ท่องอวกาศในหนัง Gravity

Gravity หนังความยาว90 นาที หนังในแนว Sci-Fi จากทาง WarnerBro. ผลงานการกำกับของผู้กำกับชาวเม็กซิกัน Alfonso Cuarón Orozco( ผลงานก่อนหน้านี้ที่เป็นหนังในวงกว้างก็มีHarry Potter and the Prisoner ofAzkaban (2004),Children ofMen (2006) กำกับหนังทีวีซีรี่ส์เรื่องBelieveFallen Angels(1993))ใน Gravity ได้นักแสดงระดับ Sandra Bullock, George Clooney, Basher Savage เข้าฉายในไทย3 ตุลาคม 2556

เรื่องราวของ Dr.Ryan Stone(Sandra Bullock )วิศวการแพทย์( Medical Engineer)บนกระสวยอวกาศที่เป็นครั้งแรกของเธอในอวกาศกับนักบินอวกาศประสบการณ์สูง Matt Kowalsky(George Clooney)ที่ออกมาซ่อมกระสวยด้านนอกแตในระหว่างซ่อมก็ต้องเผชิญวิกฤติกับเหตุหารณ์ไม่คาดฝันจากนั้นคือการผจญภัยในอวกาศกับการเอาตัวรอดในสภาะวะไร้แรงโน้มถ่วงการพาตัวเองให้รอดพ้นจาก อุกกาบาต เศษชิ้นส่วนจากดาวเทียมที่ถูกทำลายผลจากสภาวะการระเบิดในอวกาศ อากาศในถังออกซิเจนที่กำลังหมดไปการขาดการติดต่อและความช่วยเหลือที่ไม่รู้ว่าจะมีใครช่วยได้นอกจากตัวเองแล้วที่สำคัญจะกลับโลกยังไง

สำหรับ Gravity ด้วยตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ มันทั้งน่าสนใจและน่าดึงดูดเมื่อถึงวันนี้ การทำหนังอวกาศพัฒนาไปได้แค่ไหนกับความท้าทายเมื่อเป็น ดิจิตอล 3D ที่ทั้งคมชัดและสมจริง แล้วทำไม Gravity ต้องดึงดาราระดับSandra Bullock และ George Clooney ให้มาเล่นเรื่องนี้ความแตกต่างของเรื่องนี้กับหนังที่เกี่ยวกับอวกาศก่อนหน้านี้อย่าง Apollo 13สักแค่ไหน

พูดถึง Productionต้องยอมรับว่าดูเนียน ดูสวย ภาพของโลกที่ดูสวยงามกับบรรดาดาวเทียมที่ลอยอยู่บนอวกาศเหนือโลกก็พอรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้คงไม่ได้ไปถ่ายนอกโลกจริงๆแต่ก็อัศจรรย์กับภาพที่เห็นและความคมชัดในระบบ 3D มันดูจริงมากๆมีหลายๆฉากที่น่าตื่นตาการถ่ายภาพที่ให้รู้สึกเคว้งคว้างกลับหัวกลับหางกับสภาพที่ลอยอยู่ในพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วงงานสร้างทำได้ดีให้ความรู้สึกเหมือนอยู่นอกโลก กำลังถ่ายทำในแบบ Reality กันจริงๆ

ในส่วนประเด็นของเรื่องเป็นความน่าสนใจประเด็นหนึ่งการที่คนเคยชินกับสภาพแรงโน้มถ่วงต้องไปทำงานในสภาวะไร้แรงน้อมถ่วงจะเป็นยังไงมันทั้งอึดอัดทั้งไม่เคยชินในขณะเดียวกันเราไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในไม่กี่นาทีข้างหน้าแล้วต้องมีวินัยแค่ไหนในการทำงาน ความผิดพลาดที่ไม่ควรให้เกิดในระดับ 0เท่าแรงโน้มถ่วง

การเดินไปของเรื่องก็โอเคพอรับได้กับเรื่องราวที่เดินไป ความอึดอัดการลุ้นไปกับการเอาตัวรอดในสภาวะที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้การเผชิญหน้าวิกฤติที่เรียกว่ากำลังเดินสู่ความตายในไม่กี่วินาทีข้างหน้าแต่แล้วก็โชคดีรอดพ้นไม่ได้ การอยู่รอดบนอวกาศมันก็ยากแล้วแต่การกลับโลกยิ่งยากเข้าไปใหญ่ จะกลับมายังไง ทำยังไงไม่ไหม้ไปกับชั้นบรรยากาศเสียก่อนในส่วนของอารมณ์อาจจะไม่เท่า Apollo 13 หรือ Armageddonแต่ก็ให้ความรู้สึกในอีกแบบที่น่าสนใจ ฉากที่ Sandra Bullock พบกับ George Clooneyในฝันหรือเปล่า?ก็เป็นฉากน่าตกใจและน่าทึ่งมากฉากหนึ่ง

เห็นการแสดงของ Sandra Bullock และ George Clooneyก็เข้าใจได้ว่าทำไมต้องใช้นักแสดงเหล่านี้มาทำให้หนังดูมีน้ำหนักมีความรู้สึกจริงๆ แรกๆก็คิดว่า 2 คนนี้คงเดินคู่กันไปทั้งเรื่องไม่คิดว่าจะให้ GeorgeClooney ทิ้งไปแบบนั้น แล้วปล่อยให้ Sandra Bullock โชว์เดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ทำได้ดีทั้งคู่ George Clooneyไม่เยอะแต่ก็ดูดี มีพลัง ในขณะที่ Sandra Bullock ก็ถือว่าดีกับการให้คนคอยลุ้นคอยเอาใจช่วย เธอจะทำสำเร็จไหม

เป็นหนังอวกาศที่ดูเหมือนขึ้นไปถ่ายทำบนอวกาศกันจริงๆหลายๆอย่างทำให้หนังดูเป็น Reality ตามติดชีวิต Sandra Bullock ในอวกาศจากสภาพที่เหมือนจะตายไปแล้ว แต่ในที่สุดทุกชีวิตยังมีความหวังการรอดพ้นความตายได้ ก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนเกิดใหม่ได้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่มากขึ้นเป็นหนังดีๆเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ

Gravity ถือเป็นหนังอวกาศชั้นดีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆแค่ระบบการชมก็สร้างประสบการณ์ในการชมได้มากแล้วทั้ง Real D))3D,IMAX3D 4DXหรือ ดิจิตอล3Dระบบเสียง ATMOS ไม่ว่าระบบไหนก็ถือว่าสนุกในการชม

Create Date : 03 ตุลาคม 2556		1 comments
Last Update : 3 ตุลาคม 2556 8:16:59 น.
Counter : 2121 Pageviews.
Share Tweet