Group Blog
 
<<
มกราคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 มกราคม 2557
 
All Blogs
 
ตีสาม คืนสาม สามดี

ตีสามคืนสาม สามดี

หนังสยองสามรสจากค่ายไฟว์สตาร์


ไฟว์สตาร์โปรดักชัน นำเสนอ “ตีสาม คืนสาม 3D” ภาพยนตร์สยองขวัญในแบบ 3 มิติ นำแสดงโดย นก สินจัย เปล่งพานิช, เรย์ แม็คโดแนลด์, อาวอ จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร, สิ พิชญ์สินีตันวิบูลย์, ติ๊นา ศุภนาฏ จิตตลีลา,เอิร์ธ ธวัช พรรัตนประเสริฐ, เทวี ฤาชนก มีแสง, พิม หทัยชัช เอื้อกิตติโรจน์, ฟลุ๊ค พงศธร ศรีปินตา,แพ็ตตี้ เพตี้อิ โฮการิ, แม็กกี้ ศุทธสิทธิ์พจน์ฐศักดิ์และยิ้ม วรชัย  นวลศรี งานกำกับของ 3 ผู้กำกับกับ3 ตอนในหนัง ได้แก่ ทิม-กิรติ นาคอินทนนท์, ตั้ม- พุฒิพงศ์ สายศรีแก้วและ ทอม-อิสรา นาดี เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่16 มกราคมนี้ ทั่วประเทศ

ทิม-กิรติ นาคอินทนนท์ ผู้กำกับ ตีสามคืนสาม ตอน คอนแวนต์ พูดถึงงานกำกับว่า

“คอนแวนต์เป็นเรื่องของการกลับมาในคืนที่สาม คงเป็นความเชื่อของไทยๆนะครับสังคมไทยก็อยู่กับความเชื่อพวกนี้มา ก็คงเคยได้ยินกันตั้งแต่สมัยเราเด็กๆก็เหมือนที่เคยได้ยินตั้งแต่ภาคหนึ่งมา ตีหนึ่ง ตีสองตีสามก็มีความหมายต่างๆกันมาพอมาภาค2เนี่ยก็เอาเรื่องของการกลับมาของคนตายในคืนที่สาม 3วัน7วัน อย่างเนี่ยครับเข้ามาเลย ก็คิดว่าก็เป็นความเชื่อ general ของสังคมไทยทุกวันนี้ครับ คอนแวนต์เรื่องราวเกิดในคอนแวนต์เป็นจุดเริ่มต้น จุดจบของมันอยู่ที่เวลาตีสามครับ”


ใช้เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของซิสเตอร์หัวขาด

“ในตอนคอนแวนต์มีตำนานซิสเตอร์หัวขาดซึ่งจริงๆแล้วตามโรงเรียนคอนแวนต์เคยมีบางโรงเรียนที่มีเสียงเปียโนที่ดังออกมาจากโรงเรียนในตอนกลางคืนเหมือนกันเราก็เอาตรงนั้นมันดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ในเรื่องคอนแวนต์ก็เป็นเรื่องของซิสเตอร์คนหนึ่งที่เป็นนักบวชรับใช้ศาสนาอุทิศตัวอยู่ในโบสถ์ ไม่พบเจอใครไม่ออกไปไหน อุทิศตัวให้เป็นเจ้าสาวของพระเจ้าเลยแล้วก็มีเหตุการณ์เธอไปหลงรักคนที่อยู่นอกโบสถ์ พยายามเล่นเปียโนส่งความรักไปสุดท้ายก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอฉุกคิดได้ว่า สิ่งที่เธอทำมันผิดเธอก็เลยฆ่าตัวตาย แล้วก็กลายเป็นตำนานอยู่ในคอนแวนต์แห่งนี้ใครที่อยากสมหวังเรื่องความรักก็ให้มาขอกับแม่ชีอันนี้ครับ”

กำกับในตีสามภาคแรก แล้วก็มาต่อกับ ตีสามคืนสาม อีกครั้ง

“ในตีสามภาค 1นะครับผมทำตอนเรือนหอคนตายโดยรวมของภาคหนึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งในประเทศแล้วก็ต่างประเทศคือขายได้หลายๆประเทศเลยนะครับก็เลยกลายเป็นที่มาของภาคสอง ก็คือมีเสียงเรียกร้องว่าอยากดูต่ออยากเจอความสยองแบบนี้อีก ก็เอาตรงนั้นมา แล้วก็ทางสตูดิโอก็เห็นด้วยก็เลยกลายเป็นภาคสองขึ้นมาการทำหนังสามมิติก็ยังรู้สึกว่ามันก็ยังความยากอยู่เหมือนเดิมแต่ว่าเราก็ปรับตัวกับมันได้มากขึ้น”


