ด้านนี้ติดกับเพื่อนบ้าน
นี่ก็ใช่
รอยร้าวที่บัวของประตูด้านข้าง โฟร์แมนบอกว่ามันไม่ได้ติดกันนะครับบอกไว้ก่อน .....อ่ะนะรับทราบ แต่ไม่อยากเห็นรอยสีมันร้าวยังงี้ดังนั้นก็บอกพี่แกไป รบกวนเก็บสีให้โด้ย นะคะ
หลังบ้านอีกอันให้พี่เค้าถมดินเพิ่ม เพราะจากฐานรั้วสังเกตุว่าดินมันยุบลงไปบ้าง....แต่พี่เค้าแนะนำว่า ถ้าจะต่อเติมมันจะเป็นภาระเราต้องขนดินออกในอนาคต....เออ...ไม่เป็นไรพี่ถมไปเถอะ ข้างหลังลูกค้าจะเอาไว้ปลูกมะละกอ
ที่เหลือก็เดิมๆ เห็นๆ รั้วฝั่งที่ไม่ติดใคร มันลอยจากพื้น ไม่ยึดติดกับรั้วโครงการ ก็บอกพี่เค้าว่า รบกวนดูให้ด้วย....พี่แกก็จดๆ ลงไป.....รวมทั้งพวกกล่ิองปลั๊กไฟต่างๆ ที่มันไม่สนิท....ก็บอกพี่เค้าให้รบกวนดูให้ด้วยเหมือนกัน
บรรได
บรรได
ชั้นสอง คิ้วห่างๆ อย่างนี้ทั้งนั้นเลย ....
ส่วนพื้นลามิเนตปูดๆ บวมๆ รู้สึกว่าบอกไปแล้ว แต่เหมือนจะไม่ทำให้.....ผนังห้องก็เหมือนคนหัวโนออกมา แต่อันนี้เราไม่ซีเรียส เพราะเรากลัวแก้ไปโครงสร้างจะยิ่งเละ......แต่ปูดตั้งสองห้อง......
รูปภาพก็มีอยู่ไม่กี่รูป เพราะอิคุณแฟนถ่ายรูปมา 5-6 รูป ไม่ได้เรื่องสักอย่าง รูปที่ลงเป็นรูปที่ลูกน้องของไอ้คุณพี่เรา เดินถ่ายๆ ให้ ดีที่พี่มันเอากล้องมาด้วย
ยิ่งถ้าเห็นลูกค้ายึกๆยักๆไม่ค่อยรู้เรื่องมันยิ่งเกทัพ เผลอๆพูดจาสอนเราซะงั้น
เรากับคุณท่านพี่เจอบ่อย อาจจะเป็นเพราะแต่งตัวไม่หรูหรามั๊ง มันถึงไม่เกรงใจ
แต่คุณท่านพี่พูดว่า ก็ผมรับไม่ได้..จบมั๊ย ถ้าไม่แก้ก็ไม่โอน
เราต้องแข็งค่ะ แต่กรณีของกระติ๊บ คงต้องคุยกับคุณแฟนดูให้ค่อยๆคิดค่อยๆพิจารณา
ก่อนรับบ้านบ้านยังไม่เรียบร้อย ยังไม่รีบทำให้ดีแล้วจะไปหวังอนาคตจะเรียกมาเก็บงานเหรอ....อย่าเลยถือคติ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
ถือว่าตอนนี้เราได้เปรียบ เค้าต้องง้อเราเพราะอยากให้เรารีบโอน
ถ้าโอนไปแล้ว พอเข้าอยู่บ้านจริงๆ เห็นไอ่โน่นก็ไม่ดีไอ่นี่ก็ไม่ชอบ ทีนี้จะเรียกมาแก้...มันต้องลุ้นและต้องมานั่งโมโหนะถ้าเค้าไม่ได้อย่างใจเรา
บริษัทตรวจบ้านก็ดีแต่เสียดายตังค์เหมือนกันนะเก็บเงินไว้แต่งบ้านดีกว่า
แต่ข้อดีคือเรามีตัวกันชนระหว่างเรากับหมู่บ้าน
ลองเลือกดูจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้น๊า..เขียนมาซะยาวเลย อิอิ