สถานะภาพสมรส : สมรส (เช็คเครดิตบูโรมา)

หลังจากเดือนที่แล้วไปยื่นเรื่องทำบัตรเครดิตมา 2-3 ที่ แล้วผลมันไม่ผ่านอนุมัติเลยซักที่ เหอะๆๆ มันข้องใจ กลัว กลั๊ว กลัว ว่าไปมีอะไรที่ไหนไว้หรือเปล่าหนอเรา วันศุกร์ที่แล้วก็เลยไปทำเรื่องขอเช็คเครดิตบูโรตัวเองมาจากธนาคารกรุงไทย จ่ายไป 150 บาท คุณพนักงานก็บอกว่า 3 วันได้รับ ให้ลองโทรไปถามดูวันจันทร์ เพราะมันติดเสาร์-อาทิตย์ เผื่อช้า อะไรทำนองนี้ แต่เราไม่ได้รีบอะไร แค่อยากรู้


พอถึงวันจันทร์ก็ไม่ได้โทรไปหรอก คิดว่าถ้าภายในอาทิตย์ไม่มาก็ค่อยจะโทรแต่ระหว่างนั้นก็เช็คจดหมายทู้กวัน กระทั่งวันพฤหัสก็ไม่มา ด้วยว่าวันพฤหัสไม่อยู่บ้าน (ไปทำงานที่ออฟฟิต) เลยว่าจะโทรวันศุกร์ล่ะ นานเกินง่ะ


กระทั่งเช้าวันศุกร์สายๆ ตื่นมาอาบน้ำอาบท่าเตรียมหาข้าวกิน เสร็จก็ว่าจะโทรไปถามดูว่าจะมาประมาณเมื่อไหร่หว่าเอกสารเรา แต่แล้วตอนจะออกจากห้องไปก็เห็นเศษกระดาษเล็ก ความกว้างเท่า A4 ความยาวประมาณ 1 นิ้ว นึกว่าพวกขายอะไรซะอีก ก้มๆ ไปหยิบมาดูเป็นกระดาษแจ้งให้ไปรับพัสดุที่ในสำนักงานโครงการ ก็เลยเดินเข้าไปเอามาก่อนจะไปหาข้าวกิน


ได้รับเดินออกมาก็พลิกไปพลิกมาดู เห็นด้านหลังซองถูกผนึกด้วยเทปกาวใส นึกตกใจนึกว่าพนักงานของโครงการหมู่บ้านหรือใครที่เข้าถึงได้เปิดจดหมายเราเปล่าหว่า แต่นึกในใจแล้วคนโง่ที่ไหนเปิดดูแล้วมันจะติดให้เห็นโท่งๆ อย่างนี้ฟระ แต่ก็แปลกใจแหละที่มันผนึกมาด้วยเทปใส ลองเปิดดูหาร่องรอยการแอบแงะจดหมาย ปรากฎว่าสภาพก็ปกติไม่ได้มีร่องรอยอะไร (คิดมากไปเองสิเรา )


แกะๆ ออกมาอ่านไล่ไปเรื่อยๆ ดูเป็นข้อมูลที่โล่งมากๆ ในส่วนสรุปข้อมูลบัญชีสินเชื่อทุกอย่างเป็น 0 หมดเลย นั่นก็คือเราไม่ได้ติดเครดิตบูรงบูโรอะไร ที่เคยทำบัตรอะไรๆ แล้วไม่ผ่านสงสัยจะเพราะความไม่น่าเชื่อถืออื่นๆ ละล่ะ เห้อ.....

