จะซื้อบ้านสักหลัง....แหม...มันปวดหัวจัง..!! ตอนที่ 3

สวัสดีทุกท่านที่ติดตามกันมาจากตอนที่แล้วค่ะ...วันนี้มาต่อกันตามสัญญา ว่าด้วยขั้นตอนการตรวจบ้าน....
ตอนที่พวกเราตรวจรับบ้านกัน...ขอยอมรับว่า ไม่ได้มีความรู้เลยค่ะ
ต้องให้วิศวกรโครงการสอนด้วยซ้ำ หะๆ....
ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร...เพราะใจร้อน คิดแต่ว่า อยากโอนบ้านเร็วๆ จะได้มาทุบๆ ต่อเติมตามที่วางแผนไว้
หลังจากโอน พอเริ่มทำนู่น รื้อนี่ ก็ไปเจอความบกพร่องของโครงการอีกเพียบค่ะ....แต่ทำอะไรไม่ได้ซะแล้ว...ต้องรับสภาพไป
วันนี้เลยมาแบ่งปัน...ตามที่พวกเราได้เจอจากประสบการณ์จริง...ซึ่งขอออกตัวก่อนว่า...เรื่องที่เล่าและความคิดเห็นต่อไปนี้ อาจไม่ถูกต้องทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ หากท่านใดคิดว่า มีสิ่งใดผิดพลาด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ

มาเริ่มกัน จากเตรียมอุปกรณ์คู่ชีพติดตัวไว้ทุกครั้งเวลาตรวจบ้านค่ะ...
- สติกเกอร์แผ่นกลมๆ ที่เป็นสีส้มสีเขียวสะท้อนแสง เอาไว้มาร์คตำแหน่งที่เราต้องการให้แก้
- กล้องถ่ายรูป เอาไว้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน กันลืม (และเดี๋ยวนี้กล้องอัดเสียงได้ เผื่อเอาไว้อัดเสียงเวลาช่างโครงการพูดจาไม่ดี หรือพูดอย่างทำอย่าง เราจะได้ไม่ต้องมาเถียงกันให้ปวดหัว...บางคนถึงขั้นพกกล้องวีดีโอไปถ่ายเลยก็มีค่ะ)
- ตลับเมตร เผื่อเอาไว้วัดนู่นนี่ค่ะ...
- ไขควง แบบที่มีหลอดไฟที่ก้น..เอาไว้เช็คพวกเต้าเสียบว่ามีไฟรึป่าวค่ะ
- กระดาษปากกาเอาไว้จดสิ่งที่เราสั่งแก้เอาไว้เตือนความจำ....และเอาไว้เช็คกับใบแจ้งซ่อมของโครงการ ที่ช่างจะให้เราเซ็นต์สั่งแก้งานทุกครั้งหลังตรวจ ซึ่งเอกสารตัวนี้ทางโครงการจะต้องให้เราเซ็นต์ทุกครั้ง พร้อมลงวันที่ และถ่ายสำเนาไว้ให้เรา 1 ชุดเป็นหลักฐานว่ามีการสั่งแก้งาน ณ วันนั้นๆ จริง ซึ่งหากขาดเอกสารตัวนี้ กรณีเค้าแก้งานไม่เสร็จ แล้วเราไม่โอน ทางโครงการอาจจะอ้างได้ว่า เราไม่ได้มีการสั่งแก้งานจริง เพราะไม่มีหลักฐานในการแจ้งซ่อม...กลายเป็นความผิดของเราไปค่ะ
ดังนั้น หากเราเข้าตรวจงาน และทางโครงการไม่ให้เอกสารนี้หลังการตรวจเสร็จสิ้น ให้ทวงถามทุกครั้งค่ะ

หลังจากได้อาวุธครบมือ....ก็เริ่มตรวจบ้านกันเลยค่ะ....เริ่มจาก
1. พื้น...ปัจจุบันบ้านโครงการส่วนใหญ่จะปูชั้นล่างและพื้นที่ส่วนกลาง ด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และชั้นบนในส่วนห้องนอน ด้วยพื้นไม้ลามิเนต
การตรวจกระเบื้อง...เริ่มจากการตรวจดูด้วยสายตาค่ะ ว่ามีตรงไหน แตก บิ่น เบี้ยว บุ๋ม นูนไม่เสมอกัน สีกระเบื้องเพี้ยน ยาแนวด่างดำ ก็เอาสติกเกอร์แปะไว้เลย พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานค่ะ...... และถ้าจะให้ละเอียดจริงๆ ควรเคาะ หรือเดินลงส้นทีละแผ่นค่ะ...ฟังเสียงว่า มีแผ่นไหนด้านล่างโปร่ง เพราะช่างปูแบบซาลาเปา ดังป๊อกๆ ไม่ดังปึกๆ ก็จัดการให้ช่างแก้เลยค่ะ
การตรวจพื้นไม้ลามิเนต...ดูรอยต่อต่างๆ ระหว่างไม้ ว่าห่างไป หรือว่าต่อชิดจนเกยกัน ระดับของพื้นที่ปู ว่าเดินแล้วรู้สึกว่าไม้ยวบลงมากหรือไม่ ถ้ารู้สึกได้ควรให้โครงการปรับพื้นก่อนปู การติดขอบบัว ตัวจบ ติดสนิทเรียบร้อยหรือไม่ บางเจ้าใช้ตะปูยิง ต้องคอยเช็คว่าตะปูโผล่หรือไม้เป็นรูจากการยิงตะปูก็ต้องมีการโป๊วเก็บรูให้เรียบร้อยด้วย สีของไม้ก็เช่นกัน ว่ามีส่วนไหนด่างหรือไม่ค่ะ

