จากจรัล มโนเพ็ชร ถึงลูชิอาโน พาวาร็อตติ - จากล้านนา สู่อิตาลี



จรัล มโนเพ็ชร บรรเลงเพลงกับแสงเทียนกับเพื่อนชนเผ่าบนดอย



จรัล มโนเพ็ชร เป็นคนเมือง หรือชาวเหนือ ชาวล้านนา และเป็นศิลปินที่ได้รับการยกย่องมากมาย ยิ่งหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว ก็ยิ่งได้รับฉายาหลายชื่อหลายเสียง เป็นต้นว่าศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา ราชันย์แห่งดุริยศิลป์ นักรบวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น คีตกวีแห่งล้านนา
แต่กวีด้วยกันเรียกเขาว่ามหาคีตกวีล้านนา


.......ไม่ต้องพูดถึงฉายา "ราชาโฟล์คซองคำเมือง" เพราะถ้าไม่รู้จักฉายานี้ของเค้าต้องนับว่า “เชยแหลก” เนื่องจากใครๆก็ยกตำแหน่งนี้ให้แล้ว ตั้งแต่ตัวศิลปินยังมีชีวิตอยู่

ส่วนลูชิอาโน พาวาร็อตติ ที่หน้าตาของเขาโผล่ไปทั่วโลก มากกว่าจรัลมโนเพ็ชร ศิลปินไทยหลายร้อยเท่า เป็นชาวอิแทเลียน ตัวอ้วนใหญ่ มีพลังเสียงมหาศาล และนับเป็นศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษนี้คนหนึ่ง เขาคนนี้ก็มีฉายาเช่นกัน เป็นหนึ่งของราชาแห่งเสียงเทเนอร์

..... ซึ่ง King of the Three Tenors ที่ว่านี่มีๆ อยู่ทั้งหมดสามคน รวมเรียกว่า The Three Tenors
พาวาร็อตติเป็นหนึ่งในนั้น อีกสองคนที่กินกันไม่ลงก็คือ พลาสิโด โดมิงโก และโฮเซ คาร์เรร่าส์
เหมือนๆ Big Three B ที่ถูกจารึกไว้บนโลกนี้ว่าคือศิลปินหรือคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่สามท่าน คือ บาค บรามส์ และ เบโธเฟน ผู้ฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด



เครื่องหมายการค้าของจรัล มโนเพ็ชร คือกีตาร์ ฮาร์โมนิกา เสื้อหม้อห้อม และเสียงเพลงคำเมือง
แต่พาวาร็อตติ ย่อมไม่ร้องเพลงคำเมืองแน่ ดังนั้นเครื่องหมายการค้าของเค้าก็คือเสียงร้อง “ high C” นั่นเอง
และพาวาร็อตติ ก็มักปรากฏตัวบนเวทีในเสื้อ ที่ไม่ใช่หม้อห้อม แต่ทว่าเป็นสูท หรือทักสิโด


C ก็คือเสียง โด ...ตัวโน้ตตัวแรกของโลกดนตรีนั่นเอง
พูดง่ายๆ เรื่องคลื่นความถี่ของเสียง ในการร้องเพลง ถ้าเป็นเสียง middle C จะมีความถี่ 261.626 เฮิร์ซ แต่ถ้าเป็น high C จะมีความถี่อยู่ที่ 523.251 เฮิร์ซ และพาวาร็อตติ ก็ลือชื่อโด่งดังตรงเสียง high C ของเค้านี่แหละ


แต่พาวาร็อตติก็ไม่ใช่คีตกวี ไม่เคยแต่งเพลงเองเลย และก็ไม่ใช่นักรบวัฒนธรรมท้องถิ่น เขาเป็น King of the Tenor และอีกฉายาหนึ่งที่แสนจะน่ารัก คือ King of the cancellation
Cancel ที่ใครๆก็เข้าใจว่าคำฝรั่งอังกฤษคำนี้หมายถึงการยกเลิกนั่นเอง
พาวาร็อตติได้ตำแหน่ง ราชาแห่งการบอกยกเลิก นี้มา จากการที่เขาชอบบอกยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตอยู่บ่อยๆนั่นเอง มันบ่อยเสียจนคนจัดงานเบื่อ เลยประชดประชันโดยขอขนานนามนี้ ให้เค้าไปเลย
วันนี้พูดถึงทั้งสอง เพราะต่างก็เป็นศิลปินผู้ล่วงลับ และอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันคือหมู่บ้านของเดือนกันยายน



ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองจากโลกอันสับสนวุ่นวาย โลกที่เต็มไปด้วยฝูงชนบ้าคลั่ง และความสับปลับปลิ้นปล้อนนี้ไปในเดือนเดียวกัน
จรัลจากไปก่อนพาวาร็อตติถึง ๖ ปี
ศิลปินไทยผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของศตวรรษนี้ จากโลกเมื่อวันที่ ๓ กันยา ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ แต่พาวาร็อตติ เพิ่งจากไปเมื่อปีที่แล้ว ตรงกับวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๐
จรัลเสียชีวิตตอนอายุยังไม่เต็มห้าสิบเลย แต่พาวาร็อตติล่วงเลยเจ็ดสิบปีไปแล้ว ไม่จัดว่าอยู่ในกลุ่ม Die Young แต่จรัลนั้น Die Young จริงๆ
บ้านเกิดของพาวาร็อตติอยู่ที่เมือง Modena ประเทศอิตาลี บ้านเกิดของจรัลอยู่ที่ Chiangmai ประเทศไทย ทั้งสองเมืองมีธรรมชาติงดงามเหมือนๆกัน




