Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
11 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

บันเทิงเริงใจ#89 หนุ่มฟิสิกส์มือโปร/พระเอกสายลับ/สำนวนจีนดีๆ/เจฮอลลีวู้ด/อาซาduet/ถึงคิวนางเอก3รุ่น


























คำว่าศักดิ์ศรีนั้น คนเราบางคนก็รักษายิ่งกว่าชีวิต แต่บางคนก็ไม่ โลกเราโดยเฉพาะในยุควัตถุนิยมนี้ จะมีคนที่รักศักดิ์ศรียิ่งชีวิตนั้นน้อยลงทุกที เพราะมักจะมีคนพูดบ่อย ๆ ว่า ศักดิ์ศรีกินไม่ได้ ทุกวันนี้ยังไม่มีจะกิน ซึ่งไม่รู้ว่าไม่มีจะกินจริง ๆ หรือกินกันไม่รู้จักพอก็ไม่ทราบ คนจีนก็เป็นคนที่รักศักดิ์ศรีกันพอสมควร จึงมีสุภาษิตเกี่ยวกับศักดิ์ศรีอยู่ในภาษาจีนด้วยเหมือนกันคือ “ยอมเป็นเศษหยกดีกว่าเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ (นิ่ง เหวย อวี้ ซุ่ย ปู้ เหวย หว่า เฉวียน) คือยอมตายเหมือนหยกที่แตกละเอียดเป็นเศษ ดีกว่ามีชีวิตอยู่แบบไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีราคาเหมือนกระเบื้องที่สมบูรณ์ ซึ่งสำนวนนี้ก็มีที่ไปที่มาดังเรื่องราว ต่อไปนี้


ในปี ค.ศ.550 สมัยราชวงศ์เว่ยตะวันออก เซี่ยวจิ้งฮ่องเต้ถูกบังคับให้สละราชบัลลังก์ให้แก่เสนาบดีผู้ทรงอำนาจนามเกาหยาง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนจากราชวงศ์เว่ยตะวันออกไปสู่ราชวงศ์ฉีเหนือ เกาหยางเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต หลายปีที่ผ่านมาได้วางยาพิษเซี่ยวจิ้งฮ่องเต้และโอรสทั้ง 3 จนตาย อยู่มาวันหนึ่งได้เกิดปรากฎการณ์สุริยคราส เขากังวลมากว่าจะเป็นลางไม่ดี อาจไม่รักษาราชบัลลังก์ไว้ได้ จึงเรียกคนสนิทมาถามว่า สมัยฮ่านตะวันตกนั้น หวังหมั่งได้ยึดอำนาจการปกครองจากตระกูลหลิว แล้วเพราะเหตุใดในภายหลัง หลิวซิ่วจึงได้มายึดอำนาจการปกครองกลับคืนมาได้ คนสนิทก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด จึงตอบแบบส่ง ๆ ไปว่า “เรื่องนี้ต้องโทษฝ่ายหวังหมั่งเอง เพราะว่าเขาไม่ได้ฆ่าคนในตระกูลหลิวจนหมด จึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้” เกาหยางเชื่อสนิทใจ จึงสั่งให้ประหารราชนิกุลของราชวงศ์เว่ยตะวันออกทั้งหมด 700 กว่าคนจนหมด แม้แต่ลูกเล็กเด็กแดงก็ไม่เว้น เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป พวกที่เป็นเชื้อสายห่าง ๆ ของราชนิกุลราชวงศ์เว่ยตะวันออกก็เกิดอาการกลัวตายขึ้นมา จึงรวมตัวกันปรึกษาหาทางออก หยวนจิ่งอันเสนอความคิดว่า วิธีเดียวที่จะปกป้องชีวิตไว้ได้คือ ขอให้เกาหยางอนุญาตให้พวกเราเปลี่ยนแซ่จากแซ่หยวนมาถือแซ่เกาแทน แต่หยวนจิ่งเฮ่าคัดค้านความคิดนี้ เขากล่าวว่า “จะให้เปลี่ยนแซ่ของตัวเอง แล้วไปใช้แซ่ของคนอื่นเพื่อรักษาชีวิตตนเองไว้ได้อย่างไร ลูกผู้ชายยอมที่จะเป็นหยกที่ถูกทุบจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ยังดีกว่ายอมเป็นเครื่องกระเบื้องที่ยังสมบูรณ์อยู่ ข้าพเจ้ายอมสิ้นชีพเพื่อรักษาศักดิ์ศรีไว้ แต่ไม่ยอมอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีให้คนอื่นเขาดูถูกเหยียดหยามเด็ดขาด”
Credit: คอลัมน์สนุกกับสำนวนจีนโดย ฮวงหนั่งเกี้ย (all magazine ฉบับเดือน มี.ค.52)















