Group Blog
ธันวาคม 2551

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
############### พูดถึงคอนเสิร์ตต่างๆ ในปี 2008 #############
เมื่อพูดถึงคอนเสิร์ตต่างๆ ที่แสดงในไทย อย่างแรกที่ผมขอพูดถึงก่อนเลยคือสถานที่จัดคอนเสิร์ต สำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ที่ต้องการจุคนดูเยอะๆ เป็นหมื่นคน ก็คงหนีไม่พ้น IMPACT ARENA เมืองทองธานี แต่ข้อเสียข้อใหญ่เลยสำหรับการจัดคอนเสิร์ตที่นี่ก็คือ ระบบเสียงที่นี่จัดให้ดียากมากๆ ผมยังไม่เคยดูคอนเสิร์ตไหนที่จัดที่ Impact แล้วประทับใจในระบบเสียงเลยน่ะครับ คิดดูว่า ขนาดคอนเสิร์ตของ Norah Jones เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งมีดนตรีเพียงไม่กี่ชิ้นและด้วยแนวเพลงของเธอที่เหมาะกับระบบเสียงดีๆ ยังไม่สามารถจัดให้ดีได้เลย เผอิญผมก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบเสียงซะด้วยสิ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันเป็นพื้นปูนหรือเปล่า เลยมีเสียงสะท้อนตลอดเวลา อย่างคอนเสิร์ตที่ผมดูไปล่าสุดคือ คอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด (ที่ยังไม่ใช่ ENCORE) ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่ทำได้ประทับใจในแง่ production ถือว่าสุดยอด สมแล้วกับที่เป็นคอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด ซึ่งมี production อลังการมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ตาม คอนเสิร์ตนอกที่มาจัดในไทยยังสู้ไม่ได้ ผมประทับใจฉากเปิดตัวมากที่มีนางฟ้า โหนสลิง ตอนเบิร์ดร้องเพลง “มีเธอ” ส่วนภาพ animation ที่ฉายเป็นฉากหลังก็สวยดี ไอเดียดีมาก แขกรับเชิญก็ดี โดยเฉพาะ แก้มกับดาร้องเพลง “คืนนี้ไม่เหมือนคืนนั้น” สไตล์บอลรูม ทำได้ดีมากๆ, นัท มีเรีย, นันทิดา ก็ดีครับ ตอนสุดท้ายที่มีคนมากมายมาตีกลองก็ยิ่งใหญ่มาก แถมมีการยกเครนให้เบิร์ดหมุนไปเจอผู้ชมได้ทั่ว Impact ผมยกให้เป็นคอนเสิร์ตที่มี Production ยิ่งใหญ่อลังการดีที่สุดในไทยตั้งแต่เคยดูมาก็ว่าได้ครับ แต่ที่รับไม่ได้จริงๆ คือระบบเสียงที่แย่มาก ตอนนั้นผมนั่งชั้น 3 เสียงที่ออกมาจากลำโพงแตกซ่าน แถมยังมีเสียงสะท้อนอีกด้วย เรียกได้ว่าประทับใจแต่ production แต่ระบบเสียงได้คะแนนติดลบครับ (ซื้อ DVD มาดูจะได้ฟังเสียงที่ดีกว่าไปดูของจริงครับ) แต่อย่างไรก็ตาม แกรมมี่ก็ยังได้พี่เบิร์ดเป็นคนทำกำไรมหาศาลส่งท้ายปลายปีไปได้อย่างสวยงาม

