The Ninja นินจา

นินจา The Ninja (1980) โดย Eric Van Lustbader

สนพ.เซอร์เคิล บุ๊ค แปลโดย สุวิทย์ ขาวปลอด

มัน...เป็นลัทธิอำมหิต มันไม่ต้องการศักดิ์ศรีเฉกเช่นซามูไรทั่วไป แต่มันได้ผล ไม่มีใครเลี่ยงมันพ้น เมื่อมันต้องการกำจัด...เสร็จทุกราย!

เรื่องนี้เป็นหนังสือเก่ามาก ตั้งแต่ปี 2525 แน่ะ ตอนแวะไปบู้ธของคุณสุวิทย์ ขาวปลอด ในงานสัปดาห์หนังสือปลายปีทีแล้ว ซื้อหนังสือเรื่อง Double Image ของ David Morrell คุณสุวิทย์คุยถึงเรื่องนี้ว่า เจ๋งมากในยุค 80's ส่วนของ Morrell นั้นในยุค 90's จึงไปสอยมาจากร้านหนังสือมือสอง

ปัจจุบัน

Nicholas Linnear นั้นมีอดีตที่ยากจะลืมที่ญี่ปุ่น จึงหลีกหนีมาใช้ชีวิตอยูที่อเมริกา จนกระทั่งลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง แล้วบังเอิญไปเจอกับหญิงสาวนางหนึ่งชื่อ Justine ซึ่งเป็นลูกสาวของ Raphael Tomkin เจ้าของบริษัทเงินล้าน จนตกหลุมรักกัน

ขณะเดียวกัน ก็มีการพบศพชายคนหนึ่งริมทะเล ซึ่งหมอเดียร์ฟอธ ชันสูตรพบว่าไม่ใช่เป็นการตายแบบปกติธรรมดา โดยมียาพิษอยู่ในบาดแผลรูเล็กๆที่หน้าอก ซึ่ง Nicholas ให้คำปรึกษาว่า น่าจะเป็นศาสตร์ของนินจา  ต่อมาก็พบศพชายคนที่สองโดยถูกฟันผ่าจากไหล่ขวาเฉียงลงมาถึงเหนือตะโพกซ้าย ด้วยดาบ Katana ซึ่งชายทั้งสองไม่ได้เกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย

และก็มีการข่มขวัญเชิงขู่กลายๆ โดยการโยนซากห่านสีดำเปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยเลือด เข้ามาในระหว่างที่ Nicholas กับ Justine อยู่ด้วยกันที่บ้าน

แล้วหลังจากนั้นคนรอบๆตัวซึ่งเป็นเพื่อนของ Nicholas ก็ตายลงทีละคนไม่ว่าจะเป็น Terry Tanaka อาจารย์ประจำสำนักแห่งหนึ่ง (ที่เปิดสอนทั้ง Karate,Aikido, Kenjutsu) ที่มีชายนิรนาม ใช้ชื่อว่า ไฮเดียชิ มาขอเรียนและประลองฝีมือที่สำนัก แล้ว Tanaka แพ้ หลังจากนั้นทั้ง Tanaka และภรรยาก็ถูกฆ่าตาย รวมถึงหมอ Vincent Ito ที่ช่วยหมอเดียร์ฟอธชันสูตรศพด้วย

หลังจากสับสนไปพักใหญ่ Nicholas ก็สืบจนรู้ว่า นินจาผู้นั้นมีเป้าหมายที่ Tomkin ขณะที่ตำรวจท้องที่อย่าง Lew Croaker ซึ่งตามขุดคุ้ยคดีเก่าที่ Tomkin มีเอี่ยวด้วย และได้รับมอบหมายให้ตามคดีที่นินจาลึกลับก่อไว้ กลับบอกว่า Nicholas ต่างหากที่เป็นเป้าหมายของมัน 

