ตับหมูอบซ๊อสไวน์แดง(ดำ)กับจานประจำแตงกวาผัดไข่ ตัวเองเป็นคนชอบทำอาหารค่ะ ชอบเลียนแบบ ชอบแฉลบนอกสูตร อะไรที่ชอบจะจับมามิกซ์แอนด์มั่ว ก็ได้อาหารมาหนึ่งจานแบบฟลุ๊คๆ ดีที่คนเสี่ยงต่อการที่ท้องไส้ปั่นป่วนเป็นไอ้ตึ๋งหนืดลูกเราเอง ลูกชายเป็นพวกนักดัน บางทีก็มียุส่งให้แม่เปิดร้านทำอาหารเลยก็มี จากคนที่ทำอาหารไม่เป็นสับประรด ได้แรงเชียร์จากลูกตอนนี้ก็เป็นบักนัดแล้วค่ะ จานแรกภูมิใจนำเสนออย่างยิ่ง...ตับหมูอบซ๊อสไวน์แดง ส่วนผสม - ตับหมู ตามต้องการ ใครทำกับข้าวเป็นไม่เป็นก็ดูตรงหั่นตับให้สวยนี่แหล่ะ - กระเทียม สักสองกลีบปานกลาง สับๆ ให้ไม่เหลือเป็นกลีบก็พอ - หอมหัวใหญ่ จะหั่นตามยาวหรือหั่นลูกเต๋าก็แล้วแต่ชอบ อย่าใส่ทั้งหัวเป็นพอ - แครอท ปอกเปลือกแล้วเช่นเคยค่ะ อยากกินแบบไหน ทำไปโลด - เพรสเซโมโล (ผักชีค่ะ) สับๆ หรือจะเด็ดๆ ขอให้ดับคาวได้เป็นพอ - พริกไทค่ะ ดับคาว - น้ำมันพืช หรือน้ำมันโอลีฟ ก็แล้วแต่สะดวก - ไวน์แดงสักเป๊กนะคะ..อย่าเผลอจิบจนไม่พอใส่หล่ะ - เกลือ ฝรั่งใช้เกลือค่ะ แต่ใช้ซ๊อสภูเขากับซีอิ้วขาวเด็กสมบูรณ์อร่อยกว่า วิธีทำ -- แบบรวบรัด ตั้งกะทะใส่น้ำมันพืช ใส่กระเทียม ใส่หอมหัวใหญ่ พอหอมเริ่มใส ก็ใส่แครอท -- ผัดสักพักใส่ตับหมูลงไป เกลี่ยๆ ให้ตับหมูทั่วๆ กะทะ อย่าเพิ่งคน พอตับเริ่มตึงตัว ใส่ไวน์แดงราดลงไปล้างคาว -- ตอนนี้พลิกกลับอีกด้านของตับค่ะ ใส่พริกไท แล้วเติมน้ำให้ท่วมตับ ปิดฝาไว้ แล้วนั่งเฝ้า -- รอให้น้ำเริ่มงวด ใส่เกลือ หรือจะใส่ซ๊อส ใส่ซีอิ้วก็แล้วแต่ชอบ เราทำเอง กินเองเอาให้อร่อยเราก็แล้วกัน -- ตอนนี้ใส่ผักชี หรือเพรสเซโมโลได้ค่ะ..กลิ่นจะหอมไปแปดบ้านแล้วหล่ะ -- พอน้ำงวดมากๆ แล้ว น้ำมันจะเริ่มเห็นเป็นเงาๆ แล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาชิมค่ะ -- ตัวเองชอบกินตับแบบสุกๆ แข็งๆ เลยปล่อยไว้จนงวดทั้งน้ำและน้ำมัน เลยได้รูปสำเร็จแบบดำปี๋.. แต่รับรองความอร่อยค่ะ..ประมาณว่าดำแต่นอก ในแพ้ว ผ่องเนื้อ นพคุณ (ว่าไปนั่น) แถมค่ะแถม..อีกจานที่ทำบ่อยแต่คนกินไม่เคยเบื่อ แถมบอกแม่ทำอร่อยกว่าเจ๊เล็กบางขุนนนท์ ขืนไม่ชมแม่ก็ไม่มีคนทำให้กินสินะตึ๋งนะ..เออลูกเราก็ไม่โง่นี่นา อาหารจานแถม แตงกวาผัดไข่ ส่วนผสมก็อย่างที่เห็นค่ะ อยากกินอะไร มีผักอะไรในตู้เย็นก็หั่นปนกันได้ค่ะ บางวันก็หั่นต้นหอมใส่ไปพอให้มีท่อนเขียวๆ บางวันก็หั่นแครอทใส่ไปด้วย ส่วนวิธีทำก็ขอผ่านค่ะ ไม่อยากเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน หุหุ แค่อยากเอามาอวดค่ะว่า...อาหารอิตาเลี่ยนกินบ่อยๆ มันเลี่ยน หรือจะสู้ผัดผัก ผัดพริก แกงเผ็ด แกงส้มบ้านเราได้ยังไงเนอะ ถือว่าเป็นบล็อกจานด่วนนะคะ..ช่วงนี้สอบเลยไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ มีไฟท์ติ้งกับครูนิดหน่อย เอาไว้มาเล่าวีรกรรมให้ฟังค่ะ   Create Date : 25 พฤศจิกายน 2552 7 comments Last Update : 25 พฤศจิกายน 2552 6:44:19 น. Counter : 2499 Pageviews. Share Tweet

หิวแต่เช้าเลย น่าทานจัง   โดย: AM NUCH 25 พฤศจิกายน 2552 7:52:29 น.