ถ้าให้พูดถึงสถานที่ที่มีระบบเสียงที่ดีที่สุด ผมขอยกให้ศูนย์วัฒนธรรมครับ และคอนเสิร์ตที่ผมประทับใจในระบบเสียงมากที่สุดก็ขอยกให้กับคอนเสิร์ตแบบประภาสครับ ขอสารภาพตามตรง ตอนแรกผมไม่สนใจคอนเสิร์ตแบบประภาสเลย ให้ตายสิ เห็นโฆษณาอยู่ใน thaiticketmajor สักพักแต่ไม่ได้คิดไปดูเพราะไม่รู้จักประภาสเท่าไหร่นัก (อาจจะหาว่าผมเชยก็ได้ครับ) แต่มีพี่ที่ทำงานมาชวนไปดู พร้อมบอกว่ามีเจนนิเฟอร์ คิ้ม, เบน ชลาทิศ, ปาน ธนพร, บี พีระพัฒน์ ฯลฯ มาร้องเพลงที่ประภาสแต่ง อย่างเช่น พี่ชายที่แสนดี, ยังมี, รักเป็นดั่งต้นไม้, รักเธอแต่เธอไม่รู้, ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน ฯลฯ ฟังแค่นี้ก็สนใจขึ้นมาทันที ผมนี่โง่อยู่ตั้งนาน รู้จักทุกเพลงแต่ไม่รู้ว่าประภาสเป็นคนแต่ง ผมก็เลยตัดสินใจซื้อบัตรไปดู แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ (เกือบจะผิดหวังซะแล้วถ้าเพื่อนไม่ชวน ถ้าไม่ได้ไปดูต้องผิดหวังแน่ๆ) ถ้าใครได้ไปดูการแสดงสดคอนเสิร์ตแบบประภาสจะรู้สึก “อิ่ม” กับคอนเสิร์ตนี้เพราะระบบเสียงดีเยี่ยม ใช้วงออเคสตร้าเล่นควบคู่กับวงสตริง เพลงทุกเพลงที่แสดงในคอนเสิร์ตมีการ rearrage ดนตรีใหม่ให้เหมาะกับนักร้องที่มาถ่ายทอดบทเพลงของคุณประภาส ซึ่งทำได้ดีมากแทบทุกเพลง ทุกบทเพลงที่นำมาแสดงล้วนแต่มี concept ที่น่าสนใจ อย่างเช่นเพลงนิทานหิ่งห้อยที่นำดีเจบ๊อบบี้ มาเล่านิทาน คือตลอดระยะเวลาที่ดูคอนเสิร์ตนี้ไม่รู้สึกเบื่อเลยครับ ลุ้นตลอดว่าจะได้เจออะไรในเพลงต่อไป โดยภาพรวม ผมยกให้เป็นคอนเสิร์ตที่ผมประทับใจที่สุดในปีนี้เลย ที่ชอบที่สุดคือ เพลงรักเป็นดั่งต้นไม้ ที่ปาน ธนพร ร้องซึ่งเธอใช้เสียงแบบมีลมเยอะ ซึ่งแตกต่างจากการใช้เสียงร้องเพลงในอัลบั้มของเธอเอง แต่ช่างไพเราะเหลือเกินจนอยากฟังปานร้องเพลงอย่างนี้อีกจัง แต่สำหรับคนที่ซื้อ DVD มาดูก็จะได้ดูครบทุกเพลง แต่ระบบเสียงใน DVD ก็ไม่ดีเท่ากับการแสดงสดที่ศูนย์วัฒนธรรมหรอกนะครับ ยิ่ง CD บันทึกการแสดงสดคอนเสิร์ตของประภาสครั้งนี้ อัดมาเทียบไม่ได้กับที่ไปดูของจริงเลยครับ แถมระดับความดังก็ต่ำกว่า CD ทั่วไป เสียดายอยู่เหมือนกันว่า ทำไมระบบบันทึกเสียงทำได้ไม่ดีเหมือนการแสดงสด งานนี้ใครที่พลาดไปดูของจริงที่ศูนย์วัฒนธรรมก็พูดได้คำเดียวครับว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ว่า คุณได้พลาดคอนเสิร์ตที่ดีที่สุดคอนเสิร์ตหนึ่งในรอบปีนี้ไปแล้วครับ