ในครั้งนี้ใช้ประโยชน์จากความเป็นสามมิติ ได้มากขึ้น

“ความเป็น 3มิติเนี่ยจริงๆมันก็ช่วยเยอะนะครับ ช่วยในเรื่องของเวลาคนดูมันก็สัมผัสได้ใกล้ขึ้นมีทั้งมิติในเรื่องของความลึก ในเรื่องของการยื่นเข้ามาในรายละเอียดของฉากต่างๆคนดูก็จะได้สัมผัสมากขึ้นก็จะเหมือนกับว่าตัวเองได้เข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆครับ”

ความยากง่ายในการถ่ายทำครั้งนี้

“มันเป็นเรื่องของแม่ชีซิสเตอร์ที่อยู่ในโบสถ์ใช่ไหมครับอันนี้ยากตั้งแต่เริ่มต้นเลยเรื่องสถานที่ในการถ่ายทำก็โรงเรียนนี่ไม่เท่าไหร่แต่พอพูดถึงโบสถ์เนี่ยเราเองไม่พยายามไปแตะต้องว่าเรื่องราวของเราเป็นสาสนาอะไรเราก็พยายามทำกลางๆแต่ว่าเราก็อยากได้สถานที่ที่มีลักษณะเหมือนโบสถ์ทีนี้ก็ไม่มีที่ไหนให้ถ่ายก็เลยต้องสร้างขึ้นมาเองครับก็กลายเป็นว่างานโปรดักชั่นมันก็ยิ่งยากขึ้นใช้งบมากขึ้น พูดถึงภาพในโบสถ์มันก็มีหลายๆสิ่ง หลายอย่างที่อยู่ในนั้นทุกอย่างมันเป็นอะไรที่หาเช่าไม่ได้ ก็สร้างขึ้นมาใหม่หมดเลย กระทั้งเก้าอี้ที่คนมานั่งฟังสวดทุกชิ้นก็ต้องทำขึ้นมาใหม่หมดเลยมันก็ทำให้ยากขึ้นนะครับเรามีโปรดักชั่นดีไซน์เรื่องสถานที่ภายในแล้วเราก็ต้องหาโลเคชั่นที่จะไปสร้างมันนะครับ เรื่องสเปซก็สำคัญเพราะว่าการถ่าย3D มันจะอยู่ในที่แคบๆไม่ได้มากนักเพราะว่าตัวกล้องเองมันก็ทั้งใหญ่ด้วยหนักด้วยแล้วก็เคลื่อนย้ายยากเราก็พยายามหาที่ก็ไปได้สโมสรร้างที่หนึ่งแถวๆบางนาก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันเพราะว่าที่นี่ก็เหมือนกับว่าร้างมานานแล้ว เราก็ใช้แค่โครงสร้างมันแล้วเราก็ไปเซ็ตทุกอย่าง เพื่อที่จะถ่ายทำก็น่ากลัวไปหมดแหละครับก็มีอะไรกันนิดๆหน่อยๆเจอกันบ้าง”

กับนักแสดงในภาคนี้ ติ๊นา-ศุภนาฏ เทวี-ฤาชนก และ พิม-หทัยชัช

“บทของเข็มก็ต้องเป็นสาวเท่ติ๊นาก็ตรงมากนะครับ เทวีในบทเป็นแฟนใหม่ก็อยากจะให้ดุเป็นผู้ญิ๋งผู้หญิงเสียงเหมียวๆๆ เทวีเขาก็ค่อนข้างตรง คือเรื่องนี้ได้นักแสดงที่ค่อนข้างตรงกับบทหมดกระทั่งพิมเองที่เหมือนกับจะไม่เคยเล่นพวกหนังพวกอะไรมาเลยพิมก็โรคจิตใช้ได้ก็โอเคครับ จริงๆแล้วก็ยากเหมือนกันนะครับ เพราะว่าน้องเขาก็มีติ๊นา ที่เคยหนังเล่นมา อีกสองคนนี่ก็ถือว่ายังใหม่อยู่ก็ต้องเตรียมงานกันให้พร้อมก่อนที่จะออกกอง ก็มีการทำเวิร์คช็อปกัน เรียนแอคติ้งกันใหม่แล้วก็มาสร้างความเข้าใจ กดดันน้องเล็กๆด้วยว่ามันเห็นในหนังคุณก็ต้องเล่นให้ได้ตกลงกันทุกอย่างว่าให้น้องเขาเรียนรู้ละลายพฤติกรรมตัวเองแล้วก็ทำความเข้าใจตัวละคร สุดท้ายให้น้องเขาเป็นตัวละครให้ได้แล้วก็สามคนเขาตั้งใจกันหมดW