แวะถือจานมาขอน้องกุ้งทานด้วยสีสันน่าทานนะจ๊ะ   โดย: อุ้มสี 25 พฤศจิกายน 2552 9:05:54 น.

น่าทานจังเลยค่ะ   โดย: I_sabai 25 พฤศจิกายน 2552 9:07:05 น.

ไม่ชอบกินตับหมู แต่อยากลองสูตรนี้จัง จขบ.การันตี สูตรนี้ต้องลองแน่ ๆ ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะ   โดย: บ้านฟ้าซอย 5 25 พฤศจิกายน 2552 9:16:15 น.

อูหู้..คุณกุ้ง ตับดำๆใส่พริกไทยเยอะๆ ผัดแห้งๆนะ ของโปรดเลยล่ะ ยิ่งถ้าได้กินกับข้าว เหนียวนุ่มๆนึ่งร้อนๆนะ อย่าบอกใคร เลย...ยยย ยิ่งจาน 2 แตงโม เอ๊ย..แตงกวาผัดไข่ นะ นี่ก็เป็นจานโปรด แต่กระพ๊มชอบ แบบกรอบๆนะ สุกแล้วเสริฟเรย..ยย เอาบวบผัดไข่มาแรกก็ไม่ยอม คริ คริ คุณกุ้ง ไม่ลองทำยำแตงกวาดูบ้างล่ะ ส่วนผสมก็มีหอมแดง พริกขี้หนู กะปิ น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว กุ้งสดลวก พอสุก คลุกๆให้เข้ากัน เติมคื่น ฉ่ายซักนิด อร่อยนะ ขอบอก   โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 25 พฤศจิกายน 2552 11:01:35 น.

หมดยังอ่ะ   โดย: แม่อ้วนคนสวย 25 พฤศจิกายน 2552 12:41:51 น.

เข้ามาชิมตับอบไวน์แดงของแม่กุ้งเจ้าเก่า... ท่าทางน่าอร่อยนะ แต่สำหรับผมแล้วมีรีมาร์คอยู่สองประการสำหรับอาหารจานตับ อันดับแรก ถ้าหากจะกินโดยไม่ถูกเจ้าพนักงานทางดานสุขอนามัยคนใดท้วงติงละก็ ขอเป็นตับแบบสุกน้อย ๆ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ จะได้รสชาติของความเป็นตับมากกว่าไอ้แบบสุกจนแข็งกระดึ๋งเป็นไหน ๆ ตับที่ดีต้องมีรสขมปะแล่ม ๆ จึงจะถูกใจโก๋วัยดึก ทำให้นึกถึงเมนูเด็ดคือ ต้มพุงหรือต้มเครื่องใน... นอกจากตับจะขม ๆ แล้ว ต้องมีน้ำดีใส่สักหน่อย ให้ขมกลมกล่อมยิ่งขึ้น และที่เป็นพระเอกของงานต้มเครื่องในก็คือ ขี้เพรี้ย หรือขี้อ่อน อันหลังนี่ ถ้าขาดเสียคราวใด ต้มเครื่องในชามน้ำเป็นกร่อยในรสชาติไปในทันทีทันใด แต่หากจะทำกินให้ฝรั่งเห็น พวกตาน้ำข้าวเห็นสารพัดเครื่องในในชามแล้ว อาจจะทำหน้าปู่เลี่ยน พาลจะคายของเก่าที่กินไปมื้อที่แล้วออกมา จึงแนะนำให้กินกันในขอบเขตขันธสีมาแห่งประเทศไทย จะเป็นการดีที่สุด ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งของอาหารจานตับก็คือ มีคนตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ตับเป็นอวัยวะที่ใช้ในการกรอง ดัก บรรดาสารพิษทั้งหลายออกจากร่างกายของสัตว์แต่ละชนิด ดังนั้น จึงไม่ควรบริโภคให้มากนัก เพราะสารพิษที่ว่านี้ จะเข้ามาสะสมในตับของเราแทน จริงเท็จประการใด ไม่มีปัญญาพิสูจน์ แต่อนุมานตามหลักความรู้ด้านชีววิทยาแบบงู ๆ ปลา ๆ ที่พอมีอยู่ ก็ออกจะเห็นด้วยไม่น้อย ก็เลยไม่คิดจะกินอาหารจานตับให้บ่อยนัก อย่างมากเดือนละสองสามครั้งก็พอจะอนุโลม ขอบใจแม่กุ้งมาก ที่เอาเมนูจานตับมากระตุ้นต่อมน้ำย่อย ทำให้เกิดอาการเปรี้ยวปากอยากกินตับขึ้นมาในทันทีทันใด เพราะว่างเว้นเมนูนี้ไปหลายเพลาแล้ว ว่าพลางมีบัญชาให้คุณแม่บ้าน ไปซื้อตับมาผัดดอกกุ้ยช่ายกินให้หายอยากสักจานใหญ่ ๆ ท่าจะดี ว่าแล้ว....เชิด.   โดย: ลุงแว่น 25 พฤศจิกายน 2552 17:52:49 น.