ฮอร์โมนโจมตี!!!!....

บางครั้งมันก็รู้สึกไม่รู้จะทำอะไรดี บางเช้ามันยากที่จะต้องบังคับตัวเองให้ตื่น ถ้าทำได้อย่างที่ต้องการตามดั่งใจตัวเองแล้ว ก็อยากที่จะหลับอยู่อย่างนั้นตลอดไป แต่ความเป็นจริงเมื่อเรานอนมาถึงระยะเวลาหนึ่งมันจะเป็นไปเองอัตโนมัติที่จะมีอะไรสักอย่างทำให้เราจะไม่สามารถหลับต่อไปได้อีก จะต้องขัดใจตัวเองลุกขึ้นมาอยู่ร่ำไป เราเองช่วงหลังๆ ต้องลุกอย่างขัดเคืองในใจตัวเองอยู่ทุกวัน


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เมื่อก่อนทำงานประจำที่ต้องไปทำงานแค่อาทิตย์ละ 2 วัน ปากกัดตีนถีบดิ้นรนขวนขวาย ได้บ้านมา 1 หลัง แต่ละวันรู้สึกหงุดหงิดกับการคิดอะไรต่อมิอะไรต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ เรื่องปัญหาของงาน ปัญหาครอบครัว ปัญหาระหว่างคนรัก ปัญหาอืนๆ ที่บ้านสารพัดจุกจิก ไหนจะงานอดิเรกขายของออนไลน์ที่เริ่มทำเมื่อต้นปี 55 อย่างจริงจัง วันๆ มันมีเรื่องเยอะจนไม่มีแม้เสี้ยววินาทีให้สมองว่างเลย พอถึงวันหยุดทีจะดี๊ด๊ามาก ใจกรุ้มกริ่มว่าจะได้นอนตื่นสายๆ ได้ นอนดึกๆ ได้ ได้พัฒนาโปรเจ็คที่ทำค้างคาเอาไว้ มันเป็นอะไรที่วุ่นวายแต่มันยังมีเป้าหมายทุกวัน


จนกระทั่งปลายๆ ปี 55 ต้องไปพบแพทย์ด้วยความเครียดที่สะสมเอาไว้มากมาย ไปแรกๆ ด้วยอาการปวดหัวที่เป็นต่อเนื่องกันนาน และเริ่มไม่อยากออกไปเจอผู้เจอคน รู้สึกแย่ที่วันไหนจะต้องตื่นแล้วออกไปนอกบ้านทำให้นอนหลับไม่ลง แต่พอได้ออกไปแล้วกลับมามันช่างเป็นอะไรที่โล่งและรู้สึกว่า สบายมาก!!! ถ้าจะให้ออกไปอีกวันพรุ่งนี้ก็ยังไหว ปี 55 ที่ผ่านมาได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่คิดว่าตัวเองต้องการ ได้ออกรถให้พ่อและแม่ ได้ออกรถให้ตัวเองและแฟน ดูเหมือนอะไรๆ จะดีขึ้น ยกเว้น อาการที่รู้สึกว่าตัวเองป่วย


ตอนนั้นคิดว่าเพราะตัวเองทำหลายอย่าง ทำทั้งงาน(ซึ่งเครียดมาก) และงานส่วนตัวที่ก็เครียดบ้างเล็กน้อย เรื่องครอบครัวที่มากวนใจอยู่เรื่อยๆ จึงคิดว่าตัวเองเครียดเกินไป หลายต่อหลายครั้งที่รู้สึกแย่ แบบว่า ไม่ไหวแล้ว มันเหมือนจะทนไม่ไหว เหมือนคนกำลังใจจะขาด ไปหาหมอเรื่อยๆ จนที่สุดต้องพบกับหมอด้านจิตเวช ต้องทานยาประเภทมีฤทธิ์กล่อมประสาท บางวีนมันรู้สึกทรมาณมากที่ต้องทำสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวให้เหมือนคนปกติที่เค้าทำกัน จนทนไม่ไหวและร้องไห้ออกมาบ่อยๆ หรือบางวันไม่มีเหตุอะไรแต่จิตใจกลับรู้สึกเศร้าหมองมาก หดหู่ รู้สึกสะเทือนใจอย่างแรง (ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไร) จนร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง จะบอกว่ามันทรมาณมากที่ต้องทนอยู่กับอาการเหล่านี้


บางครั้งมันหนักจนรู้สึกว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ รู้สึกว่างเปล่า รู้สึกอยากหลุดล่องลอยไปไม่อยากรับรู้อะไร และรู้สึกว่าถ้าหากหลุดลอยไปตอนนั้นจริงๆ ก็ไม่มีอะไรที่ตัวเองจะต้องเสียดาย หรืออาลัยอาวร ทั้งๆ ที่ลึกๆ เรารู้สึกว่ามันผิดปกติที่จะคิดอะไรอย่างนั้น และมันเป็นสิ่งที่เราไม่ควรคิด เพราะเรายังมีพ่อมีแม่ที่รักเราและเรารักมาก ยังมีแฟนที่อยู่ข้างๆ เราตลอดเวลา ทุกๆ คนคอยซัพพอร์ทไม่ว่าเราจะตัดสินใจ หรือจะทำอะไรก็ตาม แต่การที่ต้องทนอยู่กับความหดหู่ในใจมันทรมาณมากจริงๆ จนบ่อยครั้งทำให้เสียงาน มันเหมือนสมาธิไม่มีไปด้วย เหมือนคนที่หมดใจกับทุกอย่าง ไม่รู้สึกอยากทำงาน ไม่รู้สึกรักใคร ไม่รู้สึกอยากได้อะไร หรือจะยินดีกับอะไร