ตอนคอนแวนต์ จะออกมาในลักษณะไหน

“คอนแวนต์มันเหมือนตำนานที่อยู่ร่วมกับนักเรียนในโรงเรียนนั้นจริงๆมันเป็นเรื่องค่อนข้างยากนิดนึงเพราะว่าในคอนแวนต์หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์เรื่องความรักของผู้หญิงสามคนเป็นรักสามเศร้าทั้งแฟนเก่า แฟนใหม่มีเรื่องของการหลอกลวงมีอะไรก็คงต้องเฉลี่ยในส่วนของการเล่าในส่วนของรักกับในส่วนของผีของคอนแวนต์ก็จะเป็นเหมือนคล้ายๆหนังรักที่บรรยากาศผีรองอยู่ข้างหลังเรื่องราวความรักดำเนินไปเรื่อยๆเรื่องราวของความน่ากลัวตำนานแม่ชีค่อยๆดันขึ้นมาจนสุดท้ายเนี่ยมันก็มาพีคตรงตำนานกลายเป็นจริงมันก็จะออกแนวหลอนๆสะพรึงสะพรึงนะครับ”

ฝากถึงคนดูกับคืนสาม ตีสาม ในตอน คอนแวนต์

“ก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่องตีสาม คืนสาม 3D ไว้ด้วย จริงๆหนัง 3 มิติเนี่ยมันก็เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆเติบโตและพัฒนาไปเรื่อยๆคนไทยเราก็ทำได้คิดว่าถ้าเคยได้ดูหนัง3มิติต่างๆเนี่ยมันมีทั้งจริงทั้งปลอมของเรานี่เป็น3มิติแท้ๆถ่ายทำก็ยากทีมงานทุกคนทั้งทีมงาน นักแสดงทุกคนก็ตั้งใจกันเต็มที่ก็อยากจะฝากเรื่องนี้ให้ช่วยกันติดตามเป็นกำลังใจให้กันครับ”


ตั้ม-พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว ที่เคยเป็นหนึ่งใน โรนินทีม กับหนังเรื่องลองของ วันนี้มีโอกาสอีกครั้งมากำกับในชื่อตอน คืนสาม เขาได้ เล่าถึงงานในตอนนี้ว่า

“ตั้งแต่เด็กเราก็มักจะได้ยินเรื่องพวกนี้ว่า พอคนที่ตายไป พอถึงคืนที่สามวิญญาณเขาจะกลับมาซึ่งโดยส่วนตัวมีความเชื่อ เพราะเหมือนเราได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเคยได้ยินมาเยอะพอสมควร ก็เลยมีความรู้สึกว่า เราค่อนข้างจะเชื่อกับสิ่งนี้สำหรับคืนสาม ก็คือจะตรงตัวกับชื่อเลยก็คือมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนที่สามหลังจากการตายของตัวละครที่ชื่อว่าพี่หรั่ง คือพี่หรั่ง จะเป็นเหมือนหัวหน้ากลุ่มกลุ่มที่มีความชื่นชอบในสิ่งเดียว คือรักในการแต่งรถ รถรุ่นใหญ่หน่อย รักการขับรถใช้ความเร็ว ในเรื่องนี้เขาจะเป็นหัวหน้ากลุ่มซึ่งเบื้องหลังเขา มีอาชีพในด้านมืดคืออาชีพการส่งยามีการค้ายา แต่โดยที่ทำอาชีพอื่นก็คือพี่หรั่งเขามีร้านสักบังหน้าโดยที่เบื้องหลังเขา มีการส่งยาแต่เรื่องราวมันเกิดขึ้นในคืนที่เกิดเหตุคือมันเกิดอุบัติเหตุพี่หรั่งก็ตาย พอหลังจากเขาตายพอถึงคืนที่สามวิญญาณเขากลับเพื่อที่จะมาสะสางในสิ่งที่มันยังค้างคาใจมันก็คือเรื่องของความแค้น ทั้งในเรื่องของความรักที่ในกลุ่มมันมีเรื่องของรักสามเศร้า มีเรื่องของการหักหลังกันในกลุ่มที่สมาชิกในกลุ่มเหมือนไม่ซื่อสัตย์ต่อพี่หรั่ง ก็จะมีการกลับเพื่อที่จะมาสะสางสิ่งต่างๆที่เขาค้างคาใจอยู่ทั้งเรื่องความแค้นความรัก แล้วก็มันมีเรื่องสิ่งที่เขาจะต้องเหมือนช่วยเหลือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเป็นสมาชิกใหม่เป็นเรื่องของความน่ากลัวของเรื่องที่เกิดขึ้นคืนที่สามหลังจากการตายของเขา”

