกียจกิน) หนุ่ม 34 ที่นั่งข้าง ๆ เรามองแล้วบอกว่า ที่ยูเหลือกุ้งไว้เนี่ย เพราะไม่อยากมือเปื้อนแกะกุ้งใช่มั้ย มา เดี๋ยวไอแกะให้ แล้วก็หยิบกุ้งจากในชามเราไปแกะให้แล้วส่งคืนในชาม กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด (ในใจ) ดังไป 3 บ้าน 8 บ้าน ปลาบปลื้มที่สุด ไม่เคยมีผู้ชาย (ที่ไม่ใช่ป๊า) แกะกุ้งให้มาก่อนเลยในชีวิต โหย แก๊ ถ้าแกเลิกกะแฟน ชั้นขอจองต่อได้มั้ยอ่ะ เดี๋ยวชั้นจะพยายามชินกับกลิ่นบุหรี่ ฮา ๆ คือเพื่อนเค้าที่อายุ 34 เนี่ย ทั้งหุ่นดีสุด สูง ผอม หน้าตาดี แล้วก็ขำที่สุดใน 3 คนเลย แถมยังรู้ใจแกะกุ้งให้อี๊ก เอาใจเราไปเลยดีกว่า คือแค่ลุคนะ คนนี้ก็กินขาด แล้วความใส่ใจ คนนี้ก็กินขาด เพราะตอนเจอกันครั้งแรกนะ 3 คนก้มมองมือถือกันใช่มั้ย แต่เวลาเราพูดชวนคุยเนี่ย หนุ่มคนนี้ก็จะเป็นคนแรกที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วฟังเราคุย เวลาคุยกับทั้ง 3 คน คนนี้ก็จะสนใจฟังเราคุยมากสุด คือมันเซ้นส์ได้เวลาคุยน่ะ ว่าใครสนใจฟังเรา หรือใจลอย หรือไม่สนใจเลย แต่จริง ๆ ทั้ง 3 คนก็สนใจฟังแหละ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาทุกคนดูมือถือเนี่ย คนนี้จะหลุดจากจอมือถือได้ง่ายสุด ประมาณนั้น
หลังจากกินข้าว คุยกัน ขำจนปวดท้อง เมื่อยหน้ายันร้านปิดตอน 3 ทุ่มกว่า หนุ่ม ๆ ก็ไปส่งเราขึ้นรถไฟฟ้า จริง ๆ ถ้าเราไม่ทำงานแต่เช้า พวกเค้าจะชวนเราไปดริ๊งต่ออีก แต่คือ....ยู ชั้นถือศีล 5 แล้วศีล 5 ที่ชั้นแน่ใจว่าชั้นจะถือได้มั่นคงที่สุดคือการไม่ดื่มเนี่ยแหละ (ไอ้ข้อ 3 ก็มั่นใจนะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าหน่าที่เราแชทด้วยหลาย ๆ คนเนี่ย มันมีแฟนรึเปล่า เพราะเราก็ไม่เคยถามซักคน นอกจากว่ามันจะบอกมาเอง)
หลังจากหนุ่ม 33 กับ 34 กลับไป หนุ่มก็ส่งรูปขนมที่เราเอาไปฝากเค้ามาให้ดูว่ากินกันหมดนะ โต๊ะในโรงแรมที่กิน ยังมีทั้งขวดเหล้า ทั้งกล่องบุหรี่อยู่เลย เรียลมาก ฮา ๆ หนุ่ม 37 ยังไม่กลับ เราก็บอกทางไปนวดแถวบ้านเราให้ แล้วตอนเย็น เราก็ชวนหนุ่มมาเดินงานไทยเที่ยวไทยที่สวนลุมเพราะมันมีแค่ปีละครั้งแล้ววันนั้นเป็นวันแรกพอดี