รักเด็กตาหวาน
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Diary ของมิว. Part III

28 มกราคม 2008

คอนเสริตของพวกเราจะจัด ที่โรงหนังสกาล่าสองรอบ บ่ายโมง กับ หกโมงเย็น พี่เดียวหน้าบานเดินมาบอกว่า บัตรขายหมดแล้ว มีคนขอจองตั๋วเสริมด้วย ไชโย !!!! แต่ก็ยิ่งกดดัน ถ้าร้องเพี้ยน หรือ เล่นหลุด มีหวังตายหมู่แน่ๆ ทุกคนในวงเครียดกันหมด ซื้อแอร์เอ็กมาสองกล่อง ไม่ถึงครึ่งวันก็หมด มียาบ้าผสมหรือเปล่าเนี่ย

วันนี้มีรายการทีวีมาถ่ายพวกเราที่โรงเรียน ในฐานะนักเรียนที่ทำชื่อเสียงให้ บราเดอร์สมชาย ผุ้อำนวยการมาดูแลด้วยตัวเอง ท่านเป็นคนนึงที่คอยสนับสนุนพวกเรามาตั้งแต่ต้น ยอมให้โดดเรียนไปประกวดจนคว้าถ้วยมาประดับ Hall of Frame หลายใบ พวกเราพาทีมงานเดินชมโรงเรียน

สถานที่ที่พวกเราก็จะต้องจากไปในไม่ช้านี้ พิธีกรถามพวกเราเรื่อง การเรียน ต่างคนก็มองหน้ากันได้แค่ สามนิดๆ กันทั้งนั้นแหละพวกเรา ไม่ได้มีโอกาสไปเหยียบห้องคิงกับใครเขาหรอก

สัมภาษณ์เสร็จ บราเดอร์ก็เรียกเรา ไอ้เอ็กซ์ ไอ้ต่อ ไอ้แวน เข้าไปคุย ท่านบอกจะให้เด็กห้องคิงมาติวให้พวกเรา เค้าอยากหารายได้พิเศษ คงมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย พวกเราตอบครับ อย่างพร้อมเพรียงกัน อยากกระโดดกอดบราเดอร์มาก ติวเตอร์ของพวกเราชื่อ สน ติดหมอจุฬาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว แต่ไปAFSที่ สวีเดน เลยต้องกลับมาเรียนต่ออีกเทอมนึง เก่งว่ะ

โลกมันกลม หรือ คนมันตั้งใจ ไม่รู้เหมือนกัน สน ที่จะมาติวให้พวกเราก็คือคนที่ส่งจดหมายให้เรานั่นเอง มิน่าพอมาเจอกันก็นั่งจ้องเราเขม็ง ไอ้เอ็กซ์ก็ไม่ยอมบอก มันอ้างว่าลืม กูคงเชื่อมึงหรอกนะ มันกลัวเราไม่ยอมลงขันจ้างมากกว่า เราพยายามทำตัวเฉยๆ นั่งฟังติวเตอร์สรุป วิชาเลข ต่อด้วยภาษาอังกฤษ ต่อด้วย ภาษาไทย มันจะต่อสังคมด้วย แต่พวกเราโวย ไม่ไหวแล้ว ติวมาสี่ชั่วโมงเหมือนเรียนสี่ปีเลย เข้มข้นมาก คุ้มค่าเงินจริงๆ เกือบหกโมงพวกเราต้องไปซ้อมต่อด้วย เหนื่อยแทบตาย ระหว่างรอรถบริษัท สนเดินเข้ามาขอเบอร์โทรเรา ไอ้เอ็กซ์ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่มองหน้าเรา ไอ้ต่อกับไอ้แวนไม่รู้เรื่องจดหมาย ถ้าไม่ให้คงโดนซักตาย แค่เรื่องโต้งไอ้พวกนี้ก็ไม่หยุดล้อซะที เราตัดสินใจให้เบอร์มือถือไป คงไม่เป็นไร เค้าอุตส่าห์มาติวให้ เผื่อมีข้อสงสัยอะไรจะได้ถามสะดวกๆ

โต้งโทรมาตอนอยุ่บนรถพอดี ได้คุยกันนิดหน่อย เพราะพี่เดียวบรีฟเรื่องคิวเพลง ไว้ค่อยโทรมาคืนนี้อีกที

มีต่อ

ไอ้เอ็กซ์ มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ มันคงคันปากอยากถามเต็มที แต่พี่อ๊อดก็ไม่เปิดโอกาสให้ง่ายๆ ยังคงบรีฟต่อไปอย่างเมามันส์ เจ้าปิงปองแอบมากระซิบว่าจะโชว์ควง แซก กับ ทรัมเป็ต จริงๆ อยากห้ามแต่ก็อยากดูว่ะ เลยบอกมันซ้อมให้ดีๆ ละกัน ไอ้เอ็กซ์ส่งสายตามาอีกแล้ว ไม่คุยโว๊ย ยังแก้โจทย์ข้อนี้ไม่ได้เลย พี่เก๋คอสตูมก็วัดตัวไม่เสร็จซะที มือถือดังอีกแล้ว สงสัยโต้ง อยากไปรับแต่พี่เก๋ทำตาเขียวใส่ รออีกแป๊บละกัน

โต้งโทรมาจริงๆ กำลังจะโทรกลับ สนก็โทรเข้ามา กำลังตัดสินใจ ไอ้แวนเดินมาข้างหลังบอกให้เรารับ เพราะมือถือมันแบตหมด จะนัดติวพรุ่งนี้ เรากดรับ พอดีกับที่โต้งโทรเข้ามาอีกที ตัดสายซ้อนบอกให้โต้งวางก่อน แต่กว่าจะได้โทรไปหาโต้งก็เกือบชั่วโมง เพราะไอ้สามตัวนั่นมารุมถาม เรื่องที่ติววันนี้ เราก็ด้วย เหมือนไม่ได้มีอะไรเข้าสมองเลย จะสอบ ANET อยุ่อีกไม่กี่วันนี่แล้ว สนถามเราอยากเข้าจุฬา หรือ ธรรมศาสตร์

เราบอกอะไรก็ได้ ขอให้ติดเถอะแต่ใจอยากได้จุฬามากกว่า สนเลยแช่งขอให้ติดศิลปากร เออก็น่าสนใกล้บ้านดี เพิ่งรู้ว่าบ้านสนอยู่แถวเยาวราช ใกล้ๆบ้านไอ้ต่อ ทำไมหน้าตามันห่างกันจังวะ คนนึงยังกับพระเอกละคร อีกคนหน้าเหมือนเต้าหู้ไข่ โดนไอ้ต่อเขกหัวฐานชมมันต่อหน้า อาย

ถามโต้งว่าอยากมาติวด้วยกันไหม โต้งบอกยังไม่แน่ใจเพราะมีติวที่สยามหลายที่เหมือนกัน เกิดเป็นเด็กม.หกนี่ เหนื่อยชะมัด โต้งถามเรื่องคอนเสิรต บอกตื่นเต้นแทนเรา โต้งจะไปกับพวกหญิง มีถามเราด้วยว่าอยากได้ดอกไม้หรือเปล่า บ้าเหรอโต้ง ไม่ใด้ประกวด AF นะ แค่มาดูก็ดีใจมากแล้ว โต้งบอกบัตรฟรียังไงก็ต้องมาดู เออนะคนเรา โต้งวางสายไปแล้ว แค่นี้ก็พอ แค่ได้ยินเสียง เรายิ้มให้ตัวเอง ไอ้เอ็กซ์ ยังมาเดินวนๆอยู่ ไม่สนมันเหมือนเดิม เดินไปคุยกับพี่เดียวเรื่องเพลงใหม่อีกรอบ

ไอ้สามตัวก็ยังมานอนบ้านเราเหมือนเดิม กำลังคิดจะเก็บค่าเช่าพวกมัน รอปรึกษากับป้าอรพรุ่งนี้

ปล. จะซีร็อกซ์ที่ติววันนี้ให้นะหญิง



Create Date : 04 เมษายน 2551
Last Update : 4 เมษายน 2551 12:59:06 น. 15 comments
Counter : 503 Pageviews.

 
29 มกราคม 2008

เช้านี้ป้าอรทำข้าวต้มปลา ปกติเดือนนึงจะได้กินครั้งสองครั้ง ป้าบอกทำให้เรากินคนเดียวไม่คุ้ม ที่ทำวันนี้รู้หรอกป้าอรทำให้ไอ้แวน ก็มันเล่นเปียโนซะหวานจับใจคนแก่ โดยเฉพาะเพลงของอาม่า เรายังน้ำตาคลอ คิดถึงอาม่าที่สุด ไอ้เอ็กซ์ดึงแขนเรามาคุยด้วยจนได้ ตื้อจริงเลยมึง

มันถามเราเรื่องสน ก็ไม่รู้จะตอบอะไรมัน เพราะไม่มีอะไรจริงๆ เลยถามมันกลับขำๆ อยากเชียร์เรากับสนหรือไง มันมองหน้าเรานิ่ง ไม่มีแววล้อเล่นเหมือนทุกที ไม่ตอบคำถามเราแต่กลับย้อนว่า เชียร์ไม่ขึ้นหรอก ก็เราเป็นแฟนกับโต้งไม่ใช่เหรอ เสียงมันจริงจังผิดปกติว่ะ เรามองหน้ามันกลับ มึงเป็นไรวะไอ้เอ็กซ์ มันตบหัวเราเบาๆ เหมือนเคย ไม่พูดอะไรเดินเข้าบ้านไปกินข้าวต้มกับไอ้แวนที่กำลังเติมชามที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ทิ้งเรายืนงงอยู่หน้าบ้าน อะไรวะ

พวกเรานัดติวกับสนตอนสิบเอ็ดโมง ถึง บ่ายสาม วิชาละชั่วโมง จ่ายไปคนละพัน ตกแล้วชั่วโมงละ 250 แถมต้องเลี้ยงข้าวคนติวด้วย อิจฉาว่ะ ทำไมเราไม่เกิดมาฉลาดอย่างนี้บ้างนะ สนทำสรุปแต่ละวิชา อ้างอิงหนังสือโน่นนี่ ติวที่อาจารย์คนนั้นสอนอย่างนี้ อีกคนเน้นตรงนั้น พ่อแม่อยากให้สนเป็นหมอ ก็เลยทุ่มเทเต็มที่ ไม่แปลกใจเลยทำไมมันเก่งนัก เล่นติวตั้งแต่ยังไม่ขึ้น ป.หนึ่ง เราถามว่าอยากเป็นหมออะไร สนยิ้มๆ บอกอยากเป็นหมอเด็ก เรามองหน้าสน คิดในใจ หน้าตาโหดอย่างนี้เด็กทีไหนจะยอมไปรักษาด้วย สนถามเรากลับบ้าง เราก็ตอบไปงง ไม่รู้ว่ะ แค่ตอนนี้เอ็นท์ให้ติด ทำเพลงให้ดี ก็หมดเวลาหายใจแล้ว สนเอาแผ่นซีดีมาขอลายเซ็นต์ พวกเราด้วย ไอ้ต่อถามว่าชอบเพลงไหน สนบอกชอบทุกเพลง

สนเหมาะจะเป็นครูมาก มีเตรียมการสอนมาอย่างดี ชี้จุดที่เราน่าจะโง่ แล้วพวกเราก็โง่โชว์จริงๆด้วย ไปอยู่ไหนมาวะถ้าได้รู้จักกันก่อนหน้านี้ มีหวังได้อยู๋ห้องคิงแน่เรา ไอ้เอ็กซ์อีกแล้วมองเราคุยกับสนแปลกๆ มึงเป็นไรของมึง กูถามก็ไม่ตอบ แต่เห็นหน้านิ่งๆอย่างสนเนี่ย ตั้งริงโทนหวานแหวนมากเพลง หยดน้ำ ของพี่เบิร์ด ฟังไปฟังมาก็เพราะดี ไอ้ต่อก็ใช่ย่อย เพลง สักกะนิด ของทาทา นี่ สมัยอนุบาลเลยนะมึง ของไอ้แวนกับไอ้เอ็กซ์ ตั้งเพลงกันและกัน มันเอามือถือเราไปตั้งด้วย เออเป็นบอยแบนด์ไปเลยพวกเรา แล้วของโต้งเพลงอะไรนะ ไว้โทรหาดีกว่า


มีต่อ

ไอ้เอ็กซ์ตะโกนเสียงดังลั่นห้องซ้อม อีกสามอาทิตย์สู้ตาย ทุกคนนั่งนับนิ้ว มันนับยังไงของมันวะ น้องอ้วนเดินไปบอกไอ้เอ็กซ์แบบเกรงใจว่า เราเล่นวันเสาร์หน้านะพี่ ไอ้เอ็กซ์หน้าซีด มองเราเหมือนจะขอความช่วยเหลือ แต่เราก็ขำไปกับทุกคน เสร่อที่สุดเพื่อนกู ไอ้แวนตบหัวมันส่งท้าย ใช่แล้ว วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2008 คอนเสริตใหญ่ครั้งแรกของพวกเรา ทุกคนตื่นเต้นกันมาก เหลือเวลาอีกแค่สิบวัน ทุกครั้งที่ซ้อมเราพยายามคิดว่ากำลังร้องจริง จะได้ไม่สั่น พี่อ๊อดยังไม่รุ้ว่าเจ้าปิงปองจะควงแซ็กโชว์ หวังว่าจะออกมาดีนะ แต่ถ้าล่มเราจะหัวเราะมัน

โต้งส่ง MMS รูปขนมของร้านขนมมาให้ พร้อมข้อความ “ถ้าอยากกินก็บอกมา” น่ารักชะมัด แต่เราคงยิ้มมากเกินไป ไอ้แวนยักคิ้วแซวมาอีกแล้ว ส่ง sms ตอบกลับไป “อยากกิน”

สนโทรเข้ามาเลื่อนติวเป็นตอนบ่ายสอง ขอพี่อ๊อดมาซ้อมช้าหน่อย พี่เดียวเรียกเรา กับน้องๆ คอรัสไปซ้อมอีกรอบ เสียงไม่สั่น ไม่เพี้ยน น้องๆ ก็เยี่ยม ขอให้เป็นอย่างนี้จนถึงวันงานเถอะ

ไอ้เอ็กซ์ กลับบ้านไปดูหมา ไอ้แวนกับไอ้ต่อมาค้างด้วย พวกมันจะมาค้างจนถึงวันคอนเสริต

ปล. ถึงหญิง อย่าแปลกใจที่ห้องเรารกมาก ฝีมือไอ้เอ็กซ์ กับ ไอ้ต่อ


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:01:19 น.  

 
30 มกราคม 2008


ไปสัมภาษณ์ที่สยามแต่เช้า โดดเรียนอีกแล้ว ดีที่สนจะไปติวให้พวกเราที่สยามด้วย ตั้งแต่มาติวกับสนรู้สึกเราจะเข้าใจเนื้อหาที่เรียนมากขึ้น เริ่มหวังสูงอยากเลือกนิเทศน์จุฬา แต่คะแนนโอเน็ทก็กระชากเรากลับมาสู่ความเป็นจริง ทำไมไม่ขยันซะตั้งแต่ ม.4 นะ เป็นคำถามที่เราและไอ้แวนถามตัวเองอยู่ทุกวัน แต่ที่ผ่านมาพวกเราก็มีความสุขดี ทั้งเล่นดนตรี ตั้งวง ประกวด เล่นคอนเสิรต อย่าโลภให้มากดีกว่านะคนเรา

นัดเจอสนที่ ดังกิ้นโดนัท นั่งรอที่ชั้นสอง สนมาช้าเกือบชั่วโมงคงรถติด แต่ขนมฟรั่งกุฎีจีนที่แบกมาฝาก ก็ทำให้เราอภัยให้ เมื่อก่อนอาม่าชอบกินมาก ให้ป้าอรไปซื้อที่ท่าพระจันทร์มาให้กินทุกอาทิตย์ เรามองขนมแล้วก็คิดถึงอาม่า ไม่ยักรู้ว่าอย่างสนก็ชอบเหมือนกัน พวกเราติวกันไปกินกันไป จนเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ พนักงานร้านต้องมาเตือน สนเข้ากับพวกเราได้ง่าย แต่เราก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าสนกับเอ็กซ์ มีเรื่องอะไรกัน พวกมันชอบแอบไปคุยกันสองคนบ่อยๆ สงสัยแต่ไม่อยากถาม ไม่เกี่ยวกับเราไม่อยากสอดรู้สอดเห็น

โทรบอกให้รถที่บริษัทมารับตอนสี่โมงเย็น เพราะฉะนั้นพวกเราต้องเลี้ยงข้าวสนด้วย กินก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ง่ายๆ สนสั่งเหมือนเราทุกอย่าง เออแปลกแฮะ ความจริงเราเริ่มสังเกตุมาได้สักพักแล้ว ทำไมสนชอบอะไรเหมือนๆพวกเรา แถมคุยอะไรก็รู้เรื่องไปซะหมด ก็ดีที่ไม่ต้องมานั่งเล่า แต่มันจะมีเหรอคนที่จะเหมือนเรา ชอบอะไรเหมือนกันไปซะทุกอย่าง แปลก

โต้งโทรเข้ามาตอนกำลังรอรถที่บริษัท จะให้แวะไปส่งสนที่บ้านด้วย เราคุยกับโต้งต่อหน้าไอ้สามตัวนั้นเป็นเรื่องปกติ จนลืมไปว่าสนก็ยืนอยู่ด้วย สนมองเราตลอดเวลาที่คุยโทรศัพท์ พอเราวางสาย สนก็หลบตา แปลก เรากะว่าจะถามแต่รถก็มาถึงพอดี พี่อ๊อดบรีฟ คิวใหม่หมด ตายแน่กู

