พฤษภาคม 2556

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
น้ำพริกกะปิ......ถือว่าเป็นน้ำพริกถ้วยเก่าจริงหรอเนี่ย

 

น้ำพริกกะปิ.....เป็นอาหารคาวซึ่งจัดว่าเป็นน้ำพริกถ้วยเก่า

ที่ยิ่งเก่าเก็บหลายวันยิ่งอร่อย อย่าเก็บนานเกินนะเดี๋ยวราขึ้น อิอิ

เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบกินน้ำพริกมาก แต่...ทำไม่เป็นอีกล่ะ

แหะๆ อย่างที่บอกแหละค่ะมาอยู่ต่างแดนแบบนี้

อะไรที่ทำไม่ได้ ก็ต้องทำให้ได้ อาหารไทยก็เช่นกัน

อยู่เมืองไทย ทำไม่ได้หรือทำไม่เป็นก็ไม่เป็นปัญหา

หาซื้อกินได้ง่ายตามห้างร้าน หรือตลาดสด ละแวกใกล้บ้านเรือนเรานั่นแหละ

ว่าไปแล้วอยู่เดนมาร์กก็ได้กินบ่อยอยู่นะ เพื่อนที่ทำงานบางคนเค้าก็ตำน้ำพริกฯ

มาแบ่งปันกันกินอยู่เนืองๆ ....ประมาณว่าอร่อยตามแบบฉบับคนตำแหละนะ

แต่จะให้อร่อยถูกปากเราเองมันเป็นเรื่องยากส์ ปากใครก็ปากมันอ่า

คนตำ...เค้าก็ต้องคิดว่าเค้าทำได้อร่อยเท่าที่เค้าจะทำได้

เค้าถึงเอามาแบ่งปันกันกิน เราคนกินย่อมควรจะกินอย่างสงบ

ไม่ชมก็จงอย่าไปติ....นึกถึงใจเขาใจเราบ้างจะดีกว่าว่ามะ? 

มันจะทำให้สียกำลังใจของคนที่เค้าทำมาแบ่งปันกันกินปล่าวๆ

แรงบันดาลใจที่อยากทำน้ำพริกกะปิกินเอง เนื่องมาจากว่า

เราได้กินน้ำพริกกะปิ มาหลายครั้งหลายคราแล้วที่บ้านน้องสะใภ้เรา

ครอบครัวน้องสะใภ้พื้นเพก็เป็นคนอีสานซึ่งเค้าไม่กิน

อาหารที่ออกรสหวานนิดหน่อยกัน(ม้้ง) สังเกตหลายอย่างเลยอ่า

เช่นส้มตำก็จะมีแค่เปรี้ยว เผ้ด เค็ม น้ำพริกก็เช่นกัน....น้ำพริกกะปิ

ที่เค้าตำให้เรากินออกจะหนักเค็มไปอะ เรากินไปเท่าที่เรากินได้

แต่ในใจเรานี่สิ มันบอกว่าไม่...ไม่...ไม่ใช่แบบนี้....หง่าSmiley

อีกใจก็บอกว่าอย่าไปติอาหารเค้านะจะพาลให้กินอาหารไม่อร่อยไปหลายวัน

ประมาณว่ามีสิทธิ์โดนตบปากเอาง่ายๆ ฮ่า ๆ(อันนี้ล้อเล่นนะเค้าไม่ตีปากเราหรอก)

 

 

พอกลับมาบ้านแล้ว...หลายวันผ่านไปนึกอยากลองทำน้ำพริกกะปิ

ฝากเพื่อนซื้อมะเขือพวงมา 1 แพค ระหว่างนั่งรถกลับบ้านเราก้คุย

ให้เพื่อนในรถฟังว่าวันนี้กลับบ้านไปจะตำน้ำพริกกะปิกินกับไข่ทอดชะอม

พรุ่งนี้จะกินด้วยกันมั้ย???

หล่อนสวนมาว่าน้ำพริกกะปินี่ต้องพี่....ตำ เค้าตำได้อร่อย เท่านั้นแหละค่ะ

อาการเสียเซลฟ์เกิดขึ้นในทันได้แถมนีกในใจว่าเออ..ง้้นก็อย่ากินมันเลย 

ผ่านไปอีกวันเราก็ยังไม่ตำ ผ่านไปอีกวันก็ยังไม่ตำน้ำพริกกินสักที

ผ่านไปอีกวัน...จนกระทั่งมะเขือพวงเริ่มเหี่ยวบ้างในบางส่วน

แหม....พอเห็นมะเขือพวงเหี่ยวเท่านั้นอาการเสียดายเงินค่ามะเขือ

เข้าครอบงำความกลัว(ไม่อร่อย)เสียหมดสิ้นเหมือนราหูอมจันทร์ยังไงงั้นเลย

เกี่ยวกันม้ียเนี่ย เอิ๊กส์ ๆ

ว่าแล้วก็ลงมือตำน้ำพริกกะปิ โดยบอกกะตัวเองว่าจะกลัวไม่อร่อยไปทำไมกัน??