2. ผนัง....ตรวจดูด้วยตาเปล่าว่ามีรอยร้าว ปูนกระเทาะ ฉาบไม่เรียบ สีเพี้ยน รอยด่าง บัวร้าว หรือไม่...
ที่สำคัญอีกจุดของผนังคือ ตามขอบประตูหน้าต่าง ให้สังเกตว่ามีคราบเหลืองๆ หรือคราบน้ำหรือไม่ เพราะบ้านจัดสรรส่วนใหญ่ มักมีปัญหาน้ำรั่วเข้าตามวงกบประตู หน้าต่าง....ซึ่งหากตรวจรับหน้าฝนมักไม่ค่อยมีปัญหา เพราะจะเห็นชัดเจน แต่หากตรวจรับในช่วงหน้าแล้ง ให้ทางช่างโครงการลองเอาน้ำฉีดทดลองดูค่ะ ว่ามีน้ำไหลรั่วเข้าด้านในตัวบ้านหรือไม่

3. ฝ้า...งานที่ต้องตรวจก็มี งานสี ดูฝ้าว่าตกท้องช้างหรือไม่ (ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะในส่วนนี้) สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างในการตรวจฝ้าคือ ดูว่ามีรอยด่างเหลืองๆ จากน้ำหยดตรงบริเวณไหนหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ บริเวณเหนือฝ้าจะมีท่อน้ำอยู่ด้วย หากมีรอยด่าง แสดงว่ามีท่อน้ำรั่ว จะได้รีบแก้ไขค่ะ

4. บันได...ที่บ้านพวกเราเจอปัญหาอย่างจังที่บันไดค่ะ...เพราะตรวจกันไม่เป็น บ้านพวกเราเป็นบันไดที่เป็นแผ่นไม้วางบนปูนอีกที วิธีตรวจก็ง่ายๆค่ะ คือ ตรวจงานลักษณะเดียวกับการตรวจกระเบื้อง ให้เดินลงส้นหนักๆ เรียงขั้นไปเลยค่ะ...ว่าขั้นไหนดังป๊อกๆ หรือว่ารู้สึกมันคลอน....ให้เลาะแก้เลย เพราะแสดงว่าด้านล่างโปร่ง หรือปูไม่แน่น อันตรายค่ะ...ส่วนบันไดที่เป็นไม้ หรือเหล็ก ทั้งหมด เวลาตรวจก็ดูเรื่องบันไดเอียง ไม่ได้ฉาก ไม่ได้ระนาบค่ะ (ใช้อุปกรณ์จับระดับของช่างที่มีกระเปาะน้ำตรงกลางวัดดูว่าได้ระดับหรือไม่ค่ะ) ดูพื้นผิวว่าเรียบสวย ขรุขระมั้ย การทำสีมีรอยด่าง รอยปูดหรือไม่