ทำไมถึงเลือกเรื่องราวนี้มาทำ

“ไอเดียแรกที่เราคิดคาแรคเตอร์ตัวละครตัวนี้ขึ้นมาเราเห็นสื่อโซเชียลอ่ะเยอะที่เราเคยเห็นกันมันจะมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่แบบว่าจะมีไอดอลเป็นของตัวเองมีต้นแบบเหมือนผู้ชายคนนึงที่ดูเท่ เจ๋งว่ะ มีคนติดตามเยอะๆมีคนคอยฟอลโลว์ คอยตาม เหมือนจะพยายามยกคนๆนี้เอามาเป็นแบบอย่างเป็นฮีโร่ที่เราอยากจะเป็น มันเลยเกิดไอเดียมาเป็นถ้าตัวพี่หรั่งที่เรากำหนดว่าเรื่องมันจะเป็น จริงๆแล้วเรื่องนี้เรามองว่ามันเป็นเรื่องของชีวิตคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในอีกมุมหนึ่งของสังคมที่อาจจะไม่ได้เป็นที่เปิดเผยตัว ซึ่งเรียกอีกด้านนึงซึ่งเราพูดตรงๆว่าเป็นด้านมืดมันก็เลยทำให้เกิดความคิดว่า ถ้าเกิดว่าเราจับคาแรคเตอร์ตัวละครตัวนี้ตัวพี่หรั่งถ้าเราสร้างให้มันเป็นเหมือนเหมือนที่เราเคยเห็นว่าวัยรุ่นยกขึ้นมาเป็นไอดอล มันก็น่าสนใจว่าเพราะอะไรเด็กวัยรุ่นจึงนิยมมาก ไปชอบ ไปนับถือ ว่าเป็นฮีโร่ของตัวเองในขณะที่เขาอาจจะทำงานในด้านมืด ทำอาชีพไม่สุจริตในมุมมองของคนภายนอกมองว่าเป็นคนไม่ดีต่อสังคม แต่ทำไมวัยรุ่นถึงไปชื่นชอบเขามาก”


เลือกให้เรย์แมคโดนัลด์ มารับบทเป็นหรั่ง

“ ตอนแรกเราหานักแสดงก่อนว่าใครที่จะเหมาะกับคาแรคเตอร์ตัวนี้ ก็มีหลายช้อยต์ที่เลือกแต่ว่าสุดท้ายแล้วเราเรามองว่าตัวละครตัวเนี้ย ต้องมีบุคลิกส่วนตัวมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมีพลังในการแสดงการถ่ายทอดอารมณ์ออกมาค่อนข้างจะมีพลังเยอะ ช้อยต์แรกก็นึกถึงพี่เรย์เลยคนแรกที่นี้มันก็ผ่านการคิด จนสุดท้ายแล้วมันก็จบที่พี่เรย์อยู่ดี เพราะว่าเรารู้สึกว่าเขาเหมาะที่สุดพอได้พี่เรย์มาเป็นพี่หรั่งมันก็เลยรู้สึกว่าค่อนข้างที่จะตรงกับสิ่งที่เราคิดเพราะว่าพี่เรย์เขาค่อนข้างจะมีพลังในตัวเองเยอะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง คาแรคเตอร์พี่หรั่งจึงออกมาค่อนข้างจะรุนแรงให้รู้สึกว่าตัวละครตัวนี้ เราอยากจะให้มันมีความขัดแย้งค่อนข้างสูงภายนอกที่คนเห็นทั่วไปเป็นคนที่รุนแรง ใช้กำลัง ใจร้อนแต่อีกด้านนึงของเขาที่เป็นอีกแบบที่ขัดแย้งกัน”