ทำออกมาไม่อร่อยก็เททิ้งไปก็ได้...ไม่มีใครมาติให้ได้ยินหรือทำให้เสียเซลฟ์อีก

เราเชื่ออยู่เรื่องหนึ่งของความเป็นมนุษย์ คนเราไม่ว่าจะทำอะไรถูกหรือผิด

ย่อมเข้าข้างตัวเองเสมอ อาหารก็เช่นกันเราตำกินเองรสชาติที่ได้ก็ถือว่าไม่เลวร้ายอะไร

ฮั่นแน่เราเข้าข้างตัวเองปะเนี่ย??? อุ๊เหม่....ทำไมเป็นเช่นนั้นไปได้

ก็แหม...ฝาละมีเราฮีไม่กินกะปิดังนั้นจึงขาดพ่อช้อยนักชิม...ไปซะเลยงานนนี้นะสิ

 

จากตำราอาหารไทย..........ย่อมาดังนี้ 

อันเรื่องราวชองน้ำพริกกะปิ จะตำอย่างไรให้รสชาติกลมกล่อม

ตามแบบฉบับดั้งเดิม ซึ่งในตำราอาหารไทยชาววังเขียนบอกไว้ว่า

กะปิจะต้องใหม่ และก็ห่อใบตองนำไปย่างให้กะปิหอมเสียก่อน

น้ำพริกกะปิที่อร่อยควรจะมี 4 รสชาติ เปรี้ยว เผ็ด เค็ม และหวานปะแล่มๆ

เน้นว่าแค่หวานนิดเดียวเท่านั้น....สิ่งสำคัญคือต้องมีทุกรสห้ามขาดรสใด...รสหนึ่ง

ดังนั้นแล้วเราจึงพยายามตำน้ำพริกกะปิกินเองโดยยึดเอารสชาติตามตำราว่าไว้เป็นหลัก

หัดทำกินเองเสีย...จะได้อร่อยถูกปากตัวเองไง

ที่สำคัญตำน้ำพริกกะปิกินเองจะช่วยลดอาการเสี่ยง"ปากแตกปางตายได้ด้วย"

ถ้าบังเอิญคุณบังอาจไปติอาหารผู้มีอิทธิพลคนอื่นเค้า อะล้อเล่นแบบขำขำอีกล่ะ

 

 

เครื่องปรุง

1. พริก แล้วแต่ความชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อย เราใส่15 เม็ดยังไม่เผ็ดสะใจ

อาจจะเป็นเพราะพริกแช่แข็งมันไม่เผ็ดเท่าพริกสดๆอ่า

2. กะเทียมกลีบใหญ่ 4-6 กลีบ

3. กะปิอย่างดี 2 ชต.นำไปห่อใบตองแล้วย่างให้หอม ถ้าเป็นแม่บ้านต่างแดนแบบเราล่ะก็

ต้องดัดแปลงใช้ใบข้าวโพดมาห่อกะปิแล้วนำไปย่าง ใบตองแพงมากค่ะสุ้ไม่ไหว

4. น้ำตาลปี๊บ

5. มะนาว 2-3 ลูก

6. น้ำส้มคั้น 1-2 ลูก

7. กุ้งแห้งอย่างดี 2 ชต.

วิธีทำ

นำกะปิห่อใบตองหรือกระดาษฟอยล์/ใบข้าวโพด จากน้้นนำไปย่างไฟให้พอหอม

ตำพริกกับกะเทียมพอแหลกแล้วก็ใส่กุ้งแห้งไปโขลกรวมพอแหลกนิดหน่อย

ใส่กะปิ น้ำตาลปี๊บ มะนาว และน้ำส้มคั้นลงไป สุดท้ายใส่มะเชือพวง โขลกให้ส่่วนผสมเข้ากันดี

แล้วชิมรสชาติดูอีกที ใครชอบรสชาติใดก็ใส่กันไปค่ะที่สำคัญต้องมี 4รส

โขลกทุกอย่างจนเข้ากันดีแล้วชิมรสชาติได้ตามต้องการอีกที

ปล.  ทำไมต้องใส่น้ำส้มคั้นด้วย? คำตอบก็คือน้ำส้มคั้นใช้แทนน้ำเปล่าไงค่ะ

ถ้าไม่ชอบน้ำพริกใสก็ใส่น้ำส้มคั้นแค่1ลูก แต่เราใช้ 2 ลูกเพราะเสียดายส้มที่ซื้อมา

น้ำพริกกะปิเราเลยออกแนวใสไปหน่อยนึง มิเป็นไรค่ะยังไงก็ยังอร่อยตามปากเราอยู่ดี

อ่าว...เห็นปะว่าเข้าข้าตัวเองอีกละ เอิ๊กส์ ๆ ๆ

ลองใส่ดูจะได้รสชาติอร่อยกว่าใช้น้ำธรรมดาๆผสมเชียวแหละ

 