รายงานความถี่ในการถ่ายทำด้วยการยกมาทั้งเล่ม (มีอยู่ 3 หน้า) “Shall We State the Case” ก๊วนไขคดีฆาตกรรมอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนประกอบด้วยหนุ่มหล่อและสาวสวย หลินฟง, หม่ากั๋วหมิง และหยังอี้ สามัคคีกันเดินหน้าสืบหาฆาตรกรด้วยหลักการแห่งฟิสิกส์ แค่มีแม่เหล็กเป็นพระเอกหล่อ ๆ สองคนร่วมเล่นเรื่องนี้ แฟนสาว ๆ ก็ตั้งตาคอยชมกันเหงือกแห้งแระ






คุณชายฟิสิกส์ศาสตร์ที่รับบทโดย หนุ่มหลินฟง (Raymond Lam) ชื่อ Kingsley King (King Bok) หนุ่มหล่อนักฟิสิกส์มือหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 21 (คุณแฟนขวับโปรดสังกาให้ดีว่า นี่หมอใจเพชรกลับชาติมาเป็นกาลิเรย์โอทำนองนั้นล่ะป่าว) เรื่องช่วยตำรวจสืบหาฆาตกรขอให้จัดมา แต่ในเรื่องความรักน่ะหรือ ? ไม่สามารถเลยคร่า...... วัน ๆ มีแต่หลักสูตรฟิสิกส์ ถ้าหลักสูตรความรักคงต้องเร่งรัดกันเหนื่อยหอบแฮ่ก (ความจริงบทเลิฟก็ไม่ยาก แต่ต้องเตรียมฟิตก่อนเข้าฉากมากกว่าใครเพื่อน เพราะต้องท่องจำหลักทฤษฎีฟิสิกส์ คำนวณถอดรูทถอนรากยกกำลังแทนค่า แค่คิดหัวหมุนติ้วเลยฮ่ะ)







นางเอกของเรย์ฟงก็เป็นเพื่อนซี้อย่างหยังอี้ (Tavia Yeung) เข้าฉากด้วยกันไร้ปัญหาข่าวฉาว เพราะทาเวียเธอว้อนท์อยากเป็นข่าวกับพระเอกหม่ากั๋วหมิงมากกว่า (ถึงเพื่อนฟงจะหล่อยังไง เพื่อนทาก็มีวันเบื่อบ้างล่ะนะ) ขนาดในเรื่องพระเอกหม่าหมิงมีสาวรุมตอมเพียบ ตัวฉันเป็นลูกน้องแสนสวยอยู่ข้างกายเค้าแท้ ๆ ยังไม่มีเอี่ยวจะได้แฟนเป็นตำรวจเลยล่ะ กลับได้อีตาฟิสิกส์มาแทน (แถมโปสเตอร์โปรมดความรักอย่างเป็นทางการระหว่างหนุ่มฟิสิกส์และสาวซีไอดี)










สาวหยังอี้ก็ได้สานฝันของคุณแม่ให้เป็นจริง เพราะแม่เคยฝันอยากให้ลูกสาวเป็นตำรวจ ตอนนี้หนูก็เป็นตำรวจ (ในละคร) ให้แม่ก็ยังดีใช่มั้ยคะ (เพื่อนฟงอยากจับปืน แต่โดนไล่ไปท่องสูตรคำนวณแทนซะอีก) และข่าวขี้มี่ ๆ ที่หลุดออกมาเรื่องสาว Mandy ไปป่วนคุณเรย์ฟงที่ face book คุณเรย์ฟงก็บอกว่าไม่เคยมี face book ไม่สนจายใครจะติชมว่าหล่อในทางลบขนาดไหน แต่เพื่อนทาก็ยังให้ฟงเต็มสิบวันยังค่ำ แถมด้วยการเฟิร์มจากสาวลินดาบอกว่า พี่ฟงฉลาดมั่ก (คนที่ว่าฉลาดน้อยรึเปล่าคะ) ดูจากที่ถ่ายทำวันนี้จะให้เต็มสิบยังไง้ สาวทาเวียยืนเข้าฉากร้องไห้ขี้มูกโป่ง ......นายหล่อเนี้ยบกับยัยกะโปโลเกิดเรื่องซะแร้ว







