#####น้องเมย์ ลูกศิษย์ของผมเองที่ประสบความสำเร็จในการฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างน่าทึ่งจริงๆ ครับ#####

หายหน้าไปนานมาก (มากขึ้นเรื่อยๆ) ขอแก้ตัวตามตรงเลยนะครับว่าทุกวันนี้กำลังติด Facebook กับ Twitter เลยแอบปันใจไปเล่นทั้ง 2 ตัว (ติดตามหรือขอ add ได้ที่ krufiat นะครับ) ลืมไปชั่วขณะว่ามี bloggang ของเราอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้ลืมไปซะทีเดียวหรอกนะครับ ยังแอบเข้ามาเช็ค comment และคำถามต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ตอบบ้าง ช้าบ้างก็ขออภัยมาณ.ที่นี้เลยละกันครับ พยายามจะตอบทุกคำถามและขอบคุณสำหรับทุกความเห็นและกำลังใจดีๆ ที่ส่งมาให้กันครับ โปรดอ่านอีกครั้ง...ขอบคุณจริงๆ ครับ

หลังจากหายหน้าไปนาน คิดอยู่(นานกว่า)ว่าจะเขียนเรื่องอะไรให้ชาว bloggang ได้อ่านกันดี ก็ได้ข้อสรุป(โดยผมเอง)ที่ว่าเล่าเรื่องลูกศิษย์คนนี้แล้วกันครับ ใครที่เคยเข้าทดลองเรียนฟรีที่โรงเรียนสอนภาษาครูเคท สาขาศรีราชาที่ผมสอนอยู่ก็คงได้ฟังเรื่องนี้ไปแล้ว แต่วันนี้จะขอมาแบ่งปันให้ชาว bloggang อ่านกันนะครับ

ปกติที่รร.สอนภาษาครูเคท ศรีราชาจะมีเปิดให้ผู้สนใจในภาษาอังกฤษได้ทดลองเรียนฟรีอยู่เรื่อยๆ เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว มีผู้ปกครองอยู่ท่านหนึ่งเข้ามานั่งทดลองเรียน ได้ฟังผมพูด concept ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีธรรมชาติตามแบบฉบับของครูเคทแล้วเกิดความสนใจอย่างมาก แต่แกไม่ได้กะจะเรียนเองหรอกนะครับ แกจะให้ลูกแกซึ่งอยู่ม.2 เรียน แต่ปกติผมรับนักเรียนม.4 ขึ้นไป ด้วยเหตุผลที่ว่าเด็กเกินไป เค้าจะไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ฝึกฝนตามเทคนิคต่างๆ ที่เราถ่ายทอดให้ได้วันละ 2 ชั่วโมงตามคำแนะนำ แต่คุณแม่ท่านนี้เค้ายืนยันว่าลูกเค้าขยันเรียน และทำได้อย่างแน่นอน ผมเลยอนุมัติเป็นกรณีพิเศษ
ปรากฏว่าเด็กผู้หญิง ม.2 คนนี้ทำได้ตามที่คุณแม่เค้ารับประกันจริงๆ ครับแถมยังขยันกว่าพวกพี่ๆ ผู้ใหญ่ที่มาเรียนซะอีก พอชั่วโมง English Clinic ที่เรามีกิจกรรมให้แต่ละคนเล่นละครตามหนังที่เค้าหากันมาให้ครูเคทดู ปรากฏว่าเด็กคนนี้เล่นละครซะจนเพื่อนๆ พี่ๆ ทั้งห้องตะลึงไปเลยครับ(รวมถึงผมและครูเคทด้วย) เพราะสำเนียงแกคล้ายฝรั่งมาก เล่นจบพี่ๆ ทั้งห้องปรบมือพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย แถมมีเสียงฮือฮาเมื่อรู้ว่าครูเคทเทคะแนนเต็มสิบให้ไปหมดเลยกับเด็กคนนี้ ทำให้ผมชื่นใจไปด้วย หน้าบาน(ได้อีก)ไปเลย

