Group Blog
ธันวาคม 2550

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เปิด ดิคฯ อังกฤษ-ไทย กันเข้าไป ทำไมไม่เก่งภาษาอังกฤษสักที
เปิด ดิคฯ อังกฤษ-ไทย กันเข้าไป ทำไมไม่เก่งภาษาอังกฤษสักที

เวลาคุณอ่านบทความภาษาอังกฤษสักเรื่อง แล้วเจอคำศัพท์ที่คุณไม่รู้ความหมาย คุณจะทำอย่างไร? แน่นอนคุณคงตอบว่าก็เปิด dictionary ดูสิ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ก็คงเปิด ดิคฯ อังกฤษ-ไทย หรือไม่ก็เปิดจากคอมพิวเตอร์ดูความหมายของคำนั้น เสร็จแล้วก็ปิดทันที ลองนึกดูสิครับว่าหากคุณมีพฤติกรรมดังกล่าว มีคำศัพท์สักกี่คำกันที่คุณสามารถจำได้ขึ้นใจ นำมาใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงลืมคำศัพท์เหล่านั้นภายในเวลาไม่นานนัก และถึงแม้จะจำได้คุณก็อาจจะใช้มันไม่เป็นอยู่ดีถ้าคุณไม่ดูหลายๆ อย่างที่อยู่ในดิคฯ ประกอบกัน ลองทำอย่างนี้ดูสิครับ มันจะทำให้คุณมีพัฒนาการการเรียนรู้ภาษาอังกฤษขึ้นอีกเป็นกอง

เริ่มจาก ใช้ดิคฯ อังกฤษ-อังกฤษ แทนดิคฯ อังกฤษ-ไทยครับ ที่แนะนำเช่นนี้เพราะไม่มีภาษาใดในโลก 2 ภาษาที่สามารถแปลได้โดยมีความหมายเหมือนกันเป๊ะ 100% ทุกคำ อาจเป็นเพราะ วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เช่นคนไทยมีคำว่า “เกรงใจ” แต่ในภาษาอังกฤษไม่มีคำศัพท์คำเดียวโดดๆ ที่สามารถสื่อความเหมือนคำว่า “เกรงใจ” เป๊ะ 100% ที่สำคัญเรื่องการออกเสียงยิ่งไปกันใหญ่ ผมขอแนะนำ ณ ที่นี้เลยนะครับว่าถ้าอยากรู้ว่าคำศัพท์ต่างๆ อ่านออกเสียงที่ถูกต้องอย่างไร ห้ามดูคำอ่านจากดิคฯ อังกฤษ-ไทยเป็นอันขาดเพราะดูไปก็ผิดอยู่ดี ยิ่งถ้าคุณจำสิ่งผิดๆไปใช้ สู้อย่าดูจะดีกว่าครับ สาเหตุที่ไม่แนะนำให้ดูคำอ่านไทยเพราะบางเสียงในภาษาอังกฤษไม่สามารถเขียนแทนด้วยภาษาไทย อาทิเช่น เสียง th จากคำว่า method ดิคฯ บางเล่มอ่านว่า “เม็ธธัด” บางเล่มก็อ่านว่า “เมทซเทซิด” ซึ่งไม่ถูกต้องซะทีเดียว แต่ถ้าให้ผมเขียนเสียงอ่านที่ถูกต้องเป็นภาษาไทย ผมก็เขียนไม่ได้ครับ เพราะเสียง th ไม่ใช่ “ธ” ไม่ใช่ “ท” และก็ไม่ใช่ “ทซ” แต่อย่างใด เวลาคุณออกเสียง th จะต้องแลบลิ้นออกมาเล็กน้อยพร้อมกับพ่นลมออกมา ซึ่งเวลาเราออกเสียง “ธ” ลิ้นเราก็อยู่เฉยๆ เห็นมั๊ยครับว่าออกเสียงต่างกัน

ถ้าอยากจะรู้คำอ่านที่ถูกต้องจริงๆ ต้องเทียบเสียงดูโฟเนติค (phonetics) ที่มีอยู่ในดิคฯ อังกฤษ-อังกฤษซี่งเป็นคำอ่านของภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ แต่ยากกว่าภาษาไทยตรงที่มันจะเป็นสัญลักษณ์พิเศษที่คุณต้องรู้เสียงที่ถูกต้องของแต่ละตัวจึงจะสามารถรู้ได้ว่าควรจะออกเสียงอย่างไร นอกจากนี้แล้ว คุณควรจะดูด้วยว่าคำนั้นเป็นคำชนิดไหน แล้วใช้มันให้ถูกกับชนิดคำนั้นว่าเป็นคำนามนับได้หรือนับไม่ได้, กิริยาต้องการกรรมหรือไม่ต้องการกรรม, คุณศัพท์, วิเศษณ์, บุพบท หรือ สันธาน ที่บอกให้ดูเช่นนี้เพราะจากประสบการณ์ผู้เขียน พบว่าในเรื่องของ grammar คนไทยจำนวนไม่น้อยมักใช้คำผิดหน้าที่