นายหล่อเนี้ยบกับยัยกะโปโลจะมารักกันได้อย่างไร ก็ต้องมีกามเทพสื่อร๊าก..... กามเทพก็อยู่ใกล้ตัวนางเอกนั่นเอง เป็นพี่ชายของสาวทาในละคร รับบทโดย Jazz Lam (นักดนตรีมาเอง.....อ้าวไม่ใช่ ) คาแรกเตอร์ค่อนข้างจะสนุกสนานเฮฮา ทำงานที่ร้านขายผลไม้ เป็นพ่อสื่อพ่อชัก นำพาให้นายหล่อเนี้ยบกับยัยกะโปโลมาออกเดทกัน








ฝ่ายพระเอกหม่ากั๋วหมิง (Kenneth Ma) เป็นที่โจษขานบานปลายกับการรับบทตำรวจหนุ่มนักรักเพลย์บอย 008 ชื่อ Lo Tin Hang ที่มีสาวสวยห้อมล้อม (แทบสำลักกันละค่ะ) นอกจากสวยเบอร์หนึ่งอย่างสาวเลี่ยวปิเอ๋อ ยังมีสาวนางแบบ Lisa S. มาเสริมทัพอีกด้วย ทำเอาหนุ่ม ๆ ตาร้อนอยากจะเป็นตำรวจสับรางรถไฟอย่างนายหม่าหมิงกันเป็นเทือก บทตำรวจไม่มีปัญหา แต่บทจ๊วบ ๆ กับสาวเลี่ยวปิเอ๋อ ผมเตรียมพร้อมรบตลอดเวลา พกมาด้วยทุกวันคือแปรงสีฟันกับหมากฝรั่ง ช่วยเรียกความมาดมั่นในการเข้าฉาก kiss ผมจะบอกว่าละครเรื่องนี้มีฉากสุดสวาทอินเลิฟมากสุด ๆ ในรอบหลายปีที่ผมอยู่ในวงการบันเทิงมาก็ว่าได้ครับ kiss กันตั้งแต่ประตูทางเข้าไปยันบนเตียง โอ้ว ๆ (ไม่แปลกครับ ที่จะมีพระเอกฟิสิกส์มาแอบอิจฉาผม) ส่วนใหญ่ผมก็เข้าฉากกับ Bernice มีอยู่ฉากนึงที่เธอต้องเผยแผ่นหลังสุดเซ็กกาซี่ ทำเอาตากล้องมือไม้สั่นไปเลย (แล้วหนุ่มหม่าหมิงไม่เห็นบอกเลยว่าที่เข้าฉากเลิฟด้วยกันถี่ยิบ ผมก็สั่นสู้นะว้อย..ย) เห็นสาวเลี่ยวทำท่าตอนให้สัมภาษณ์นักข่าวแล้วฮาล่ะ จูบกันเสียเกลือแร่มากคร่า แบบจมูกบดบี้ ดั้งแทบหัก






คุณชายฟิสิกส์ศาสตร์หนีมาตัดริบบิ้นที่ร้านกาแฟญี่ปุ่น Okada (เพิ่งจะรู้เนี่ยว่าชุดหนุ่มฟิสิกส์สามารถใช้เสิร์ฟกาแฟได้ด้วย แยกกันไม่ออก) มีคลิปประกอบการรายงาน ให้ฟังเสียงอันหล่อเหลาเข้ากับใบหน้า ฟังไม่ออกก็ตัวใครตัวมัน คุณชายฟิสิกส์ศาสตร์มีทิ้งท้ายถึงพระเอกหม่ากั๋วหมิง (โดนแทะไม่รู้เนื้อรู้ตัว) เกี่ยวกับคาแรกเตอร์ของหม่าหมิงในละคร “Shall We State the Case” เค้าเป็นหนุ่มเพลย์บอยมีแฟนแยะ........มีมากกว่าของผมรวมกัน 10 ปีซะอีกแน่ะ เหล่าดาราชายและผู้กำกับต่างก็อิจฉานายหม่าหมิงกันหมด เพราะเค้ามีคู่เลิฟไม่ซ้ำหน้าเลยครับท่านในแต่ละฉาก (อะเยี้ยกส์ รู้สึกเลือดซิบโดยไม่รู้สาเหตุ)




















