Group Blog
กรกฏาคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
***ตัวอย่าง 10 บทจากหนังสือ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" โดยครูเฟียต (ตอน1)***


ตัวอย่าง 10 บทจากหนังสือ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" โดยครูเฟียต (ตอนที่ 1)

วันนี้ผมนำ
ตัวอย่าง 10 บทจากหนังสือของผมที่ชื่อ 
"เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มาฝากกันครับ





หนังสือมีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศแล้ว(ร้านซีเอ็ด ร้านนายอินทร์ ร้าน B2Sร้าน Kinokuniya ฯลฯ)ในหมวดภาษา หากหาไม่เจอ ให้นำรูปถามคนขายได้เลยครับ


นอกจากท่านจะได้ทั้งความสนุกจากการอ่านจนแทบวางไม่ลงแล้วท่านจะได้รับทั้งความรู้ เทคนิคเจ๋งๆ แรงบันดาลใจ ไฟลุกโชนหลังจากการอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างแน่นอนครับ รับประกันคุณภาพทุกตัวอักษรครับ




บทที่ 2 “เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้คุณเก่งเหมือนคนจบนอก”

จากข้อสงสัยที่ผมมีมาโดยตลอดว่า...

ทำไมคนที่ไปเรียนนอกส่วนใหญ่จึงมีทักษะภาษาอังกฤษดีกว่าคนไทยที่อยู่ในเมืองไทย?

แล้วคนไทยอย่างเราจะทำอย่างนั้นบ้างได้มั้ย?

“ทำได้สิครับ” ...ผมทำได้มาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน คุณก็ต้องทำได้เช่นกัน

และข่าวดีคือ...ยิ่งสมัยนี้ทำได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะ

วิธีการนี้เราเรียกว่า “immersion” คือการที่เราอยู่ในสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราต้องใช้ภาษาอังกฤษ

คุณสามารถเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณจากไทยๆ ให้กลายเป็นฝรั่งได้เช่น

- เปลี่ยนจากดูละครไทยไปดูซีรี่ส์ฝรั่งแทนดูหนังฝรั่ง คลิปของฝรั่งใน YouTube

- ฟังเพลงฝรั่งแทนเพลงไทย

- ฟังวิทยุคลื่นที่ฝรั่งจัดรายการ

- คุยกับเพื่อนสนิทหรือคุยกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ

- อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ฯลฯ

ถ้าคุณปรับนิสัยใหม่ให้ตัวเองได้คลุกคลีอยู่กับภาษาอังกฤษบ่อยๆ

รับรองว่าทักษะภาษาอังกฤษของคุณพัฒนาดีขึ้นได้อย่างแน่นอนครับ


บทที่ 5 “ใจ” กับ “วิธีการ” อันไหนสำคัญกว่ากัน?

บทนี้สำคัญมากๆและเกิดจากข้อสงสัยของผมมาโดยตลอดของการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมากว่า 13 ปี

สิ่งที่ผมสงสัยคือ ผมสอนภาษาอังกฤษมาเป็นร้อยเป็นพันคน

แต่ทำไมลูกศิษย์ผมแต่ละคนจึงประสบความสำเร็จไม่เท่ากัน?

บางคนไม่สำเร็จ ในขณะที่บางคนก็สำเร็จอย่างน่าทึ่ง

เช่น เปลี่ยนสำเนียงเป็นฝรั่งได้ภายใน 6 สัปดาห์

ทั้งๆ ที่ ผู้เรียนก็เรียนอยู่ใน class เดียวกันได้ยินผมสอนด้วยประโยคเดียวกันเลยนะ

สุดท้าย...ผมขอสรุปแบบรวบรัดเลยว่า...อยู่ที่ “ใจ”ผู้เรียนเป็นหลักเลยครับ

คนสำเร็จ คือ คนที่มี “ใจ” พร้อมที่จะสำเร็จ

ต่อให้ผมมีวิธีการขั้นเทพที่จะทำให้คนไทยทุกคนเก่งภาษาอังกฤษได้จริงก็ตาม

แต่หาก “ใจ” ของผู้เรียนยังไม่พร้อมที่จะ “สำเร็จ”ต่อให้เค้ารู้วิธีการก็ยากที่จะสำเร็จได้อยู่ดีครับ

เหมือนการลดความอ้วนเลยนะ ใครๆ ก็รู้วิธีการลดความอ้วนคือต้องควบคุมอาหารกับออกกำลังกาย

แต่มีน้อยคนที่จะลดความอ้วนได้สำเร็จอยู่ดี

เพราะ “ใจ”ของแต่ละคนมีความพร้อมที่จะสำเร็จในระดับที่แตกต่างกันนั่นเอง

ในบทนี้ ผมอยากเน้นให้เห็นความสำคัญของ “ใจ” ผู้เรียนภาษาอังกฤษ

ถ้าใจคุณพร้อม เดี๋ยววิธีการตามมาเองครับ

แต่ถ้าใจคุณยังไม่พร้อม ต่อให้มีวิธีการขั้นเทพคุณก็จะยังไม่สำเร็จอยู่ดี


บทที่ 7 “ภาษาอังกฤษ ยิ่งผิด ยิ่งเก่ง”

คนไทยเรามักโดนปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กในเรื่องผิด ถูก จากการทำข้อสอบ

ไม่เว้นแม้แต่ภาษาอังกฤษ แต่ในเรื่องของภาษาพูดที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน

มันไม่ได้ซีเรียสมากขนาดว่า “ห้ามผิด” เด็ดขาดนะครับ

ก็ขนาดภาษาไทยที่เราใช้มาตั้งแต่เกิด ทุกวันนี้เรายังพูดผิดอยู่เลย

แล้วนับประสาอะไรกับภาษาอังกฤษที่ไม่ใช่ภาษาพ่อ ภาษาแม่เราด้วยซ้ำ

โอกาสผิดยิ่งมีสูงกว่าภาษาไทยอยู่แล้ว

ถ้าคุณสามารถปรับทัศนคติต่อภาษาอังกฤษที่คุณพูดในชีวิตประจำวันว่า...