อีกอย่างที่สำคัญมากๆ เลยคือ ตัวอย่างประโยคครับ ซึ่งคนที่เปิดดิคฯอังกฤษ-ไทย อาจจะไม่มีตัวอย่างประโยคให้ดู ถ้าคุณรู้แต่ความหมายก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้คำนั้นเป็นนะครับ ยกตัวอย่างคำพื้นๆ ที่ใครๆ ก็รู้ความหมาย เช่นคำว่า “smile” แน่นอนทุกคนรู้ว่าคำนี้แปลว่า “ยิ้ม” ถ้าถามว่าคำนี้อ่านอย่างไร? คนไทยส่วนใหญ่คงตอบว่า “สะ-มาย” ไง แต่ถ้าสังเกตฝรั่งเวลาพูดคำนี้เค้าจะมีหางเสียงลงท้ายด้วยเสียงตัว “L” คือคุณต้องยิ้มค้างไว้แล้วเอาปลายลิ้นขึ้นไปแตะโคนฟันบนแล้วกลับลงมาตำแหน่งเดิม ลองทำตามนี้พร้อมกับพูดว่า “เหลอะ” ก่อนหุบยิ้ม นี่แหละครับคือเสียงตัว “L” ดังนั้นเวลาคุณได้ยินฝรั่งพูดคำนี้บางทีจะมี 3 พยางค์ว่า “สะ-มาย-อัล” ซึ่งเสียงสุดท้ายคือเสียงตัว “L” นั่นเอง ลองสังเกตดูนะครับ อีกคำถามที่คุณอาจจะตอบผิดคือ ถ้าจะพูดว่า “ฉันยิ้มให้กับคุณ” คุณจะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร คนส่วนใหญ่อาจจะตอบว่า I smile to you. ถ้าคุณเปิดดิคฯ อังกฤษ-อังกฤษ ดูตัวอย่างประโยค คุณจะรู้ทันทีว่า smile ใช้กับบุพบท at ครับ คำตอบที่ถูกต้องคือ I smile at you. เห็นมั้ยครับว่าการแปลจากไทยเป็นอังกฤษตรงๆ อาจไม่ถูกต้องเสมอไป ดังนั้นหากคุณเจอคำศัพท์ที่ไม่รู้ความหมายครั้งต่อไป อย่าลืมเปิดดิคฯ อังกฤษ-อังกฤษ ดูทุกอย่างตามที่บอกไปนะครับ รับรองว่าคุณจะใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องมากขึ้นแน่นอนครับ

คำเตือน: การเปิดดิคอังกฤษ-อังกฤษช่วงแรกอาจจะทำให้คุณหงุดหงิด รำคาญใจได้เพราะคุณต้องอ่านความหมายเป็นภาษาอังกฤษแล้วแปลเป็นไทยอีกจึงจะเข้าใจ (ผมเองก็เคยเป็น) แต่ถ้าคุณฝึกใช้ไปนานๆ คุณจะเคยชินแล้วจะไม่เหลียวกลับมามองดิคฯ อังกฤษ-ไทยอีกเลย ลองพยายามดูนะครับ



Create Date : 21 ธันวาคม 2550
Last Update : 21 ธันวาคม 2550 22:25:15 น.
Counter : 1552 Pageviews.

5 comments
  
ดิก eng-eng มีประโยชน์จิงๆ ค่ะ

เช่น ทำให้เรารู้ว่า คำว่า suck ไม่ใช adj.
หลงคิดมาตั้งนาน
โดย: iSis_OsiRis IP: 124.157.205.96 วันที่: 21 ธันวาคม 2550 เวลา:22:53:40 น.
  
โดย: ดรีม IP: 203.113.61.200 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:09:34 น.
  
กำลังคิดจะซื้อพอดีเลยค่ะ
พอดีงบบานแล้ว ก็เลยขอพับไว้ก่อน
เอาไว้ตังค์ออกเมื่อไหร่
จะไปคว้ามาแน่นอน

กำลังดูๆอยู่เหมือนกันว่าจะใช้แบบไหนดี
โดย: ryuzaki วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:32:48 น.
  
ผมเอาเว็บ dict. Eng.- Eng. ของ Oxford มาฝากครับ ใช้เป็นประจำเลย เนื้อหาตรงเป๊ะกับ talking Dict. เลยครับ
โดย: Cookie IP: 58.9.146.91 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:45:32 น.
  
ผมเอาเว็บ dict. Eng.- Eng. ของ Oxford มาฝากครับ ใช้เป็นประจำเลย เนื้อหาตรงเป๊ะกับ talking Dict. เลยครับ

//www.oup.com/oald-bin/web_getald7index1a.pl

ลืมลิงค์ครับ พอดีใจร้อนไปนิดครับ ข้อแก้ไขนะครับ อิอิ
โดย: Cookie IP: 58.9.146.91 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:19:47:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3