ต่อ

ก่อนลงจากรถ สนถามเราว่า เคยดู 2046 ไหม เราตอบว่าเคย สนยิ้ม ไม่พูดอะไร แปลกที่สามแล้วนะวันนี้ ไอ้นี่มันเป็นอะไรของมันวะ ไอ้เอ็กซ์ ถอนหายเสียงดัง ไอ้แวนตบหัวมันไปที รบกวนสมาธินะมึง ไอ้นี่ก็แปลก หรือมันสองคนมีความลับอะไรกัน ชักอยากรู้ขึ้นมา

พอไปถึงห้องซ้อม ปรากฏว่า คิวที่อ๊อดบรีฟให้เมื่อกี๊ เป็นของวงอื่น มิน่าทำไมออกัสมีไวโอลินด้วย พี่เดียวล้อจนพี่อ๊อดเขิน เดินเข้าห้องน้ำไปเลย ชอบเวลาพี่เดียวกับพี่อ๊อดอยู่ด้วยกันตลกดี แต่เวลาโหดก็เสียวสันหลังเอาเรื่อง โดนเรียกไปลองชุดครั้งสุดท้าย คราวนี้ใส่เสื้อเชี้ตสีเทาทับด้วยเสื้อคลุมสีขาว เสื้อเชิ้ตพอดีตัวมาก จนแทบขยับแขนใม่ได้ แต่ก็เท่ห์ดี พี่เดียวเรียกมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เหมือนวงบอยแบนด์ ส่งรูปวงกับรูปเดี่ยวให้โต้งดู พร้อมข้อความ “ เดอะ ออกัส “ โต้งโทรมาแซว แล้วก็เล่าเรื่องเพื่อนที่ตกบันใด เราเคยเจอแต่ไม่ได้คุยด้วย ก็ฝากให้หายดีเร็วๆ จะได้มาดูคอนเสิรตกัน ขอบใจโต้งเรื่องขนม แล้วก็เล่าให้โต้งฟังว่า วันนี้ได้กินขนมขนมฟรั่งกุฎีจีนด้วย คิดถึงตอนเด็กๆ ชวนโต้งมาดูซ้อมพรุ่งนี้จะได้เอาที่ติวให้โต้งไปซีรอกซ์ โต้งเหมือนอยากถามอะไร แต่ก็ไม่ถาม ทำไมคนรอบตัวเราช่วงนี้มีแต่แปลกๆ



วันนี้ได้ซ้อมนิดหน่อย ส่วนมากจะคุยเรื่องเสื้อผ้า รองเท้า ที่บางคนใส่ไม่ได้เช่นไอ้ต่อ และ ไอ้เอ็กซ์ พี่แก้วลืมรองเท้าน้องอ้วนไว้ที่ร้าน ทำเอาน้องอ้วนร้องไห้ เพราะถูกลืม ยิ่งเห็นพวกพี่ๆ แต่งหล่อกันถ่ายรูป แถมยังงอนไม่ยอมมาถ่ายรูป จนเจ้าปิงปองต้องซื้อลูกชิ้นมาล่อ พวกเราตื่นเต้น แต่ก็อยากให้วันงานมาถึงเร็วๆ
สนโทรมานัดติวพรุ่งนี้สิบเอ็ดโมงเหมือนเดิม ยังถามเราว่าชอบ Francis Yip ไหม เราแปลกใจ เป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันนี้ก็ไม่รุ้ที่สนทำให้เรารู้สึกอย่างนี้ อยากจะถามแต่ก็โดนดึงไปคุยเรื่องอื่นก่อน จนลืมไป จะว่าไปสนกับไอ้ต่อ นี่ก็สนใจอะไรเหมือนๆกัน หนังเก่าๆ เนิบๆ เพลงจีนเก่า เพลงไทยเก่าๆ เราเองก็ชอบที่มีคนสนใจอะไรเหมือนๆ กัน สนถามพรุ่งนี้อยากกินขนมไทยโบราณบ้างไหม ที่บ้านจะทำช่อม่วง เออน่าสนใจ ช่วงนี้มีแต่ขนมมาให้กิน น้ำหนักชักจะขึ้น ไม่เป็นไรพรุ่งนี้จะออกไปวิ่งแต่เช้า

ปล. ถึงหญิง ขอโทษนะที่หาบัตรเพิ่มให้ไม่ได้ พี่อ๊อดบอกขายหมด ตั้งแต่สองวันแรก


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:06:28 น.  

 
31มกราคม 2008


ไม่ได้โควต้าศิลปกรรมจุฬาจริงๆ เพื่อนป๊าโทรมาบอก เสียใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไรชีวิตยังต้องเดินต่อไป โทรหาโต้ง แต่โต้งก็ไม่ได้ปลอบใจเราเลย เอาแต่เล่าเรื่องเรียน เรื่องเพื่อนที่ขาหัก เราไม่อยากขัดก็เลยทนฟังจนจบ โต้งเพิ่งรู้สึกว่าเราเงียบไปเลยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เสียใจเหรอ ไม่เป็นไรหรอกนะ โธ่โต้ง นี่เราต้องไปรอลุ้นตอนสอบเอเน็ท เลยนะ แล้วยังจะเรื่องคอนเสริตอีก แต่เราก็ไม่ได้พูดออกไป สนโทรเข้ามาเป็นสายซ้อน เราเลยได้โอกาส ขอตัดสายโต้งไปก่อน รู้สึกไม่ค่อยดี ทำไมโต้งไม่สนใจเรื่องของเราบ้างเลย ไม่รู้เพราะอารมรณ์ไม่ดีรึเปล่า สนคงจับเสียงเราได้ เลยถามว่าเราเป็นอะไร เครียดเหรอ เราเลยเล่าเรื่องที่ไม่ได้โควต้า สนหัวเราะบอกว่า อย่างเราเรียนพวกนิเทศฯ หรือ วารสารดีกว่านะ โหแต่
ละคณะคะแนนสูงลิบ อยากได้อยู่หรอกแต่ไม่ค่อยกล้าหวัง สนเลยสัญญาว่าจะติวเราให้หนักขึ้น ไม่ต้องห่วงเราต้องติดแน่ ได้ยินสนมั่นใจขนาดนั้น เราเลยสบายใจขึ้น โต้งโทรเข้ามา แต่เรายังไม่อยากคุยเลยคุยกับสนต่อเรื่อง ที่จะติวกันวันนี้

เกือบเจ็ดโมงครึ่ง สนมาถึงหน้าบ้านเรา เพราะคุยไปคุยมา สนก็บ่นว่าอยากได้ Nirvana ชุดแรกแต่หาซื้อไม่ได้ เราเลยบอกว่าจะให้ เพราะดันเสร่อ ซื้อมาสองแผ่นซ้ำกัน จะเอาไปให้ที่โรงเรียน แต่สนบอกจะมาเอาที่บ้านเพราะพ่อขับรถมาส่ง จะได้แวะรับเราไปด้วย เออดีไม่ต้องขึ้นรถเมล์ พ่อสนก็เป็นหมอ หน้าตาดุๆเหมือนกันแต่พอได้คุย ก็รู้เลยว่าใจดีมาก สนเคยเอาเพลงเราให้พ่อฟังด้วย ได้รับคำชมใหญ่รู้สึกภูมิใจ ยิ่งพอเราบอกว่าเราแต่งเพลงทั้งหมดเองด้วย พ่อสนท่าทางแปลกใจ ยิ่งชมเราอีก นอกจากขนมช่อม่วง ยังมีพวกแซนวิชเป็นอาหารเช้าด้วย ขนาดเรากินโจ๊กมาแล้วยังอดอร่อยไปด้วยไม่ได้ สนบอกเรากินอะไรก็ดูอร่อยไปหมด นี่หาว่าเราตะกละรึเปล่าเนี่ย ก่อนลงจากรถพ่อสนยังถามว่ามีตั๋วคอนเสริตอีกไหม อยากไปดู เราบอกหมดตั้งแต่สองวันแรกแล้ว พ่อสนบอกงั้นจะช่วยซื้อเทป ดีใจที่คนรุ่นพ่อก็ชอบเพลงของพวกเรา

โดนไอ้แวนแซวว่าอ้วนขึ้น ตกใจ รีบวางขนม เออจริงด้วย รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน เมื่อเช้าก็ตื่นสายไม่ได้ออกมาวิ่ง ไอ้เอ็กซ์เลยตอกย้ำให้เรายิ่งวิตกว่า เสื้อมันคงไม่ได้ตัวเล็ก แต่เป็นเราที่อ้วนขึ้น วางโค๊กทันที ต่อไปนี้จะกินแต่น้ำเปล่า สนบอกเราผอมจะตาย เออเชื่อใครดีวะ ไอ้แวนไอ้เอ็กซ์ รู้จักกันมาเกือบหกปี สนเพิ่งรู้จักไม่ถึงอาทิตย์ เชื่อสนดีกว่า กินขนมต่อไป น้องปิงปองวิ่งมาบอกว่า พี่อ๊อดใส้ติ่งอักแสบต้องผ่าตัดด่วน ตกใจ โทรไปหาพี่เดียว สรุปแล้วพี่อ๊อดต้องนอนโรงพยาบาล สองสามวัน เย็นนี้จะไปเยี่ยมพี่อ๊อดก่อน แล้วค่อยไปซ้อม โต้งโทรเข้ามา เล่าเรื่องพี่อ๊อดให้ฟัง โต้งจะไปเจอที่โรงพยาบาลแล้วจะได้ไปห้องซ้อมด้วยกัน โต้งบอกอยากมาติวด้วย ถามไอ้สามตัวกับสน ทุกคนก็โอเค แต่โต้งมาได้เสาร์อาทิตย์เท่านั้น

โลกกลมอีกแล้ว หมอเจ้าของไข้พี่อ๊อดคือพ่อสนนี่เอง เราเลยได้แจกสายเซ็นต์ ให้หมอและนางพยาบาลหลายสิบคน เพราะพ่อสนเอาพวกเราไปโปรโมท เกือบห้าโมงเย็นโต้งก็มาถึง เอาชีทที่ติวกับสนให้โต้งดู โต้งบอกชั่วโมงละสองร้อยห้าสิบคุ้มมาก เพราะโต้งเรียนกวดวิชาหลายที่ คงเชื่อถือได้ เราคุยกับโต้งเหมือนปกติ ลืมความน้อยใจเมื่อตอนเช้า เพราะมันไร้สาระ

มีต่อ

โต้งไปห้องซ้อมด้วย ได้ร้องเพลง “ เช้าวันใหม่ “ ให้ฟังเป็นครั้งแรก ไม่ได้ถามว่าโต้งฟังแล้วเป็นยังไง เห็นนั่งฟังยิ้มๆ จนจบเพลง แล้วก็ชมว่าเพราะดี เคืองโต้งนิดหน่อย แค่เพราะดีเองเหรอ แต่ก่อนกลับโต้งมากระซิบบอกเราว่า ต้องขอบใจรถที่เฉี่ยวเราวันนั้น เพราะโต้งก็รู้สึกเหมือนเพลงที่เราร้อง เดินออกไปส่งโต้ง ระหว่างทางบอกโต้งว่า เสาร์อาทิตย์นี้ สนจะมาติวที่บ้านเรา ไม่รู้พวกไอ้ต่อไอ้แวน จะมาค้างด้วยหรือเปล่า โต้งถามเราว่า อยากให้โต้งมาค้างด้วยเหรอ เราตกใจ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น โต้งหัวเราะ อ้อนี่แกล้งเรา แต่ก็ถามจริงๆ ว่าจะมาค้างไหมเพราะให้โต้งเทียวไปเทียวมาคงลำบาก โต้งบอก อาจจะมาค้างวันเสาร์ เพราะต้องไปเรียนตอนเช้าด้วย ย้ำอีกที เป็นเด็กมอหก นี่เหนื่อยจริงๆ โต้งถามว่าจะเอาขนมจากสยามไหม เราเลยนึกขึ้นได้ ถามโต้งว่า เราอ้วนขึ้นรึเปล่าเพราะไอ้แวนทักเมื่อเช้า โต้งมองเราตั้งแต่หัวจดเท้า บอกเราผอมลง เรายิ้ม บอกโต้งนอนหลับฝันดีนะ คืนนี้เราคงฝันถึงโต้ง โต้งมองเราตาค้าง ไม่รู้โต้งพูดอะไรรึเปล่า เพราะเราวิ่งกลับห้องซ้อมทันที เขินกับความกล้าของตัวเอง

เจอไอ้แวนกับไอ้ต่อ แซวตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้อง พยายามไม่มองหน้าพวกมัน ล้อได้ล้อไป แต่แปลกที่คราวนี้ไอ้เอ็กซ์เงียบ มันเล่นเพี้ยนนิดหน่อยเอง สงสัยต้องคุยกับมันแบบเปิดอกซะแล้ว มันต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ เป็นห่วงว่ะ

ปล. หญิง ไม่ต้องติวแล้วดีใจด้วยนะ


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:08:15 น.  

 
1 กุมภาพันธ์ 2008

ตื่นเช้าออกมาวิ่ง ชอบอากาศเย็นๆตอนเช้า กลับมาอาบน้ำ กินข้าวต้มกับปลาอินทรีทอด วันนี้คงฉลาดขึ้นเพราะได้โอเมก้า 3 แต่เช้า

วันนี้อารมณ์ดี โต้งส่ง sms มาก่อนเราตื่นว่า ฝันถึงเรา ฮัมเพลงเช้าวันใหม่ออกมาโดยไม่รู้ตัว ป้าอรก็ยิ้มแกชอบเพลงนี้ เคยบอกว่าเพราะเหมือนเพลงปลุกใจสมัยก่อน จะโกรธดีไหมเนี่ยแต่มีคำว่าเพราะ ก็คงดีล่ะมั้ง นั่งอ่านตำราที่สนให้มาเมื่อวาน เน้นเลขกับภาษาอังกฤษ เพราะวิชาอื่นพอทำได้ เริ่มคิดเรื่องสนกับไอ้เอ็กซ์อย่างจริงจัง เหมือนว่าเคยเห็นมันสองคนคุยกัน ก่อนหน้าที่สนจะมาติวให้พวกเรา กำลังจะโทรหาไอ้เอ็กซ์ สนก็โทรเข้ามาพอดี หรือจะถามเจ้าตัวก่อนดี สนถามว่าจะให้ไปรับไหม เพราะพ่อจะขับผ่านซอยบ้านเรา เออก็ดี บอกสนจะไปรอที่ป้ายรถเมล์ คราวนี้ต้องถามให้ได้

เกือบเจ็ดโมงครึ่ง เราติดรถมากับพ่อสน ยังไม่มีโอกาสได้คุยอะไรเท่าไหร่ พ่อสนถามเรื่องเรียน เรื่องคอนเสริต เพิ่งรู้ว่าพ่อสนเล่นเปียโน กับไวโอลินด้วย เลยคุยเรื่องดนตรีกันจนถึงโรงเรียน บอกสนว่าเรามีเรื่องจะคุยด้วย สนทำหน้างงๆ แต่ก็พยักหน้า กำลังจะเริ่มถาม ไอ้เอ็กซ์โผล่มาจากไหนไม่รู้ รีบดึงเราไปคุยกับมือถือกับพี่อ๊อก บอกเรื่องด่วน ตกใจ คิดว่ามีปัญหาอะไร ก็แค่เลื่อนคิวซ้อมใหญ๋ เป็นวันพุธหน้าเท่านั้นเอง กำลังจะหันไปด่ามัน ก็หายหัวไปไหนกับสนแล้วไม่รู้ ชักไม่ได้เรื่อง มันสองตัวหลบหน้าเราแน่ๆ มีความลับอะไรวะ

โต้งโทรมาถามว่า วันนี้ไปดูซ้อมอีกได้ไหม ก็ตามใจโต้งแหละ ตอนนี้เราสนใจเรื่องสนกับไอ้เอ็กซ์มากกว่า ไม่ค่อยได้ฟังว่าโต้งพูดอะไร เหมือนๆจะบอกว่า จะมาค้างวันเสาร์ เราเห็นหลังสนไว เลยรีบวางสายโต้งไปก่อน เดินตามสนไปจนสุดทางเดิน เหมือนนักสืบเลยเรา แต่ความอยากรู้อยากเห็นนี่ห้ามกันไม่ได้จริงๆ สนเอาหนังสือไปถ่ายเอกสาร ไปห้องสมุดยืมหนังสือมาเพิ่ม สนนั่งอ่านหนังสือนานมาก จนเราเริ่มง่วง เลยกลับเข้าห้องเรียน เจอไอ้แวนเล่นเกมส์อยู่ ดูมันเล่นเกือบชั่วโมง เดินไปห้องสมุดอีกรอบ สนก็ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ คนอะไรขยันชะมัด จะเข้าไปกวนก็เกรงใจ รอตอนบ่ายก็ได้

สิบเอ็ดโมง นั่งติวกันเหมือนปกติ เราเพิ่งสังเกตุ ไอ้เอ็กซ์ กับ สนชอบมองกันบ่อยๆ บางทีไอ้เอ็กซ์ก็ส่ายหน้า สนก็ก้มมองหนังสือ เหลือบมองเราบ้างบางที สังหรณ์ใจว่าความลับของมันสองตัวจะเกี่ยวกับเรา กูไปทำอะไรมาวะ สงสัยสงสัย โต้งส่ง SMS มาบอกว่าจะมาที่ห้องซ้อมตอนหกโมง มีขนมมาให้ด้วย เรายิ้มมากไป โดนไอ้แวนแซวว่า จะเรียนหรือจะสวีท ตบหัวมันไปหนึ่งที โทษฐานปากไม่ดี และ ขี้อีจฉา สนส่งแบบฝึกหัดที่เราให้ตรวจคืน ถูกเกือบเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ เออ เริ่มเก่งขึ้นละ