ถ้าจะให้พูดถึงแผ่น DVD ที่บันทึกเสียงได้ดีสุดยอด ผมขอแนะนำแผ่นหนึ่ง แต่เป็นของนอกนะครับ ชื่อว่า HIT MAN DAVID FOSTER AND FRIENDS มีระบบ DTS 6 channel ซึ่งเพิ่งออกวางขายได้ไม่นาน เผอิญเพื่อนผมสั่งซื้อมาจาก //www.amazon.com พอเปิดแล้ว แทบจะโยนแผ่น DVD คอนเสิร์ตของไทยทิ้งเลยทีเดียว ทำไมเทคโนโลยีของฝรั่งเค้าทำได้ดีกว่าไทยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เช่นนี้นะ แล้วเมื่อไหร่ประเทศไทยจะทำอย่างเค้าได้ หรือเป็นเพราะเงินทุนของไทยไม่หนาเท่าของฝรั่งเค้านะ อยากเห็นคอนเสิร์ตไทยบันทึกเสียงได้ดีขนาดนี้จัง

แต่ถ้าจะให้พูดถึงแผ่น DVD คอนเสิร์ตไทยที่บันทึกเสียงได้แย่ที่สุดเท่าที่ผมเจอมา ขอยกให้ คอนเสิร์ต 7 Divas ที่มีนักร้องหญิงที่ดัง(ในอดีต)ทั้ง 7 คน ไม่ว่าจะเป็น โบ, อุ๊, แอม, วิยะดา, มาลีวัลย์, ศรัณย่า, แหวน ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่เป็นตำนานที่มีเพลงเพราะของตัวเองมากมายในอดีต (ถึงแม้ช่วงหลังๆ จะออกอัลบั้มใหม่ๆ มาแล้วไม่ค่อยดังก็ตาม) ถึงแม้นำเพลงเก่ามาร้อง ก็ยังมีคนอยากฟังอยู่ดี (ลองให้นักร้องทั้ง 7 ร้องเพลงอัลบั้มชุดล่าสุดของตัวเองดูสิครับ ว่าจะมีคนอยากมาฟังสักกี่คน?) พูดถึงคอนเสิร์ต 7 Divas ก็เป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ผมได้ไปดูการแสดงสดที่สยามพารากอน ฮอลล์ ตอนแรกผมนึกว่าบัตรคอนเสิร์ตนี้จะขายดีมากขนาดต้องแย่งกัน แต่ผิดคาดครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจตกต่ำหรือเปล่า คนเลยไม่ค่อยซื้อตั๋ว แต่ถ้าลองไปดูการจองบัตรคอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด ดูสิครับ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ทั้งๆ ที่ราคาบัตรแพงหูฉี่ ผมก็ยังแปลกใจว่ามีนักร้องรุ่นเก๋าให้ดูตั้ง 7 คนทำไมขายบัตรได้ไม่ค่อยดีตามคาดไว้ องค์ประกอบโดยรวมของคอนเสิร์ตนี้ผมว่าอยู่ในแค่ระดับพอใช้เท่านั้น ไม่ได้ประทับใจตราตรึงสักเท่าไหร่ ตอนที่ไปดูการแสดงสด ที่ประทับใจสุดคือตอนที่มาลีวัลย์ร้องเพลง “ขอเพียงที่พักใจ” มีการใช้เสียงได้สมกับที่เป็น Diva ซึ่งฟังของจริงแล้วขนลุก (และรู้ได้ทันทีเลยว่าจะต้องมีคอนเสิร์ตของเธอเองออกมาเร็วๆ นี้แน่นอน และก็เป็นจริง เพราะการร้องของเธอในคอนเสิร์ตนี้ถือว่าสุดยอดจริงๆ) แต่พอออกเป็น DVD ออกมา ขอบอกตามตรงว่า DVD คอนเสิร์ต 7 Divas เป็นแผ่น DVD คอนเสิร์ตที่อัดระบบเสียง 5.1 ได้ห่วยแตกที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเคยเจอมาทีเดียวเชียว เหมือนคุณนั่งฟังอยู่ในตุ่มที่ถูกปิดฝาไว้ ไม่มีความใสของเสียงแต่อย่างใด จนผมทนไม่ไหว ขอดูในระบบ 2.0 แทนจะดีกว่า อันนี้ขอตำหนิอย่างแรงเลยนะครับ ว่าอุตส่าห์นำนักร้องหญิงสุดยอดระดับตำนานของประเทศไทยมารวมกัน 7 ชีวิตแล้ว แต่ละคนไม่มีใครปฏิเสธว่าเสียงเธอดีมากขนาดไหน แต่พอเจอระบบอัดเสียงลงแผ่น DVD ที่แย่เข้าไป มันทำให้คุณค่าของคอนเสิร์ตนี้ด้อยลงไปเยอะมาก จนผมไม่คิดอยากจะหยิบ DVD แผ่นนี้ขึ้นมาดูอีกเลยครับ พูดได้คำเดียว (แต่หลายครั้งก็ได้) ว่า เสียดาย เสียดาย และก็เสียดายจริงครับ