อ่านไปอ่านมาอีกนิดหน่อยเพื่อดูว่าเครดิตแห่งชาติเนี่ยมีข้อมูลอะไรเรามั่ง สายตาก็ไปสะดุดกับบรรทัดนึง

วันเดือนปีเกิด : xx-xx-xxxx (x=สมมุติแทนอักขระ 1 ตัว)
สัญชาติ : ไม่มีข้อมูล
เพศ : หญิง

สถานะภาพสมรส : สมรส


อ่านไปก็งงไป ตรูไปสมรสตั้งกะมะไรฟระ อยู่ดีๆ ก็มีสถานะใหม่ ถ้าขนาดว่าสถานะภาพ สมรส อย่างนี้แว้ว แต่ทำไมสัญชาติดันไม่มีข้อมูล นอกจากนั้นรายละเอียดต่อมาคือ ข้อมูลที่อยู่ ..... แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรของข้อมูลที่อยู่ล่าสุด รู้สึกงงๆ ว่าเอ...ข้อมูลของเราในเครดิตแห่งชาติปกติมันจะเป็นยังงี้เร้อ.....


เราอยู่กับคุณแฟนมา 5 ปียังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน สมัครงานหรือเปิดบัญชีก็ไม่เคยระบุสมรสอ่ะ โสดตลอด แต่ไหงสถานะภาพตอนนี้กลายเป็นสมรส เหอะๆๆ แหม๋ รูแจ้งรู้ลึกรู้จริง จริงๆ เลยอ่ะ

ขำๆ เห็นมันดูแปลกๆ ดี เลยเอามาเขียนลงบล๊อก


.....


และที่มาที่ไปที่อยากเช็คเครดิตบูโร นอกจากความอยากรู้ เพราะไปทำบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดอะไรๆ ต่างๆ แล้วไม่ผ่าน เลยกลัวว่าจะเป็นเหมือนข่าวที่เคยออกๆ ว่ามีคนสวมรอยไปสร้างหนี้ให้เราโดยไม่รู้ตัวนั้นแล เลยไปเช็คดูให้รู้ดำรู้ขาวกันไปแล้ว อีกเหตุผลก็เพราะคาดว่าอีกสักระยะจะทำเรื่องขอกู้บ้าน การตรวจสอบก็ทำให้สบายใจขึ้นไปอีกเปราะหนึ่ง จะได้ไม่มานั่งวุ่นวายใจทีหลัง วันดีคืนดีอยากได้บ้าน เจอบ้านที่ถูกใจ ทำเรื่องขอกู้ๆๆ แต่ไม่ผ่านเพราะติดเครดิตบูโรแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ขึ้นมา คงเครียดแย่ บ้านก็ไม่ได้ต้องมานั่งปวดหัวแก้ปัญหากันอีก


ก็สรุปว่าขาวสะอาดเกินไป เลยไม่มีใครกล้าให้เครดิต อิอิ แต่ก็แอบกลัวอยู่ดีว่าขนาดบัตรกดเงินสดมันยังไม่ผ่านอนุมัติเลยง่ะ แล้วกู้บ้านจะผ่านไม๊ฟระเนี่ย แต่ไม่เป็นไรอย่างน้อยเราอยู่ในฐานะกู้ร่วม เพราะคุณแฟนดูมีเครดิตดีกว่าเรา (เพราะเคยเป็นหนี้ และเป็นหนี้อยู่ แล้วก็จ่ายแต่ดีเสมอมา)


เราเองก็อยากจะกู้หลักหรือกู้เดี่ยวหล่ะ แต่กู้เดี่ยวมันก็คงจะไม่พอเหอะๆๆ จะซื้อบ้านทั้งทีก็อยากจะซื้อแบบที่คิดว่าอยู่แล้วสบายใจ เป็นบ้านที่น่าอยู่และอยู่ได้นานๆ โดยไม่เบื่ออะไรมาก เพราะหลักๆ เราทำงานที่บ้านอยู่ (ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยนบริษัท อิอิ) ส่วนจะกู้หลักก็ยังไม่ได้เพราะว่าอายุงานเป็นทางการปัจจุบันยังไม่ถึง 2 ปี เพราะเมื่อก่อนทำแต่ฟรีแลนซ์ เพิ่งจะมาจริงจังกับการทำงานกินเงินเดือนก็เมื่อไม่นานมานี้ แต่ตอนทำฟรีแลนซ์ มันไม่ได้มีเอกสารอะไรตามหลักซักเท่าไหร่ เลยไม่มีเอกสารการชำระค่านู่นนี่ เลยต้องเริ่มประวัติการทำงานใหม่เอากับที่ทำงานปัจจุบันนี้แหละ