มีต่อ


เกือบบ่ายสาม เราเริ่มง่วง ตาแทบจะปิด โดนสนเอาขวดชาเขียวเย็นแตะหน้าผาก สะดุ้งเลย อ้อ สนซื้อน้ำมาให้ ดีกำลังจะหลับได้อะไรหวานๆ จะได้ตื่น ไอ้แวนกับไอ้ต่อไปห้องน้ำ ไอ้เอ็กซ์ คุยโทรศัพท์ เราเลยกระซิบถามสนว่า มีอะไรกับไอ้เอ็กซ์ สนทำหน้างง หันไปมองไอ้เอ็กซ์ เราเลยรีบถามต่อ ก็เห็นสนกับเอ็กซ์ชอบแอบคุยกัน บางก็มองเรา เราก็อยากรู้ มีปัญหาอะไรกับเราหรือเปล่า สนมองไอ้เอ็กซ์ ที่ยังคุยโทรศัพท์อย่างเมามัน เหมือนขอความช่วยเหลือ เราถามย้ำอีกที สนถอนหายใจ มองหน้าเราแล้วบอกว่า สนจะไปเรียนเมืองนอก ไม่เข้าจุฬา เลยอยากทำความฝันให้เป็นจริงก่อนไป ไอ้เอ็กซ์ช่วยสนอยู่ เราสงสัย อย่างไอ้เอ็กซ์เนี่ยนะ ช่วยอะไรสนได้วะ ไอ้แวนกับไอ้ต่อเดินกลับมา ไอ้เอ็กซ์ก็ตามมาสมทบชวนไปกินน้ำแข็งใส ก่อนไปซ้อม

ระหว่างเดินไปโรงอาหาร เราดึงตัวไอ้เอ็กซ์มาคุย ถามเรื่องสนกับมัน ไอ้เอ็กซ์ทำหน้าเบื่อๆ บอกเรื่องไร้สาระ เราเค้นคอมันถามอีกที มันบอก สนอยากเล่นกีตาร์ให้วงออกัส แต่ไม่กล้าพูดกับเรา เออ เรื่องแค่นี้ทำไมไม่กล้าวะ ไอ้เอ็กซ์บอก ก็เราไม่เคยสนใจใครนอกวงออกัส จะให้สนมาพูดกับเราได้ยังไง เรางง ถามว่ามันหมายความว่ายังไง มันบอกไม่รู้เหมือนกัน ตกลงกูงงหรือมึงงงวะ เราเดินไปถามสน สนมองหน้าไอ้เอ็กซ์ พอไอ้เอ็กซ์พยักหน้า สนก็บอกขอแค่เล่นตอนซ้อมสักเพลงก็พอ ไอ้แวนกับไอ้ต่อมองหน้ากัน เราบอกแค่เพลงเดียวคงไม่เป็นไร สรุปวันนี้สนจะไปห้องซ้อมกับพวกเราด้วย

ทำไมเรายังรู้สึกว่าความลับของสนกับไอ้เอ็กซ์ ไม่ใช่แค่เรื่องกีต้าร์ แต่ก็ไม่รุ้จะถามมันยังไง ท่าทางมันสองคนไม่ค่อยอยากพูด ช่างมันวะ คิดไปก็รกสมอง หลับดีกว่า

ไอ้เอ็กซ์เอากีตาร์ ตัวเองให้สนลองสาย เพลงรู้สึกบ้างไหม เออดีแล้วที่ให้เล่นเพลงเดียว เพี้ยนกระจาย คร่อมจังหวะตั้งแต่ห้องแรก ยันท่อนฮุค ไอ้แวนขำจนเล่นต่อไม่ได้ ไอ้ต่อสายหน้าบ่นพึมพำอะไรสักอย่าง ไอ้เอ็กซ์หน้ามุ่ย มันคงคิดก็เล่นแย่ซะขนาดนี้ จะให้ช่วยยังไง เรานับจังหวะให้สน ร้องคลอจนจบเพลง ดีใจที่จบเสียที มาคิดดูคนเราก็ไม่ได้เก่งไปซะทุกอย่างหรอกนะ สนยิ้มดีใจ ขอบใจเรากับไอ้เอ็กซ์ ขอถ่ายรูปร่วมกับวงออกัสหลายรูป สนบอกจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก เราไม่รู้เลยว่าสนอยากเล่นดนตรีมาตลอด พ่อสนยอมให้เรียนกีตาร์ แต่เพราะต้องเรียนกวดวิชาเกือบตลอดเวลา เลยไม่มีเวลาซ้อม แล้วสนก็ไม่มีพรสวรรค์เล่นยังไงก็เพี้ยนตลอด ไอ้ต่อเดินเข้ามาตบหลังสนบอกว่า ดีแล้วที่ตัดสินใจเป็นหมอ สนอ้าปากค้าง เราก็อยากปลอบใจหรอก แต่มันเป็นเรื่องจริง ขืนแกล้งชมแล้วสนขอเล่นต่ออีกเพลง คงไม่ไหว

สนขอนั่งดูซ้อมต่อ โต้งมาถึงตอนหกโมง พร้อมขนมกล่องใหญ่ น้องอ้วนวิ่งไปรับโต้ง (หรือขนมก็ไม่รู้นะ) แนะนำให้โต้งรู้จักสน ติวเตอร์คนเก่งของพวกเรา โต้งยิ้มให้สน ฝากเนื้อฝากตัว โต้งบอกชีทสรุปของสนดีมาก อยากเจอตัวจริงมานานแล้ว สนเขินๆ โต้งเดินมาบอกเราว่า วันเสาร์มาไม่ได้เพราะน้านีย์ ไปสัมมนาต่างจังหวัด ต้องอยู่เป็นเพื่อน้ากร ที่อาการยังทรงๆ อยุ่ แต่จะมาติวด้วยวันอาทิตย์ สนกลับไปก่อนโต้งเกือบชั่วโมง โต้งไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าอร่อยด้วยกันก่อนแยกกลับบ้าน เหนื่อย พรุ่งนี้ตื่นสายหน่อยดีกว่า

ปล. เห็นชีทที่หญิงฝากป้าอรไว้ให้แล้ว ขอบใจมากนะ ขอบใจที่หญิงคิดถึงกันเสมอ


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:08:47 น.  

 
2 กุมภาพันธ์ 2008

เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน เพราะเสียงตะโกนของม๊าหญิงตอนเกือบตีสอง เรากับป้าอร รีบเปิดประตูออกไปดู ป้าอรเดินไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่า มีขโมยปีนบ้านหญิง กำลังตัดเหล็กดัด แต่เพื่อนหญิงโทรเข้ามา หญิงเลยตื่นมาเห็นร้องกรี๊ดขึ้นมา ถ้าไม่มีโทรศัพท์ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง เพราะเฮียหญิงไม่อยู่วันเสาร์อาทิตย์ ไปเฝ้าบ้านที่ปทุมฯ ทุกทีจะทิ้งเด็กๆไว้เฝ้าบ้าน แต่วันนี้ต้องไปช่วยกันขนของเลยขนกันไปหมด เหลือหญิงกับม๊า ป้าอรให้ทั้งสองคนมาอยุ่ที่บ้านเราก่อนระหว่างรอตำรวจ ขโมยมันคงสังเกตุมานานแล้วว่าเฮียของหญิง จะไม่อยู่เมื่อไหร่ เลยเตรียมตัวมางัดบ้าน เราช่วยป้าอรยกน้ำ กับ ขนมมาให้หญิงกับม๊า ท่าทางหญิงตกใจมาก เป็นเราก็คงเหมือนกัน

ไม่นานตำรวจก็มาถึง รับแจ้งความไว้ พร้อมกับบอกพวกเราว่า ช่วงนี้ต้องระวังตัวหน่อย เพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนดีๆ มาเป็นขโมยมากขึ้น ยิ่งตามถนนอย่าใส่ทองหรือเครื่องประดับให้ล่อตา ม๊าหญิงกับป้าอร รีบถอดสร้อยทองที่คอออกทันที ตำรวจกลับไปแล้ว ป้าอรขอให้หญิงกับม๊า รอเฮียหญิงอยู่ที่บ้านเราก่อน เพราะเหล็กดัดโดนตัดไปเกือบครึ่ง ไม่ปลอดภัย เราก็เห็นด้วย หญิงตามเราขึ้นมาบนห้อง เรามองไปที่เตียงถามหญิงว่า หญิงนอนพักก่อนไหม ท่าทางหญิงคงตกใจ หญิงตอบว่าขอนอนนิดนึงละกัน เราหันไปอ่านหนังสือต่อ ป้าอรขึ้นมาตามหญิง อาเฮียมาแล้ว แต่หญิงหลับสนิทแล้ว เรามองหน้าป้าอรจะปลุกก็เกรงใจ แกพยักหน้าเรียกเราออกมานอกห้อง เตือนเราว่าทำอย่างนี้ไม่ดี ถึงจะสนิทกันมาแต่เด็กแต่หญิงก็เป็นเด็กผู้หญิง มานอนห้องเราอย่างนี้ ใครรู้เข้าหญิงจะเสียหาย จริงด้วยเพิ่งนึกได้ เรานี่ช่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ดีที่ม๊าหญิงไม่พูดอะไร บอกว่าให้นอนไปก่อนละกัน เราบอกจะไปนอนห้องอาม่า แต่กลิ่นน้ำหอม เครื่องเรือน เสื้อผ้าของอาม่า ทำให้เรานอนไม่หลับผลิกตัวไปมาทั้งคืน คิดถึงอาม่าจัง


ตื่นสายเกือบแปดโมงแล้ว เปิดประตูห้องไม่เจอหญิง คงกลับไปแล้ว เก็บที่นอนให้เราเรียบร้อยเลย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กะจะนอนเล่นต่ออีกนิดหน่อย นัดติวกับไอ้พวกนั้นไว้ตอนสิบโมง แต่หญิงเดินเข้ามาในห้องเรา หญิงบอกช่างซ๋อมเหล็กดัดอยู่ เสียงดัง ขอมานั่งเล่นหน่อย นั่งคุยกับหญิงเรื่องมหาลัย คอนเสริตที่กำลังจะเล่น สนเพื่อนใหม่ หญิงไม่พูดถึงโต้งแม้แต่คำเดียว เราก็ไม่อยากทำให้หญิงไม่สบายใจ รู้ดีอยู่ว่าหญิงรู้สึกยังไง เราอยากถนอมน้ำใจหญิงเท่าที่พอจะทำได้ หญิงเล่าเรื่องเพื่อนที่โรงเรียนที่กำลังจีบหนุ่มวิศวะอยู่ แต่หนุ่มคนนั้นดันคิดว่าว่าเพื่อนหญิงจะมาจีบน้องชายเขา เออตลกดี เราถามหญิง ทำไมชอบใครไม่บอกเขาไปตรงๆล่ะ หญิงมองหน้าเรา ตอบเสียงเศร้าๆว่า นั่นซิ ถ้ามีโอกาสแค่ได้บอกเขาสักคำว่าชอบ แค่นั่นก็ดีแล้ว เราหลบตาหญิง ไอ้มิวเอ๊ยปากเหรอนั่นที่พูด โชคดีสนโทรเข้ามาบอกว่าถึงหน้าบ้านเราแล้ว

มีต่อ

แนะนำให้หญิงรู้จักสน แปลกแฮะ หญิงคุ้นหน้าสนบอกว่าเคยเห็นสนแถวๆนี้ แต่สนบอกว่าไม่เคยมาบ้านเรามาก่อนนี่ ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นอีกแล้ว ตั้งแต่สนก้าวเข้ามาในชีวิตของเรา อะไรๆ ดูจะแปลกไปซะหมด ที่สำคัญเรารู้สึกว่าสนอยู่ใกล้เรามากกว่าที่เคยคิด เหมือนสนพยายามสนใจทุกเรื่องที่เราสนใจ แต่บางทีก็ไม่ใช่ เพราะหลายๆเรื่องสนศึกษาจนรู้ลึกมาก ทำเอาเราทึ่ง นอกจากเรื่องดนตรีดูเหมือนไม่มีเรื่องไหนที่สนจะไม่เก่ง เวลาก็มียี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน ทำไมสนเก่งยังงี้ เราชมออกมาตรงๆ สนยิ้มไม่ได้ปลาบปลื้มอะไรกันความอัจฉริยะของตัวเอง กลับบอกว่า เราเก่งกว่าทั้งเล่นดนตรี แต่งเพลง ร้องเพลงก็เพราะ เออกลายเป็นชมกันไปชมกันมา

ไอ้แวนไอ้ต่อ มาถึงก่อนสิบโมงเล็กน้อย ไอ้แวนรีบไปประจบป้าอรทันทีบ่นว่าอยากกินผัดซีอิ๊ว ไอ้ต่อซื้อกล้วยแขกกับขนมถุงมาเป็นเสบียงช่วงเช้า ไอ้เอ็กซ์มาถึงตอนสิบโมงพอดี เริ่มติวกันจนเกือบเที่ยง ป้าอรทำผัดซีอิ๊วให้ไอ้แวนจริงๆด้วย มันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ช่วยจัดโต๊ะ จัดจาน กลายเป็นหลานป้าอรไปเลยมึง หญิงแวะมาบอกว่าจะไปนอนที่บ้านปทุมคืนนี้ บอกขอบใจที่ให้ค้างเมื่อวาน ยักคิ้วให้เราแล้วก็วิ่งออกไป ตายละกู ไอ้สามตัวกับสนหันมามองเราเป็นตาเดียว ไอ้แวนยื่นหน้าเข้ามา เหมือนจะหาเรื่อง เลยต้องเล่าให้พวกมันฟังตั้งแต่ต้นจนจบ มันก็ยังมองเราแปลกๆ หญิงน่ะเพื่อนนะ เพื่อนสนิท ช่างหัวพวกมัน อย่าพูดให้หญิงเสียหายก็พอแล้ว

กินข้าวเสร็จก็พักนั่งย่อยกัน จะติวอีกทีตอนบ่ายโมง เราโทรหาโต้งเล่าเรื่องหญิงให้ฟัง แต่ไม่บอกว่าหญิงมาค้างห้องเราเมื่อคืน โต้งตกใจแต่ก็เตือนเราให้ระวังด้วย เราบอกป้าอรให้ช่างมาดูแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถามโต้งเรื่องอาการน้ากร โต้งบอกก็เหมือนเดิม ถึงจะเลิกเหล้าแล้ว แต่ก็ใช่ว่าตับที่ถูกทำลายจะฟื้นตัวได้เร็ว ต้องใช้เวลาแค่อาการไม่แย่ลงก็ดีแล้ว โต้งคงเหนื่อยเราบอกให้โต้งพักผ่อน แล้วเจอกันพรุ่งนี้ ไม่รุ้จะช่วยโต้งยังไง คงทำได้แค่ส่งกำลังใจไปให้

ติวต่อถึงสี่โมงเย็น พี่อ๊อดส่งรถมารับพวกเราไปซ้อม แวะส่งสนด้วย เรานึกได้ ถามสนระหว่างทางว่าสนเคยมาบ้านเรามาก่อนหรือเปล่า สนตกใจหันไปมองไอ้เอ็กซ์ ไอ้เอ็กซ์หันไปมองหน้าต่าง ทำไมต้องมองไอ้เอ็กซ์ก่อนตอบคำถามเราทุกทีเลยวะ สนมองหน้าเรา บอกเบาๆว่า ไม่รู้เหมือนกัน จำไม่ได้ อาจจะเคยผ่านมั้ง เรามองหน้าสนเขม็ง คิดในใจถ้าแค่เคยผ่าน หญิงจะคุ้นหน้าเหรอ สนลงไปแล้ว เราขยับไปนั่งใกล้ไอ้เอ็กซ์ ถามมันเบาๆ ว่า มึงสองคนเป็นอะไร จะบอกมาดีๆ หรือจะให้กูโกรธ ไอ้เอ็กซ์ไม่มองหน้าเรา ถอนหายใจเสียงดังบอกว่า เรื่องไร้สาระ อย่าสนใจเลย อีกแล้วนะมึง คิดว่ากูเชื่อเรื่องสนอยากเล่นกีตาร์กับวงออกัสหรือไง ไม่ได้โง่นะเว้ย เรากระชากคอเสื้อไอ้เอ็กซ์ ถามมันอีกที มันก็ยังก้มหน้า บอกแต่ว่าเรื่องไร้สาระ อย่าถามเลย ถึงถามก็ตอบไม่ได้ เราจะเค้นคอมันอีกที ไอ้แวนเริ่มสงสัย ถามว่าเป็นอะไรกัน เลยต้องหยุดแค่นั้น

ระหว่างซ้อมเราสังเกตุไอ้เอ็กซ์ตลอดเวลา มันก็รู้ตัวพยายามหลบหน้าเรา ไม่เข้ามาใกล้เหมือนทุกที เออให้มันรู้ไปว่าจะหนีได้ตลอด ถามสนไม่ได้เรื่อง แต่ไอ้เอ็กซ์นี่มันต้องหลุดปากมาสักวัน ไม่นานนี้แหละ

ไอ้แวนกับไอ้ต่อจะไปค้างบ้านเรา ไอ้เอ็กซ์บอกแม่ให้กลับบ้าน หรือมันจะหลบอีกก็ไม่รู้ ไอ้ต่อคงสงสัยท่าทีเรากับไอ้เอ็กซ์ มันเดินมาถามเราตอนที่ไอ้แวนอาบน้ำ เราบอกว่าไม่รู้มัน บ้าไปแล้วมั้ง ไอ้ต่อถามว่า โกรธอะไรกัน เราตอบว่าไม่ได้โกรธ แต่มีเรื่องต้องถามกันนิดหน่อย ไอ้เอ็กซ์ยังไม่ยอมตอบ ไอ้ต่อจะช่วยถามให้ เราบอกไม่เป็นไรขอจัดการเอง โต้งโทรมาคุยก่อนนอน ชักเขินไอ้สองตัวที่นอนฟังตาแป๋ว เลยเดินออกไปคุยข้างนอก ได้ยินเสียงไอ้แวนถอนหายใจ บ่นเสียดายตามมาข้างหลัง พวกมึงนี้บ้า

เล่าให้โต้งฟังเรื่องสน กับ ไอ้เอ็กซ์ โต้งเริ่มสงสัยว่าหรือสนจะมาชอบเรา แล้วขอให้ให้เอ็กซ์เป็นพ่อสื่อ เรานิ่ง เออหรือว่าจะใช่ ไม่ได้เข้าข้างตัวเองว่ามีเสน่ห์อะไรหรอก แต่ท่าทีของสนมันก็ชวนสงสัยจริงๆ เราถามโต้งว่า ถ้าสนจีบเราจริงๆโต้งจะทำยังไง โต้งหัวเราะบอกว่า เราไม่ชอบสนหรอก มั่นใจไปหรือเปล่าโต้ง เราถามว่าทำไม โต้งตอบว่า เพราะเราชอบโต้งน่ะซิ พูดมาตรงๆอย่างนี้เขินเป็นนะโต้ง เราหน้าแดงไม่รุ้จะพูดอะไรต่อ ถึงจะเป็นเรื่องที่รุ้ๆ กันอยู่แต่พอมาพูดกันซึ่งหน้าอย่างนี้ (ถึงจะทางโทรศัพท์) ก็ทำเอาเราไปไม่เป็นเหมือนกัน เลยบอกโต้งว่าง่วงแล้ว จะไปนอน ได้ยินเสียงโต้งหัวเราะตอนเราวางสาย

ปล. เตียงที่หญิงช่วยจัดให้เมื่อเช้า เริ่มเละอีกแล้วเพราะไอ้แวนนอนดิ้นมาก นอนหลับฝันดีนะหญิง


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:10:22 น.  