อีกคอนเสิร์ตในปีนี้ที่ผมได้ดูในปีนี้คือ คอนเสิร์ตของเจนนิเฟอร์ คิ้ม ครั้งที่ 2 ชื่อ Kim Rader ปะทะ X-Men เนื่องจากเธอประสบความสำเร็จอย่างสูงมากๆ จากคอนเสิร์ตครั้งแรกของเธอในปีที่แล้ว ซึ่งผมก็ไปดู จะว่าไปก็อย่างที่เธอบอกว่าร้องเพลงมา 20 ปีมีเพลงฮิตของตัวเองอยู่ 2 เพลง เพลงที่ทำให้เธอกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งคือเพลง “คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว” ในอัลบั้มของ โก้ Mr.Saxman เพลงนี้ผมก็ชอบสุดๆ ทุกอย่างลงตัวไม่ว่าจะดนตรีที่คุณโก้แต่ง เนื้อร้องที่สีฟ้าแต่ง และได้เจนนิเฟอร์ คิ้มมาให้เสียงร้อง ทำให้ทุกอย่างลงตัวอย่างมาก ผมเคยรู้ประวัติเพลงนี้มาบ้างว่า จริงๆ เป็นเพลงบรรเลงของโก้ แต่คุณนิ่ม สีฟ้าเลือกมาแต่งเนื้อเพลงทั้งๆ ที่จริงๆ คุณโก้ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเพลงร้อง และตอนแรกทางค่ายเพลงวางตัวไว้ให้โรสเป็นคนร้องเพลงนี้ แต่เนื่องจากคุณโก้เห็นว่าคนที่เหมาะสมที่สุดคือ เจนนิเฟอร์ คิ้ม จึงไปอัดเสียงจนเสร็จแล้วค่อยนำมาเสนอ เจนนิเฟอร์ คิ้มจึงได้ร้องในที่สุด ไม่งั้นคงเป็นโรสร้องไปแล้ว พอเพลงนี้ดัง ประกอบกับมีคอนเสิร์ตสีฟ้า ครั้งที่ 2 แล้วมี เจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นหนึ่งในนักร้องที่ถ่ายทอดบทเพลงของสีฟ้าในคอนเสิร์ตนี้ ซึ่งร้องเพลงคิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียวและคนเจ้าน้ำตาได้อย่างประทับใจสุดๆ ทำให้เธอกลายเป็นดาวจรัสแสงไปเลย จึงทำให้พี่ฉอดคิดทำคอนเสิร์ตของเธอเองในครั้งแรกที่มีผู้ชายมาเป็นแขกรับเชิญถึง 7 คนในปีที่แล้ว ปรากฏว่ามีคนจองบัตรกันถล่มทลาย ไม่รู้ว่าอยากดูเจนนิเฟอร์ คิ้มหรือผู้ชายทั้ง 7 กันแน่!!! ขนาดตัวเธอเองยังแปลกใจจนต้องเปิดรอบเพิ่มเป็นแสดง 3 รอบที่สยามพารากอน ฮอลล์ ถ้าให้ผมวิเคราะห์ผมว่าคนอยากดูคอนเสิร์ตของเธอเพราะ หนึ่ง ไม่มีใครปฏิเสธว่าเสียงร้องของเธอดีเพียงใด ผมว่าพระเจ้าประธานแก้วเสียงใสและไพเราะมากมาให้กับเธอ บวกกับเทคนิคการร้องของเธอที่หาตัวจับยากเพราะมีประสบการณ์มากว่า 20 ปี ไม่มีใครทำได้อย่างเธอ และสอง ถึงแม้เธอจะไม่สวยอย่างนักร้องทั่วไป แต่เธอก็มีความฉลาดและมีมุกตลกแพรวพราว ทะลึ่งบ้าง เป็น entertainer ตัวจริง สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างเสน่ห์ในตัวเธอทำให้ลบข้อด้อยออกไปได้อย่างสิ้นเชิง พูดตามตรงว่าในคอนเสิร์ตครั้งแรกของเธอที่โด่งดังมากจนกลายเป็น talk of the town ในช่วงนั้นก็ว่าได้ เพราะเธอไม่เคยมีคอนเสิร์ตของตัวเองมาก่อนและระยะหลังก็ไม่มีอัลบั้มของตัวเอง คนที่ซื้อบัตรมาชมคอนเสิร์ตของเธอเลยไม่ได้ตั้งความคาดหวังจากเธอเท่าไหร่ รู้ด้วยซ้ำว่าจะร้องเพลงอะไรบ้าง การทำอะไรโดยไม่ได้หวังมาก จึงไม่ยากในการทำให้สมหวัง พอสิ่งที่เธอแสดงออกมามันอยู่ในขั้นดีถึงดีมากคือ ทั้งสนุก ทั้งได้ฟังเพลงเพราะๆ มันก็เลยเกินความคาดหวังของผู้ชม อย่างหนึ่งในแขกรับเชิญคือโก๊ะตี๋ ผมเห็นชื่อครั้งแรกก็ไม่คิดอยากจะดูอะไรจากโก๊ะตี๋ เพราะไม่ใช่นักร้อง อย่างโต๋, เบน, บี้ ฯลฯ แต่พอเอาเข้าจริง โก๊ะตี๋ ออกมาร้องเพลง I need somebody เลียนแบบบี้ ทุกคนก็กรี๊ดสนั่นฮอลล์เพราะเกินความคาดคิดของผู้ชม บวกกับทักษะด้านตลกอันล้ำเลิศของโก๊ะตี๋ ก็ทำให้โก๊ะตี๋เด่นที่สุดในบรรดาแขกรับเชิญของเจนนิเฟอร์ คิ้มครั้งแรกเลยก็ว่าได้ เมื่อคอนเสิร์ตครั้งแรกของเธอผ่านไปอย่างประสบความสำเร็จ พอมาครั้งที่สอง คราวนี้แหละที่ต่างจากครั้งแรกคือผู้ชมทุกคนมีความคาดหวังสูงถึงสูงมากทันทีจากคอนเสิร์ตครั้งใหม่นี้ ก็คราวที่แล้วทำไว้ดีมากนี่ มันเลยกลายเป็นมาตรฐานที่สูง ผมยังคิดก่อนจะชมคอนเสิร์ตครั้งที่สองของเธอเลยว่า ถ้าเธอและทีมงานทำให้ผู้ชมทุกคนสมหวังได้อย่างคอนเสิร์ตครั้งแรกแสดงว่าทุกคนเก่งมากๆ เพราะต้องตอนนี้มาตรฐานของผู้ชมสูงกว่าครั้งแรกมาก ซึ่งจากเสียงที่ผมได้ยินมามักจะชมว่าคอนเสิร์ตครั้งแรกของเธอดีกว่า แต่โดยส่วนตัวผมเองก็ไม่ผิดหวังกับคอนเสิร์ตครั้งที่สองของเธอนะ OK ครั้งแรกมันมีความสด ความใหม่ที่ไม่เคยมีใครเห็นเธอทำอย่างนี้ แต่ครั้งนี้ก็ยังรักษามาตรฐานของเจนนิเฟอร์ คิ้มไว้ได้ แสดงไป 4 ชม. ไม่หยุดพัก เพราะเป็นคนมีของให้ปล่อยเยอะ ผู้ชมก็เต็มอิ่มไปกับบทเพลงและน้ำเสียงอันไพเราะของเธอ แปลกดีนะครับ เจนนิเฟอร์ คิ้มเป็นคนที่นำเพลงของใครมาร้องใหม่ก็มักจะทำได้ไม่แพ้นักร้องต้นฉบับหรือส่วนใหญ่จะร้องได้ดีกว่าต้นฉบับด้วยซ้ำไป เพลงที่ผมประทับใจมากจากคอนเสิร์ตครั้งแรกของเธอคือช่วงเมดเล่ย์ตอนท้ายคอนเสิร์ตที่รวมเพลงช้าเศร้าสุดๆ อย่างเช่น คน...คนเดียวที่ต้นฉบับเป็นของปั่น, สงสารกันหน่อย เพลงนี้ผมชอบตั้งแต่มาลีวัลย์ร้องเป็นต้นฉบับแล้วและเป็นเพลงที่ผมฟังกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลย ให้ตายสิ พอเจนนิเฟอร์ คิ้มมาร้องก็กินกันไม่ลงเลยว่าใครร้องดีกว่ากัน, ไม่มีใคร ต้นฉบับโดยนันทิดา เพลงนี้น่าจะร้องยากมาก เธอก็ทำได้ไม่ผิดหวัง, เธอคือใครของ ETC เธอก็ร้องได้ดีมาก ทำให้เพลงนี้ดังขึ้นไปอีก เอาเป็นว่าคนอกหักมาฟังเพลงเซ็ตนี้แล้วก็จงไปผูกคอตายเลยดีกว่า เศร้าเหลือเกิน พอมาคอนเสิร์ตครั้งที่สอง ได้มีโอกาสเห็นเธอร้องเพลงภาษาจีนไพเราะมากๆ, ภาษาเกาหลี, ภาษาอังกฤษมากขึ้น ที่ชอบก็ยังเป็นเมดเล่ย์เพลงดังๆ รุ่นใหม่ๆ อย่าง อยากรู้แต่ไม่อยากถาม, ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว, ขอบใจนะ, ไม่ใช่ใครก็ได้ แต่ละเพลงที่บอกมารู้สึกว่าจะร้องดีกว่าต้นฉบับหมดเลยนะครับ นี่แหละความสามารถพิเศษของเธอ ผมยังสงสัยจนถึงทุกวันนี้ที่ทำไมแกรมมี่ไม่ทำอัลบั้มให้เธอเต็มๆ สักที ถ้าไม่แต่งเพลงใหม่ก็ให้เธอร้องเพลงเก่า cover ใหม่ก็ได้ ต้องดังแน่ๆ สุดท้ายขอฝากไว้ว่า ถ้าจะจัดคอนเสิร์ตอีก กรุณาอย่าไปจัดที่ Impact Arena นะครับเพราะระบบเสียงแย่มากเสียดายเสียงของเจนนิเฟอร์ คิ้มถ้าไปเจอระบบเสียงแย่ๆ อย่างนั้น มันจะทำให้คุณค่าด้อยลงไปเยอะครับ