มันรู้สึกเหงา และอ้างว้างมาก ความรู้สึกมันเหมือนไม่มีใครเข้าใจเรา (ก็เราเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลย) จนเริ่มคุยกับพ่อแม่ กับแฟน ว่ามันรู้สึกอย่างไร แต่บอกไปพวกเค้าก็คงได้แต่รับฟัง คงไม่มีใครรู้ว่าจะต้องทำยังไงกับคนที่รู้สึกหดหู่อยู่ตลอดเวลาอย่างเรา นอกจากให้กำลังใจ อย่างอื่นยังเหมือนเดิม ปัญหาสารพัดอย่างยังมีมา ข้อความข่าวสารที่ฟังแล้วไม่สบายใจ ยังมีคนมาเล่าให้ฟัง อารมณ์อย่างนั้นได้ฟัง หรือรับข่าวสารอะไรมานิดหน่อย มันนิดหน่อยแต่กับความรู้สึกมันจะเป็นอะไรที่สะเทือนใจมาก ไม่รู้จะทำยังไง หลังจากที่คิดกลับไปกลับมาหลายๆ รอบ ทั้งจากตอนมีสติดี และตอนที่ล่องลอย รวมทั้งคุยกับพ่อแม่และแฟน ก็มีความเห็นกันว่า อาจจะเพราะเราทำงานหนักเกินไป พักผ่อนน้อย ความเครียดสะสม ถ้าทำงานน้อยลงก็อาจจะดีขึ้น บวกกับทานยาตามหมอสั่ง


ทำให้ตัดสินใจลาออกจากงาน ทั้งๆ ที่ภาระเต็มไปหมด แต่ยังดีที่มีอาชีพที่สองคอยรองรับ นั่นก็คือแม่ค้าขายของออนไลน์ มันก็พอไปได้ พอให้ผ่อนรถ 3 คัน(มอไซค์1 รถยนต์2) ผ่อนบ้าน 2 หลัง(ให้เค้าเช่า 1 หลัง ได้จากค่าเช่าเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยสำหรับค่าผ่อน)ได้ไปแต่ละเดือน คิดว่าออกจากงานประจำจะทำให้ได้พักผ่อนมากขึ้น ชีวิตอิสระขึ้น คิดว่าจะมีความสุขขึ้น อยากไปไหนได้ไป อยากทำอะไรได้ทำ มันเหมือนจะดีจริงอะไรจริง


แต่ทว่าความจริงแล้ว เราไม่รู้เพราะยามันไม่ได้ผล หรือเราอาจจะไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างที่ได้รับการวินิจฉัยมา หรือเป็นเพราะตัวเราทำตัวเราเอง ไม่ว่าจะเกิดจากอย่างใดอย่างหนึ่ง ณ ตอนนี้เราคิดว่าอาการมันหนักกว่าเดิม ทุกวันไม่อยากจะตื่นลืมตา ไม่อยากรับรู้ว่าวันเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ พยายามจะหาอะไรทำ ไปรับแฟนเลิกงานตอนเย็น กลางวันส่งสินค้า รับออเดอร์ มันเหมือนก็มีอะไรให้ทำ แต่มันยังเป็นเหมือนเดิมหรือยิ่งหนักกว่าเดิม บางวันก็แอบคิดว่าเราทำถูกหรือเปล่าที่ปลีกวิเวกออกมาอย่างนี้ มันเหมือนวันๆ ตื่นมา รับออเดอร์ คุยกับลูกค้าทางอินเตอร์เนต คุยกับแฟนตอนกลางวันทางโทรศัพท์ ได้เจอผู้คนบ้างตอนไปไปรษณีย์ส่งของ นอกนั้นอยู่กับตัวเอง