 
3 กุมภาพันธ์ 2008


สนมาถึงเกือบสิบโมง แถมยังมากับไอ้เอ็กซ์อีก เราจ้องมันสองตัวตั้งแต่เดินเข้าประตูบ้านมา ต่างคนต่างก็หลบตาเรา สนเปิดหนังสืออ่านเงียบๆ ไอ้เอ็กซ์เดินไปคุยกันไอ้แวน

หญิง เดินมาข้างหลังเราเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว ทำเอาตกใจ ถามหญิงเรื่องบ้าน หญิงบอกทุกอย่างเรียบร้อยดี ตำรวจจะมาเดินตรวจบ่อยขึ้น ตอนนี้ม๊าหญิงก็เลิกใส่ทองแล้วกลัว เราเห็นด้วย หญิงถามเรื่องสน เราเล่าให้หญิงฟังตั้งแต่เจอสนครั้งแรก หญิงมองหน้าเราแล้วถามเราว่า เราไม่เคยเจอสนมาก่อนหรอกเหรอ เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งหลายปี เราเริ่มคิด เออเราน่าจะเคยเจอสนมาก่อนนะ แต่ทำไมจำไม่ได้เลย เราหันไปมองหน้าสนอีกที ไม่คุ้นเลยแฮะ แต่จะว่าไปเราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก นอกจากเพื่อนๆ น้องๆ ในวงออกัสแล้ว ก็แทบจะไม่มีใครเลยมั้ง เราเป็นพวกจำหน้าคนไม่เก่งด้วย เราตอบหญิงไปว่า อาจจะเคยเจอมั้งแต่จำหน้าไม่ได้ หญิงไม่สนใจเท่าไหร่ ชวนเราคุยเรื่องวันตรุษจีน ถามว่าเราจะกลับบ้านที่ระยองไหม เราตอบว่า คงไม่ได้กลับหรอกมีซ้อมทุกวันเลย แต่ป้าอรจะจัดของไหว้ฝากไป ม๊าหญิงจะทำขนมเข่งกับขนมเทียนให้ด้วย ได้กินของอร่อยอีกแล้ว หญิงอยากดูซีรีย์ โนดาเมะที่เราเคยคุยไว้ จะขึ้นไปเอาให้ หญิงก็ขอตามขึ้นมาด้วย คงอยากดูว่ามีเรื่องอื่นอีกไหม ไอ้แวนแซว ต่อหน้าต่อตาเพื่อนเลยนะ ไอ้บ้านี่ เราหันไปมองหญิง ก็เห็นหญิงยิ้มให้แวน แถมยังแซวกลับมา ขอเวลานอกนะแวนแป๊บเดียว ได้ผลไอ้แวนเงียบกริบ ไอ้ต่อ ไอ้เอ็กซ์ สน ขำท่าทางไอ้แวน เจอคู่ปรับแล้วมึง

เริ่มติวกันสายหน่อยเกือบสิบเอ็ดโมง ก็แค่ทำโจทย์เพิ่ม เราจดเนื้อหาบางจุดที่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจมาถามสน สนตอบได้หมดทุกคำถาม เก่งยิ่งกว่าอาจารย์ที่โรงเรียนซะอีก ไอ้ต่อบอก อย่างสนนี่ไปเปิดโรงเรียนกวดวิชาได้เลย ไอ้แวนกับเราเห็นด้วย แต่ไอ้เอ็กซ์บอกว่า อาจไม่รุ่งก็ได้ ทุกคนหันไปมองมัน ยังไม่ทันได้ถาม สนก็พยักหน้า บอกว่าเห็นด้วยกันเอ็กซ์ ถ้าให้ไปสอนคนที่ไม่รู้จัก คงไม่รอด เราไม่เห็นด้วย เพราะอย่างพวกเรากับสนก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ได้โอกาสเราถามสนต่อหน้าทุกคนว่า แต่สนกับเอ็กซ์รู้จักกันมาก่อนใช่ไหม ไอ้เอ็กซ์เงยหน้าขึ้นทันที สนมองหน้าเรา ไม่มองไอ้เอ็กซ์ ตอบเราว่า ก็เคยเจอกันบ้าง ตอนเด็กๆ ก็เล่นด้วยกัน ไอ้เอ็กซ์แอบถอนหายใจ อยากถามต่อ แต่ไอ้แวนเอาโจทย์เลขมาให้สนช่วยดู เลยต้องผ่านไปก่อน

เกือบเที่ยงหญิงก็แวะมาอีกที เอาขนมบัวลอยมาให้ ไอ้แวนไม่รอช้า แซวหญิงว่า มาบ่อยจังเลยย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยมั๊ย เราอยากกระโดดถีบมันจริงๆ แต่หญิงไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว ตอกกลับว่า รอโอนทะเบียนบ้านเดี๋ยวก็ย้ายมาอยู่กับมิวแล้วละ แล้วพวกเราก็นั่งดูไอ้แวนกับหญิง โต้กันไปมาไม่มีใครยอมใคร จนม๊าหญิงตะโกนเรียก ไอ้แวนยังมีส่งท้าย แล้วเจอกันวันหลัง ไอ้ต่อส่ายหน้าปลงกับปากหมาๆ ของไอ้แวน เราก็เหมือนกัน สองคนนี้พอกัน สนมองหน้าเรา ยิ้มให้แต่ไม่ได้พูดอะไร ขี้เกียจถามช่างมัน อยากมองมองไปไม่สึกไม่หรอ

มีต่อ

เกือบบ่ายโมง โต้งโทรเข้ามาบอกว่า พ่ออาการไม่ดีคงมาไม่ได้ เสียงโต้งเบามาก คงอยู่ที่โรงพยาบาล เราบอกโต้งทางโทรศัพท์ว่า ไม่เป็นไรอยุ่ดูแลพ่อเถอะ แต่ทำไมในใจเราผิดหวังกับการผิดนัดของโต้ง ทั้งที่รู้ว่าโต้งมีความจำเป็น โต้งไม่ได้ไม่อยากเจอเราสักหน่อย เราควรจะเป็นห่วงน้ากรมากกว่า

เราบอกทุกคนว่าโต้งมาไม่ได้ แต่ไม่ได้บอกเหตุผล มันเป็นเรื่องส่วนตัวของโต้ง สนยื่นถ้วยขนมบัวลอยให้เรา เรายิ้มบอกไม่ค่อยอยากกินเลยอิ่ม สนเลยเล่าเรื่องเด็กยากไร้ที่เอธิโอเปียให้ฟัง ว่าเด็กที่นั่นไม่มีจะกิน อดอาหารตาย เราอึ้งอะไรวะ แค่ไม่อยากกินบัวลอย ไอ้ต่อบอก กินเข้าไปเสียดายของ ไอ้พวกนี้บังคับกันจริง ป้าอรมองมาไกลๆ กินก็ได้ ทำไมต้องมาบังคับกันด้วยนะ ตักคำแรกเข้าปาก อร่อยแฮะม๊าหญิงนี่ทำอะไรก้รสชาดดีไปหมด สนยื่นแฟนต้าน้ำเขียวให้ ถามว่า อร่อยใช่ไหม เราพยักหน้า แต่ไม่รับน้ำ ไอ้เอ็กซ์บอกสนว่า เราไม่กินน้ำอัดลม สนทำหน้างง เราเลยบอกให้สนไปเอาน้ำเปล่ามาดีกว่า สนก็เดินไปเอาให้ เออใช้ง่ายดี ให้ทำอะไรก็ทำ กินบัวลอยได้ครึ่งถ้วย ไอ้แวนก็มานั่งข้างๆ มองถ้วยขนมตาปริบๆ เราถามว่ามันจะเอาอะไร มันบอกอยากกินอีก ไอ้ตะกละ เลยยกขนมที่เหลือให้มัน รำคาญว่ะ ตัวยังกับยักษ์ชอบทำตาปริบๆ น่ารักตายละมึง

เกือบสี่โมงเย็นใกล้เวลานัดกับพี่อ๊อด วันนี้จะคุยเรื่องซ้อมใหญ่ พี่อ๊อดคอนเฟริมว่าเป็นวันพฤหัสที่จะถึงนี้ เราดีใจใกล้แล้ว อีกนิดเดียวสิ่งที่เราพยายามมาตลอดหลายปี ก็จะสำเร็จแล้ว คอนเสิรตของพวกเรา ออกัส เรารีบโทรหาโต้งอยากให้โต้งรู้เป็นคนแรก อยากให้มาดู โต้งตื่นเต้นไปกับเราด้วย รับปากว่าจะมาดูแน่ๆ ให้เราจองที่ข้างหน้าไว้ให้ เราบอกถ้าจองให้แล้วไม่มา ไม่ต้องพูดกันเลยนะโต้ง เสียงเราอาจจะเหมือนล้อเล่น แต่โต้งตอบมาอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีทางพลาด ทั้งซ้อมใหญ่ ทั้งคอนเสิรตแรกของเราแน่นอ โต้งรู้ดีว่า ญาติๆเราก็ไม่มา และเราอยากให้โต้งมาเห็นความสำเร็จของเรามากกว่าใคร

วันนี้ซ้อมกันไม่หนักแต่เน้นจุดที่ผิดพลาด ปรับเสียงน้องๆ คอรัสลงนิดนึงน้องอ้วนเริ่มเสียงแตก


ปล. ฝากบอกม๊าหญิงด้วยนะ ขนมอร่อยมาก ไอ้แวนกินคนเดียวเกือบครึ่ง


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:11:26 น.  

 
4 กุมภาพันธ์ 2008

อีกหกวันจะถึงวันสำคัญแล้ว เราตื่นแต่เช้าออกมาวิ่ง อากาศตอนเช้านี่ดีจริงๆ ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า พี่เดียวแนะนำแกมบังคับให้เราออกกำลังให้มากขึ้น เวลาเล่นคอนเสริตจะได้ไม่หอบ คุมเสียงได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเรามานาน เมื่อวานก่อนแยกย้ายกันกลับ พี่อ๊อดย้ำพวกเราอีกทีว่า ต้องดูแลตัวเองดีๆ อย่าลืมว่าเราต้องแสดงให้เต็มที่ให้สมกับที่แฟนต่อคิวกันซื้อบัตร เพื่อมาดูพวกเรา ไม่ว่ายังไง The Show must go on พวกเราทุ่มเทให้คอนเสริตครั้งนี้มาก ทั้งพี่ๆ ที่บริษัทเงินที่ลงทุนไป ยังสปอนเซอร์อีก รู้อย่างเดียวว่าตอนนี้ ถอยไม่ได้อีกแล้ว ใจนึงก็สั่นๆ แต่นี่คือความฝันของเราและวงออกัส โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีกันง่ายๆ พวกเราเริ่มต้นจากวงนักเรียน ประกวดชนะ ได้ทำเทปใต้ดิน จนพี่อ๊อดเห็นแววดึงเรามาทำอินดี้ พวกเราโชคดีมากจริงๆ เพราะอีกหลายสิบหลายร้อยวงที่ประกวดแข่งกันมาก็เก่ง บางวงเก่งกว่าเราด้วยซ้ำ แต่แนวทางของเราเข้าตาผุ้ใหญ่มากกว่า ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณไอ้เอ็กซ์ ที่เอาข่าวงานประกวดวงดนตรีมัธยมมาบังคับให้พวกเราสมัคร แถมยังหาข้อมูลให้เสร็จสรรพ มารุ้ก่อนวันประกวดไม่กี่วันว่ามันกะดังหวังจะจีบสาวโรงเรียนฝั่งตรงข้าม เพราะความขี้หลีของมันพวกเราจึงมีวันนี้ ขอบใจว่ะไอ้เอ็กซ์

กลับมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน เมื่อวานสนบอกจะแวะมารับ เราปฎิเสธไป แต่สนก็ไม่ฟังบอกว่าบ้านอยู่ไม่ไกล ไปด้วยกันประหยัดน้ำมัน เออ ก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้เรามีเรื่องให้คิดเยอะอยู่แล้วไม่อยากกังวลเรื่องความแปลกของสนอีก ได้นั่งรถเก๋งไปโรงเรียนก็สบายดี พ่อสนเองก็ชอบเพลงของเรามาก พอเราขึ้นรถก็รีบเปิดซีดีออกัสทันที พ่อสนก็เล่นดนตรีได้ แต่ไม่เก่ง ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามแนะนำเราให้ร้องแบบนั้นแบบนี้ สนกับเรากลั้นหัวเราะ เราคิดในใจพ่อลูกเหมือนกันเลย วันนี้สนเอาข้าวเหนียวหมูปิ้งมาเผื่อเรา นอกจากจะประหยัดค่ารถ ยังได้กินข้าวฟรีอีกด้วย ทำบุญมาดีนะนายมิว พ่อสนถามว่าขอไปดูตอนซ้อมใหญ่ได้ไหม สนก็หันมามองเรา เพราะสนจะต้องบินไปลงทะเบียนวันศุกร์ เลยไปดูคอนเสริตไม่ได้ ซึ่งสนก็บ่นเสียดายกับเราอยู่ทุกวัน เราบอกสนกับพ่อว่า ขอถามพี่ๆที่บริษัทก่อน แต่ไม่น่าจะมีปัญหา สนยิ้มกว้างให้เรา แปลกทั้งที่สนก็หน้าตาดี เรียนเก่ง ที่สำคัญชอบอะไรเหมือนๆเรา มีเรื่องให้คุยกันได้ไม่จบ แต่เราเฉยๆ กับสน ก็เหมือนเพื่อนร่วมโรงเรียนคนนึง ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

พอมาถึงโรงเรียนเราก็ขอบคุณพ่อสนที่มาส่ง แล้วแยกไปหาไอ้แวนที่โรงอาหาร ถ้าไม่เจอมันที่ห้องซ้อม ก็โรงอาหาร อ้อ ห้องน้ำอีกที่ ไอ้ต่อนั่งอยู่กับไอ้แวน ไอ้เอ็กซ์ไปซื้อขนม พวกเรานั่งคุยกันเรื่องสอบเอเน็ท เรื่องซ้อมใหญ๋ ไอ้แวนท้าพนันว่า เจ้าปิงปองกับเจ้าอาร์ม จะควงแซ็กกับทรัมเป็ต สำเร็จไหม ไม่ค่อยชอบเรื่องแบบนี้ แต่โดนบังคับเลยลงไปร้อยนึง เจ๊งแน่ๆ โทษนะน้องรักแต่ขอแช่งว่ะ

พี่อ๊อดออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ตอนแรกพวกเราจะขอไปรับ แต่พี่แกบอกไม่ต้อง ให้ไปเจอกันที่ห้องซ้อมเลย ขอพี่อ๊อดให้สนกับพ่อไปดูซ้อมใหญ่ด้วย พี่อ๊อดโอเค เพราะเห็นว่าสนมาช่วยให้พวกเราไม่ต้องวิตกจริตกับการสอบมากเหมือนเมื่อก่อน

เกือบสิบเอ็ดโมงสนก็มารวมกลุ่มกับพวกเรา สนบอกว่าอยากเลี้ยงข้าวตอบแทนพวกเรา ที่ยอมให้สนเล่นกีตาร์ด้วย ถึงจะเพลงเดียวก็ตาม แน่นอนพวกเราไม่ปฎิเสธ ไอ้ต่อเลือกร้านได้ตั้งแต่สนยังพูดไม่จบ เสียดายเหมือนกันที่สนมาติวให้พวกเราได้แค่สิบวัน แต่ก็เป็นสิบวันที่คุ้มค่าสุดๆ ชีทที่สนทำมาให้พวกเราก็สุดยอด ขนาดหญิงยังชมว่าคนทำนี่ตั้งใจมาก เพราะครอบคลุมเนื้อหาสำคัญๆ เกือบทั้งหมด ยิ่งเวลาติวสนจะจับจุดได้ว่าพวกเราอ่อนตรงไหน ไม่เข้าใจตรงไหน โดยเฉพาะเวลาแก้โจทย์ สนเหมือนรู้ว่าเราจะพลาด รีบเตือนก่อนเสมอ อยากให้ติวต่ออีกสักอาทิตย์ แต่สนก็มีหน้าที่ต้องทำ Johns Hopskin สำคัญกว่าพวกเราอยู่แล้ว

