Kross (เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง~
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
[Fate/Stay Night](6.5) สาวจอมเวทย์ผู้อาภัพ "มาโต้ ซากุระ" และบทHeavens Feel อันแสนเศร้า_Normal End

*****************************************
เพิ่มเติมโดยคุณ Drake


ฉากจบ Normal End ของเนื้อเรื่อง Heaven's Feel

หลังจากที่เอาชนะคิเรย์ได้แล้ว ก็จะเหลือแต่ชิโร่ยืนเผชิญหน้ากับจอกศักดิ์สิทธิ์แบบตัวต่อตัว โดยตรงนี้จะมีตัวเลือกขึ้นมา 2 ข้อ คือ

1. ทำลายจอก
2. ...แบบนี้ดีแล้วแน่เหรอ

ถ้า เลือกข้อแรก ก็จะเข้าสู่ฉากจบแบบ Normal End และถ้าเลือกข้อ 2. ก็จะเข้าสู่ฉากจบแบบ True End ที่คุณ Kross_ISC เขียนไว้แล้วข้างต้นนั่นแหละครับ


ฉากจบเริ่มขึ้น โดยหลังจากชิโร่เลือกที่จะใช้พลังเฮือกสุดท้ายทำลายจอกแล้ว เขาก็เดินทื่อเข้าหาจอกศักดิ์สิทธิ์เบื้องหน้า ไม่นำพากับร่างกายที่ค่อยๆ แตกร้าว และจิตประสาทที่ค่อยๆ สูญสิ้นไปทีละส่วนแม้แต่น้อย

ครึ่ก... เสียงบางอย่างภายในร่างกายของเด็กหนุ่มแตกร้าว สมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมพฤติกรรมต่างๆ ของเจ้าของร่างถูกทำลายจนสิ้น แม้กระนั้น เขาก็ยังเดิน...เดิน...และเดินต่อไปราวกับตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ไม่รู้จักความ เจ็บปวดใดๆ

พร้อมกับความทรงจำอันแสนล้ำค่าที่มีต่อคนรัก... หนึ่งพันธกิจที่ต้องปฏิบัติให้ลุล่วง... และที่สำคัญเหนืออื่นใด...หนึ่งสัญญาที่ต้องรักษา...

'ซากุระ ไปชมดอกไม้ด้วยกันนะ...'

ยิ่ง ก้าวเดินมากเท่าไหร่ ร่างกายทั้งภายนอกและภายในของเขาก็ยิ่งแตกร้าวมากเท่านั้น บัดนี้เด็กหนุ่มลืมสิ้นแล้วถึงความเจ็บปวด ลืมแม้แต่สัมผัสของลมหายใจที่เข้าออกผ่านปอดทั้งสองข้าง ร่างกายเลือดเนื้ออย่างสิ่งมีชีวิตกลับกลายเป็นเพียงสสารไร้ซึ่งชีวิต ไม่เหลือตัวตนใดๆ อีกต่อไป

แม้กระนั้น ริมฝีปากของร่างไร้ชีวิตกลับพึมพำคำพูดแผ่วเบาออกมา ราวกับว่าแม้ร่างจะตาย แต่วิญญาณยังคงอยู่ภายในร่างนั้น

"เทรส...ออน..."

พริบ ตาที่คำพูดสุดท้ายหลุดออกจากปาก ร่างของเอมิยะ ชิโร่ ก็ยืนตายอยู่ตรงนั้น ในท่าเงื้อดาบเตรียมจะฟาดฟันนั่นเอง ร่างกายไร้วิญญาณของเด็กหนุ่มดูคล้ายรูปสลักหินอ่อน ไม่อาจขยับตัวทำความปรารถนาสุดท้ายให้เป็นจริงได้ชั่วนิรันดร์

ทันใดนั้นเอง...

ร่าง ไร้วิญญาณที่ไม่ควรจะขยับได้แล้วของชิโร่กลับเคลื่อนไหววูบ สองแขนที่เงื้อดาบแข็งทื่ออยู่กลางอากาศเหวี่ยงลงสุดแรง ฟาดฟันอาวุธอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดใส่เป้าหมายเต็มเหนี่ยว

ตูมมมม...