เด็กคนนี้เรียนจนจบ 2 หลักสูตรการสนทนาเห็นพัฒนาการดีวันดีคืน สำเนียงเปลี่ยนไปคล้ายฝรั่งจนคุณพ่อที่บ้านยังทัก เพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็เห็นความเปลี่ยนแปลง พอเรียนจบไป ผมก็ไม่ได้เจอน้องคนนี้ไปได้สัก 3 เดือนมาเจอกันอีกที ก็คุยกัน มีเรื่องให้ต้องทึ่งอีกแล้วครับ คือคุณแม่ของน้องเค้าพาลูกไปเรียนภาษาจีนที่โรงเจกับซินแส เรียนไปได้ประมาณ 3 เดือนมั้งครับ ซินแสติดต่อทาบทามให้น้องเมย์(ผมลืมบอกชื่อ เล่ามาจะจบเรื่องอยู่ละ)ไปเป็นครูผู้ช่วยสอนภาษาจีน นี่เป็นเครื่องการันตีถึงความสำเร็จจากการเรียนภาษาจีนได้เป็นอย่างดี พอได้คุยกับน้อง ถึงได้รู้ว่าน้องเค้าเอาเทคนิคการฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยวิธีธรรมชาตินี้ไปฝึกกับภาษาจีนนั่นเอง ผมถึงกับทึ่งจริงๆ เพราะภาษาจีนน่าจะเป็นภาษาที่ยากมาก แต่น้องเค้าทำได้ภายใน 3 เดือนเท่านั้นเอง ยังครับยังไม่จบ

เมื่อสำเนียงภาษาอังกฤษของน้องเมย์เค้าดีแบบโดดเด่นมากมายแล้ว คุณแม่(ช่างเป็นเจ๊ดันจริงๆ)ก็เลยให้ลูกสอบชิงทุน AFS ไปเรียนม.ปลายที่อเมริกาประมาณ 10 เดือนได้ จำได้เลยว่าบินไปอเมริกาประมาณวันแม่ปีที่แล้ว อันนี้คุณแม่มาเล่าให้ผมฟังว่าก่อนไปเห็นที่โรงเรียนน้องเค้าให้น้องเมย์ออกไปพูดภาษาอังกฤษอะไรสักอย่าง มีรุ่นพี่มาถามว่าน้องยังไม่ได้ไปเรียนที่อเมริกาอีกเหรอ พี่นึกว่าไปเรียนแล้วกลับมาแล้วซะอีกแน่ะ(เพราะสำเนียงน้องเค้าดีตั้งแต่ก่อนไปเรียนนอกน่ะครับ) ช่วงที่น้องเค้าไปเรียนอยู่ที่อเมริกา ปรากฏว่าน้องเค้าไปลงแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ (speech) กับเด็กอเมริกันได้รางวัลสูงสุดคือที่ 2 มาแล้ว น่าภูมิใจจริงๆ ครับ เด็กไทยม. 5 นะครับแต่ต้องไปแข่งขันพูดภาษาอังกฤษกับบทความที่น้องเค้าแต่งเองและที่สำคัญคือแข่งกับเจ้าของภาษาด้วยสิ น้องเมย์ได้ลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่โน่นด้วยเป็นเครื่องรับประกันความเก่งของน้องเค้าได้เป็นอย่างดี

บทสัมภาษณ์อันแรก สัมภาษณ์น้องเมย์เมื่อมิถุนายน 2552 ปีที่แล้ว ก่อนที่น้องเมย์จะไปได้ทุน AFS ไปเรียนที่อเมริกาในเดือนสิงหาคม 2552 ในบทสัมภาษณ์นี้ น้องเมย์พูดบทละครที่เล่นให้ครูเคทดูตอนทำ English Clinic ด้วยครับ



ตอนนี้น้องเค้ากลับมาเมืองไทยแล้วครับหลังจากไปเรียนที่อเมริกามาได้ 10 เดือนเท่านั้นเอง แต่ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของน้องเค้าพัฒนาแบบก้าวกระโดดมากมาย ตอนที่น้องเค้ามาเยี่ยมผมที่โรงเรียนเลยจับมาสัมภาษณ์ให้ลูกศิษย์ที่กำลังเรียนอยู่ได้ซักถาม น่าเสียดายที่ถ่ายมาได้แค่สั้นๆ เท่านั้นเองครับ



หวังว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีและอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนได้พยายามฝึกฝนตนเองจนเก่งภาษาอังกฤษ คิดดูสิครับ ว่าน้องเค้าเก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่เรียนอยู่เพียงม.ปลาย อนาคตของน้องเมย์ต้องสดใสอย่างแน่นอนครับ

แล้วเจอกันใหม่นะครับ

Create Date : 11 กรกฎาคม 2553 Last Update : 11 กรกฎาคม 2553 22:44:35 น. Counter : 5672 Pageviews.		10 comments
Share Tweet