โต้งโทรมาตอนเที่ยงเหมือนทุกที เราเล่าให้โต้งฟังเรื่องพ่อสน เรื่องซ้อมใหญ่ เรื่อง................... โต้งไม่ฟังเราเลย จะชวนเราไปกินข้าวดูหนัง ทั้ที่รู้ว่าเราไปไม่ได้มีซ้อม พอเราบอกไปก็ทำเสียงเศร้าๆ เหมือนเราผิดอย่างนั้นแหละ โต้งบอกว่างวันนี้ตอนบ่ายแต่คงไปดูเราซ้อมไม่ได้ เพราะต้องกลับไปช่วยน้านีย์ ดูแลน้ากร เราก็เข้าใจ แต่วันนี้เราไม่อยากได้ยินคำว่าไม่จากปากโต้ง เรานี่นิสัยไม่ดีเลย มานึกดูตอนนี้ โต้งก็คงอยากเจอเรา แต่เรื่องของน้ากรย่อมต้องสำคัญกว่าเราอยู่แล้ว ทำไมนะ ทำไมทุกคนต้องมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าเราเสมอเลย ทำไมเราต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลังทุกครั้ง ทำไมทุกคนต้องนึกถึงเราเป็นคนสุดท้าย ทำไมไม่คิดบ้างว่าเราจะรู้สึกยังไง เราคงเงียบนานเกินไป โต้งถามว่าเราเป็นอะไรหรือเปล่า เราไม่รู้จะตอบยังไง เลยโกหกว่าไอ้เอ็กซ์มาตาม มาเรื่องต้องคุยกัน แล้วก็ขอวางสายโต้งไป รู้สึกแย่จัง

ไม่ใช่ไอ้เอ็กซ์ที่มาตามเรา แต่เป็นสน สนทักว่าหน้าตาเราดูไม่ดีเลย ไม่เข้าใจตรงไหนหรือเปล่า เราส่ายหน้าไม่ตอบ สนตบไหล่เราบอกว่า ก็อยากติวให้พวกเราต่อนะ แต่มันจำเป็นจริงๆ อยากไปดูคอนเสริตเราด้วย เราเลยได้โอกาสบอกสนว่า ไปดูซ้อมใหญ่ได้ สนยิ้มท่าทางดีใจมาก ขอบคุณเราหลายครั้ง อย่างน้อยสนก็เห็นว่าเราสำคัญ

เกือบสี่โมงพี่อ๊อดโทรมาบอกว่ารออยู่ทีห้องซ้อมแล้ว พวกเราเตรียมเก็บของ สนเดินเข้ามาหาเรา พูดเบาๆว่า ขอไปดูซ้อมได้ไหม เราพยักหน้า แต่ในใจรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ค่อยออก ไม่ใช่สน โต้งต่างหากที่เราอยากให้พูดคำๆนี้ อยากให้เป็นโต้งที่สนใจเรื่องราวต่างๆของเรา โต้งไม่โทรมาเลย วันนี้ซ้อมเหมือนเคย ก็ดี

ปล. เรานิสัยแย่มากใช่ไหมหญิง ไม่รู้วันนี้เป็นอะไร อารมณ์แปรปรวนพิกล ปวดหัว



โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:13:59 น.  

 
5 กุมภาพันธ์ 2008

วันนี้ตื่นสาย เพราะเมื่อคืนรอโทรศัพท์โต้งจนถึงเกือบตีหนึ่ง โง่รอทำไมนนายมิว พี่อ๊อดบอกให้ดูแลตัวเองดีๆไง งานสำคัญก็อีกไม่กี่วันแล้ว ซ้อมใหญ่ก็พรุ่งนี้ สนโทรมาตอนหกโมงครึ่ง แต่เราไม่ได้รับ ยิ่งสนมาทำดีกับเราเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เราเรียกร้องจากโต้งมากเท่านั้น ทั้งที่รู้ว่าสำหรับโต้งตอนนี้ น้านีย์ กับ น้ากร สำคัญที่สุด แล้วที่ผ่านมาโต้งก็ดีกับเราตั้งเท่าไหร่ เรารับรู้ได้ถึงความห่วงใย ที่โต้งมีให้เราอยุ่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราจะต้องกลายเป็นคนสุดท้ายที่โต้งจะนึกถึงตลอดเวลาอย่างนี้ เราจะทนไหวไหม ป้าอรมองเราเขี่ยข้าวต้มหมูสับไปมา ไม่อยากกินเลยวันนี้ จนป้าอรทนไม่ไหวเดินมาแตะไหล่เราเบาๆ ถามว่าเราไม่สบายหรือเปล่า เราพยักหน้าบอกแกว่า ปวดหัวนิดหน่อย ป้าอรเลยเดินไปเอายาพารามาให้ โดนบังคับให้กินข้าวต้มสองสามคำ แล้วกินยาตาม ก่อนจะไปโรงเรียน

เราไปถึงโรงเรียนเกือบ แปดโมงครึ่ง โชคดีที่เด็กม.หก ไม่โดนตรวจเข้มเรื่องการมาสายเท่าไหร่ เราเดินไปนั่งรวมกับไอ้เอ็กซ์ ไอ้แวน วันนี้ไอ้ต่อลาต้องไปไหว้เจ้ากับที่บ้าน น้องแม็คเดินมาถามเรื่องรองเท้าที่ใส่แล้วกัด ไม่มีอารมณ์เลยแกล้งหลับ ได้ยินไอ้แวนแนะนำให้มันไปซื้อ Hello Heel มาติด เออถูกต้องแล้ว อากาศเย็นๆ ฟ้าครึ้ม เหมือนฝนจะตก หรือเป็นเพราะเราอารมณ์ไม่ค่อยดีก็ไม่รู้ ถอนหายใจออกมาหลายครั้งจนไอ้เอ็กซ์เอาตีนเขี่ย แทนคำถามว่า มึงเป็นอะไร ไม่สนมัน ไม่อยากตอบว่ะ จากแกล้งหลับก็กลายเป็นหลับจริงๆ

สนมาปลุกเราตอนเกือบสิบเอ็ดโมง ไอ้แวนกับไอ้เอ็กซ์ ก็ปล่อยให้เรานอนอยุ่คนเดียวกลางห้อง แม่งเลว เรางัวเงียตื่นถามสนว่ามานานแล้วเหรอ สนยิ้ม บอกว่ามาได้สักพัก ไอ้แวนกับไอ้เอ็กซ์ไปซื้อขนม เลยฝากสนให้ดูเรา เพราะเหมือนเราจะไม่สบาย อ้อขอโทษว่ะเพื่อน สนเอามือมาแตะหน้าผากเรา ถามว่าไม่สบายเหรอ เราส่ายหน้า ไม่ได้ไม่สบาย แค่ง่วงนอนดึก สนแซวว่า แอบดูเวปโป๊ใช่ไหม บอกลิงค์มั่งซิ เออตลกล่ะ เราถามสนว่าเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว สนบอกก็ไม่ต้องเตรียมเท่าไหร่ เพราะลุงกับป้าสนมีบ้านอยุ่ที่ นิวยอร์ค สนต้องไปเยี่ยมทุกซํมเมอร์ เลยค่อนข้างคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตเมืองนอก โดยเฉพาะอเมริกา เราบอกดีจัง เรายังไม่เคยไปไหนไกลเกินสิงค์โปร์เลย สนบอกถ้าเราอยากไปเที่ยวอเมริกา ไปพักกับสนได้ จะพาเที่ยว เรายิ้ม ขอบใจสน ไอ้แวนกับไอ้เอ็กซ์เปิดประตูเข้ามา ไอ้แวนยื่นยาพาราให้แผงนึง กับน้ำเปล่า มันเทศน์ด้วยว่า พรุ่งนี้ก็ซ้อมใหญ่ ทำไมไม่ดูแลตัวเอง ถ้าเราเป็นอะไรไปวงจะทำยังไง ครั้งที่แล้วยังไม่เข็ดอีก เออๆ ขอโทษว่ะเพื่อน ไอ้เอ็กซ์แอบมองเรากับสนสลับกัน มันคิดอะไรอยู่สักอย่างแน่ๆ จะว่าไปถ้ามันจะเป็นพ่อสื่อให้สน ทำไมมันไม่มาคุยกับเราให้รู้เรื่องว่ะ แล้วท่าทางมันก็เหมือนไม่ค่อยชอบใจที่สนมาใกล้ชิดเรา หรือมันจะแอบชนสนวะ เพ้อเจ้อแล้วนายมิว

พวกเราติวกันจนเกือบเที่ยง เราไม่มีสมาธิเลย ตามันจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา จะโทรมาหรือเปล่านะ

เกือบจะบ่ายโมงเราพยายามแก้โจทย์เลขที่สนให้มาเมื่อเช้า แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก มันฟุ้งซ๋านไปหมด โต้งโกรธเราหรือเปล่า หรือว่าโต้งไม่ว่างจริงๆ สนยื่นมันฝรั่งทอดให้เรา เหมือนสนจะรุ้ว่าเราไม่มีสมาธิ แต่สนก็ไม่ว่าอะไร ยังถามว่าเราจะเอาน้ำอะไรไหมจะไปซื้อ เราฝากซื้อชาเขียวเย็น พยายามรวบรวมสติอยู่กับโจทย์ตรงหน้า อนาคตนะมิว อนาคตของเราขึ้นอยู่กับสอบครั้งนี้ ถ้านายเอ็นท์ไม่ติด โต้งจะมาเลี้ยงนายเหรอ เราเดินออกไปล้างหน้า น้ำเย็นๆทำให้สดชื่นขึ้น โต้งโทรเข้ามา เรามองหน้าจอโทรศัพท์ โต้ง เรามองอยุ่นานจนสายหลุดไป เราถอนหายใจ ทำตัวเป็นเด็กไม่รุ้จักโตจริงๆ กำลังจะโทรกลับไป โต้งก็โทรเข้ามาอีกครั้ง เรารับสาย โต้งถามว่า เราสบายดีไหม เสียงโต้งลังเล เหมือนไม่รุ้จะพูดว่าอะไร เรายิ้มกับตัวเอง แค่ได้ยินเสียงโต้งเราก็ยิ้มได้แล้ว เราตอบโต้งว่า สบายดี แล้วถามอาการน้ากร โต้งเล่าให้ฟังยืดยาว ว่าน้ากรพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการจากที่ทรงเลยทรุด แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นกลับมาทรงเหมือนเดิม ท่าทางโต้งจะเหนื่อย เสียงโต้งไม่ค่อยดี แต่จริงๆแล้ว คงเป็นเพราะประโยคถัดมามากกว่า โต้งบอกว่า น้านีย์เป็นหวัด โต้งต้องช่วยดูแลน้ากร เลยอาจจะมาดูเราซ้อมใหญ่ไม่ได้ เสียงโต้งเบามาก แต่กลับดังก้องอยุ่ในหูของเรา ไม่อีกแล้วเหรอ แต่มันถูกต้องแล้วนี่ พ่อแม่ไม่สบายโต้งก็ต้องอยุ่ดูแล เป็นเราก็ต้องทำอย่างนั้นเหมือนกัน แค่ซ้อมดนตรี มันเรื่องเล็กน้อย เราบอกให้โต้งไม่ต้องห่วง ดูแลน้านีย์ กับ น้ากรเถอะ ขอให้หายเร็วๆนะ เราพยายามฝืนยิ้มตอนพูด แต่เสียงที่ได้ยินฟังดูแห้งแล้งเหลือเกิน โต้งวางไปแล้วแต่เรายังมองโทรศัพท์ในมือนิ่ง นี่ซินะที่ของเรา น้ำตาหยดลงมาเมื่อไหร่ก็ไม่รุ้ เราเข้าห้องน้ำล้างหน้าอีกรอบ คราวนี้น้ำเย็นไม่ทำให้เราสดชื่นเลย

วันนี้ไม่มีซ้อม พี่อ๊อดบอกอยากให้พวกเราได้พักผ่อน เพื่อเตรียมซ้อมใหญ่พรุ่งนี้ สนขอบคุณเราอีกครั้งที่ยอมให้ไปดู เราฝืนยิ้มแทบไม่ไหว แต่ยังไงคืนนี้ก็ต้องพักผ่อน พรุ่งนี้สำคัญ คิดถึงวง ให้มากๆ นายมิว
อย่าเห็นแก่ตัวนักเลย

ปล. ถึงหญิง เราจะพยายามเต็มที่พรุ่งนี้ เอาให้เหมือนวันจริงเลย



โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:16:02 น.  

 
6 กุมภาพันธ์ 2008

เพราะเมื่อคืนนอนตั้งแต่สองทุ่ม เช้านี้เลยตื่นค่อนข้างเช้า เราออกไปวิ่งตั้งแต่ตีห้า พยายามจดจ่อความคิดอยู่กับเรื่องของวันนี้เท่านั้น แบตหมดตั้งแต่เมื่อเย็น ลืมชาร์ต ระหว่างนั่งรอป้าอรไปซื้อโจ๊ก เราเลขนั่งเล่นเปียโนฆ่าเวลา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองรูปอาม่า เพราะมิวเป็นเด็กไม่ดี อาม่าคงผิดหวัง มิวเห็นแก่ตัว มิวทำให้โต้งไม่สบายใจ แต่มันก็ยากเหลือเกินนะอาม่า การต้องรับมือกับความผิดหวัง มันเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว ยิ่งรู้ว่าต้องไปทำงานเพื่อสร้างความบันเทิงให้คนอื่น ก็ยิ่งกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี เอาน่ะ แค่ซ้อมใหญ่ยังไงวันจริงโต้งก็มา เอาไว้ถ้าวันนั้นโต้งมาไม่ได้ ค่อยร้องให้เสียใจก็ยังไม่สาย ถึงจะบอกตัวเองอย่างนี้แต่ใจเรากลับแห้งผาก รู้สึกติดขัดทุกครั้งที่หายใจเข้าออก

สนโทรเข้ามาถามว่าจะไปโรงเรียนด้วยกันไหม เพราะวันนี้พวกเราจะติวกับสนเป็นวันสุดท้ายแล้ว เราตอบรับ ไม่อยากคิดแล้วว่าสนจะมาทำดีกับเราเพื่ออะไร ขอแค่มีใครสักคนที่ไม่ทิ้งเราไว้คนเดียว ก็พอ สนสังเกตุเห็นสีหน้าหงอยๆของเราตั้งแต่ก้าวขึ้นรถ เลยชวนคุยนั่นคุยนี่ พ่อสนก็บอกดีใจจะได้ดูวงเราเล่นสดๆ ทั้งสองคนทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาก โต้งโทรเข้ามา เรากดรับโดยอัตโนมัติ โต้งบอกว่ามาดูเราซ้อมไม่ได้จริงๆ น้านีย์ไข้ขึ้น วันนี้โต้งต้องลาหยุดอยู่บ้าน ระหว่างที่โต้งพูด เรามองหน้าสน บอกตัวเองในใจว่ายังมี ยังมีคนที่สนใจนายอยู่นะมิว วงออกัส พี่ๆทีมงาน แฟนๆ อีกตั้งหลายร้อย สนกับพ่อที่เฝ้ารอดูการแสดงของเรา เรายังมีค่า แค่โต้งมีธุระสำคัญต้องทำวันนี้เท่านั้นเอง ยังไงวันจริงโต้งก็มา ใช่ไหม เราไม่กล้าถาม ได้แต่ตอบโต้งว่าเข้าใจ ไม่เป็นไร ดีแล้วอยู่ดูแลน้ากร กับ น้านีย์ เถอะ เสียงโต้งเองก็ไม่ค่อยดี เรามีสิทธิอะไรไปเพิ่มความลำบากให้โต้งอีก วางสายโต้งไปแล้ว เราไม่มีอารมณ์จะสนุกไปกับมุกตลกของพ่อสนอีก ได้แต่นั่งนิ่งๆ จนถึงโรงเรียน

วันนี้ขอไม่เข้าห้องเรียน แต่จะติวกับสนตั้งแต่เก้าโมง ถึงบ่ายสอง จากนั้นพี่อ๊อดจะมารับพวกเราไปสยาม รู้ทั้งรู้ว่าหน้าที่ของตัวเองในตอนนี้คืออะไร แต่สรุปรายวิชาที่สนเอามาให้อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัว สนอธิบายเป็นรอบที่สองแล้ว ไอ้แวนแซวว่า สงสัยเราจะตื่นเต้นกับซ้อมใหญ่ ได้แต่พยักหน้ารับให้มันเลิกพูด ตอนเที่ยงน้องๆ คนอื่นๆ ในวงมากินข้าวด้วย คุยกันเสียงดังลั่น รู้สึกเหงา ทั้งที่มีคนที่เราชอบๆ อยู่รอบตัวนับสิบ แต่กลับยิ่งว่างเปล่า ปลายหางตาเราเห็นสนมองมาตลอดเวลา แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ถึงพูดเราก็คงไม่อยากฟัง ไม่อยากตอบ ไอ้แวนเริ่มรู้สึกว่าเราเงียบผิดปกติ มันเดินมานั่งใกล้ๆ ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เออเพิ่งสังเกตุเพื่อนนะมึง งอนมันนิดหน่อย แต่ก็ยอมพูดด้วย เพราะมันซื้อน้ำแข็งใสมาให้ด้วย มันตบหัวเราตอนกำลังกินอร่อย บ่นเบาว่า ฟุ้งซ่านอีกล่ะมึง อยากจะด่ามันกลับ แต่ไอ้ตัวดีวิ่งไปหาน้องแม็คกับน้องอ้วนแล้ว บ้าว่ะ น้องอ้วนเต้นท่าไก่ย่างโชว์พี่ๆ ขำว่ะ เหมือนหมูย่างมากกว่า ไปซื้อมากินดีกว่า นั่นไอ้เอ็กซ์ไปเต้นด้วย น้องปิงปองกับน้องอ๋อง ก็กระโดดเข้าร่วมวง เราเริ่มสนุกตะโกนแข่งกับเสียงเชียร์ของคนอื่นๆว่า เต้นท่านี้ในคอนเสริตนะ รับรองดังกระหึ่ม เลยโดนจับไปเต้นท่าไก่ย่างด้วย ดึงไอ้แวนไอ้ต่อ สน มาเรียงแถวกันเต้น ดีนะมากินข้าวตอนสิบเอ็ดโมง ไม่งั้นอายเขาตาย แต่ก็สนุกดี ไอ้แวนบอกว่า ซ้อมไว้ เดี๋ยวรุ่นพี่ให้เต้นตอนรับน้อง จะได้ชิน เออมันมีเหตุผล