คอนเสิร์ตหนึ่งที่ผมไม่ได้ไปดูสดๆ แต่ดูจาก DVD คือ Vietrio Live in Concert ผมว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเพลงบรรเลงน่าเบื่อ แต่มีการแสดงประกอบที่ทำให้ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ผมชอบตอนแก้มร้องเพลงใบไม้ แก้มร้องสดได้น่าประทับใจ เผลอๆ ดีกว่าเวอร์ชั่นใน CD ของเธอเองซะอีก และเพลง And I’m telling you I’m not going ที่ผมว่าถ้าใครไปดูเธอร้องสดคงต้องขนลุกแน่ๆ ขนาดผมดู DVD ยังรู้สึกว่าเธอร้องได้ดีมากๆ ดูแล้วผมมั่นใจว่าจะต้องมีคอนเสิร์ตของเธอเองในอนาคตอันใกล้นี้แน่ๆ เพราะความสามารถทางการร้องเพลงของเธอช่างเหลือล้น

ไหนๆ ก็พูดถึงคอนเสิร์ตในไทยมาพอสมควร อยากแนะนำคอนเสิร์ตนอกสักคอนเสิร์ต คือ “A New Day” ของ Celine Dion Live in Las Vegas ที่มีขายทั้ง DVD และ Blu-ray ใครที่ชอบเสียงร้องของ Celine ต้องไม่พลาดคอนเสิร์ตนี้เด็ดขาด เธอแสดงที่ Las Vegas มากกว่า 3 ปีโดยมีการแสดงเกือบทุกคืน คิดดูแล้วกันครับว่าจะมีคนไปดูกี่คนแล้ว หนึ่งในนั้นคือผมด้วย ผมได้มีโอกาสไปดูเมื่อหลายปีก่อน ทั้ง production และระบบเสียงสุดยอด นี่แหละครับที่เรียกว่าระดับโลกหรือ world class ของจริง ถ้าได้ดูคอนเสิร์ตนี้แล้วมาดูคอนเสิร์ตต่างๆ ในไทย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตแบบเบิร์ด เบิร์ด หรือคอนเสิร์ตเจนนิเฟอร์ คิ้ม ครั้งที่ 2 ช่วงที่ร้องเพลงสากล ก็จะได้กลิ่นไอของการจัดเวทีแบบคอนเสิร์ตของ Celine