ข่าวคืบไปข้างหน้ากับโปรเจ็คถึงคราวโกอินเตอร์ของหนุ่มตี๋หล่อแห่งไต้หวันนาย Jay Chou โจวเจี๋ยหลุน ลีลาขั้นเทพเข้าตากรรมการระดับฮอลลีวู้ด จึงต้องบินลัดฟ้าไปเมริกาเพื่อเข้ากล้องหนังฝาหรั่ง “The Green Hornet” (เวอร์ชั่นภาพยนตร์) ถึงแม้ผลงานครั้งแรกจะไม่ได้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ (กลัวพระเอกฮอลลีวู้ดตกงานกันหมด) แต่หนุ่ม Jay ก็รับบทเคียงข้างพระเอก เพราะเหมือนเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญกังฟูบู๊ล้างผลาญ ชื่อว่า “Kato” และนางเอ๊กก็คือ Cameron Diaz ที่รับบทเป็นคุณเลียขานุการ












แหล่งข่าวอินไซด์มา ฉานก็อินไซด์ไปที่หนุ่ม Jay เปิดตัวแฟนสาววงการฮอลลีวู้ด นาย Jay เข้าฉากถ่ายทำกับ Cameron Diaz (ดูไม่กะโหลกะลานะยะ แต่งสูทเท่ห์ลากดินมาเชี๊ยะ) ข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5th Sept หนุ่ม Jay และดาราสาว Cam เดินเคียงคู่กันอยู่ในกองถ่าย (ถ่ายทำตอนที่ชื่อว่า รักนี้ไม่มีพรมแดนระหว่างไต้หวันและอเมริกา) แต่ในระหว่างที่ดาราสาว Cam เดินเฉิบ ๆ ในเดรสสีฟ้าอันมาดมั่นของหล่อนอยู่นั้น สาว Cam เกิดอาการวูบที่เท้า เกือบพลัดตกขอบ งานนี้ล่ะค่ะ เป็นการงานกุศลของหนุ่ม Jay เพื่อเป็นฮีโร่ (ตัวจริง) ช่วยประคองดาราสาว Cam ให้รอดพ้นจากการล้มคะมำ เพราะเดี๋ยวเกิดล้มคว่ำไม่ฟื้น จะต้องเสียเวลาเปลี่ยนตัวนางเอกกันอีก ปล.มีเสียงติติงมาว่า นาย Jay ไปเล่นฮอลลีวู้ดได้ไง เค้าพูดอังกฤษได้รึ ? ไม่ได้ก็ต้องได้กันล่ะคราวนี้ ใครจะเก่งมาแต่เกิด ธรรมชาติของคนเอเชียก็รู้กันอยู่แล้น แต่จะมีซักกี่คนที่จะมีโอกาสและโชคอำนวยเหมือนนาย Jay ......อย่าเพิ่งดูแคลนกันให้มากย่ะหล่อน เค้าวางกำหนดฉายทั่วโลกาเดือน July ปีหน้า






















