ใต้ทะเลฝัน 1
ฟ้าสางแล้ว ความหนาวเย็นเสียดผิวกาย แล้วแล่นผ่านป่นไปกับลมหายใจแทรกซานไปทั่วร่างกาย โทนพรากตัวเองจากเตาไฟที่น่าจะนั่งอาบอุ่นให้หนำใจในยามหน้าหนาวที่หนาวเหน็บเช่นนี้ โทนก้าวย่างสู่ยอดดอยสูงหลังหมู่บ้านน้ำบ่อใหม่ ซึ่งเป็นหมู่ชาวเขาเผ่าลีซอในอำเภอเวียงแหง เพื่อหาที่เหมาะๆนั่งชมวิว ทิวทัศน์ และทะเลหมอก โทนเป็นลูกชาวเล ชอบทะเล สมัยเด็กๆโทนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ากลางป่าเขาดอยสูงยังมีทะเลที่งดงามและน่าอัศจรรย์เช่นนี้มาก่อน
ทะเล มีหาดทรายขาวทอดยาวสุดตา มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในใต้ท้องทะเลมากมาย ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ปะการังนานาพันธุ์ ทะเลคือบ้านที่อยู่อาศัยของสัตว์เหล่านี้ ซึ่งธรรมชาติไว้อย่างลงตัว ส่วน ทะเลหมอก มันก่อเกิดขึ้นในยามรุ่งสางจวบจนทินกรสาดแสงฉาย สลายสายหมอกจนหายสิ้นในยามสาย ทะเลหมอกก็ก่อเกิดขึ้นโดยธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมา และภายใต้ทะเลหมอกก็มีสิ่งมีชีวิตนานานับมันเกื้อกุลต่อกันและกันอย่างลงตัวเช่นกัน
ถึงจุดชมที่เหมาะๆพอสามารถแลเห็นวิว ทิวทัศน์ได้กว้างไกล ไม่มีเนินดอยลูกใดมาบดบัง สายตา โทนได้ขอนไม้ท่อนหนึ่งเป็นที่นั่งพัก เดินมาไกล ภายในร่างกายขับความร้อนออกมาไล่ความหนาวเหน็บภายนอกได้บ้าง
โทนนั่งชมทะเลหมอกอย่างเอิบอิ่ม โน้นสายธารสายหมอกมันกำลังไหลไปรวมกันในทะเลกว้าง แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องทำให้แลเห็นสายหมอกเป็นสีขาวสะอาดตา มันเคลื่อนตัวเป็นคลื่นคล้ายคลื่นในทะเลอันดามัน แต่ไม่มีหาดทรายขาวสวยให้เดินเล่น โทนมองลึกลงไปในทะเลหมอกด้วยจินตนาการ คนในเมืองเล็กๆ แต่ความสุนทรีมีมากมาย จมอยู่ใต้ทะเลแห่งสายหมอก พวกเขากำลังพาตัวเองเคลื่อนไหวไปตามจังหวะวิถีของชีวิต บนเส้นทางแห่งกาลเวลา ความรู้สึกภายในส่วนลึกของจิตใจ จะเป็นอย่างไร? เมื่อพวกเขาได้รับรู้ว่า ในอนาคตอันใกล้ เมืองใต้ทะเลหมอกอันบริสุทธิ์แห่งนี้ที่เป็นอยู่อาศัยของเขามาตั้งแต่รุ่นโคตรของปูทวดจะกลายเป็นทะเลหมอกมวลพิษ ที่มาจากการทำเหมืองแร่ลิกไนต์ เมืองแหงเมืองแห่งตำนานพุทธกาลในอดีตมีตำนานเกี่ยวพันกับลำน้ำแตง โดยเชื่อกันว่าในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอานนท์องค์อุปฐาก เสด็จจาริกและสั่งสอนโปรดสรรพสัตว์ จนบรรลุถึงเมืองเมืองหนึ่ง พระองค์ได้ประทับพักแรม ณ ยอดดอยเตี้ยลูกหนึ่ง พอรุ่งขึ้นวันใหม่ มีชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ( ยาง หรือที่เรียกตัวเองว่า ปกาเกอะญอ ) บ้านแม่ยางกุ่ม ได้นำข้าว น้ำโภชนาอาหาร พร้อมกับแตงลูกหนึ่ง ถวายพระพุทธองค์ พระอานนท์ก็ได้นำแตงลูกนั้นไปปอกเปลือก และผ่าเป็นซีกๆ แล้วทิ้งเปลือกแตงลงไปในลำธาร ซึ่งต่อมาลำธารแห่งนี้ก็ปรากฏชื่อว่า ลำแม่น้ำแตง ขณะที่พระพุทธองค์เสวยแตงที่พระอานนท์นำไปถวายนั้น พระทันต์ ( ฟัน ) ก็กะเทาะออกมา ( คำว่ากะเทาะภาษาถิ่นเรียกว่า แหง )ด้วยเหตุนี้เมืองแหงจึงได้ชื่อว่า เมืองแหง
Create Date : 12 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2551 10:53:01 น. |
|
0 comments
|
Counter : 224 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
งานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ
แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง
***************************
งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|