ความยากลำบากในการสร้างงานคืนสาม

“การเตรียมงานสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างยากพอสมควรเพราะว่าในตัวเรื่องตัวบทเองมันมีทั้งสิ่งที่เป็นฉากนอกจากความน่ากลัวของการที่ตัวผีพี่หรั่งกลับมาล้างแค้นทุกคนเนี้ยนอกจากความน่ากลัวซึ่งมันเป็นสิ่งที่แน่นอนหนังเรื่องนี้มันในต้องมีอันดับแรก นอกเหนือจากนั้นในส่วนของตัวเรื่องในตอนคืนสามเนี้ยมันจะมีฉากที่ต้องแบบว่านักแสดงแต่ละคนอย่างที่บอกคือเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบและรักในการขี่มอเตอร์ไซ ซึ่งมอไซเป็นมอไซรุ่นใหญ่ต้องใช้ทักษะในการขี่รถค่อนข้างสูง เพราะงั้นหนึ่งเลยนักแสดงนอกจากแสดงแล้วเขาต้องฝึกขี่มอไซให้คล่องตัว อันนี้คือสิ่งหนึ่งที่ยากที่ต้องเตรียมงานกันพอสมควรอีกเรื่องหนึ่งคือฉากแอ็คชั่นคือในเรื่องนอกจากฉากความน่ากลัวของผีแล้วเนี้ยมันยังมีฉากแอ็คชั่นที่มันจะเกิดขึ้นหลังจากที่พี่หรั่งกลับมาทวงคืนหรือมาสะสางความแค้นในคืนที่สามมันก็ต้องมีฉากแอ็คชั่นแต่ละคนที่ต้องเจอ เจอสิ่งที่พี่หรั่งตามมาล้างแค้น มันก็จะมีในเรื่องของทั้งสลิงก็ค่อนข้างจะใช้เวลาในการเตรียมค่อนข้างนานแล้วตัวละครในกลุ่มนี้นอกจากชื่นชอบเรื่องมอเตอร์ไซแล้วนี้ก็ต้องมีความชื่นชอบในเรื่องของการสักซึ่งแต่ละคนเราก็ดีไซออกมาว่ารูปแบบของการสักของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งมันจะต้องใช้เวลาในการเตรียมมันเป็นเรื่องของดีเทลที่มันเป็นรายละเอียดที่เราคิดขึ้นมาให้ตัวละครก็เลยค่อนข้างใช้เวลาเตรียมและในการถ่ายทำค่อนข้างนาน”

สามมิติในตอนนี้ คืนสาม เป็นอย่างไรบ้าง

“คือด้วยเทคนิคการถ่ายทำสามมิติเต็มรูปแบบต้องใช้คำว่าเต็มรูปแบบสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับผมเนี้ยเป็นเรื่องแรกที่เจอการถ่ายทำแบบนี้ก็คือก่อนหน้านี้เราเคยไปดูกองถ่ายไปดูขั้นตอนของมันไปบ้างแต่พอมาทำงานจริงๆเนี้ยอันดับแรกเลยก็คือต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่หมดจากที่เราถ่ายหนังปกติ วิธีการนำเสนอเรื่องราวการถ่ายหนังปกติกับการถ่ายหนังสามมิติเนี้ยต่างกันโดยสิ้นเชิงก็คือในเรื่องของมุมมองที่มันต้องต่างกัน หรือมุมภาพ การเล่าเรื่องมันจะต้องต่างกันด้วยเทคนิคที่มันเกิดขึ้น แต่มันช่วยทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจมากขึ้นมันเหมือนเปิดอีกมิตินึง เปิดมุมมองอีกมุมหนึ่งที่เราสามารถเล่นอะไรกับมันได้มากขึ้นก็คืออย่างเรื่องของจังหวะ อย่างเรื่องของความน่ากลัวในแต่ละฉากวิธีการที่สร้างความน่ากลัวให้กับตัวแสดงหรือคนดู มันมีวิธีการเพิ่มมากขึ้นมีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น แล้วก็มันดูสมจริงมากขึ้น มันเพิ่มความรู้สึกเพิ่มอารมณ์ของคนดูให้มากกว่าการดูหนังสองมิติธรรมดามันน่าสนใจขึ้นสำหรับการถ่ายหนังผีในรูปแบบสามมิติสมบูรณ์แบบครับ”

ในตอนคืนสามบทสรุปความน่ากลัวของตอนนี้คือ

“คือในตอนคืนสามความน่ากลัวของตอนนี้ก็คือมันก็จะเป็นหนังผีที่ดุดันคือในสามเรื่องนี้มันคือหนังผีสามเรื่องที่มีสไตล์แตกต่างกัน มีรูปแบบมีรสชาติที่แตกต่างกันของตอนคืนสาม มันจะเป็นเรื่องที่เน้นถึงความดุดัน ความโหด ความแรงความน่ากลัวของเรื่องราวที่ค่อนข้างจะเข้มข้นเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ชัดเจนดุดันรุนแรงแล้วก็โหดครับกว่าเรื่องอื่น เข้มข้นที่สุดอะครับ”