ดวงชะตาของอาซาช่วงนี้ ไม่ต้องบอกว่ามีผู้ชายหลายรุ่นมารุมตอมกันขนาดไหน ผละจากอ้อมกอดหนุ่มบอสโก้ (หวังจงเจ๊อะ) ก็มาโชว์เปรี้ยวกับพระเอกรุ่นพ่อ เหอ ๆ รุ่นพี่ (Chilam) จางจื่อหลินในงาน “EPS Forever Green 25X Metro Concert” วีคนี้โชว์เปรี้ยวซีทรูลูกไม้สีดำในแบบฉบับสาวจอแบน แต่ท่อนล่างนี่โอ้ ! Buddha ไฉนใยจึงรู้สึกลายตาชอบกล (แฟชั่นขาเดฟลายตุ๊กแก) และพระเอกชิแลมก็ชมว่าชุดอาซาก็ดูดึงดูดสายตาดีนะ สร้างจินตนาการให้ผู้คนได้ฉุกคิดกันบ้าง (แล้วทำไม๊พี่ชิแลมถึงได้ใส่กุงเกงงั้น กลัวไม่รู้ว่าเป็นรุ่นผ่านน้ำร้อนน้ำเย็นน้ำอุ่นมาก่อนอาคุงน้องอาซา) ความคืบหน้าละครแนวโมเดิร์นของเฮียชิแลม เป็นที่คอนเฟิร์มกันเลี้ยวว่าเฮียจะมีสองนางเอกรุ่นน้องมาร่วมแจม คือสาวทาเวียและสาวหูซิ่งเอ๋อ แต่มะรู้ว่าจะเป็นรักสามเส้าหรือเปล่า ต้องมาคอยจ้องตอนเปิดตัวซะแล้ว







ช่วงแรกอาซาโซโล่เดี่ยวก็ไม่เกิดไรขึ้น แต่พอพระเอกชิแลมออกมาหน้าเวทีเพื่อจอยกับอาซาในเพลง “Modern Love Story” คนดูด้านล่างลุกขึ้นยืนถ่ายรูปกันเป็นระวิงค่ะ อาซาเผยว่าตอนไปคาราโอเกะกับคุณพ่อ ฉันโดนรีเควสต์จากคุณพ่อให้ร้องเพลงนี้ทุกครั้ง ฉันคุ้นเคยกับเพลงนี้มั่ก ๆ คร่า (เลยไปเชิญคุณพ่อจำลองมาร้องคู่ด้วยซะเลย กดชมคุณพ่อและคุณลูกร้องเพลงคู่)
























ส่ง 3 girls ต่างรุ่น ทั้งรุ่นป้า (หลี่ซือฉี) รุ่นคุณน้าสี่สิบยังแจ๋ว (อู๋หย่งเวย) และรุ่นลูกสาว (เฉินฝ่าร่า) มาโปรมดละครแนวดราม่าอบอุ่น “The Stew of Life” เป็นเรื่องราวครอบครัวสุขสันต์และอลเวงเป็นระยะ ๆ ของคุณแม่บ้านอย่างคุณป้าหลี่ซือฉี ง่าย ๆ คือ คุณป้ารั้งตำแหน่งนางเอกไงอ่ะ วันนี้เกิร์ลกรุ๊ปของเรา โพสต์หัวชิดติดกันเพื่อบ่งบอกว่าเราอบอุ่นกันแค่ไหน แถมคุณหมาน่ารากอีกหนึ่งชีวิต และมีกิจกรรมแข่งขันทำลูกกะทกรก (คล้าย ๆ แต่คงไม่ใช่) เมนูปลายจวักของสาวฝ่าร่า ทั้งนี้เพื่อป้องกันดาราจะยืนว่างกันเกินปาย








ให้เกียรตินางเอกคุณป้าหลี่กันก่อน ไปสัมภาษณ์สารทุกข์สุกดิบได้ความว่า คุณป้าหลี่เพิ่งกลับจากพักร้อน น้ำหนักเลยขึ้นพรวด และตอนนี้คุณป้าก็อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก เดี๊ยนดูเพรียวขึ้น (หรือเพรียวลง ก็งงค่ะป้า) เมื่อก่อนเคยกินยาลดน้ำหนัก เดี๊ยนหลับหูหลับตากินมาสองสามปี (ทำให้ป้าเริ่มจำใครไม่ได้ ) ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท เลยต้องหยุดกินยาค่ะ (เรื่องกินยาลดอ้วน เราเห็นมากะตาแล้วว่า กินมาก ๆ แล้วไม่ใช่ว่าดี มันจะหลอนเหมือนเข้าฉากเรื่องห้าแพร่ง ต้องไปหาหมอจิตเวชเลยล่ะ ถ้าคิดจะกินก็ยั้ง ๆ บ้าง แต่ข้าวไม่ต้องยั้ง)










