สรุปคำอธิบาย กฎหมายลักษณะห้างหุ้นส่วน
ฉบับ 18-12-6 (สูตรเร่งโต) ,
ตอนที่ ๓ - ประวัติศาสตร์ห้างหุ้นส่วน
ก่อนจะเข้าเนื้อหากันจริงๆ ผมขอเขียนอะไร ฆ่าเวลาสัก 4-5นาทีก่อน
ในการทำมาค้าขายหาเลี้ยงชีพนั้น หากทำคนเดียวไม่ได้ก็จำต้องรวมกลุ่มกันทำ ชาวโอตาคุเรียกสิ่งนี้ว่า “พลังมิตรภาพ” นั่นก็เพื่อจะได้ช่วยเหลือจุนเจือกันในการบริหารกิจการงานของห้าง และรวมไปถึงการระดมทุนร่วมกัน ถ้าได้กำไร ก็เอามาแบ่งปันกันไป หรือถ้าขาดทุนก็ช่วยแชร์ความรับผิดกันไป และก็เพราะมันเป็นอย่างนี้ “ที่ใดมีผลประโยชน์ ที่นั่นมีความวุ่นวาย” จึงมีสารพัดปัญหาร้อยแปดพันเก้าเกิดขึ้นตามมา แต่ “ที่ใดมีปัญหา ที่นั่นก็ย่อมต้องมีการแก้ปัญหา” ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกๆรัฐที่จะต้องเล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ เพราะเรื่องการค้าการขายเป็นเรื่องที่สำคัญต่อคนในชาติ (และำำสำคัญต่อภาษีในยุ้งฉางของรัฐด้วย ฮ่าๆๆ) เลยจำเป็นต้องมีการกำหนด กฎ-กติกา ระเบียบปฏิบัติของผู้ที่จะร่วมลงขันทำมาหากินกันขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด และยุติปัญหาที่เกิดขึ้น
สำหรับประเทศไทย กฎหมายหุ้นส่วนนั้นมีมานานแล้ว จากหลักฐานที่มีอยู่ชัดเจน คือมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ต่อมามีฝรั่งมังค่าเข้ามาติดต่อค้าขายกับประเทศไทยมากขึ้น กฎหมายที่มีอยู่แต่เดิมฝรั่งจึงมองว่าล้าหลัง “เดอะ Codeของพวกยูไม่เลียทิตูด(Rectitude)กับอั๊วะง่ะ เซาะกราว... very much” เขาว่างั้น... เลยเป็นเดือดเป็นร้อนที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้มัน Rectitude กับฝรั่งขึ้นเรื่อยๆ จนถึงในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ออกมาบังคับใช้ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2467 ซึ่งได้มีการยกร่างเอามาจากกฎหมายประเทศอังกฤษเป็นส่วนมาก (ผู้พิพากษาสมัยนั้นคงคิดกันว่า ไอ้ฝรั่งพวกนี้หัวหมอกันดีนักงั้นเอากฎหมายประเทศการค้าตัวพ่อมันมายกร่างเสียเลย ลองมันพูดว่ากฎหมายไทยไม่Rectitudeกับมันอีกดูซิ พ่อจะเอาค้อนgavelนี่แหละจามหัวกบาลมันเข้าให้) และก็ได้มีการแก้ไขปรับปรุงแก้ไขกันมาโดยตลอด เพื่อให้กฎหมายมีความเหมาะสม ทันยุคทันสมัย ไปกับกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป...
ุุ^(๐๐)^