|
๐ นี่มันอย่างไรกัน
สามเณรจ้อยเป็นเปรียญตั้งแต่ยังเป็นสามเณร วันหนึ่งอ่านพระบาลี มหาปรินิพพานสูตร ไปจนถึงภาณวารที่ห้า ได้พบข้อความว่า...
อิเม จ สุภทฺท ภิกฺขุสมฺมา วิหเรยฺยุ อสุญฺโญ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสฺ (ล.๑๐ น.๑๗๖ บ.๑๓๘)
แปลเป็นใจความได้ว่า...
"ดูก่อน สุภัททะ ถ้าภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ จะพึงเป็นอยู่โดยชอบไซร้ โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์"
ดังนี้... สามเณรจ้อยเกิดฉงนอยู่ตลอดเวลาว่า การเป็นพระอรหันต์นั้นเป็นกันได้ง่ายๆเช่นนี้ หรือว่าตนแปลพระบาลีนี้ผิด เพราะไม่รู้เท่าถึงอย่างใดอย่างหนึ่งมีความกลัดกลุ้มเป็นกำลัง
สามเณรจ้อยจึงพาคัมภีร์นั้น เข้าไปหาเจ้าคุณหลวงพ่อผู้เป็นสมภาร สอบถามถึงการแปลบาลี ตอนนี้ก็ได้ความตรงกันว่าสามเณรแปลถูก จึงได้เรียนถามขึ้นว่า... "จะเป็นพระอรหันต์กันได้ด้วยเหตุเพียงเป็นอยู่โดยชอบเท่านั้นแลหรือ" ท่านเจ้าคุณได้ยืนยันว่า เป็นเช่นนั้นจริง เพราะเป็นอยู่โดยชอบนั้นหมายถึง ตั้งอยู่ในมรรคมีองค์แปด
สามเณรจ้อยได้ถามขึ้นอีกว่า... "ก็พระสงฆ์ทั้งหลายในบัดนี้ ไม่ได้เป็นอยู่กันโดยชอบดอกหรือ?" ท่านเจ้าคุณได้โพล่งออกมา "ก็เป็นกันอยู่โดยชอบซิ"
สามเณรจึงเรียนถามต่อไปว่า "ถ้าเช่นนั้นก็ต้องมีพระอรหันต์ กันอยู่ทั่ว ทุกวัดวาอารามนะ ขอรับ?"
เงียบกันไปขณะหนึ่งแล้ว ก็มีเสียงซึ่งใครๆ แทบจำไม่ได้ว่าเป็นเสียงของ ท่านเจ้าคุณ ดังลั่นขึ้นแต่เพียงว่า....
" อื้อ....อื้อ.... ง่า.... อื้อ..ง่า...อื้อ... นี่มันยังไงกันนี่หว่า!..ง่า....ไปเถอะ!"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
มันเป็นการสุดวิสัยที่ใครจะตอบได้ เพราะพระบาลีนั้นก็ถูก พระเจ้า พระสงฆ์ ก็เป็นอยู่โดยชอบจริง... แต่แล้วก็ไม่มีใครเชื่อว่า พระอรหันต์ นั้นมีอยู่ตามวัดวาอารามทั่วๆไป และใครเป็นคนที่น่าสมเพชกว่าใคร ในระหว่าง ศิษย์-อาจารย์ รายนี้...
จากหนังสือ นิทานเซ็น โดยท่านพุทธทาสภิกขุ
Create Date : 08 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 8 ตุลาคม 2552 20:43:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 589 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|