อดีต 

Nicholas Linnear เป็นลูกของนายทหารยศพันเอกนามว่า Dennis Linnear ซึ่งเป็นชาวยิวเชื้อสายอังกฤษ กับเชียง ชาวจีน ซึ่งทั้งสองพบรักกันในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจาก เชียง แม่ของ Nicholas ได้สูญเสียสามีชาวญี่ปุ่นไป แล้วรอนแรม เตร็ดเตร่ จนมาเจอกัน

หลังจากนั้น Dennis ได้รับหนังสือขอตัวจาก USA ให้เข้าร่วมกองบัญชาการสแคปของอเมริกัน ซึ่งเป็นกองกำลังยึดครองทางด้านทหาร ที่โตเกียว โดยมีครอบครัวของซัทซูไกกับป้าไอตามิ ที่เป็นญาติของเชียง คอยช่วยเหลือดูแล 

ช่วงหนึ่ง ซัทซูไก ผู้เป็นพี่เขยของ Dennis ถูกกองกำลังสแคปจับในข้อหาอาชญากรสงคราม ซึ่ง Dennis นั้นรู้อยู่แล้วว่า ซัทซูไก เป็นหัวหน้าสมาคมลับเกนโยชา ที่ทางอเมริกามีเป้าหมายจะบ่อนทำลายอยู่แล้ว แต่ Dennis นั้นก็เข้าช่วยเหลือตามคำขอร้องของเชียง และ Dennis ก็รู้ว่าต่อให้ ซัทซูไก ตาย สมาคมลับนั้นก็จะยังไม่สลาย แถมการช่วยเหลือครั้งนี้ยังทำให้ซัทซูไกเป็นหนี้บุญคุณต่อตัว Dennis อีกด้วย

Nicholas จึงเติบโตมาด้วยวัฒนธรรมตะวันออก ได้เรียนบูจัทซุ ศิลปะการต่อสู้ทุกอย่างของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น Aikido, Kenjutsu, Iai-jutsu

เมื่อ Nicholas ได้เรียนรู้จากสำนัก Itto Ryu ของอาจารย์แคนซัทซุ จนหมดสิ้นแล้ว และได้เคยประลองจนชนะ Saigo ลูกของป้าไอตามิ กับซัทซูไก ที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันมาก จนสร้างความเจ็บแค้นอับอายผู้คนแก่ Saigo เป็นอย่างมาก อาจารย์แคนซัทสุจึงแนะนำให้ Nicholas ค้นหาความลี้ลับอย่างวิชา Ninjutsu ซึ่งนำไปสู่การเป็นนินจา 

Nicholas เริ่มสงสัยว่า Saigo หายตัวไปจากสำนักบ่อยๆ จึงต้องการสืบว่า Saigo หายตัวไปทำอะไร ที่ไหน  เป็นช่วงเวลาเดียวกับ Yukio หลานสาวของซัทซูไก ที่ Nicholas ไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้ง 3 ปี นับแต่ที่พบกันครั้งแรก ก็ได้แวะมาที่บ้าน หลังจากนั้นก็ได้สานความสัมพันธ์ จนทำให้ Nicholas พบรักเป็นครั้งแรก โดยที่ Dennis นั้นก็ไม่ได้ไว้วางใจ Yukio มากนัก

Nicholas และ Yukio จึงสืบจนพบว่า Saigo ไปเข้าสำนักนินจาที่ชั่วร้ายที่สุดอย่าง Kuji-Kiri Ryu แต่ดูเหมือน Yukio จะรู้อยู่แล้ว แล้วก็ได้ต่อสู้กัน  แต่คราวนี้ Saigo เอาชนะได้ พร้อมข่มเหงจิตใจ Nicholas อีกทั้งยังชิงตัว Yukio ไปด้วย