5. ห้องน้ำ...เป็นส่วนที่สำคัญอีกส่วนค่ะ..สิ่งที่ต้องตรวจมีหลายจุดทีเดียว ได้แก่
- สโลปพื้น โดยการฉีดน้ำให้นองทั่วห้องค่ะ ทิ้งไว้สักครู่ ดูว่าน้ำไหลลงท่อหมดหรือไม่ มีส่วนไหน มุมไหน น้ำขัง ตัน ต้องให้แก้งานกระเบื้องและทะลวงท่อใหม่ค่ะ...ซึ่งวิธีนี้ใช้ตรวจเช็คบริเวณลานซักล้าง หรือบริเวณที่เป็นรางระบายน้ำได้เช่นกัน
- ให้ลองขังน้ำในบริเวณส่วนอาบน้ำค่ะ....โดยใช้ถุงพลาสติกกางปิดปากท่อระบายน้ำ แล้วเปิดน้ำ ให้ขังทิ้งไว้ ดูว่าระดับน้ำที่ขังไว้ลดลงหรือไม่ ถ้าลดลง มีความเป็นไปได้ว่า กระเบื้องห้องน้ำ หรือพื้นรั่ว ซึ่งอาจทำให้ส่งผลถึงห้องข้างๆ หรือรั่วไปยังห้องด้านล่าง ให้หาสาเหตุด่วนค่ะ (โดยทั่วไปโครงการควรจะทดสอบก่อนการปูกระเบื้อง แต่ถ้าทำได้ก็ลองทดสอบอีกรอบเพื่อความสบายใจค่ะ)
- ท่อน้ำ ต้องนำปั๊มน้ำความดันที่จะใช้ในบ้านจริงมาต่อค่ะ ลองเปิดน้ำทุกก๊อกทุกฝักบัวว่าไหลหรือไม่ และหากปิดก๊อกน้ำทุกก๊อก แต่ปั๊มน้ำยังทำงานแสดงว่า มีท่อน้ำรั่วในบ้าน และให้เช็คตามข้อต่อของสุขภัณฑ์ต่างๆ ว่ามีน้ำซึมออกมาหรือไม่ เพราะช่างโครงการมักพันเทปบริเวณข้อต่อไม่ดีทำให้น้ำรั่ว.....ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่คือ ทางโครงการมักเอาปั๊มน้ำความดันต่ำ มา test ซึ่งมักไม่แรงเท่ากับปั๊มน้ำจริงที่ใช้ ทำให้การตรวจงานระบบน้ำไม่ชัดเจนค่ะ
- ชักโครก บางคนแนะนำให้ซื้อขนมปังปอนด์ มาฉีกแล้วลองกดค่ะ ว่ากดลงหรือไม่....หะๆ แต่ตอนพวกเราไม่ได้ทำค่ะ โชดคีที่ไม่มีปัญหา
- อ่างล่างหน้า ให้ลองเปิดน้ำดูการระบายของน้ำทิ้ง ว่าเป็นไปได้สะดวกหรือไม่ ถ้าไหลช้าหรือตัน ก็ต้องแก้ให้เรียบร้อยค่ะ

6. ระบบไฟฟ้า...เปิดเช็คไฟทุกดวง ว่าติด และใช้งานได้หรือไม่ ไม่เฉพาะดวงไฟ ให้ตรวจสอบปลั๊กไฟเต้าเสียบต่างๆ ว่ามีไฟเข้าหรือไม่ (ใช้ไขควงที่มีไฟที่ปลาย จิ้มค่ะ ถ้าไฟติดแสดงว่าใช้ได้) แต่ยังหาวิธีตรวจปลั๊กทีวี กับปลั๊กโทรศัพท์ไม่ได้ ใครมีวิธีช่วยมาบอกด้วยนะคะ
หากมีการติดแอร์แถมให้ด้วย ก็ต้องลองเปิดแอร์ทุกเครื่องพร้อมกับไฟทุกดวงที่มีพร้อมกัน ดูว่ามีปัญหาหรือไม่

7. ช่องเซอร์วิส...ให้ลองเปิดช่องเซอร์วิสดูนะคะ แล้วชะโงกหน้าไปดู...ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เพราะบนช่องเซอร์วิส หรือเหนือฝ้า มักจะมีความลับของโครงการซ่อนอยู่ค่ะ เช่น ท่อระบายอากาศ มีหน้ากากตัวเครื่องอยู่ แต่ไม่ได้ต่อออกนอกบ้าน หรือสายไฟไม่ร้อยท่อ หรือแผ่นกันความร้อนปูไม่เรียบร้อย เป็นต้นค่ะ....ดังนั้น ควรเปิดตรวจเช็คดูทุกครั้ง เผื่อเจอแจ๊คพอตค่ะ

8. บริเวณ ดาดฟ้า หรือหลังคา...กรณี บ้านที่มีดาดฟ้า ให้ขึ้นไปเดินสำรวจค่ะว่า มีโครงสร้างอะไรผิดปกติ มีน้ำขัง หรือพื้นร้าว แตกหรือไม่ จะให้ดีควรลองฉีดน้ำให้นองเหมือนตรวจพื้นห้องน้ำ ดูว่ามีการรั่วซึมลงชั้นล่างหรือไม่ ซึ่งมักเป็นปัญหาของบ้านมีดาดฟ้าค่ะ....
กรณีหลังคา ให้โผล่หน้าขึ้นไปช่องเซอร์วิสชั้นบนสุดดูค่ะ ถ้าปีนได้ ปีนขึ้นไปเช็คดูความเรียบร้อยว่า โครงการเผลอลืมใส่กระเบื้องตรงไหนรึป่าว หรือมีรอยน้ำขังหรือไม่ แผ่นกันความร้อนใส่ครบมั้ย หรือสักแต่วางๆไปกลายเป็นที่รองน้ำฝนตอนหลังคารั่วซะอีก (ที่บ้านโดนจังๆ ค่ะ โผล่หัวขึ้นช่องเซอร์วิส เจอรูเห็นท้องฟ้า ...อ้าว ช่างลืมใส่กระเบื้อง ดีที่ไม่ใช่หน้าฝน เลยรอดไป แผ่นกันความร้อน ก็วางๆ ไป แถมบางอีกต่างหาก ไม่รู้ว่าจะใส่ให้ทำไมเพราะไม่ได้ช่วยอะไร...เซ็งค่ะ - -")

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552		7 comments
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2552 1:54:32 น.
Counter : 1160 Pageviews.
Share Tweet