หนุ่มตื่นตาตื่นใจมาก อย่าว่าแต่คนต่างชาติเรา คนไทยอย่างเราก็ตื่นตาตื่นใจกับอาหารมากมายจากทุกภาค เราไปมัน 3 วันเลย พุธถึงศุกร์ วันละหลายรอบด้วย เพราะใกล้ออฟฟิศ ฮา ๆ ฝากท้องทั้งข้าวกลางวัน ข้าวเย็นที่นั่นเลย แถมตกดึกได้ดูโชว์อัลคาซ่า จากพัทยาด้วย หนุ่มคนนี้โชคดีมาก ได้ทั้งมานวด ได้เดินเที่ยวงาน ดูโชว์ คุ้มสุด ๆ เราก็บอกให้เค้าไปเล่าให้อีก 2 หนุ่มฟัง เค้าก็อิจฉากันใหญ่เลย หนุ่มก็สำทับใหญ่เลยว่า ถ้ายูไปสิงคโปร์เมื่อไหร่ อย่าเกรงใจที่จะบอกพวกชั้นนะ เพราะพวกชั้น ทำงานกันไม่เป็นเวลา สามารถปรับเวลาไปพายูเที่ยวได้ ตอบแทนที่ยูมาพวกชั้นเที่ยว ก็ได้แต่ยิ้มและพยักหน้า ฮา ๆ
หลังจากหนุ่ม ๆ กลับไป เราก็ยังคุยกับหนุ่มเราเหมือนเดิม แต่ 2 หนุ่มเพื่อนเค้าก็ไม่อยากคุยมาก ไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยนะ ก็หนุ่ม 34 เนี่ย อยากคุยด้วยมาก แต่ แต่เค้ามีแฟนแล้วน่ะ การที่เราคุยกับเค้า นั่นหมายความว่า เวลาที่เค้าคุยกับแฟนเค้าก็จะลดลง แล้วมันง่ายมากเลยนะที่จะทำให้คนที่มีแฟนแล้วมาชอบเนี่ย ไม่ใช่แค่เรานะ แต่ผู้หญิงคนไหนที่ให้ความสนใจกับผู้ชายที่มีแฟนแล้วน่ะ เพราะเราจะเป็นของใหม่ ของตื่นเต้นเร้าใจสำหรับเค้า เราก็ไม่อยากจะผิดศีลข้อ 3 ขอไม่เริ่มดีกว่า ไว้เค้าเลิกกันก่อน ยังไม่สายที่จะเริ่มคุยกัน ฮา ๆ
แต่ตั้งแต่กลับไปเนี่ย หนุ่มอายุ 37 ที่เราเที่ยวด้วยกันกับเค้าอีก 1 วันเนี่ย ส่งข้อความมาคุยด้วยตลอดเลย เราก็พยายามจะตอบคำ ไม่ถามอะไรต่อ แต่ฮีก็พยายามจะหาเรื่องชวนคุยตลอด ยิ่งทำให้เรารู้สึกผิด คือก็ไม่ได้คิดไปเองนะ แต่เรารู้สึกว่าเค้าชอบเรา คนที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วมาชอบเนี่ย ไม่ได้รู้สึกภูมิใจเลยนะ แต่วันที่เดินงานไทยเที่ยวไทยที่สวนลุมน่ะ เราคุยกับเค้าเยอะมากจริง ๆ เดินไปคุยไปอยู่ 3 ชม. เหมือนออกเดทจริง ๆ แต่คุยเรื่องทั่ว ๆ ไปนะ แล้วฮีเป็นคนเดียวเลยนะที่ไปทั้งแถวบ้านเรา (ไปนวด) แล้วก็ไปแถวออฟฟิศเรา (งานไทยเที่ยวไทย สวนลุม) กำลังคิดว่า เราควรจะหยุดตอบคำถามฮีไปเลยดีกว่า ยอมเสียมารยาทหน่อย ดีกว่าผิดศีลข้อ 3 เค้าอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับเราก็ได้ แต่เราขอตัดไฟแต่ต้นลมเลยดีกว่า แหม่ เหมือนสวยอีกละ ก๊าก ๆ