ต่อมา ซัทซูไก ถูกฆ่าตายอย่างมีเงื่อนงำ หลังการตาย ป้าไอตามิและ Saigo มาที่บ้านพบกับ Dennis กับ เชียง บ่อยๆ โดยที่ Nicholas ปลีกตัวไปอยู่ที่สำนักแทน เนื่องจากไม่ต้องการเห็นหน้า Saigo หลังจากนั้น Dennis ก็เริ่มป่วย ซูบผอม จนตายลงในที่สุด และ เชียง ก็ได้ทำการคว้านท้องฆ่าตัวตาย

ในที่สุด Nicholas ก็ได้ตัดสินใจเข้าสำนักนินจาฝ่ายดี อย่าง Tenshin Shoden Katori Ryu จนได้เป็นนินจา ที่มีฮาราเก้ โสตทิพย์ สามารถดักฟังเสียงที่แวดล้อมรอบๆตัวได้

Lustbader มีกลวิธีในการเล่าเรื่องที่ดีทีเดียว โดยเล่าถึงปัจจุบัน สลับกับอดีตในแต่ละบท ทำให้เข้าใจพื้นเพของตัวเอกอย่าง Nicholas ได้ดี บรรยายฉาก Action ได้มันทีเดียว เสียอยู่อย่างเดียวตรงที่มีฉากเซ็กซ์ค่อนข้างมากจนเกินจำเป็น บางฉากนี่ถึงขั้นแหวะได้ง่ายๆ  สรุปจบของเรื่องได้เป็นอย่างดี ถ้าคนอ่านแนวนี้บ่อยๆ ก็น่าจะพอเดาได้ว่า นินจาลึกลับคนนั้นคือใคร

มีคำคมในตอนที่ Nicholas คุยกับอาจารย์ Fukashiki ผู้สอนวิชานินจาให้ ที่เป็นเพื่อนกับอาจารย์ แคนซัทซุ คุยกันถึงอดีตที่ตามมาหลอกหลอนตัวเขา แล้วอาจารย์จึงตอบกลับไปว่า

"การยอมรับกรรมะ ไม่ควรนำไปปะปนกับการเชื่อพรหมลิขิต  เราทุกคนเป็นนายแห่งโชคชะตาของตัวเอง แต่กระนั้นเราต้องเรียนรู้ที่จะก้มศีรษะต่อหน้าสิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ นี่คือความหมายอันแท้จริงของการยอมรับ และสิ่งนี้เท่านั้นที่ที่จะนำความกลมกลืนมาให้ หากปราศจากมันชีวิตก็ไม่มีค่าต่อการดำรงอยู่อย่างแท้จริง"

หรือตอนที่ Tomkin เข้าตาจน แล้วเป็นห่วง Nicholas ทั้งที่ๆไม่เคยสนใจใยดีคนรอบตัวมาก่อน เนื่องจากกลัวตาย Nicholas ตอบกลับ Tomkin ไปว่า

"ไม่ ข้างบนนี่ บนภูเขาโอลิมปัส คุณธรรมมีความหมายน้อยมาก ในเมื่อคุณเคยชินกับการมองดูผู้คนจากระยะไกลมากๆ หน้าตาคุณจะพร่ามัวเลอะเลือน ผลสุดท้ายก็แยกไม่ออกว่าไอ้ที่เห็นน่ะ คนรึมดแน่ ลงเอยด้วยไม่มีราคาพอๆกัน มดตัวเดียวจะมีความหมายต่อเส้นทางประวัติศาสตร์รึ? มันกระจอกงอกง่อยเสียจนคิดถึงก็ไม่อยากจะคิด"

ป.ล.หนังสือน่าจะเหมาะกับอายุ 18+นะ เพราะฉากเซ็กซ์นี่แหละผมเลยตัดคะแนนลงไป

คะแนน 7.9/10




Create Date : 26 พฤษภาคม 2556
Last Update : 27 พฤษภาคม 2556 12:42:18 น.
Counter : 2289 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 755059
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



New Comments
พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
26 พฤษภาคม 2556
All Blog