บางวันรู้สึกอยากจะจบชีวิตตัวเองไปซะให้ได้ หลายต่อหลายครั้งที่กัดฟันโทรคุยกับพ่อแม่ ทำเหมือนว่าปกติ ทั้งๆ ที่มันรู้สึกทรมาณในใจมาก รู้สึกเหมือนมันจบสิ้นแล้วทุกอย่าง แต่ต้องทำเหมือนไม่เป็นอะไรให้คนอื่นสบายใจ ภาระต่างๆ ยังต้องรับผิดชอบอยู่ กับหมา 9 ชีวิตและแมว 4 ชีิวต ทั้งภาระบ้านรถ ของตัวเองและของพ่อแม่ ลึกๆ ก็รู้ว่าทุกอย่างที่เราทำอยู่มันสำคัญและเป็นสิ่งที่ดี แต่ในใจอีกส่วนมันก็รู้สึก เบื่อ ทุกๆ อย่าง รู้สึกไม่ผูกพันธ์ ไม่คุ้นเคย รู้สึกเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไรที่เป็นของเราจริงๆ ถามแฟนทุกวันวันละหลายๆ ครั้ง ว่ารักเราหรือเปล่า เค้าก็ตอบว่ารักทุกๆ ครั้ง แต่มันไม่เคยเลยสักครั้งที่เราจะรู้สึกได้ถึง


มันเหมือนเรากลายเป็นคนไร้ความรู้สึก ไร้จิตสำนึก อยากจะไปหาหมอ หรือคุยกับใครสักคนที่จะแนะนำอะไรก็ได้สักอย่างที่แตกต่างและทำได้จริง ทำแล้วอะไรๆ มันเปลี่ยนแปลง ทำแล้วความรู้สึกที่เรามีต่อการหายใจอยู่ให้มันรู้สึกว่ามันมีอยู่จริง แต่คำว่าหมอมันคงห่างไกล เดี๋ยวนี้นัด 2 เดือนครั้งก็คงต้องเข้าใจ ประกันสังคม เราก็ได้แค่ไปตามหมอนัด ไปถึงหมอก็ถามเดิมๆ ว่าดีขึ้นหรือเปล่าอย่างไร .... ไม่รู้สิ....แค่อยากให้หมอถามอะไรที่มันแตกต่าง เหมือนอะไรสักอย่างที่ฟังแล้ว เราตอบไปแล้วจะทำให้หมอเข้าใจอาการ และให้ยาอะไรที่มันตรงกับสิ่งที่ต้องการและทำให้ดีขึ้นบ้าง ถามเหมือนอยากจะหาสาเหตุต้นตอร่วมกันจริงๆ เพื่อหาทางรักษา ไม่ใช่ถามเพราะมันเป็นคำถามที่ต้องถาม เพื่อจะได้ดูว่ารอบต่อไป จะเลื่อนนัดไปเป็น 3 เดือนเจอหมอทีดีไม๊ หรือ 4 เดือน หรือไม่ต้องกินยาแล้ว ... พูดง่ายๆ แค่รู้สึกว่าหมอไม่มีใจ......ไม่อยากไปหาหมอเลย


แต่การไปหาหมอมันทำให้ได้ยามา ถึงมันจะไม่ช่วยให้ฮอร์โมนหรืออะไรก็แล้วแต่สารต่างๆ ที่มันต้องหลั่งแล้วมันไม่หลั่ง หรือสารเคมีที่มันหลั่งมากหลั่งน้อยผิดปกติให้สมดุลก็ตาม มันไม่ได้ดีขึ้นแต่บางวันมันก็ทำให้หลับลงได้ ไม่หลับได้ไงมีแต่ยาออกแนวครายเครียด คือกินแล้วจะง่วง (แต่บางวันกินแล้วก็ไม่ง่วงเลยก็มี) บางวันเคยไม่กินยาติดต่อกัน 3-4 วัน (บางคนว่ากินยาประเภทพวกนี้ระวังจะติดยา แต่หมอบอกว่ายากพวกนี้ต้องกินติดต่อกัน 6 เดือนเป็นอย่างน้อยถึงจะเห็นผล) ก็ลองงดยาดู บางวันก็นอนหลับได้ ธรรมดา ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรไป แต่บางช่วงกินยาปกติ แต่ก็ยังต้องทุกข์ทรมาณกับความรู้สึกแย่ต่างๆ ที่เกิดขึ้น


ตอนนี้มานั่งไตร่ตรองคิดกับตัวเองว่า...หรือว่าเราจำเป็นต้องมีสังคมกว่านี้ ต้องหางานประจำทำหรือเปล่า ไม่ใช่เพราะต้องดิ้นรน เพราะบอกแล้วว่าเรารู้สึกเฉยเมยกับทุกอย่าง ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเรื่องความเป็นไปแต่ละวัน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมาเวลาที่อาการ(ขอเรียกว่าอาการแล้วกัน)มันเกิด มันไม่เกี่ยวเหตุการณ์ ณ ขณะนั้นๆ เลย อยู่ดีๆ ก็รู้สึกขึ้นมา


มันเป็นโรคที่ทรมาณมาก เพราะเราไม่ได้ถูกกักขังจากภายนอก แต่มันเหมือนการโดนกักขังอยู่ในใจตัวเอง


Create Date : 28 มกราคม 2556
Last Update : 28 มกราคม 2556 2:36:59 น. 2 comments
Counter : 931 Pageviews.

 
เอาใจช่วยค่ะ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:4:29:48 น.  

 
ขอเป็นกำลังใจให้สู้ครับ


โดย: Don't try this at home. วันที่: 28 มกราคม 2556 เวลา:22:28:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

SK_KS
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add SK_KS's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.