การพูดผิดบ้าง มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่คอขาดบาดตายโดนหักคะแนนเหมือนการทำข้อสอบผิดสักหน่อย

เพียงเท่านี้ คุณก็จะปลดล็อคไปได้อีกไกลเลยนะ

พอเรากล้าที่จะพูด ต่อให้พูดผิดไป บางทีฝรั่งแก้ให้พร้อมกับพูดประโยคที่ถูกต้องให้เราฟัง

เราก็ได้เรียนรู้เพิ่ม ดีซะอีกดีกว่าการคิดอยู่แต่ในใจและไม่กล้าพูดเพราะกลัวผิด จะไม่เกิดการเรียนรู้ใดๆ

ดังนั้น พูดไปเถอะครับ ผิดบ้างก็ไม่เห็นเป็นไร ได้เรียนรู้มากขึ้นดีซะอีกนะ


บทที่ 8 “อยากเก่งภาษาอังกฤษ อย่าคิดแคร์คำพูดคนอื่น”

เรื่องคนไทยล้อเลียนสำเนียงของคนไทยด้วยกันเอง....นี่ผมอยากยกให้เป็นวาระระดับชาติเลยนะ

เพราะสิ่งนี้แหละที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่กล้าทำเสียงกระแดะเวลาพูดภาษาอังกฤษ

ในขณะที่ฝรั่งเค้าไม่ได้คิดอย่างคนไทยสักหน่อยยิ่งเราทำเสียงให้เหมือนฝรั่ง เค้ายิ่งชอบ

เพราะมันฟังออกง่ายกว่าการพูดออกเสียงแบบไทยๆ เยอะ

คนไทยทุกคนที่เปลี่ยนจากสำเนียงไทยๆ ไปเป็นฝรั่งล้วนแต่ผ่านจุดนี้มาแล้วทั้งนั้น

ไม่เว้นแม้แต่ผมและลูกศิษย์ผมที่ฝึกจนสำเร็จ

แต่พวกเราคิดเหมือนกันว่า...ช่างมัน“อย่ายอมแพ้เพียงเพราะแค่ลมปากคนอื่น”

ที่สำคัญ...พวกนั้นที่ล้อเราเค้าไม่ได้มามีส่วนได้ส่วนเสียกับอนาคตเราสักหน่อย

เราจะล้มเลิกความตั้งใจฝึกทักษะภาษาของเราให้ดีเทียบเท่าฝรั่งเพราะคนพวกนั้นทำไม?

คนสำเร็จล้วนแต่ผ่าน “ช่วงวัดใจ” นี้ไปได้ทั้งนั้น

ดังนั้น ใครที่เพิ่งเริ่มฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเปลี่ยนสำเนียงและการออกเสียงให้ดีแบบฝรั่ง

พึงรู้ไว้ว่า...สักวันคุณจะเจอสิ่งเหล่านี้ทัศนคติของคุณต้องดีและแข็งแรงพอที่จะผ่านมันไปได้ครับ

เอาใจช่วยทุกคนให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ


บทที่ 10 “วิธีเพิ่มแรงบันดาลใจให้กับตนเองด้วย WHY+และ WHY-”

ในบทนี้ผมเล่าให้ผู้อ่านทราบถึงจุดเปลี่ยน (turning point) ในชีวิตผม

ที่เปลี่ยนจากคนไทยธรรมดาๆ ที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษแต่อย่างใด

ทำข้อสอบการฟังก็เกือบตกมาโดยตลอด

แต่มีเหตุการณ์นึงเข้ามาในชีวิตที่ทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษ

จนฮึดสู้ ไม่ท้อถอย ขยันฝึกฝนจริงจัง จนสำเร็จได้ในที่สุด

ทำให้ผมได้รับทุนเรียนป.โท ภาคภาษาอังกฤษ ฟรีๆ มูลค่าครึ่งล้านบาท

และทำให้ผมได้รับการตอบรับเข้าทำงานในบริษัทชั้นนำของประเทศตั้งแต่ยังเรียนไม่จบดี

คุณจะประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ยากนัก

ถ้าคุณมีความต้องการไปให้ถึงเป้าหมายอย่างไม่มีอะไรมาฉุดรั้งคุณได้เลย

นั่นคือ คุณต้องมี WHY รู้ว่าทำไมคุณถึงต้องการมัน? คุณอยากสำเร็จไปเพื่ออะไร?

ยิ่ง WHY ของคุณแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ โอกาสประสบความสำเร็จยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!


โปรดติดตามอีก 5 บทที่ผมจะนำมาแชร์ให้อ่านกันเร็วๆ นี้นะครับ

ขอบคุณครับ

Kru Fiat





Create Date : 19 กรกฎาคม 2559
Last Update : 19 กรกฎาคม 2559 21:44:41 น.
Counter : 2166 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3