แต่สปอร์ตไลท์มันส่องมาที่สาวเฉินฝ่าร่า (Fala Chan) แบบโดดเด้งเลยฮ่ะ (ดวงกำลังพุ่งอย่างแร้ง) เพราะชีโดนใช้ให้ร้องเพลงนำละครเรื่องนี้ (เพลงน่ารัก คนร้องก็สวย) สาวฝ่าร่าโหวตให้ตัวเองได้ 70 คะแนน ฉันอัดเสียงไปสามรอบค่ะ (เวียนเทียนครบพอดี๊) คุณได้ฝึกร้องคาราโอเกะหรือเปล่า ? เค้ายังไม่ทำเป็นคาราโอเกะให้ร้องเลย.........เพล้ง ! กระจาย (นักข่าวหน้าแตรก...หมอไม่อยากรับเย็บ) ละครเกี่ยวกับทำอาหารใช่มั้ย ? ฉันรู้วิธีทำอาหารญี่ปุ่นกับอาหารฝรั่งค่ะ (แฟนคุณเคยลองชิมอาหารที่คุณทำมั้ย) เพื่อนฉันหลายคนเคยลองชิมแล้ว (สาวฝ่าร่าบังคับให้กินทุกคนแหละ จะแฟนหรือไม่แฟน) เพื่อน ๆ บอกว่าอร่อยดี (กังวลเรื่องเรทติ้งรึเปล่า) ไม่วอรี่หรอกคร่า เพราะ (ไปจัดหน้าม้า) ทีมงานเบื้องหลังมาดูกันอุ่นหนาฝาคั่งหน้าจออยู่แล้ว พวกเขาเอ่ยปากว่าละครดี (ชงเองกินเองเสร็จ)


















ยกหนังสือมาไว้ในมือคุณ นิตยสารหัวนอก (เมืองนอก ไม่ใช่บ้านนอก) the Harper’s Bazaar ออกวางแผงใหม่เอี่ยมฉบับเดือนกันยุง (คำย่อคือ ก.ย.) วางยาหน้าปกด้วยหนุ่มหล่ออันดับหนึ่งติดกำแพงเมืองจีน หวงเสี่ยวหมิงกับแฟชั่นเซ็ทใหม่ดูแนวขรึมแต่หล่อกระชากไส้เหมียนเดิม 55+ วันนี้มากับคอนเซ็ปต์ ผมเป็นสายลับครับคุณสาว ๆ (สายลับจับหัวใจและม้าม)





คอนเซ็ปต์ที่นำเสนอก็เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกันกับภาพยนตร์ของนายเสี่ยวหมิงเรื่อง “The Message” ที่รับบทเป็นสายลับ (สายลับโกโบริ) ช่างภาพจำต้องทำการกำกับศิลเปรอะให้ออกมาในโทน black & white เพื่อให้เนียนไปกับคาแรกเตอร์ หัวหน้าสายลับชาวญี่ปุ่นชื่อ Takeda ที่ดู cool และ เงียบขรึม รักสันโดษ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังขา แต่ก็ผ่านโลกมาอย่างช่ำชอง หนุ่มเสี่ยวหมิงได้แสดงแนวความคิดเกี่ยวกับคาแรกเตอร์ในหนัง และเรียกความท้าทายกลับมาอีกครั้ง ใช้พลังในการแสดงให้เยี่ยมที่สุดเพื่อปะทะกับเหล่านักแสดงเก่ง ๆ อีกมากมายได้แก่ Zhang Hanyu, Wang Zhiwen, และอีกสองนางเอกเป็นที่รู้จักกันดีคือ โจวซวิ่นและหลี่ปิงปิง








เสี่ยวหมิงพยายามขจัดภาพหนุ่มหน้ามนคนไอด้อล ให้ออกไปจากตัวเอง ต้องแปลงลุคใหม่ให้ดูแรง เถื่อน ๆ หยาบ ๆ ที่สำคัญ เลว สร้างอิมเมจด้วยการตัดผมสั้นและเมคอัพริ้วรอยแผลเป็นให้บังเกิดที่ใบหหน้า (อย่าเมคผิดเป็นตีนกาแล้วกัน) ดูเหมือนว่าพระเอกเสี่ยวหมิงจะทุ่มสุดตัวกับผลงานเรื่องนี้ (พยายามกันเยี่ยงนี้ ช่วยชื่นชมในความเถื่อนกันหน่อย ตบหัวด้วยปืน ลูบหลังด้วยจรุ๊บบ)










คลิกไปชมความบันเทิงในห้องแดนมังกร





















 

Create Date : 11 กันยายน 2552
8 comments
Last Update : 13 กันยายน 2552 20:01:44 น.
Counter : 6247 Pageviews.

