สุดยอดมนุษย์เงินเดือน
เงินเดือน หมายถึงรายได้ประจำเป็นรายได้หลักของการทำงาน แต่เมื่อปี สองห้าสามห้า เงินเดือนสำหรับเด็กจบพาณิชย์ได้เทากันกันจำไม่ได้ แต่เริ่มแรกของฉัน สองพันห้า รวมค่าอาหารและค่าเดินทางสามพันกว่าๆ ได้ ค่าอาหารการกินก็สิบบาท ยี่สิบบาท ก็เลือกกินได้ ค่ารถเมลล์ก็บาทห้าสิบ รถไม่มีแอร์ ปอ.ก็เริ่มต้นหกบาท ตอนนั้นอยู่หอพักโรงเรียน ซึ่งเป็นการดีประหยัดค่าเช่าที่พัก และก็เดินทางไม่ไกล สุขุมวิท ราม แต่เงินเดือนเท่านั้ก็ชนเดือนก็ดีใจแล้ว อ้อ ที่สำคัญ มีชุดยูนิฟอร์ม ประหยัดได้มาก แต่ว่าพี่ๆ ที่ทำงานก็ไม่ค่อยแต่งตัวแข่งกัน คือเข้าทำงาน บริษัทฯ ของคนจีน ก็น่าจะมีลักษณะคล้ายๆกัน ฉันดำเนินชีวิตด้วยเงินน้อยๆ ไม่มีเครื่องเร้าใจอย่างมาก พี่ๆที่ทำงานเลิกงานก็กลับบ้าน ไม่ไปเที่ยวไหนก้นต่อ เพราะว่า ณ ตอนนั้นรถก็ติดแล้ว เดินทางกลับบ้านก็เหนื่อยแล้ว มืถือก็ไม่มีกัน อย่างมาก็ใช้เพจเจอร์ ซือใช้เฉพาะพนักงานส่งเอกสาร อันนี้แค่เป็นจุดเริ่มแรก แต่หลังจากที่ผ่านไประยะหนึ่ง ก็มีการปรับเงินเดือน ฉันก็ได้เงินเดือนแบบเท่าตัว พี่สาวก็เข้ามาจัดการกับเรื่องการใช้เงินของฉันเลย ว่าต้องทำอย่างนี้นะ อย่างนั้นนะ แนะนำให้ ก็ดีเหมือนกัน ให้ฉันซื้อทอง ก่อนเลย เริ่มที่ห้าสิบสตางค์ ราคาก็อยู่ที่ประมาณสองพันห้า แต่ว่าพิ่สาวซื้อมาด้วยเงินสดให้ก่อน แล้วเราผ่อนต่อกะพี่อีกที บังคับไปในตัวให้รู้จักเก็บเงิน ตอนนั้นไม่มีบัตรเครดิดอะไร มีแค่เอทีเอ็ม การปรับเงินเดือนก็ได้เพิ่ม มาปีละประมาณพันห้า ได้แต่ก็มีโบนัสด้วยนะ แต่ว่าไม่ได้ใช้แต่จะให้แม่หมดเลย เพราะว่าแต่ละเดือนไม่ได้ให้ทางบ้าน เราก็ใช้แต่เงินเดือน การเก็บเงินครั้งหนึ่งที่จำได้คือการเล่นแชร์โดยหุ้นกะเพื่อนเป็นหนึ่งมือ มือละสามพัน เท่ากับว่าจ่ายกะเพื่อนคนละครึ่ง (พันห้า) แต่วันที่ หนึ่งที่ต้องจ่ายเงิน กลับถอนตัว เราก็เลยรับคนเดียว เพราะในกลุ่มมีแต่ระดับผู่อาวุโส ไว้ใจได้ ทั้งหมด สิบสองมือ เท่ากับว่าต้องเจียดเงินไปจ่ายค่าแชร์ ทำให้ต้องปรับการใช้เงิน แต่ว่าทุกครั้งที่เงินขึ้นก็จะเตรียมจ่ายไว้ล่วงหน้าแล้ว การแต่งตัวสองสามปีแรกไม่ค่อยมีอะไรมากเพราะว่าเป็นชุดทำงานที่ทางบริษัทฯ แจกให้ ปีสองก็แจกผ้าให้ไปตัดเอง ปีที่สามไม่มีแล้ว ก็ จะเป็นประมาณตัดกระโปงตัวหนึ่งแล้วก็เอามาใส่กะชุดฟอร์มเดิมบ้าง ค่อยเป็นค่อยไป ส่วนมากก็จะตัดเสื้อผ้า ส่วนการแต่งหน้าก็ยังไม่รู่จักอายไลน์เนอร์ แค่ทาแป้งทาปาก ก็ไม่ได้อะไรมาก แล้วก็มีพนักงานหน้าเดิมๆ อยู่กัน และก็มีพนักงานรุ่นพี่ที่เป็นผู้ใหญ่ ที่ไม่ค่อยแต่งตัวอยู่แล้วก็ทำให้เราเกรง และไม่มีการเปรียบเทียบ น่าจะเป็นช่วงแรก ของการทำงานห้าปี แต่ว่าองค์กร มีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ทำให้เราได้พบสิ่งใหม่โดยไม่ได้ลาออกไปหางานใหม่ แต่ว่าเราจะได้รับงานใหม่ๆ มาตลอด ทำให้การทำงานที่ต้องเรียนรู้เรือย แต่ว่าตั้งแต่ทำมาสิบเก้าปี มีคิดออกเหมือนกัน ขอบคุณที่อ่านค่ะ และความเมตตาที่มีให้
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2555 |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 0:06:02 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1050 Pageviews. |
|
|
แปะไว้ก่อนนะค่ะ
ขออนุญาติไปนอนก่อนค่ะ