ส่วนสถานที่ๆศิลปินผู้ล่วงลับหมดสิ้นลมหายใจนั้น ฝ่ายศิลปินชาวอิแทเลียน พาวาร็อตติ ตายที่เมืองอันเป็นบ้านเกิด คือ Modena แต่จรัล ศิลปินชาวล้านนาไปตายที่อื่น คือเมืองลำพูน ไม่ใช่เชียงใหม่ที่เป็นบ้านเกิด

มีทั้งความเหมือนความคล้าย และความแตกต่าง

......ทั้งสองศิลปินหมดลมหายใจอยู่ที่บ้านพักของตนเอง ซึ่งนับเป็นเรื่องดีสำหรับคนส่วนใหญ่ ที่มักอยากหมดลมหายใจที่บ้านของพวกเขากันแทบทั้งนั้น ไม่ค่อยมีใครอยากตายที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของตน


......พาวาร็อตติหมดลมหายใจท่ามกลางครอบครัว ทั้งภรรยา ญาติพี่น้องและลูกสาว แต่จรัล มโนเพ็ชร หมดลมหายใจอยู่กับคู่ชีวิตของเขาเพียงคนเดียว เพราะบ้านดวงดอกไม้ของเขาไม่มีใครอื่นอีก นอกจากเขาและเธอ

"เขาและเธอในเดือนกันยายน" จึงเป็นฉากสั้นๆ เงียบๆ ที่สงบยิ่ง สำหรับการส่งศิลปินล้านนาสู่สวรรค์ชั้นฟ้า
ศิลปินทั้งสองย่อมมีผู้จัดการส่วนตัวเหมือนๆกัน
และวันที่ทั้งสองเสียชีวิต ผู้จัดการส่วนตัวไม่ได้อยู่ที่นั่น ทั้งพาวาร็อตติ และจรัล มโนเพ็ชร ไม่ได้มีผู้จัดการส่วนตัวอยู่เคียงข้างในนาทีสุดท้าย
เพราะบ้านใครก็บ้านมัน การขึ้นสวรรค์ของศิลปินคงไม่ต้องการผู้จัดการส่วนตัวมาจัดให้



หินทิเบตก้อนสุดท้าย ขอรำลึกนึกถึงศิลปินผู้ล่วงลับทั้งสอง ด้วยบทเพลง ที่เนื้อหาบ่งบอกถึงความในใจของผู้ชายซึ่งได้กลายเป็นนักร้อง และต้องมีอาชีพนี้ติดตัวไปจนตายยย....

แด่จรัล มโนเพ็ชร และลูชิอาโน พาวาร็อตติ ทั้งสอง - ผู้บินหนีไปแล้วจากหุบเขาแห่งการปวดเศียรเวียนเกล้า หุบเขาที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย และมารยาสาไถยของผู้คน

......บัดนี้ทั้งสองกำลังร้องเพลงอยู่ท่ามกลางแสงดาวระยิบระยับอย่างเป็นสุขยิ่ง

+ คลิกฟังเพลงข้างล่างค่ะ<

Volare....Pavarotti


Volare


Sometimes the world is a valley of heartaches and tears
And in the hustle and bustle, no sunshine appears
But you and I have our love always there to remind us
There is a way we can leave all the shadows behind us
Volare, oh, oh! Cantare, oh, oh, oh, oh!
Let's fly way up to the clouds, away from the maddening crowds
We can sing in the glow of a star that I know of
Where lovers enjoy peace of mind
Let us leave the confusion and all disillusion behind
Just like birds of a feather a rainbow together we'll find
Volare, oh, oh! Cantare, oh, oh, oh, oh!
No wonder my happy heart sings
Your love has given me wings
Your love has given me wings









Create Date : 23 สิงหาคม 2551
Last Update : 25 กันยายน 2551 23:40:25 น.
Counter : 2303 Pageviews.

5 comments
  
มาอ่าน
มาร่วมรำลึกถึงอ้ายจรัลเจ้า ^^
โดย: แม่ไก่ วันที่: 24 กันยายน 2551 เวลา:12:58:48 น.
  
เขาไปสบายแล้วล่ะ ก็ยังคงอยู่แต่เราๆท่านๆนี่ล่ะ
ที่ยังคงต้องต่อสู้อยู่บนโลกบูดเบี้ยวใบนี้

..ชอบจรัล มโนเพชร..มากเหมืนกันค่ะ
ชอบทั้งเพลงและตัวตนของเขา...
โดย: ผู้หญิงที่มาจากโลกสีคราม (girl from sea ) วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:18:10:38 น.
  
คิดถึงครูจรัลครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:8:23:53 น.
  
ชอบเพลงของคุณจรัลมากคับ ฟังแล้วคิดถึงคนที่รัก
โดย: ท้อป ลำพูน IP: 182.52.137.21 วันที่: 8 ธันวาคม 2553 เวลา:13:24:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

last_tibetstone
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เหนือกว่ารัก เงินตรา หรือชื่อเสียง... มอบความจริงใจให้แก่กันจะดีกว่า...
สิงหาคม 2551

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31