 

ร้านกาแฟ Okada ยินดีต้อนรับคร้าบ..... (Alicafe เลิกจ้างชั่วคราว)

เราพร้อมเสิร์ฟกาเฟ่ทุกเวลา มาเยี่ยมตอนดึก จิบดึก มาเยี่ยมตอนเช้า จิบเช้า ไม่เมากาแฟ แต่เมาคนเสิร์ฟกาแฟ

 

โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) 11 กันยายน 2552 21:11:20 น.  

 

หวัดดีมิโดริ ดีกันล่วงหน้า

น้องเกอร์ - เที่ยวนี้ของฟงขายดีเนอะ หมดแล้วก็อด ไม่เป็นไรจ้า ขอบคุณที่มาแจ้งข่าว

happy กันทุกคนค่ะ

 

โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) 11 กันยายน 2552 21:14:43 น.  

 

แวะมาเยี่ยมจ้า รูปพี่บ้อเช้งโดนใจจริงๆ

จะเมากาแฟก็คราวนี้ล่ะข้าน้อย

 

โดย: มิโดริกะ IP: 124.120.212.168 11 กันยายน 2552 22:12:27 น.  

 

มาอ่านข่าวค่า อิ อิ อยากกินกาแฟที่คนหล่อชง เอ..หรืออยากกินคนชงมากกว่าน้า กร๊ากกกกกก ฟงฟงบอกแม่ยกเริ่มอันตรายแระ ชักไม่น่าไว้ใจขึ้นทุกวัน

 

โดย: coeur IP: 147.8.245.214 11 กันยายน 2552 22:48:03 น.  

 

แม่ยกมีอาการไม่น่าไว้ใจจริงๆ ค่ะ

ฟันธง คอนเฟิร์ม

 

โดย: มิโดริกะ IP: 124.120.212.168 11 กันยายน 2552 23:35:01 น.  

 

ไฟล์หญ่ายยอ่ะ โหลดไม่รอด

 

โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) 12 กันยายน 2552 21:03:14 น.  

 

เรื่องที่แซมมวลเล่นก็น่าดูนะคะเนี่ย
เครื่องแต่งกายอลังการดี


สำหรับคำคม อืม . . มีมุมมองกลับกันเล็กๆ นะ
รู้สึกว่าทำไมเค้าดูถูกคุณค่าของกระเบื้องจังเลย
หยกสวยงามราคาแพง แต่ในแง่การใช้ประโยชน์
แน่นอนกระเบื้องมีประโยชน์มากกว่าหยกอีก
อย่างน้อยก็เป็นหลังคาไว้กันฝนได้
คิดดูละกันยามข้าวยากหมากแพง
ไร้ที่อยู่อาศัย เจอหยกกับเจอกระเบื้อง
คนจะคว้าอะไรก่อนกัน . . . . .

แต่นั่นแหล่ะหนา ในเมื่อหยกเป็นของที่หายากกว่า
ก็ต้องมีคุณค่ามากกว่าแน่นอน อีกอย่างหยกเก็บไว้ได้นานกว่ากระเบื้องซะอีก

สรุป . . คิดมากทำไมก็ไม่รู้

 

โดย: O-yohyo 13 กันยายน 2552 10:24:29 น.  

 

ไม่เอาน่า.....อย่าคิดมาก.....

ไร้ที่อยู่ อืมน่าคิดว่าควรคว้ากระเบื้อง แต่ถ้ามีไม่คุ้มคงต้องคว้าหยกไว้ก่อนท่าจะเวิร์คกว่าด้วยประการทั้งปวง แต่ถ้าเอาไปขายแล้วบอกว่าหยกปลอม ตรูจะคิดบัญชีกับใคร

จบด้วยไปกันใหญ่อีก

ขอบคุณที่มาเม้นท์จ้า อาเส่คนสวย อิ ๆ โอโย่

 

โดย: ข้าน้อยคาราวะ (ข้าน้อยคาราวะ ) 13 กันยายน 2552 20:07:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ข้าน้อยคาราวะ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




小花

Friends' blogs
[Add ข้าน้อยคาราวะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.