ได้เต้นได้ขำ เลยทำให้อารมณ์ดีขึ้น โต้งโทรมาถามว่ากินข้าวหรือยัง ตื่นเต้นไหม จะซ้อมเพลงอะไรบ้าง เราก็เล่าให้ฟัง โต้งบอกให้เราตั้งใจให้เต็มที่ จะส่งกำลังใจไปให้ ก่อนวางสายโต้งยังถามอีกว่า ตกลงเอาดอกไม้ไหม เราบอก ถ้าให้ก็เอา โต้งหัวเราะ เราก็หัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะแรกที่เราได้ยินในสองสามวันนี้

พี่อ๊อดส่งรถมารับพวกเราที่โรงเรียนตอนบ่ายสอง เพิ่งรู้ว่าต้องเข้าบริษัทก่อน สนเลยขอแยกไปหาพ่อที่โรงพยาบาลก่อน จะมาเจอพวกเราที่สกาล่าตอนเย็นๆ เพราะเริ่มซ้อมตั้งแต่สี่โมง จนถึง เที่ยงคืน เหนื่อยล่วงหน้า ไปถึงบริษัทก็เจอนักข่าวสี่ห้าคน บางคนเราเคยเจอแล้ว ก็ทักทายกันเหมือนรู้จักมานาน เราโดนดึงไปโน่นมานี่ จนงงไปหมด จำแทบไม่ได้ว่าตอบอะไรไปบ้าง รู้แต่ว่าโดนซักประวัติ แนวเพลงเป็นแบบไหน ได้อะไรเป็นแรงบังดาลใจ แล้วก็ประโยคมาตรฐาน มีแฟนหรือยัง พีอ๊อดตอบแทนให้ทั้งวงว่า ออกัสยังเด็กอยู่เลยยังไม่มี จบการสัมภาษณ์ ถอนหายใจกันหลายคน โดยเฉพาะไอ้ต่อ แอบเห็นไอ้เอ็กซ์ซุบซิบกับน้องอ๋อง เลยเขยิบเข้าไปร่วมวง มันเล่าให้ฟังว่า ไอ้ต่อจีบเด็กมอสี่ โรงเรียนเซ็นฟรังค์ไม่สำเร็จ แต่เพื่อนน้องเขามาจีบไอ้ต่อ ที่สำคัญน่ารักกว่าคนที่ไอ้ต่อจีบทีแรกอีก โอ้โห เสน่ห์แรงว่ะ น้องปิงปองบอก ตี๋ๆอย่างนี้สาวกรี๊ด เหมือนนักร้องเกาหลี เราบอกว่าแสดงว่าไอ้หน้าเต้าหู้ไข่แบบนี้กำลังอินเทรนด์ โดนไอ้ต่อตบหัวอย่างแรงโทษฐานอิจฉาความหล่อ

แยกกันซ้อมเป็นกลุ่มย่อยๆ นักร้องอย่าง เรา น้องอ้วน น้องอ๋อง น้องแม็ค แยกเข้าห้องซ้อม พี่อ๊อดมาคอนโทรลเอง โดยเฉพาะเรากับน้องอ้วนทีต้องร้องกันหลายเพลง ผลจากการวิ่งตอนเช้าอย่างสม่ำเสมอ เราเลยได้รับคำชมจากพี่อ๊อดว่า คุมเสียงดีขึ้นมาก เก็บปลายคำได้หมด ไม่ค่อยมีเสียงหอบ แต่น้องอ้วนโดนปรับเยอะหน่อย เพราะเสียงแตกกำลังแตก เราคงต้องประคองน่าดูบนเวที น้องอ้วนเดินมาซบไหล่ บอกขอโทษที่ทำให้ลำบาก เรายิ้มให้กำลังใจน้อง บอกไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ความจริงเสียงแตกก็ดีนะ จะได้ร้องคีย์เดียวกับพวกพี่ๆได้ แต่งเพลงง่ายดี น้องอ้วนน้ำตาซึมๆ เลยตบหัวมันไปเบาๆ
ปิงปองกับอาร์ม ซ้อมกันไปธรรมดา ไม่ควงว่ะสงสัยโดนพี่อ๊อดจับได้ เสียดายอดดูเลย

พวกเราออกเดินทางไปถึงสกาล่าตอนเกือบสี่โมงเย็น เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย พี่ใหม่พี่แก้วบอกว่าให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปถ่ายรูปที่เวที เอาไว้ส่งให้นักช่าวโปรโมท เสื้อเชิ้ตข้างในไม่รัดเหมือนวันที่ลองแล้ว เราคงผอมลง ระหว่างเตรียมเซ็ทเครื่องดนตรี เราหยิบมือถือขึ้นมาดู ไม่มีแม้แต่ข้อความจากโต้ง กำลังใจที่โต้งพูดถึง ทำไมเราไม่รู้สึกถึงมันเลยล่ะ พี่เดียวเดินมาเรียกให้ไปเตรียมตัว ทุกคนรอเราอยู่

ซ้อมดำเนินไปด้วยดี มีพี่นักข่าวบางคนมาเก็บภาพ แต่พี่อ๊อดไม่ให้เข้ามาสัมภาษณ์ เพราะพวกเราต้องการสมาธิ เกือบห้าทุ่มครึ่งก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พ่อสนไปส่งเรากับไอ้ต่อที่บ้าน ระหว่างทางพ่อสนชมพวกเราใหญ่ ทำเอาเรากับไอ้ต่อเขินจนหน้าแดง แต่ก็ภูมิใจที่คนรุ่นพ่อยังชื่นชมผลงานที่พวกเราตั้งใจทำ สนจะบินไปอเมริกาคืนพรุ่งนี้ นัดกันว่าตอนเย็นๆ จะไปเลี้ยงข้าวสน ร้านที่ไอ้แวนมันเลือก ก่อนนอน เราเอามือถือมาดูอีกที ให้ตายแบตหมดอีกแล้ว โต้งจะโทรมารึเปล่าก็ไม่รู้ ช่างมันเถอะวันนี้เหนื่อยเต็มทีแล้ว

ปล. จะชวนหญิงไปกินข้าวด้วยพรุ่งนี้


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:20:02 น.  

 
7 กุมภาพันธ์ 2008

วันนี้ไม่ต้องไปซ้อม ไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากไปเลี้ยงส่งสนที่สยาม ตอนสี่โมงเย็น ป้าอรเอาเสื้อไปส่งซักหมดเลย เหลือแต่เสื้อตัวที่ไปซื้อกับโต้ง เสื้อแขนยาวสีเขียวอมฟ้า ตอนนั้นโต้งบอกว่า เราเหมาะกับสีเขียว จะว่าไปเราก็มีเสื้อสีเขียวเยอะมาก เมื่อเช้าตอนตื่นนอน เราหยิบมือถือมาดูด้วยความเคยชิน โต้งส่ง SMS มาบอกว่า คิดถึง ซ้อมเป็นยังไงบ้าง คำว่า คิดถึง ของโต้งไม่ทำให้หัวใจเราอบอุ่นเหมือนเคย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เราต้องมานั่งคิดถึงที่ของเราอีกครั้งอย่างจริงจัง สำหรับโต้งเราอยุ่ในสถานะไหนกันแน่ ทุกครั้งที่ความรักของพวกเรากำลังจะเติบโต มันต้องมีเหตุให้เราต้องก้าวถอยหลังเสียทุกที ทำไมล่ะโต้ง ทำไม เราทำอะไรผิด หรือ สิ่งที่เราขอมันมากเกิน แค่ได้อยุ่ใกล้ๆ ได้เจอหน้ากันบ้าง เท่านี้เอง เราขอแค่นี้ ได้ยินเสียงหญิงพูดกับป้าอรข้างล่าง เดี๋ยวคงขึ้นมา เรารีบเช็ดน้ำตา เดินเข้าห้องน้ำล้างเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันนี้ก็ไม่รุ้

หญิงมาคุยเรื่องคอนเสริต บอกว่าเพื่อนๆ หญิงอยากไปขอลายเซ็นสมาชิกคนอื่นในวง รู้สึกคนชื่อ จอย ที่โทรมาหาหญิงวันที่ขโมยขึ้น ทำให้หญิงตื่นขึ้นมาเห็นขโมย ถือว่าช่วยหญิงไว้ หญิงบอกว่า จอย อยากขอถ่ายรูปกับไอ้เอ็กซ์ เราบอกได้เดี่ยวบอกพี่เดียวให้พาไปหลังเวที หญิงคงสังเกตุเห็นเราตาแดง หญิงเลยถามว่าเราเหนื่อยเหรอ ซ้อมหนักใช่ไหม เราไม่อยากพูดถึงโต้งกับหญิง เลยพยักหน้า บอกหญิงว่า เหนื่อยแทบตายเลยละ หญิงยิ้ม บอกว่า จะไปเชียร์ ไม่ต้องห่วง จะกรี๊ดให้ดังลั่นโรงหนังเลย
เรายิ้มให้หญิง รู้สึกดีที่อย่างน้อยหญิงก็ไม่เคยเห็นเราสำคัญน้อยกว่าใคร



เกือบบ่ายสาม รถของพ่อสนก็มาจอดหน้าบ้านเรา ไอ้ต่อนั่งหน้าบานอยู่ข้างหลัง พอเราขึ้นรถมันก็รีบบอกว่า มันตกลงเป็นแฟนกับน้องที่เซ็นฟรังค์แล้ว เราเหลือบมองพ่อสน เห็นแกยิ้มๆ เราเลยคิดในใจ พ่อสนนี่เข้าใจเด็กๆ อย่างพวกเราดีจริงๆ เรามองไอ้ต่อแล้วบอกว่า ดีใจด้วย มันยิ้มค้าง ไม่ยอมหุบยิ้มสักที ไอ้บ้านี่ หน้าก็บานอยู่แล้ว ยังจะยิ้มให้มันบานเข้าไปอีก โต้งโทรเข้ามา เรากดรับ โต้งถามว่าซ้อมเป็นไงบ้าง เหนื่อยรึเปล่า เราตอบไปตามปกติ ไม่น่าเชื่อโต้งจับได้ว่าเราอารมณ์ไม่ดี รีบถามว่า เรายุ่งใช่ไหม โทรมากวนหรือเปล่า จะให้ตอบว่ายังไงโต้ง เราเบื่อตัวเองที่เป็นแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่าโต้งไม่ผิดเลย เราต่างหากที่คิดมาก เรียกร้องมากเกินไป สุดท้ายเราก็กัดฟันบอกโต้งว่า นอนดึก ง่วง เราถามโต้งว่า จะไปเลี้ยงส่งสนด้วยกันไหม เราชวนทั้งที่รู้ว่าโต้งคงไม่มี โต้งบอกว่า ถ้าไม่เย็นมากก็ไปได้ อยากเจอเรา คิดถึง อีกครั้งที่คำว่า คิดถึง ทำให้หัวใจของเราเจ็บยิ่งกว่าเดิม เราบอกสถานที่นัดให้โต้งรู้ โต้งบอกจะรีบมา ไอ้ต่อหันมามองหน้าเรา ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เราส่ายหน้า มองออกไปนอกหน้าต่าง ฟ้ามืดจัง เหมือนฝนจะตก

มีต่อ

มาถึงสยามเกือบสี่โมง ไอ้แวนก็โทรมาบอกอยากกิน MK เลยต้องเดินย้อนจากไอดินกลิ่นครกไปหามัน เรื่องกินนี่ถ้าไปขัดใจ อาจโดนไอ้แวนเหวี่ยงได้ง่ายๆ พอไปถึงปรากฎว่า มันสั่งอาหารไว้เรียบร้อย ดีๆไม่ต้องคิดมาถึงกินอย่างเดียว สนโดนสัมภาษณ์เรื่องมหาลัยที่จะไปเรียน เรื่องอเมริกา ไอ้ต่อกับไอ้แวนเคยไปเมื่อตอนประถม เราไม่เคยไปก็ได้ฟังไปด้วยเพลินดี น่าไปแฮะ สักวันคงมีโอกาส ไอ้เอ็กมาถึงพอๆกับโต้ง เรายิ้มให้โต้งเหมือนปกติ แต่รู้สึกเลยว่าตาเรามันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลย โต้งมานั่งข้างเราตบไหล่เราเบาๆ บอกว่า ไม่ได้เจอกันหลายวันนะ เราพยักหน้า หยิบชามกับตะเกียบให้โต้ง พออาหารมาถึงก็ไม่มีเสียงพูดคุย ทุกคนจดจ่ออยู่กับหม้อสุกี้ข้างหน้า เป็ดย่างกับหมูแดงหมดไปตั้งแต่ยังไม่ทันวางลงบนโต๊ะ เริ่มสงสารสน เงินที่ได้จากพวกเราเป็นค่าติวจะคุ้มไหมเนี่ย พอเริ่มอิ่ม โต้งก็บอกว่า เดี๋ยวต้องกลับแล้วเพราะพ่อไม่ค่อยสบาย เราก้มหน้าไม่อยากมองหน้าโต้ง กลัวจะพูดอะไรไม่ดีออกไป โต้งตบไหล่เราก่อนไป บอกว่า เดี๋ยวคืนนี้โทรหานะ เราพยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไร ไม่แม้แต่จะถามถึงอาการของน้ากร นายมิวนายเห็นแก่ตัว แย่มาก

วงสุกี้เงียบไปทันทีที่โต้งกลับไป เรากินต่อไปเงียบๆ ไอ้เอ็กซ์ชวนคุยเรื่องแฟนไอ้ต่อ ไอ้แวนก็แซวว่าน้องเค้าสวยมาก ไม่น่าเชื่อจะสายตาสั้น โดนไอ้ต่อตบหัวไปคนละที สมน้ำหน้า สนพูดขึ้นว่า พวกเราสนิทกันดี น่าอิจฉา ถ้าสนได้เป็นเพื่อนพวกเราด้วยก็คงดี ไอ้เอ็กซ์มองหน้าเรา แต่พูดกับสนว่ ไม่หรอกถ้าเป็นเพื่อนกับพวกเรา สนอาจจะเสียใจก็ได้ เพราะเราเอาแต่ใจตัวเองมาก น่าเบื่อ เราเงยหน้ามองไอ้เอ็กซ์ โมโหมันขึ้นมาทันที มันยักคิ้วใส่เรา ไอ้บ้านี่คนยิ่งอารมณ์ไม่ดี ยังจะมาล้อเล่นอีก สนเห็นท่าไม่ดี รีบบอกว่า ไม่จริงหรอก เราน่ะเป็นคนใจดีจะตาย ตอน ม.หนึ่ง ยังเคยช่วยสนหาเข็มโรงเรียนเลย เรามองหน้าสน จำไม่ได้ว่าเคยทำอะไรอย่างนั้น แต่เราก็ขี้ลืมอยุ่บ่อยๆอยุ่แล้ว เลยไม่สนใจเท่าไหร่ งานเลี้ยงส่งจบลงด้วยคำอวยพรให้สนโชคดี พาสาวๆ มาฝากบ้าง แลก HI5กัน ออกัสจะทำHI5เป็นของตัวเองในอนาคตอันใกล้นี้ ก่อนจะแยกกันกลับ สนยื่นจดหมายให้เรา เราจำได้ทันทีว่าเป็นจดหมายที่ไอ้เอ็กซ์เอามาให้เราเมื่อเดือนก่อน มันยังคอยถามเราอยุ่บ่อยๆ ว่าให้เอาไปอ่าน คราวนี้เราไม่รู้จะปฎิเสธสนยังไง ก็เลยรับจดหมายมา เอากลับไปอ่านที่บ้าน อย่างน้อยสนก็อุตส่าห์เขียนให้

ปล. หญิงรู้ไหม บางทีคนเราก็มักจะลืมสิ่งที่คนรอบๆ ข้างทำให้ เพราะความใกล้ชิด ยิ่งใกล้มากก็ยิ่งมองไม่เห็น เราอ่านจดหมายของสนจบแล้ว อยากให้หญิงได้อ่านบ้าง


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:24:48 น.  