ท้ายสุดปี 2008 ถือว่าเป็นยุคที่การแสดงคอนเสิร์ตกลับมานิยมอีกครั้ง หลังจากเมื่อก่อน นักร้องที่ประสบความสำเร็จจากการออกอัลบั้ม ตามธรรมเนียมต้องมีคอนเสิร์ตของตัวเองที่ MBK Hall และก็หายไปนานเลยจนระยะหลังเริ่มมีการจัดคอนเสิร์ตมากขึ้นกว่าก่อนมาก มีคอนเสิร์ตดีๆ ให้คนไทยได้ดูมาก ฝีมือของคนไทยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าต่างประเทศหรอกครับ ยังไงก็เอาใจช่วยให้มีคอนเสิร์ตดีๆ ในบ้านเราเกิดขึ้นมากๆ ครับ




Create Date : 28 ธันวาคม 2551
Last Update : 28 ธันวาคม 2551 18:35:52 น.
Counter : 3725 Pageviews.

3 comments
  
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
โดย: satarung วันที่: 31 ธันวาคม 2551 เวลา:9:33:07 น.
  
มาอีกรอบ มาชวนไปกินผัดไทยอ่ะ อิอิ
โดย: Gigg_Pat วันที่: 1 มกราคม 2552 เวลา:18:27:37 น.
  
Glitter ตรุษจีน
โดย: แม่น้องแปงแปง วันที่: 24 มกราคม 2552 เวลา:22:12:28 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KruFiat
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 304 คน [?]



ครูเฟียต ธีรเจต บุญพยุง
"หากคุณพูดภาษาไทยได้ คุณก็ควรจะพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นการเรียนรู้ภาษาด้วยวิธีธรรมชาติเหมือนกัน"
ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook 4| | | ข่าวดีสุดๆ!หนังสือ pocket book เล่มแรกของครูเฟียต ชื่อ "เรียนภาษาอังกฤษในไทย ทำไงให้ใครๆ คิดว่าคุณจบนอก" มีวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book แล้ว และขึ้นอันดับ 1 top seller เป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดใน Ookbee อยู่ในขณะนี้ อย่าบอกนะ ว่าคุณยังไม่ได้ download ที่ https://bit.ly/KruFiatBook | | |3