เหตุการณ์นี้อ้อมเขียนไว้ที่บล็อกอ้อมอีกอันที่มัลติไพล์ เมื่อเดือนมกราปีนี้แล้วค่ะ ข้อมูลเก่าไปนิดนะคะ แต่อยากจะเอามารวบรวมไว้ที่บล็อกแก๊งค์ให้เป็นหมวดหมู่ค่ะ (กำหนดคลอดอ้อม 23 พ.ค. 2552 ค่ะ )

 วันนี้ได้ฤกษ์มาเขียนบล็อกรายงานความคืบหน้าท้องป่องๆของตัวเองซะหน่อย ตอนนี้ลูกดิ้นแล้วค่ะ มีความสุขมากๆค่ะ เพลินมากๆเลยค่ะ แบบว่าอยากให้เค้าดิ้นไม่หยุดเลยได้มั้ยเนี่ย คริ คริ   ส่วนมาร์ตินก็จะมาฟัง มาลูบๆ รอลูกดิ้นทุกวันเลยค่ะ บางทีก็คุยกับลูกไปเรื่อยเปื่อยให้ลูกคุ้นเสียงไว้

อายุครรภ์อ้อมตอนนี้ก็ 21 สัปดาห์แล้วค่ะ ( ประมาณ 5 เดือน ) ครึ่งทางแล้วค่ะ ทางการแพทย์นั้นกำหนดคลอดไว้ที่สัปดาห์ที่ 40 แต่ส่วนใหญ่ก็จะคลอดกันก่อน 1-2 อาทิตย์กันค่ะ

ตอนนี้ไปไหนมาไหน คนเริ่มเข้ามาทักว่าท้องมากขึ้นละค่ะ  

ปลื้มมากๆเลยค่ะ มากกว่าสแกนครั้งแรกและทุกๆครั้ง เพราะปกติจะเป็นแบบธรรมดา ก็แค่เห็นเป็นหัวเป็นตัว แต่อันนี้เห็นรายละเอียดเลย นำตาเกือบไหลอีกรอบแน่ะค่ะ แต่อายมาร์ติน อายหมอ เลยแอ๊บกลั้นไว้ อิอิ บอกตรงๆว่าวันนั้นเป็นวันที่อ้อมและมาร์ตินมีความสุขมากๆเลยค่ะ  a wonderful day มากกกก

และตอนนี้นำหนักอ้อมขึ้นแค่ 3.6 kg ส่วนนำหนักลูกตอนนี้ 395 กรัม ซึ่งก็ตามมาตรฐาน (ในปฏิทินตั้งครรภ์บอกไว้ว่า น้องควรหนัก 350-425 กรัม เมื่อเข้าสัปดาห์ที่ 21) สงสัยทานอะไรไป จะไปอยู่ที่น้องหมดแน่เลยค่ะ อิอิ อ้อมก็พยายามควบคุมให้ขึ้นอยู่แค่ 10-14 Kg จนถึงวันคลอดค่ะ หมอบอกว่าช่วงเดือน 7 & 8 นำหนักจะพุง พรวดพราดมาก เพราะฉนั้นตอนนี้ก็คุมๆไว้หน่อย เพราะนำหนักเยอะจะมีผลเสียต่อแม่ในหลายๆด้านค่ะ ตัวลูกนั้นเค้าจะได้รับสารอาหารตามมาตรฐานเค้าอยู่แล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดคือของหวาน คนท้องส่วนใหญ่จะเหมือนเด็กๆเลยค่ะ ชอบกินของหวานมากๆถึงมากที่สุด ถ้าหวานเกิน ตัวลูกนั้นไม่เปนไรค่ะ แต่จะมาตกที่แม่ค่ะ คุณแม่หลายท่านเป็นเบาหวาน(diabetics)กันเยอะช่วงท้อง ถ้าคุณแม่คนไหนไม่อยากได้ลูกแถมเบาหวาน และคครภ์เป็นพิษให้ตัวเอง ก็ต้องตั้งสติกันนิดนึงนะคะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น นำตาลเป็นสิ่งจำเป็นค่ะแต่ควรจะเป็นนำตาลฟรุตโตสจากธรรมชาติ จากผลไม้ต่างๆ ไม่ใช่นำตาลทรายจากเค้กหรือของหวานอื่นๆ หุหุ

ช่วงนี้อ้อมก็ยุ่งๆทำลิสต์ ซื้อข้าวซื้อของของลูกค่ะ เพลินมากๆ มีความสุขมากๆเลยค่ะ แล้วพอดีอ้อมจะเข้าอังกฤษไปเยี่ยมบ้านมาร์ตินเดือนหน้า เราก็เตรียมไปช๊อปของบางส่วนจากที่โน่นกัน เพราะของเด็กคุณภาพดีๆแถบเอเชียนี้แพงมากๆๆเลยค่ะ แพงมากกว่าครึ่งของที่อังกฤษอีกค่ะ ไม่เกี่ยวกับว่าเงินปอนด์ลดลง เลยถูกนะคะ ถึงค่าเงินเท่าเดิมก็ยังถูกกว่าบ้านเรามากกว่าครึ่งเลยทีเดียว สงสัยบ้านเราและมาเลเซียจะเสียภาษีนำเข้าของเด็กแพง (เดาเอา)
ราคาของเด็กถึงได้แพงหูฉี่ขนาดนี้

Create Date : 03 พฤษภาคม 2552
Last Update : 3 พฤษภาคม 2552 13:23:01 น.		2 comments
Counter : 1688 Pageviews.
Share Tweet