 
8 กุมภาพันธ์ 2008

เราเริ่มมองผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวเราด้วยดวงตาที่เปิดกว้างมากขึ้น

ป๊า ม๊า น้องมายด์ ครอบครัวที่อยู่ไม่ไกล แต่เป็นเราเองที่แปลกแยกออกมา เพราะตอนนั้นเรามีแต่อาม่า ไม่ค่อยสนิทกับคนอื่น ทั้งที่เราก็สัมผัสได้ถึงความรักความห่วงใย ที่มีให้เรา เราไประยองทุกครั้งเพราะป๊าบอกให้ไป บางทีเสาร์นี้ไปกินข้าวกับป๊า กับม๊า ท่าจะดี น้องมายด์คงอยากให้เราช่วยสอนการบ้านให้ คราวที่แล้วก็เดินตามเราตลอด

ป้าอร ที่คอยดูแลเอาใจใส่ ทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้า ทำอาหารอร่อยๆ ดูแลเราเวลาไม่สบาย คอยเปิดประตูให้เวลาเรากลับดึกๆ บ่อยครั้งที่เราไม่ได้ถามเลยว่าป้าแกสบายดีไหม ทั้งที่เจอหน้ากันอยู่ทุกวัน

น้านีย์ สายตาที่น้านีย์มองเราวันนั้นในรถ ทำให้เรารู้ว่า ความรักของแม่อย่างน้านีย์ ยิ่งใหญ่แค่ไหน ผู้หญิงคนนึงทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ ดูแลสามีและลูกชายโดยไม่ปริปากบ่น พยายามทำทุกอย่างเพื่อประคับประคองเศษเสี้ยวของครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ด้วยคำว่ารักคำเดียว ลึกๆ แล้วน้านีย์ก็คงไม่อยากให้เราสนิทกับโต้งสักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่โต้งมองเรา น้านีย์คงต้องพยายามเข้าใจ และทำใจยอมรับให้ได้ เราต้องรักษาสัญญากับน้านีย์ จะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของโต้งตลอดไป


ไอ้เอ็กซ์ หลังจากที่โต้งย้ายบ้านไป มันก็ยังแกล้งเราอยู่เรื่อยๆ จนวันนึงบราเดอร์สมชายจับมันมาหัดคีย์บอร์ดกับเรา ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่นั้น บางทีก็แกล้งมันกลับ แต่ไอ้เอ็กซ์ไม่เคยโกรธเรา มาง้อเราก่อนเสมอ ทั้งที่บางครั้งมันไม่ได้เป็นคนผิดด้วยซ้ำ มันก็บ้าๆ ตามแบบของมัน แต่ที่เรารู้มันไม่เคยทิ้งเรา

ไอ้แวน เคยอิจฉาที่มันเล่นคีย์บอร์ดเก่งกว่า แต่มันกลับคอยดูแลเราเหมือนพี่ชายที่เราไม่เคยมี ความจริงไอ้เอ๊กซ์เลิกแกล้งเราเพราะกลัวไอ้แวนที่ตัวใหญ๋ขึ้นเรื่อยๆ ทีสำคัญไอ้แวนเคยบอกกับเราว่า ไม่ว่ายังไงเราก็ถูกเสมอ ไอ้เอ็กซ์กับไอ้ต่อเคยแซวว่า บางที่เราก็เอาแต่ใจตัวเอง เพราะไอ้แวนคอยตามใจนี่เอง ไอ้แวนจะคอยเตือนเวลาเราทำอะไรผิด ไม่ว่าจะลืมทำการบ้าน ร้องเพี้ยน เล่นคีย์บอร์ดไม่ตรงคีย์ รวมถึงกินข้าวด้วย

ไอ้ต่อ ตอนที่ฟอร์มวง อยุ่ๆไอ้ต่อก็แบกเบสมาเล่นด้วย ไม่ได้ชวน แต่มันเล่นดี ก็เลยรับเข้าวงด้วย ไม่รู้ทำไม ถ้าคุยกับต่อ มักจะเป็นเรื่องหนัง ไม่ก็เพลงคลาสสิคเก่าๆ คงเพราะมันโตมากับอากง อาม่า เหมือนเรา ไอ้ต่อนิสัยไม่ดีอยู่อย่าง มันชอบเมามันกับดนตรีอยุ่คนเดียว เล่นเพี้ยนพาล่มเอาง่ายๆ แถมไม่ค่อยยอมรับด้วย แต่เวลาเราโดนใครรังแก มันจะแทคทีมมารุมกระทืบฝ่ายตรงข้าม แล้วก็ด่าเราว่าทำไมไม่สู้ แต่มันก็ยังมาช่วยเราทุกทีน่ะแหละ

เจ้าปิงปอง น้องชายที่น่ารัก น่าหมั่นใส้ และน่าเตะที่สุด ต้องคอยดูแลมันมาตลอด

น้องอ้วน น้องสุดท้องในวง แต่พลังเสียงเกินตัว น้องชอบตะโกนใส่หูพี่ๆเล่น บางทีก็มากัดแขน เด็กบ้า

น้องอาร์ม ซื่อบื้อ แต่จริงใจ โกหกไม่เป็น

น้องๆในวงออกัส ทำให้ชีวิตเราไม่เหงาเหมือนที่เคยเป็นมา

หญิง เพื่อนที่เราทำร้ายจิตใจอย่างที่สุด ถึงจะไม่ตั้งใจก็ตาม ทุกวันนี้หญิงยังคงดีกับเรา คอยถามไถ่ความเป็นไปของเรา ตื่นเต้นกับความสำเร็จของเรา ช่วยเหลือให้กำลังใจเวลาที่เราท้อ พยายามสนใจทุกอย่างที่เราสนใจ คำพูดของหญิงที่แซวเราเวลาโต้งโทรมา เหมือนจะยินดี แต่สายตาของหญิงไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลย เราถึงพยายามไม่แสดงออกว่าดีใจ มีความสุขแค่ไหนที่ได้คุยกับโต้งต่อหน้าหญิง แต่ก็ทำไม่ค่อยได้ บางครั้งเราคิดว่าคำว่าเพื่อน อาจจะน้อยเกินไปสำหรับ หญิงที่แสนดี

และโต้ง เราไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีให้โต้ง เพิ่มขึ้นมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ทุกครั้งที่ได้เจอ ใจเราเต้นอย่างมีความสุข เหมือนหัวใจเต้นเป็นจังหวะดนตรี ค่อยๆบรรเลงในใจเราเบาๆอยุ่ตลอดเวลา ความรู้สึกอบอุ่น ตื่นเต้น ผสมปนเปกัน จนบางครั้งเราก็กลัวจะเผลอตัวเผลอใจ ทำอะไรที่ไม่เหมาะสมลงไป แต่ก็ใช่ว่าเราจะห้ามตัวเองได้ตลอดเวลานี่ การยอมทำตามใจตัวเอง มักทำให้เรารู้สึกผิด แต่ก็รู้สึกดีที่สุดในคราวเดียวกัน ยิ่งใกล้ก็ยิ่งอยากใกล้ขึ้นไปอีก เหมือนโต้งเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจที่เราขาดหายไป พอได้คืนกลับมาก็หวงแหน ยอมทุ่มเททุกอย่าง จนบางครั้งขนาดสติยั้งคิด ความรักมันหวานชื่นแต่ก็แฝงไว้ด้วยรสขมขื่น เหมือนยาแก้ไข้ที่เราเกลียด แต่ก็ต้องกินจะได้หาย เรายอมก้าวถอยหลังมาหลายก้าว เพียงเพื่อจะได้เดินเคียงข้างโต้ง แค่คำถามว่า สบายดีไหม ก็ทำให้ทุกเช้ามีความหมายเพียงพอที่ตื่นขึ้นมาแล้ว

จดหมายของสน บอกให้เรารู้ว่า อย่างน้อยความพยายามที่ผ่านมาหลายปี ก็ไม่ไร้ค่า เพราะท้ายที่สุด สนก็ได้บอกความรู้สึกและสิ่งที่ตั้งใจทำมาตลอด ให้เราได้รับรู้ โดยไม่หวังให้เราตอบแทนอะไรให้ เราอาจจะเคยทุ่มเทเพื่อความรักจนสุดตัว แต่พอความรักนั้นไม่เป็นอย่างที่เราหวัง เราก็พร้อมที่จะตัดใจทิ้งมันไว้เบื้องหลัง เรารู้แต่ว่าเราเจ็บ หัวใจเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เราอยากหนีไปให้ไกล แต่เราไม่เคยคิดเลยว่า คนที่รักเราจะรู้สึกยังไง โต้งที่ถูกเราเมินเฉย ยังคงพยายามสู้เพื่อรักษาความรักนั้นไว้ แล้วเราล่ะ เราได้ทำอะไรเพื่อโต้งบ้าง เราบอกน้านีย์ว่าพร้อมจะเป็นเพื่อนที่จะคอยอยู่เคียงข้างโต้งตลอดไป แต่สิ่งที่เราทำกลับตรงกันข้าม เราคิดถึงแต่ตัวเอง หวังให้ทุกคนทำอย่างที่เราต้องการ โต้งต้องเหนื่อยแค่ไหน พยายามแค่ไหน ทำไมเราจะไม่รู้ เราเฝ้าแต่เรียกร้องทั้งที่รุ้ว่า โต้งให้ความสำคัญกับเรา พยายามเข้าใจสิ่งที่เราเป็น คอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยเท่าที่โต้งจะทำได้ แล้วเราล่ะเราได้ทำอะไรให้โต้งบ้าง

มีต่อ

จดหมายจากสน จดหมายที่ส่งให้เรามาเกือบเดือน จดหมายที่เราไม่แม้แต่จะรับมาจากไอ้เอ็กซ์ จดหมายที่บรรจุความปรารถนาดีจากสนไว้อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งที่ได้เจอหน้ากันอยู่เกือบสิบวัน สนก็ไม่เคยถามเราเรื่องจดหมายฉบับนี้เลย ทุกวันสนจะถามไอ้เอ็กซ์ว่าทำนั่นทำนี่ให้เราได้ไหม บางเรื่องก็โดนไอ้เอ็กซ์เบรคเอา เพราะไม่อยากให้เรากับโต้งผิดใจกัน ไอ้เอ็กซ์บอกว่าสนดีใจที่ได้มีโอกาสคุยกับเรา ได้ทำอะไรเพื่อเราบ้าง ชีทที่เอามาติวให้เราสนต้องคร่ำเคร่งอ่านหนังสือทั้งคืน ทั้งยังค้นตำราจากห้องสมุดอีกเป็นกอง ที่สำคัญสนเป็นคนบังคับให้ไอ้เอ็กซ์มาบอกเราเรื่องประกวดวงดนตรี ถึงจะเอาสาวมาล่อก็เถอะ

ตลกดีที่มีคนทำอะไรให้ใครอีกคน โดยไม่หวังผลตอบแทน ทุกๆวันคนๆนั้น เฝ้าแต่คิดว่าวันนี้เค้าได้ทำอะไรให้คนๆนั้นบ้างหรือยัง แล้วจะทำอะไรให้ได้อีก ใช่ทุกๆวันสนเฝ้าแต่คิดว่าได้ทำอะไรเพื่อเราบ้าง เพื่อที่วันหน้าจะได้ไม่เสียใจที่ไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ในวันที่มีโอกาส เราไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจที่สนมีให้เราได้ยังไง เพราะดูท่าทางสนก็ไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่านี้ สนยังลงท้ายจดหมายบอกให้เราลองมองดูรอบตัวเรา แล้วจะรู้ว่ามีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมายจริงๆ ความรักที่เราแสวงหามานานไม่ได้อยู่ใกลจากเราเลย เพียงแค่เรายอมเปิดใจที่ปิดไว้และหันไปมองเท่านั้น

สนทำให้เราคิดถึงอาม่า อาม่ายังคงรออากงอยุ่ที่นี่จนวินาทีสุดท้าย เสียงเพลงที่อากงเคยเล่นให้อาม่าฟังอยุ่ทุกวัน เพลงๆนั้นเราได้เล่นให้อาม่าฟังเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมๆกันกับหัวใจของเราที่ปิดสนิทลง เพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ให้ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดเพราะคนที่เรารักได้จากไปอีก และเป็นเพลงๆนั้นเองที่โต้งขอให้เราเล่นให้ฟังในวันที่ได้พบกันอีกครั้ง เพลงที่เปิดหัวใจของเรา ให้ยอมรับรู้และรักอีกครั้งเช่นกัน
แม้จะรุ้ว่าสักวันหนึ่งไม่เราก็โต้งจะต้องจากกันไป ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย แต่เราก็พร้อมจะเผชิญกับมัน เพราะเรารู้ว่าเราและโต้งจะคอยประคับประคองและเดินเคียงข้างกันตลอดไป ถ้าเราไม่เคยได้รักใคร จิตใจของเราวันนี้ก็คงไม่แข็งแกร่ง ถ้าเรามัวระแวงกลัวว่าจะต้องเจ็บอีกครั้ง วันนี้คงไม่เราและโต้ง ไม่มี กันและกัน ขอบคุณนะ

ปล. รุ้ไหมหญิง ความน้อยใจ ที่เรามีมาตลอดหลายวันมานี้ มันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเราจะไม่ถามอีกแล้วว่าทำไม แต่เราจะถามตัวเองเหมือนที่สนได้ถามมาตลอดหกปีว่า วันนี้เราได้ทำอะไรเพื่อคนที่เรารักบ้างแล้วหรือยัง


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:27:46 น.  

 
9 กุมภาพันธ์ 2008

ทั้งที่ตื่นเต้นกับงานคอนเสริตใหญ๋ครั้งแรกที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมง แต่เมื่อคืนเราก็นอนหลับสนิทไม่ฝันเลย เมื่อวานมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเรามากมาย เราได้นั่งคิด และ คิด ยิ้มกับตัวเอง ร้องไห้กับตัวเอง หัวเราะกับตัวเอง เหมือนคนบ้า เราคงอยุ่กับตัวเองมานานเกินไปละมั้ง ถึงได้ฟุ้งซ่านอย่างที่ไอ้แวนว่า
จดหมายของสน ยังวางอยู่ข้างๆหมอนของเรา ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ที่ได้หยิบขึ้นมาอ่าน ถ้อยคำในจดหมาย ไม่ได้บรรยายด้วยข้อความหวานซึ้งอย่างที่เราเคยคิด แต่บรรจุความปรารถนาดีที่สนมีต่อคนที่สนชื่นชม ซึ่งก็คือเรา บางทีคนเราก็ได้ทำให้ใครบางคนประทับใจโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ ที่โต้งให้ตัวต่อไม้กับเรา เราที่ไม่เคยได้สนุกกับการเล่นอะไรเด็กๆ อย่างนั้น การต้องเดินตามหาชิ้นส่วนแต่ละส่วนของตัวต่อไม้ ไม่ได้ทำให้เราสนุกเลย แต่การได้เดินตามหาชิ้นส่วนนั้นๆ กับโต้งต่างหากที่ทำให้เราเป็นสุข การได้ตามหาส่วนประกอบของจุดหมายปลายทางด้วยกัน ทำให้เรามีความหวัง ท้ายที่สุดชิ้นส่วนที่ขาดหายก็ได้กลับมาประกอบกันอีกครั้ง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่เท่านี้ก็ช่วยเติมเชื้อไฟให้กับความหวังของเราให้ลุกโชนต่อไปได้

โต้งคงไม่รู้หรอกว่า เคยทำให้เด็กชายมิวในตอนนั้น มีความสุขมากแค่ไหน เมื่อเด็กชายโต้งชวนเขาไปเล่นอะไรต่างๆ นานา สายตาของเด็กชายคนนั้นมองโต้งอย่างมีความหวังทุกครั้งที่ได้พบกัน และเด็กชายคนนั้นทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจที่โต้งไม่ยอมมาขอโทษ ตอนที่เป่าหมากฝรั่งหล่นใส่หัว ทำให้เขาต้องถูกตัดผมจนหน้าตาเด๋อด๋า เด็กชายคนนั้นเฝ้ารอให้โต้งมาง้อทั้งวัน แต่สิ่งที่โต้งทำมันมากกว่าที่เด็กชายมิวหวัง โต้งช่วยให้เด็กชายคนั้น ไม่ต้องอับอายต่อหน้าเด็กคนอื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเกลียดที่สุดจนถึงทุกวันนี้

หลังจากอ่านจดหมายของสนจบ เรายิ่งเสียใจกับการกระทำที่แสนงี่เง่าของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ดีใจที่ตัวเองได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น เราโทรหาโต้งตอนเกือบสี่ทุ่ม เสียงโต้งดีใจมาก แต่ก็ถามเราเบาๆว่า เราโกรธมากใช่ไหมที่โต้งไปดูซ้อมใหญ๋ไม่ได้ เรายิ้มกับโทรศํพท์ตอบไปว่า ไม่เลยเราไม่โกรธแล้ว เราเข้าใจ เราโทรมาแค่อยากถามว่า โต้งมีอะไรให้เราช่วยไหม โต้งงง เราเลยย้ำอีกทีว่า หลังคอนเสริตเราจะว่างพอสมควร โต้งอยากให้เราช่วยอะไรไหม โต้งหัวเราะ เรารุ้สึกได้ว่าความตึงเครียดที่ผ่านมาระหว่างเราสองกัน หายไปทันตาเห็นด้วยเสียงหัวเราะของโต้ง โต้งบอกว่า ขอบใจแต่ไม่เป็นไร เราก็ยังห่วงเลยถามว่า เหนื่อยไหมอ่ะโต้ง โต้งเงียบ จนเราเริ่มกลัวว่าพูดอะไรผิดไป ที่สุดโต้งก็ถามกลับมาว่า ไม่เลยมีความสุขที่ได้ตอบแทนน้ากร กับ น้านีย์ คราวนี้ใจของเราไม่เจ็บอีกแล้วที่โต้งเห็นใครสำคัญกว่าเรา ความจริงเรานึกถึงเพลงของ The Beatles เพลง Love me love my dog แล้วก็นึกขึ้นได้ นี่เราว่าน้ากร กับ น้านีย์ เป็นหมาเหรอเนี่ย เราขำกับตัวเอง โต้งถามว่าแล้วเรามีอะไรให้โต้งช่วยไหม เราบอกว่า ช่วยอย่าซื้อดอกไม้มาให้ เพราะอายเขา โต้งหัวเราะเสียงดังพอๆกับเรา ป้าอรเคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้ามาเตือนเราว่า อย่านอนดึก เลยต้องวางสายโต้ง กินไมโลที่ป้าอรเอามาให้ หลับสนิทเหมือนกินยานอนหลับเลย