ส่วนหนุ่มที่เราคุย หลังจากกลับไปก็ส่งข้อความมาถามว่า เคยคิดอยากจะสร้างครอบครัวรึเปล่า มีแฟนมั้ย เอิ่ม ถามเหมือนจะจีบ แต่ไม่ได้จีบนะ เพราะเราก็ถามกลับว่า ถามทำไม มันบอกว่า ก็ยูทั้งอ่อนหวานและเฟรนลี่สนุกสนานขนาดนี้ คงเป็นสเป๊กของผู้ชายหลายคน อายุก็สมควรจะมีครอบครัวได้แล้ว เอิ่ม ถ้าไม่จีบตู ก็ไม่ต้องมาถามตูหรอก ผู้ชายไทยโสด ๆ อายุพอ ๆ กะชั้นมันหาง่ายซะที่ไหน แถมดั้งชั้นก็ไม่มี ตาก็ตี่ ใส่แว่นหนาเต๊อะเป็นยัยป้า หน้าก็บาน หนุ่มไทยไม่มองหรอก แค่ขาวก็ชนะนี่มีแต่ในโฆษณา ขาวโบ๊ะอมชมพูมา 33 ปี ไม่เห็นผู้ชายคนไหนเข้ามาจีบซ้ากกกคน ชั้นถึงต้องไปหาถึงสิงคโปร์นี่ไงล่ะ (แอบคิดอยู่ในใจ)
อย่างน้อยวันนี้ เราก็ได้เพื่อนสิงคโปร์เพิ่มมา ไม่ใช่คนเดียวนะ แต่ตั้ง 3 คน เป็นค่ำคืนที่สนุกสนานมากมาย หัวเราะจนเมื่อยแก้ม เจ็บคอไปหมดเลย การที่หนุ่มเอาเพื่อนมาก็ดีเหมือนกันนะ เพราะหนุ่มเค้าจะเฟคเราไม่ได้เลย เราจะได้เห็นนิสัยจริง ๆ ของเค้าเลย ว่าเวลาเค้าอยู่กับเพื่อนเค้าเป็นยังไง
แล้วก็เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงส่วนใหญ่ถึงชอบผู้ชายแบดบอย คือเราเป็นคนมีเพื่อนผู้ชายน้อยนะ เพราะเรียนหญิงล้วนมาตลอด ตอนมหาลัยก็มีเพื่อนผู้ชายพอสมควร แต่เพื่อนผู้ชายในชมรมก็ไม่มีใครสูบบุหรี่ ส่วนใหญ่เป็นพวกติดเกมส์มากกว่า ไม่ค่อยไปผับกินเหล้าเท่าไหร่
ผู้ชายที่ทำงานซึ่งมีน้อยมากกกก ก็แต่งงานแล้วหมด เป็นผู้ชายอบอุ่น รักครอบครัว เลิกงานกลับบ้านเลี้ยงลูก ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ผู้ชายที่เจอที่ปฏิบัติธรรมยิ่งแล้วใหญ่ เรียกได้ว่าแต่ละคน ประเสริฐเลยดีกว่า เพราะเข้าทางธรรมแล้ว ตอนแรกกะจะไปหาในนั้นนะ แต่ดูไปดูมา ผู้ชายที่มาปฏิบัติก็คือเมียลากมานั่นแหละ ถ้าโสดและรุ่นเดียวกันก็ไม่ได้ชอบผู้หญิง