ฝากถึงคนดูอีกครั้งกับความน่ากลัวความสนุกสนานที่จะได้รับ

“มีคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องตีสามภาคที่แล้วแล้วก็มีคนที่เฝ้ารอที่จะได้ดูภาคต่อหรือโปรเจ็คต่อ ถามว่ากลับมาเพื่ออะไร กลับมาเพื่อทวงคืนทวงความน่ากลัวอีกครั้งนึงก็คือกลุ่มคนที่เคยติดตามในภาคที่แล้วก็จะได้เห็นในสิ่งที่มันน่ากลัวมากขึ้น เข้มข้นมากขึ้นแล้วก็เรื่องราวที่มันมีรสชาติที่ดุดันขึ้นในแต่ละตอนส่วนคนที่ยังไม่มีโอกาสได้ดูในภาคแรก ถ้าเกิดว่าได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ตีสามคืนสาม ก็จะได้รับอัตรสในการชมภาพยนตร์ในแนวผีแนวหนังสยองขวัญที่ค่อนข้างจะครบรสชาติ ก็เลยฝากให้ติดตามดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันเยอะๆนะครับ”


ทอม- อิสรา นาดี ผ่านงานสยองมาหลายเรื่อง หนึ่งในโรนินทีม กับงานเรื่อง ลองของและล่าสุด กับ ตีสามสามดี คราวนี้กลับมาสานต่ออีกครั้งกับการกำกับตีสามคืนสาม ตอน กงเต๊ก

“กงเต๊กเป็นหนึ่งใน3ตอน ในภาพยนตร์เรื่อง ตีสาม คืนlk, กงเต๊กเนี่ยมันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว ครอบครัวหนึ่งที่ทำธุรกิจกงเต๊กอยู่กับบ้านโดยมี ลูกจ้าง 2คน ลูกจ้าง 2คนเนี้ยเป็นลูกจ้างที่มีแบ็คกราวด์ของชีวิที่ต้องการปกปิดบางอย่างไว้ความสนุกของเรื่องนี้ก็คือ เราจะไม่รู้เลยว่าคนที่เราคุยอยู่ด้วยเนี่ยเป็นผีหรือคนความสนุกของเรื่องมันอยู่ตรงนี้แหละครับ”

ได้กลับมาสานต่อโปรเจ็กต์ตีสาม อีกครั้ง

“ก็รู้สึกว่าเป็นเหมือนกับโปรเจ็คต์ที่ต้องทำต่อ อ่า อย่างจากตี3 ภาคที่แล้วเนี้ยค่อนข้างจะประสบผลสำเร็จพอสมควร ก็เลยมีการเรียกร้องให้ทำภาค2 ซึ่ง จริงๆแล้วเนี้ย จะต้องมี3ผู้กำกับแต่เรื่องนี้มี2คนที่มาจากภาคที่แล้ว แล้วก็มี1คนเป็นผู้กำกับใหม่เข้ามาแทน ถามว่ารู้สึกยังไงที่กลับมาทำอีก รู้สึกดีใจและก็สนุกดี เพราะว่าเอาจริงๆตัวเรื่องที่ผมรับผิดชอบค่อนข้างชอบอยู่แล้วก็เลยไม่รู้สึกกดดันหรือยากอะไรรู้สึกสนุกกับมัยมากกว่าพอรู้สึกว่าจะได้ทำอีก รู้สึกว่าความสนุกได้กลับมาหาเราอีกครั้งเรื่องกงเต๊กเนี้ยเป็นเรื่องราวบ้านมากขึ้น บ้านๆมากขึ้น เรื่องขอคนไทยเชื้อสายจีน อย่างภาคที่แล้วในตอน โอที ผมเชื่อว่าหลายคนทำงานในออฟฟิตชีวิตคนทำงานออฟฟิตอยู่ในตึกสูงหลายคนคุ้นเคย ผมก็เลยรู้สึกว่า เอ่อทั้งสองเรื่องมันมีคล้ายกันอยู่อย่างหนึ่ง คือมันเป็นเรื่องของคนที่เรารู้สึกว่าเป็นคนใกล้ตัว สัมผัสจับต้องได้ความต่างของภาคนี้ก็คือ เป็นบ้านๆมากขึ้น เข้าใจมากขึ้นไม่ซับซ้อนเหมือนภาคที่แล้วครับ”