 น้ำพริกกะปิกับข้าวร้อนๆและก็ไข่ทอดชะอม แค่นี้อร่อยล้ำแล้ว

แจมด้วยเนื้อทอดที่เหลืออุ่นร้อนไปหลายหนไปหน่อย อ่อ สุดท้ายมีลูกชิ้นเหลืออยู่

นิดหน่อยเลยเอาไปทอดได้เครื่องเคียงที่ไม่เหมือนชาวบ้านเค้ามาแทน อิอิ

บ้านอื่นเค้ามีปลาทู เนื้อทอดกันเนอะ บ้านเรามีเท่าที่เห็น




Create Date : 20 พฤษภาคม 2556
Last Update : 23 พฤษภาคม 2556 0:42:59 น.
Counter : 2962 Pageviews.

5 comments
  
โอ้ยยยยยยยย บรรยายซะอยากจะง่ำๆขึ้นมาอีกแล้วค่ะ


พูดถึงเรื่องทำอาหารแล้วเราพยายามที่จะทำแล้วมีคนมาทักนี่ รมณ์บ่จอยจริงๆนะค่ะ
น่าจะให้กำลังใจเราสักกะหน่อย
โดย: chon CH วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:3:00:11 น.
  
เมนูโปรดเลยนะคะ
โดย: auau_py วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:10:09:49 น.
  
~ น่ากินนะคะ อาหารไทยสุดยอด สุดยอด „~
โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:28:49 น.
  
อยู่ไกลบ้านเหมือนกัน แต่กินแต่น้ำพริกกะปิขวดค่ะ
เจ้าของบล๊อคตำออกมาน่าทานมากๆค่ะ ใช้น้ำส้มคั้นเป็นส่วนผสมน่าสนใจดีค่ะ ไม่เคยลอง เดี๋ยวต้องลองตำเองบ้างแล้วค่ะ
โดย: hot cappuccino วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:41:39 น.
  
ตำเองไม่เคยอร่อยเลยค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 22 พฤษภาคม 2556 เวลา:12:46:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ยืนงงในดงครัว
Location :
กรุงเทพฯ  Denmark

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ชื่อ (ป้า)พรรณ หรือ เหน่ง นะค่ะ เริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่ในครั้งนี้ ด้วยวัย 40 กะรัต
กามเทพตั้งใจทำงานมากเลยอะ ป้าพรรณ แค่มาเที่ยวเดนมาร์กครั้งแรก โดยมาในฐานะแขกเชิญของน้า ให้มาเที่ยว เดนมาร์ก แต่....เอาเข้าจริงต้องกลาย เป็นเด็กเสริฟอาหารในร้านของน้าเราเอง มากว่าเที่ยว ฮ่าๆ นั่นแหละกามเทพทำงาน ตอนได้เป็นเด็กเสริฟ(จำเป็น)ที่โต๊ะสามี ปิ๊งๆๆ กัน สุดท้าย 2 ปีผ่านไป ได้แต่งงานกัน


มาอยู่เดนมาร์ก ก็เลยอยากจะบันทึกเรื่องราวชีวิตในต่างแดน เพื่อเก็บเอาไว้อ่านย้อนหลัง เมื่อเราแก่ตัวไป จะได้รู้ว่า ช่วงชีวิตหนึ่งที่ห่างหายจากครอบครัวอันเป็นที่รัก มีเรื่องราวอะไรน่าจดจำบ้าง แม่เป็นยังไง ลูกๆเป็นยังไง ใครเศร้า สุข ทุกข์ใจ เรื่องราวที่เข้ามาดี ร้าย อย่างไร? บันทึกไว้เพื่อจดจำกับเรื่องราว

พื้นที่ห้องน้อยๆแห่งนี้... เป็นเสมือนสมุดบันทึก เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆที่พบเจอ หรือแม้กระทั่งเพื่อเก็บบันทึก ถึงอาหารของแม่ที่พร่ำ(บ่น)สอนให้เราทำ ซึ่งก็พอจะทำเป็นอยู่บ้าง อาหารไทยได้จากแม่ อาหารจีนได้มาจากแม่สามีเก่า
แต่ด้วยความที่เราไม่ค่อยเอาใจใส่ หรือในรักการทำอาหารเหมือนแม่ ทำให้ต้องมาหัดเรียนรู้ อาหารบางอย่างจากเพื่อนบ้านชาวบล๊อคแก๊งค์ด้วยกัน ก็หลายท่าน ขอบคุณทุกท่านที่พากันทำฮาวทู ทีละขั้นตอน สอนอย่างจริงใจ และให้อย่างจริงใจ
ขอบคุณชาวบล๊อคแก๊งค์ ที่แบ่งปันสูตรอาหารต่างๆ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

และสุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่คอมเม้นท์ไว้ให้ค่ะ และขออภัยด้วยหากไม่ได้ไปเม้นกลับ เนื่องด้วยไม่ค่อยได้เข้ามาบ่อยๆเหมือนเก่า
images by free.in.th