พอมาเจอกลุ่มผู้ชายเรียล ๆ กินเหล้า สูบบุหรี่ แล้วประทับใจ ฮา ๆ เพราะชีวิตไม่ค่อยได้เจอผู้ชายประเภทนี้ แต่ทุกคนบอกว่า อย่าเล่นกับไฟ ศีลไม่เสมอกัน แหม ๆ ก็รู้แหละ อาจจะประทับใจชั่วคราวเท่านั้นแหละ แต่คิดถึง 3 หนุ่มไปเป็นอาทิตย์เลยนะเนี่ย มันขำดีชอบ ๆ แต่ถ้าเราไปสิงคโปร์คนเดียวอีกไม่นานนี้จริง ๆ นะ เราขอไปเจอคนหนุ่มโสดแล้วกัน ไปไม่กี่วัน ไม่รู้จะได้เจอหมดทุกคนที่คุยรึเปล่า ก็คงไม่ อาจจะคัดแค่ 2-3 คน อิอิ แหม่ เหมือนจะสวย
หนุ่มสิงคโปร์ก็ใช่ว่าจะมองผู้หญิงไทยดีนะ แอบไปอ่านเว็ปบอร์ดบ้านเค้าที่เหมือน pantip บ้านเรา เค้าดูถูกผู้หญิงไทยกะเวียดนามจะตาย ว่าคบกับหนุ่มสิงคโปร์ที่เงิน แต่โชคดีหน่อยที่เราหมวย เพราะคนที่พวกเค้าดูถูกจะเป็นผู้หญิงที่หน้าไท้ ไทยอย่างที่เรารู้กันน่ะ เออ แต่ตูจะทำให้รู้ว่า ไม่ใช่ทุกคนโว้ย อีกไม่นานเจอกัน แล้วเดี๋ยวต่อไป เอะอะ ดิชั้นก็จะไปแต่สิงคโปร์ ฮิ้วววว............
ปล. ใครยังอ่านประสบการณ์เกี่ยวกับ tinder ไม่สะใจ เชิญเสพย์ต่อด้านล่างจ้ะ เจ้ไม่ได้มาเล่น ๆ เจ้เล่นจริงจัง เก็บมาเม้าได้หลายบล็อคเลย ฮา ๆ
เม้าฝรั่งที่เจอในแอพ tinder หลังจากเพิ่งเล่นได้แค่อาทิตย์เดียว
เสียเซลฟ์กับหนุ่มใน tinder อีกละ
เรามาอ่าน tinder profile ขำ ๆ แย่ ๆ หรือสร้างสรรค์กันดีกว่า
มาอ่าน tinder profile ขำ ๆ กันต่อดีกว่า
มาอ่าน tinder profile สนุก ๆ ฝึกภาษากันต่อนะ
เม้าเรื่องที่แชทคุยกับหนุ่มสิงคโปร์
แชทคุยกับคนปลกหน้าที่เป็นผู้หญิงด้วยกันกว่า 4 ชม. เกี่ยวกับด้านมืดของเธอ
ลองให้หนุ่ม ๆ ทายหัวข้อนิทรรศการภาพถ่ายนึง มาดูซิหนุ่มแต่ละอาชีพทายกันว่าอะไรบ้าง
เม้าเรื่องต่าง ๆ ที่ได้แชทกะคนสิงคโปร์
คุยมาก็หลายเดือน ถึงเวลาเอาตัวเองบินไปเจอหนุ่มซักทีปีหน้า
นัดหนุ่มที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกเข้าไปจับกันในความมืดเป็นชั่วโมง แล้วไกด์ก็ฮามาก ได้ใจสุด ๆ
นัดเจอหนุ่มทางเน็ทครั้งแรก แต่หนุ่มไม่ได้มาแค่ 1 แต่มาถึง 3!!!!
เรื่องเศร้า ๆ เคล้าคำพูดแย่ ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่คุยด้วยจากใน tinder
แชทน่ารัก ๆ ฟิน ๆ ของหนุ่มสิงคโปร์ที่ได้คุยด้วย
Create Date : 22 มกราคม 2559 |
|
0 comments |
Last Update : 29 ตุลาคม 2565 21:40:38 น. |
Counter : 7218 Pageviews. |
|
|
|