ความยากลำบากในการทำงานคราวนี้เป็นอย่างไรบ้าง

“คือตั้งแต่เริ่มมาเนี้ย คือเราต้องรับผิดชอบโปรเจ็คต์กงเต๊กเนี้ยก็ประชุมกับทีมงานก่อนสิ่งหนึ่งที่กังวล คือด้วยสีสันของพร็อบที่ประกบในเรื่องสีสันของกงเต๊กมันจะขัดต่อการเป็นหนังสยองขวัญ หนังผีเราเลยต้องเลือกโลเคชั่นเป็นสีที่ค่อนข้างทึบๆ เพื่อ จะได้ต่างจากพร็อบที่เราใส่พอมาตัวบ้าน เริ่มปัญหาอันดับแรกคือผมตีความว่าร้านนี้ต้องอยู่ในเขตชุมชนตลาดซึ่งพอเป็นกรุงเทพเนี้ยเราก็จะทำงานยากละแล้วด้วยบท เราต้องเผาบ้านเขาระเบิดบ้านเขาคงไม่มีใครให้หรอกครับเราก็เลยต้องใช้วิธีไปต่างจังหวัดเราก็เลยไปจบที่ บ้านโป่ง ราชบุรี ตึกแถวเก่า”


เรื่องนี้ได้นก-สินจัย มารับบท เจ๊จู

“ตอนบทร่างกงเต๊กบทเสร็จออกมาเนี้ยตอนเขียนเนี้ยก็ยังไม่ได้นึกหรอกว่าจะให้นักแสดงท่านไหนมาสวมบทบาทนี้แต่พอเสร็จแล้วมีการตรวจสอบบทจากสตูดิโอไฟว์สตาร์เรียบร้อยแล้วเราก็เลยมานั่งคุยกันว่า ตัวละครเจ๊เนี้ย เลือกใช้นักแสดงท่านไหนดี มีหลายท่านนะที่เราคิดชื่อขึ้นมาความน่าสนใจที่มาประจบที่พี่นก สินจัยเนี้ย มันมาจบลงที่ว่าเราไม่เคยเห็นพี่นกในแบบนี้มาก่อน ตัวพี่นกน่าจะเอาอยู่ แต่จริงๆแล้วเนี้ยก็กลัวว่าจะเอาบ้างอย่างในหนังไม่อยู่มันเป้นสิ่งที่แกไม่เคยทำ แต่ผมกลับรู้สึกว่าแกเป็นอย่างนั้นนะดีแล้วละ เพราะว่าเรื่องมันจะนำพาแกไป ตอนที่คุยกะแกแรกๆมันห่างกับตัวแกมาก ผมบอกเลยว่าเจ๊ในเรื่องอ่ะ เลวเกินร้อยแน่นอนเป็นผู้หญิงปากจัดคาแรคเตอร์ของเจ๊เหมือนผู้หญิงสองด้านด้านนึงเนี้ยเป็นเมียที่ดีของเฮียเป็นเมียที่แบบว่าดูแลกิจการแทนสามีได้ดูแลเอาใจใส่สามีแต่อีกด้านนึงเนี้ย ติดการพนัน งก เค็ม แล้วก็ดูถูกคน เอาเปรียบคนเนี้ยมันไกลตัวพี่นกมาก แต่พี่นกก็ทำออกมาได้อย่าง บางจังหวะผมไม่รู้จะเทคอะไรแกอะครับ”

ผ่านงาน3Dมาแล้วคราวนี้เป็นยังไงบ้าง

“เราใช้ประสบการณ์ที่ได้มาจาก2เรื่องในการแก้ปัญหาตอนทำงานเสียมากกว่าด้วยอย่าตอน 407 เราเจอปัญหาพื้นที่แคบอุปกรณ์ที่ไม่เสถียรด้วยเทคโนโลยีในตอนนั้นไม่เสถียรเท่าไหร่ พอมาตอนโอทีเราได้อุปกรณ์ที่เสถียรและก็มาเจอกับพื้นที่ที่แคบอีกเหมือนกันแต่คราวนี้เนี่ยเรามีการวางพร็อบและเซทให้มันเอื้อต่อการถ่ายทำมากขึ้นเราแบ่งโลเคชันออกเป็น บล็อก บล็อก บล็อก เพื่ออะไรอะไรอย่างเนี่ยเราพัฒนาเรื่องการวางแผนการถ่ายทำมากกว่าเพื่อให้งานมันเสร็จตามกำหนดการที่วางไว้ทีมที่ทำด้วยกันมาทั้งหมดก็เป็นทีมที่ทำมาตั้งแต่ 407 เราเจอ3D กันมาตลอดสองเรื่องฉะนั้นเราก็เลยใช้ประสบการของเราที่มีประเมินปัญหาไว้ก่อนแล้วก็เมื่อเกิดปัญหาเราจะแก้กันอย่าไรคือเหมือนเดิมครับวางแผนทำงานบนโต๊ะหนักหน่วงขึ้นมากขึ้นแล้วก็ละเอียดยิ๊บยิ่งขึ้น”