แต่ทว่าจะให้คุณแฟนกู้คนเดียวก็กระไร เกรงจะเป็นเหมือน ....กลัว....ซักวันฉันอาจจะเสียเธอไป...ณ ที่นี้คือหากเราเสียคุณแฟนไป คุณบ้านก็คงไปด้วยเพราะมันไม่มีชื่อเราเป็นคนสมรู้ร่วมคิดในการกู้ แถมไม่ได้จดทะเบียนกัน ถ้าเสียคุณแฟนก็คงเสียบ้านไปนั่น ถึงเลานั้นคงเซ็งน่าดู เพราะกว่าจะถึงวันนั้นเราก็คงผ่อนไปหลายบาท ชีวิตมันไม่แน่ไ่ม่นอนอ่ะเนอะ กันไว้ดีกว่าแก้ ใจคนมันยากแท้หยั่งถึง


แค่ทุกวันนี้ก็แย่อยู่และ ปัญหาที่อยู่คู่โลก บ้านสามีกับว่าที่ลูกสะใภ้ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเจอเรื่องจริงที่ยิ่งกว่าละคร เราเองก็พยายามจะอยู่อย่างสงบสุขเพื่อความสันติของโลก ก้มหน้าก้มตาทำงาน ใช้ชีิวิตของเราไป อยากอยู่เงียบๆ เรื่อยๆ เรียงๆ แต่บ้านคุณแฟนนี่แร๊งส์ ตลอด วันดีคืนดีก็มาถามเราว่าทำงานอะไร จะทำงานหรือเปล่า เมื่อไหร่จะอย่างนั้น เมื่อไหร่จะอย่างนี้ ไอ้นั้นที่บ้านมีตั้งหลายอันขอซักอันสิ อยู่สองคนจะใช้ไรนักหนา ไอ้นี่หล่ะมีไม๊ เงินหล่ะมีไม๊ ขอหน่อย ยืมหน่อย ตรู....จะบร้าตาย......


ทั้งหมดทั้งสิ้นยังอยู่ในใจเราส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งพูดคุยกับคุณแฟนไปแล้วว่า มันชักจะแรงเกินไปแล้วนะเธอ ชั้นก็มีพ่อมีแม่มีพี่เหมือนกัน ไม่เห็นใครจะมาวุ่นวายกับชีวิตชั้นอย่างนี้เลย ถ้าเธอไม่พูดชั้นจะตอบกลับไปมั่งแล้วนะ ว่า....
บ้านที่อยู่เนี่ยชื่อลูกชายคุณก็จริ๊งงงง...แต่มันเกือบจะถูกยึดนะถ้าไม่มีเงินชั้นนะ....
งานน่ะเหรอ...ชั้นจะทำไม่ทำก็ไม่เกี่ยวกับหัวxxxหัวxx ยังไงก็ไม่ได้ไปขอใครกิ๊นนนนน
ไอ้นั่นไอ้นี่ที่อยากได้...ชั้นคงให้ไม่ได้หรอก...อยากได้ไปซื้อเอาเองสิ ...ชั้นหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงนะยะ....
เงินเหรอ...มีอ่ะแต่ไม่ให้...เรื่องไรจะให้....ทำอะไรให้ชั้นหล่ะ นอกจากคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกเนี่ย...
เงินเดือนอย่าถามเลย...ชั้นได้มากกว่าลูกชายคุณแน่นอน....จบไม๊...ทุกสิ่งทุกอย่างยืนยันได้จากปากลูกชายคุณ ถามให้ตรงประเด็นดูสิ.....