วันนี้พี่อ๊อดส่งรถมารับ ทุกคนต้องมารวมตัวกันที่สกาล่าตอนเจ็ดโมงเช้า พวกเรามีเวลาแต่งตัวทำผม แต่งหน้า เซ็ทเครื่องดนตรี ซาวน์เช็ค ว๊อยซ์เช็ค กับสถานที่จริง รวมทั้งหมดแปดชั่วโมง เหมือนเยอะแต่ความจริงเวลาผ่านไปเร็วมาก แอร์ในห้องแต่งตัวเสียเกือบชั่วโมง พวกเรานั่งกันเหงื่อไหลท่วมตัว สุดท้ายต้องมาแต่งหน้าทำผมกันใหม่หมด เสียเวลาไปอีกสามชั่วโมง พี่อ๊อดหัวเสียมาก กลัวไม่ทัน พี่เดียวยิ่งลน วิ่งไปวิ่งมา ตะโกนให้พวกเราวิ่งมาทางนั้นทีทางนี้ที จนไอ้แวนต้องเข้าไปสะกิดพี่แกว่า ไอ้เอ็กซ์ไม่ได้เล่นคีย์บอร์ดนะพี่ พี่เดียวเลยยอมนั่งสงบสติอารมณ์ พวกเราก็เหมือนกัน ยิ่งใกล้เวลาคอนเสริตทุกอย่างก็ยิ่งโกลาหล พี่แก้วกับพี่ใหม่ เดินมาบอกว่าร้องเท้าน้องอ้วนหาย จะไปซื้อคู่ใหม่ให้แต่ต้องให้น้องอ้วนไปลองเดี๋ยวจะไม่พอดี พวกเรามองหน้ากันไปมา ตอนนี้ไม่อยากให้ใครหายไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว ได้ยินพี่อ๊อดพูดกับพี่ทีมงานอีกคนว่า คนดูมารอกันตั้งแต่เก้าโมงเช้า ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมง น้องอ้วนก็ยังไม่กลับมา เราแอบชะโงกหน้าออกไปดู แต่โดนแฟนๆกรี๊ดใส่จนหูอื้อ ดีที่พี่ใหม่ดึงตัวเข้ามาหลังเวที และสั่งว่าห้ามไปไหนนอกจากห้องน้ำ เราเล่าให้คนอื่นๆในวงฟังว่าคนดูเยอะมาก ไอ้เอ็กซ์มือสั่นเดินเข้ามาเขย่าตัวเราแก้ตื่นเต้น เลยตบหัวมันไปสองที เมื่อกี๊หูเพิ่งหายอื้อมันยังมาเขย่าให้มึนอีก น้องแม็คสวดมนต์ขอพรให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ไอ้แวนนั่งกระดิกขาเหมือนใจเย็นแต่แอบเห็นมือมันสั่น โธ่เอ๊ย ตัวเราเองก็มือสั่นเหมือนกัน โต้งโทรเข้ามา บอกว่ามาถึงแล้วและขอให้เราทำให้เต็มที่ จะเป็นกำลังใจให้ แต่เสียงของโต้งไม่ได้ทำให้เราหายตื่นเต้นแม้แต่นิดเดียว น้องอ้วนกลับมาพร้อมร้องเท่าคู่ใหม่ พี่อ๊อดหมุนมือเป็นสัญญาณว่า เริ่มได้แล้ว

รอบแรก แสดงตอนบ่ายโมงตรง ตอนที่วิ่งขึ้นเวทีเราแอบสะดุดสายไมค์ด้วย คิดว่าคงไม่มีใครเห็น การแสดงผ่านไปด้วยดี ถึงช่วงสิบนาทีแรก เสียงกีตาร์ไอ้เอ็กซ์จะคร่อมจังหวะเล็กน้อย แต่ดีที่เสียงกลองดังมาก พอช่วยกลบเกลื่อนได้ จนเพลงสุดท้าย กันและกัน ที่ฮิตมากเกินคาด ทุกคนร้องตามได้หมด เหลือบเห็นพี่อ๊อดกับพี่เดียวโยกตามอยุ่ข้างเวทีอย่างเมามันส์ เสียดายอย่างเดียวที่ไฟค่อนข้างมืด เลยมองไม่เห็นโต้ง ดีแล้วเพราะเราไม่ได้ร้องเพลงนี้เพื่อโต้งคนเดียวเหมือนครั้งก่อน แต่เพื่อคนที่เรารัก และ รักเราทุกๆคน รวมถึงแฟนเพลงที่มาให้กำลังใจกันเยอะมาก เสียงกลองรัวสุดท้าย ก่อนจบคอนเสริต เราและเพื่อนร่วมวง ออกมายืนเรียงแถวกันโค้งให้ผู้ชมอย่างสวยงาม เสียงปรบมือ เสียงกรี๊ด ดังกระหึ่ม ทำเอาหัวใจเราพองโต ทุกคนในวงยิ้มไม่หยุด มีคนเอาดอกไม้มาให้หน้าเวทีหลายช่อ ไอ้ต่อมีผู้หญิงหน้าตาน่ารัก เอาดอกกุหลาบสีแดงมาให้ มันยิ้มจนหน้าบาน เรายังได้ของขวัญหลายกล่องกับตุ๊กตาหมีอีกสามตัว พี่ๆทีมงานต้องเข้ามาช่วยขน ดีใจ และ ภูมิใจมาก

พอเข้ามาหลังเวที พวกเราก็แทบสลบเพราะทุ่มเทแรงกายแรงใจไปเต็มที่ พี่อ๊อด กับ พี่เดียว เดินเข้ามาบรีฟ คอนเสริตรอบแรก ไอ้เอ็กซ์โดนด่าไปตามระเบียบ แต่ไอ้แวนก็โดนด้วยเพราะหลุดไปสองสามครั้ง เราไม่ทันฟังแต่ไอ้แวนพยักหน้ารับ ก่อนจะปล่อยให้พวกเราพัก พี่เดียวหันมามองเรา บอกว่า เยี่ยม โดนทุกคนในวงโห่ ด้วยความอิจฉา เพราะพี่เดียวแกไม่ค่อยชมใครเท่าไหร่ ความพยายามนำมาซึ่งความสำเร็จจริงๆ เราโทรหาโต้งถามว่าเป็นยังไงบ้าง โต้งบอกมันส์มาก แต่โต้งแอบเห็นตอนเราสะดุดด้วย เราบอกว่าขาสั่นน่ะ ได้คุยอะไรกันอีกนิดหน่อย เพราะต้องรีบไปเตรียมตัวสำหรับรอบเย็น

หญิงโทรเข้ามาก่อนเริ่มรอบสองเล็กน้อยบอกว่า อย่าลืมลายเซ็นต์นะ เราเลยให้เบอร์โทรพี่ทีมงาน ให้พาหญิงกับเพื่อนเข้ามาได้ เออ ลืมไปทำไมไม่บอกให้โต้งมาหลังเวทีบ้างนะ

รอบนี้เริ่มแบบชิวๆ เราเดินมาหน้าเวทีแบบมืออาชีพ ยิ้มให้ผู้ชมทุกคนเท่าที่จะพอมองเห็น โดยเฉพาะที่นั่งของหญิงที่ขอใว้เป็นแถวแรกหน้าเวที สายตาเรามองไม่เห็นหญิงหรือใครๆ เพราะสะดุดอยู่กับโต้ง ทำไมโต้งมาดูรอบนี้อีกล่ะ อ๋อ เพื่อนโต้งก็เพื่อนกลุ่มเดียวกับหญิงนี่ เราพยักหน้าให้โต้ง เริ่มคอนเสริตด้วยเพลงรู้สึกบ้างไหม แอบเห็นโต้งยกนิ้วโป้งให้กำลังใจ เราพยักหน้าตอบ นี่เป็นครั้งแรกที่โต้งมาดูเราเล่นคอนเสริตแบบใกล้ชิด ระยะห่างแค่ไม่กี่ก้าว รอยยิ้มและกำลังใจที่ส่งมาให้ ทำให้เราร้องและแสดงอย่างสุดความสามารถ ตอนเพลงเช้าวันใหม่จบ เราเดินไปหยิบขวดน้ำที่วางอยู่ข้างๆไอ้แวน มันกระซิบเบาพอให้ได้ยินกันสองคนว่า พอโต้งมานี่เล่นซะสองร้อยเปอร์เซ็นต์เชียวนะ เราหันไปมองโต้ง ตอบไอ้แวนกลับไปเบาๆ ก็ดีกว่าคนบางคนไม่มีใครมาดู มันแอบส่งนิ้วกลางให้ใต้คีย์บอร์ด ดีใจได้กัดมันกลับ เพิ่งรู้จากน้องปิงปองว่า น้องดาที่มันแอบชอบอยู่ ดันพาแฟนเด็กอัสสัมมาดู ไอ้แวนเลยกัดทุกคนไม่ไว้หน้า ปากหมาจริงมึงนี่ ก่อนเริ่มเพลงกันและกัน ซึ่งเราจะร้องเป็นเพลงสุดท้าย เราพูดขอบคุณสปอนเซอร์ ไม่รู้เพราะสั่น หรือเพราะชื่อยาวมาก เลยพูดไม่ครบ (ไม่อยากหันไปมองพี่อ๊อดเลย) และพออินโทรเพลงกันและกันขึ้น หญิงเอาดอกไม้สีขาวช่อใหญ่มาให้เราหน้าเวที เราตกใจนิดหน่อย แต่ก็ดีใจเดินไปรับทันที ตอนที่ก้มมารับหญิงกระซิบบอกว่า หญิงเป็นคนเลือกแต่ออกตังค์คนละครึ่งกับโต้ง เรายิ่งดีใจมากเป็นสองเท่า เราขอบคุณหญิง และหันไปพยักหน้าให้โต้งทีนึง เพลงรักที่เราจรดปากกาเขียนบรรยายความรู้สึกที่เรามีต่อโต้ง เพลงรักที่ทำให้เราได้รู้จักรสจูบแสนหวานเป็นครั้งแรกในชีวิต ถ้าไม่มีโต้งก็คงไม่มีเพลงๆนี้ ถึงเราไม่สามารถมองแต่โต้งได้ เพราะแฟนๆที่มารอชมคอนเสริตก็ต้องการได้รับความสุข จากการแสดงของเราเช่นกัน แต่เราสัมผัสได้ว่าโต้งเข้าใจและรับรู้ตลอดว่าเรารู้สึกยังไง ก่อนจบเพลงเราย้ำประโยคสุดท้ายพร้อมมองหน้าโต้ง คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจฉันมีปลายทาง ใช่ไหมโต้ง เสียงปรบมือดังสนั่นโรงหนัง ดังยิ่งกว่าครั้งแรก เรามารู้ทีหลังว่ามีคนซื้อบัตรดูสองรอบเยอะเหมือนกัน โชคดีที่เรามีเปลี่ยนคิวเพลงนิดหน่อย ไม่งั้นคงตลกน่าดู มาร้องเพลงเหมือนเดิม แสดงเหมือนเดิม ผุ้ชมก็กลุ่มเดิม

พอลงจากเวที ก็แทบสลบ เหนื่อยมาก ทั้งร้องทั้งพูด วิ่งไปวิ่งมาบนเวที เดินไปสมทบกับไอ้แวนที่นอนแผ่อยู่บนโซฟา ไอ้เอ็กซ์ ไอ้ต่อนั่งหอบอยุ่ที่พื้น น้องอ้วน น้องอาร์ม หลับไปแล้ว น้องปิงปองยังโทรหาแม่ไม่เลิก คุยได้คุยดีไอ้เด็กคนนี้ พี่ใหม่เดินเข้ามาหาเราบอกว่า เพื่อนจะขอเข้ามาหลังเวที บอกว่าชื่อหญิง เราบอกโอเคให้พี่ใหม่พาเข้ามาได้เลย หญิงพาเพื่อนผุ้หญิงเข้ามาสองคน กับ เพื่อนผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับโต้ง เราเรียกทุกคนให้มาถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน พร้อมกับแจกสายเซ็นต์ เพื่อนหญิงที่ชื่อจอย จับแขนเราซะแน่น ตอนถ่ายรูป พอถ่ายเสร็จก็ไม่ยอมปล่อย เราไม่รู้จะทำยังไงดี จนหญิงเข้ามาดึงออกไป แต่ก็ได้ยินเสียงเพื่อนหญิงแว่วๆว่า หล่ออย่างนี้ปล่อยไปได้ยังไง เราหันไปมองหญิง เห็นหญิงก้มหน้าไม่ตอบอะไร เราสงสารหญิงที่สุด เลยเดินเข้าไปหาหญิงบอกขอบคุณสำหรับช่อดอกไม้อีกครั้ง หญิงยิ้มให้เราบอกว่า ดีใจที่เราชอบ ไปเลือกตั้งหลายวันกลัวจะไม่ทันวันนี้ เราสัญญากับหญิงว่าจะเก็บไว้อย่างดี หญิงขอถ่ายรูปเรากับดอกไม้อีกที ไอ้แวนแซวว่า จะโยนเมื่อไหร่จะได้รับ ทุกคนหัวเราะ ก่อนหญิงจะถูกขอให้ออกไปเพราะพวกเราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เราถามหญิงเบาๆว่า โต้งกลับไปแล้วเหรอ หญิงยิ้มให้เราบอกว่าโต้งต้องรีบไปดูน้ากร แต่จะโทรมาหาเรา เสียงหญิงฝืนมากๆ เราเสียใจที่ถาม ไม่ควรเลยถึงอยากรู้แค่ไหนเราก็น่าจะถามโต้งเอง หญิงไม่ใช่แมสเซ็นเจอร์ ให้เรากับโต้งสักหน่อย และที่สำคัญเราจับความรู้สึกหญิงได้ว่า ยังมีความรู้สึกกับเราเหมือนเดิม แต่เราไม่สามารถตอบแทนความรู้สึกนั้นได้ ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะประคับประคองความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนที่ดีเอาไว้ดีกว่า เราไม่อยากให้หญิงต้องเจ็บ

พี่อ๊อดบอกไม่บรีฟ ไม่ใช่เพราะพวกเราเล่นดี แต่เพราะเห็นว่าพวกเราเหนื่อยมาก เลยจะไปบรีฟอีกทีวันจันทร์ ให้พักได้เต็มที่หนึ่งวัน พวกเราไชโย ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน รถตู้มาส่งเราเป็นคนสุดท้าย เราปิดประตู โบกมือลาพี่เดียวที่ใจดีนั่งมาเป้นเพื่อน กำลังจะตะโกนเรียกป้าอร ประตูบ้านก็เปิดออก โต้งชะโงกหน้ามามองเรา บอกว่าจะมาค้างเป็นเพื่อน มีอะไรคุยด้วยเยอะแยะ เราถามโต้งถึงน้ากร โต้งบอกว่า กลับไปจัดอาหารจัดยาให้พ่อแล้วก็ตรงมาบ้านเรา ซื้อราดหน้าร้านที่เราชอบมาให้ด้วย ความจริงเรากินพิซซ่ามากับพวกน้องปิงปองแล้ว แต่กลิ่นหอมของราดหน้าก็ทำให้เรากินจนหมดชามได้ง่าย ๆ
พอเราอาบน้ำเสร็จ เห็นโต้งกำลังดูซีรีย์ โนดาเมะอยู่ เราเลยมานั่งดูด้วย เออตลกดีจริงๆ ยัยโนดาเมะนี่ถอดแบบมาจากการ์ตูนเปี๊ยบเลย รุ่นพี่จิอากิ หน้าตาแย่ไปหน่อย แต่แสดงดี ดูได้แค่ตอนเดียวเราก็เริ่มหาว เหนื่อยจริงๆวันนี้ โต้งถามว่าง่วงทำไมไม่ขึ้นไปนอน เราส่ายหน้าซบหัวลงกับไหล่ของโต้ง หลับตา บอกโต้งเบาๆว่า ดูจบเรียกด้วยนะ ได้ยินเสียงโต้งแว่วๆว่า อืม

ปล. ดอกไม้ของหญิงป้าอรเอาไปแช่น้ำให้ จะได้เอาไว้ดูหลายๆวัน ขอบใจอีกครั้งนะ


End of Part III


โดย: kwanmanee วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:13:30:26 น.  

 
ตามอ่านอยู่ค่ะ ปกติอ่านในบอร์ดรักแห่งสยาม แต่ไม่ได้เมนท์เพราะไม่มีลอกอิน

เห็นตรงนี้เมนท์ได้ ก็เลยมาหยอดไว้ซะหน่อยว่าเป็นแฟนฟิคของคุณนะคะ


โดย: annie IP: 125.27.115.164 วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:22:08:41 น.  

 
ทำไม พาสเเรกกับพาสสอง
ถึงต้องเป็นสมาชิกหรอคะ ถึงจะเม้นได้

เเต่พาสนี้เม้นได้ เย้ -*
อ่านแบบยาวนาน มาก ชอบบบ
ยังดีที่โต้งมาคอนเสิร์ตออกัส !


โดย: TongMew IP: 118.172.195.110 วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:19:05:23 น.  

 
ดีใจนะคะ ที่ได้มาเจอฟิคนี้
จะติดตามผลงานต่อไปค่ะ


โดย: nop IP: 180.180.187.16 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:18:39:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kwanmanee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add kwanmanee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.