ความเป็นสามมิติช่วยทำให้หนังดูน่ากลัวมากขึ้น

“ด้วยความที่เป็นสามมิติก็ทำให้คนดูสัมผัสตัวหนังมากขึ้นบางอย่าเนี่ยเราแอบจะได้กลิ่นมันเข้ามาใกล้จนแทบจะได้กลิ่นผมก็เลยรู้สึกว่าคนดูน่าจะเพิ่มอรรถรสในการดูยิ่งขึ้น อย่างตนถ่ายบางฉากอย่างเนี่ยผมต้องถามเทคมีเชียนตลอดว่ามันยื่นมาขนาดไหน มันยื่นออกมาจากจอประมาน 4-5เมตรคนดูแถวหน้าบางซีนคนดูแถวหน้าเหมือนกับแทบจะได้กลิ่นของอะไรที่มันพุ่งออกมาจากจอเลยซึ่งอันนี้เราซีเรียสมากขึ้นว่าคนดูจะสัมผัสจับต้องได้จริงไหมอะไรอย่างเนี่ยมากขึ้นครับ”

โดยรวมของกงเต๊กออกมาในรูปแบบไหน

“ของผมผมทำหน้าที่ในตอนท้ายเหมือนปิดโปรเจ็คต์ของผมเนี่ยเป็นแนวแบบถ้าเป็นภาษาคนดูหนังที่เป็นทั่วๆไปก็ชอบพูดว่าหักมุมแต่ของผมเนี่ยจะเป็นแนวแบบคนดูต้องคุณก็ต้องคิดกับเรื่องมันไปตลอดว่าคนไหนมันคือผี คนไหนมันคือคน ฉะนั้นความน่ากลัวอยู่ตรงนี้แหละเราไม่รู้เลยว่าไอ้คนที่เราคุยๆอยู่เนี่ยตกลงมันเป็นผีหรือมันเป็นคนกันแน่อันเนี่ยคือหน้าที่ผมสำหรับตอนกงเต๊ก ผมว่ามันเป็นแนวที่โดยส่วนตัวแล้วชื่นชอบแล้วก็สนุกที่จะทำด้วยครับตอนทำเนี่ยทีมงานหลายคนจะรู้สึกว่าจะเดินมาพูดกับผมว่าพี่เราไม่เหมือนทำหนังผีกันเลยเนอะเราเหมือนทำคอมมาดี้กันยังไงไม่รู้ ผมก็ยืนยันจริงๆว่านี้มันคือหนังผีมันคือหนังผีจริงๆแต่มันเป็นหนังผีแบบหนึ่งแบบผมเนี่ยแหละ”

อีกครั้งช่วยฝากถึงคนดูให้ติดตามตีสามคืนสาม

“ถ้าท่านเคยชื่นชอบกับตีสามภาคที่แล้วนะครับอยากจะเชิญให้มาชมอีกภาคนี้อีก แน่นอนพอเป็นภาคสองปุ๊บโปรดักชั่นเราใหญ่ขึ้นมีเทคนิคในการเล่ามากขึ้น ทั้งสามเรื่องจะทำหน้าที่กันอย่างชัดเจน คนดูจะได้3รส3อารมณ์ ผมว่าคุ้มนะครับในช่วงเวลาเศรษฐกิจอย่างนี้เหมือนได้ดูหนัง3 เรื่องพร้อมๆกันก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้เพราะว่าถ้าเราไม่ช่วยกันดูหนังไทยก็ไม่มีใครช่วยเราหรอกครับนอกจากพวกเราด้วยกันเอง ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง ตีสามคืนสาม3Dด้วยครับ ขอบคุณครับ”




Create Date : 30 มกราคม 2557
Last Update : 30 มกราคม 2557 6:35:08 น. 6 comments
Counter : 3080 Pageviews.

 
ดูแล้วรู้สึก แสดงรหัส


โดย: กรรณชนัฐ ประคองธรรม IP: 182.52.32.106 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:03:18 น.  

 
ดูแล้วรู้สึก เจอกันเลย ตี3


โดย: นนทกร มุงคุณดา IP: 182.52.32.106 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:04:02 น.  

 
ดูแล้วรู้สึก กลัว


โดย: นงนุช บุญครอง IP: 118.174.31.94 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:06:50 น.  

 
รู้สึกหนุก แต่ก็น่ากลัว


โดย: ประภาพิศ แพงทรัพย์ IP: 182.52.32.106 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:09:03 น.  

 
ดูแล้วหลอนทันที


โดย: ชีวารัตน์ แสนสุข IP: 182.52.32.106 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:09:51 น.  

 
รู้สึกน่ากลัว


โดย: หทัยรัตน์ พันธุ์แสง IP: 182.52.32.92 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:15:10:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

takeoffjack
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add takeoffjack's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.