จากนั้นมาคุณแฟนบอกว่าเค้าจะพูดเอง ก็ดี เราพูดเองคงมองหน้ากันไม่ติดไปตลอดชาติ เพราะมันเยอะละ เก็บสะสมมานาน แต่กระนั้นก็มีโทรมาเรื่อย เรื่องเงินๆ ทองๆ อ่ะเนอะ แค่นี้ปัญหาก็แก้ไม่ได้แล้ว ยิ่งหากต่อไปซื้อบ้านเดี่ยว มีหวังจะมาขอมีเอี่ยวนู่นนี่กันอีก ไม่อยากเชื่อคนเราจะเป็นกันไปได้ถึงเพียงนี้ เราเองอยู่ของเราดีๆ เฉยๆ เงียบๆ แต่ดันอยากมาวุ่นวายกับชีวิตเรา ทั้งๆ ที่คุณแฟนไม่ใช่ลูกชายคนเดียวสักหน่อย เราเองเป็นลูกคนเดียว ลูกสาวคนสุดท้องอีกตะหาก พ่อแม่ไม่เคยมาวุ่นวาน ตัดสินใจอะไรไปแล้วเค้าก็คอยเป็นแบ็คอัพให้ ไม่เคยจะมาวุ่นวาย ให้เราสร้างครอบครัวของเราเอง ปวดตับ!!! บ่นเรื่องบ้านคุณแฟนละของขึ้น อิอิ


แต่ก็คงมีบางคนคิดว่าแล้วเราทนไปทำไม ทนเพื่ออะไร มันเหมือน เกลียดตัวกินไข่อะไรทำนองนั้น แต่ทว่าเรื่องของคนสองคนมันก็พูดยากเนอะ เราก็คิดว่าเราเองก็อยู่กันสองคน ตราบใดที่ยังพอควบคุมได้อย่างนี้ และคุณแฟนก็ทำตัวดีขึ้น จากครั้งก่อนนานมาแล้ว ที่เราให้อภัยไปเรื่องของชู้สาว ตอนนี้ก็เงียบและเหมือนจะดีขึ้น แต่เราเองก็ไม่เคยวางใจ คนเคยเจ็บมันก็ย่อมระแวงอย่างนี้แหละ และที่บ้านคุณแฟนก็เชื่อฟังดี เหอะๆๆๆ อย่าเพิ่งคิดว่าเราเป็นจอมบงการนะ เราเปล่า เชื่อฟังในที่นี้คือ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เลิกงานกลับบ้านตรงเวลา วันหยุดก็อยู่บ้านตลอด ทำงานบ้าน รักหมาเหมือนที่เรารัก ไปไหนก็คอยไปด้วยกันตลอด (อันนี้หลังๆ เราอยากไปคนเดียวแล้ว ติดกันตลอดเหมือนชีวิตเรามันมีครึ่งเดียวยังไงไม่รู้)


คนเราทำความดีมันก็ย่อมได้ดี ส่วนเรื่องที่บ้านเค้ามาวุ่นวาย ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่มาให้เรารำคานบ้างบางเวลา แต่สักวันมันคงจะชัดเจนกว่านี้ ถ้าคุณแฟนยังไม่เปลี่ยนไปเราก็ไม่มีเหตุผลจะแยกทาง อยู่กันมา 5 ปี ลูก 5 ตัว (มะหมา) ความรับผิดชอบอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้


Create Date : 03 เมษายน 2554
Last Update : 3 เมษายน 2554 2:49:23 น. 1 comments
Counter : 4163 Pageviews.

 



.....แปลกจัง... ทำไมเข้าบ้านนี้... แล้วเน็ตไม่ยอมโหลดอ่ะ..


.....เลยอ่านได้ไม่หมดเลย...



...^-^...


โดย: saraburitrebor วันที่: 4 เมษายน 2554 เวลา:9:22:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

กระติ๊บริมทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนดีคนนึง ก็แค่นั้น อ่ะฮิ้วววว
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กระติ๊บริมทาง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.