เสียง ดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อจอกศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเป้าหมายฟาดฟันถูกผ่ากลาง ระเบิดออกในพริบตา ปฐพีสะเทือนเลือนลั่นแล้วแตกออกราวปราสาททรายถูกถล่ม แสงสว่างจากพลังงานมหาศาลลุกวาบ บดบังทุกสิ่งหายไปในแสงสีขาวจนหมดสิ้น


-------------------------------------------------------------------


ตัด ฉากไปทางซากุระ ซากุระลืมตาตื่นด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งอย่างที่สุด ไม่เหลือความอึดอัดทรมานจากหนอนอาคมที่รุมเร้าทั้งร่างกายและจิตใจอยู่เลย เด็กสาวหันไปทางด้านข้างของฟูก แล้วก็ต้องแปลกใจ เมื่อไม่พบร่างของชิโร่ที่ควรจะนอนอยู่ข้างกันอยู่ตรงนั้น

ซา กุระเหลือบมองนาฬิกา พบว่าเป็นเวลา 10 โมงเช้าแล้ว เด็กสาวคิดว่าบางทีชิโร่คงออกไปทำข้าวเช้าจึงลุกขึ้นจะเดินไปหา รู้สึกประหลาดใจกับความปลอดโปร่งที่ไม่เคยสัมผัสมากว่า 10 ปี และความรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่างเมื่อนึกถึง "ความสุขที่ทั้งเธอและชิโร่ต่างมีร่วมกัน" เมื่อคืนที่ผ่านมา

แม้ จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ แต่เด็กสาวก็รู้สึกดีที่ไม่ต้องอึดอัดแบบนั้นอีกต่อไป เพราะนั่นหมายความว่าหนอนอาคมที่ชอนไชอยู่ในร่างของเธอมานับตั้งแต่อยู่ใน ฐานะบุตรบุญธรรมของบ้านมาโต้ไม่อยู่ในร่างเธออีกแล้ว บัดนี้เธอสามารถใช้เวทมนตร์ต่างๆ ได้ดังใจนึก ไม่ต้องถูกจำกัดให้ใช้เพื่อสนองความทะเยอทะยานอันบิดเบี้ยวของท่านปู่เจ้า ตระกูลอีกแล้ว ด้วยอำนาจเวทมนตร์นั้น เธอจะให้ไรเดอร์ทำงานมากกว่านี้ ไม่ต้องให้รุ่นพี่ต้องมาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายจนบาดเจ็บสาหัสหลั่งเลือดเพื่อ ปกป้องเธออีกต่อไป...

นับแต่วันนี้จะไม่มีเรื่องร้ายใดๆ อีกแล้ว ก็คุณพี่กับรุ่นพี่อยู่ที่นี่ด้วยนี่นา...ซากุระคิดกับตัวเองเช่นนั้น

วาบ นั้นเองที่สังหรณ์ร้ายบังเกิดขึ้นในใจของซากุระ ภาพตัวเองยามกลายเป็นปีศาจ ถูกครอบงำด้วยความอาฆาตเคียดแค้นทั้งของตัวเองและของเงามืดจากจอก ศักดิ์สิทธิ์ผ่านวูบเข้ามาในหัวสมอง เด็กสาวสลัดรู้สึกนั้นทิ้งไป แล้วเดินออกจากห้องไปทันที

หลังออกจากห้องมาได้ ซากุระก็เดินตามหาชิโร่ไปตามที่ต่างๆ ทั้งระเบียง ทั้งห้องครัว ทั้งห้องนั่งเล่น ทั้งสวนหลังบ้าน ทั้งโรงฝึก ทั้งห้องเก็บของ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา "เล่นซ่อนแอบกันเหรอคะ?" เด็กสาวออกเสียงพูดดังๆ เหมือนจะให้กำลังใจตัวเอง ใช่แล้ว รุ่นพี่แค่แกล้งซ่อนตัวอยู่เท่านั้นแหละ ต้องอยู่ในบ้านนี้แน่ๆ จะไม่อยู่ไปได้ยังไงกัน

ก็นั่นมันแค่ฝันร้ายเท่านั้นนี่...

แม้จะบอกว่าเป็นแค่ฝันร้าย แต่ภาพนั้นกลับยังติดตาของซากุระไม่ยอมหายไปไหน

ภาพของชิโร่ค่อยๆ แตกสลายกลายเป็นซากธุลี ไม่มีวันได้เจอกันอีก...

ภาพที่เธอเห็นใน "ฝันร้าย" นั้น...

"ไม่จริง... ไม่จริงใช่มั้ยคะรุ่นพี่..." น้ำเสียงร่าเริงเริ่มเปลี่ยนไปเป็นครางอ้ำอึ้งเหมือนกับจะขาดใจ ใช่แล้ว ต้องไม่จริงอยู่แล้ว ร่างกายยับเยินเหมือนผ้าขี้ริ้วแบบนั้นจะขยับตัวไปไหนมาไหนได้ยังไง รุ่นพี่ต้องรอเราอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้านหลังนี้แน่ ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้หรอก

...แต่ว่า...

ปฏิทินในห้องนั่งเล่นนั่น...บอกวันที่เลยไปตั้งสิบวันแล้วนี่นา...

เด็กสาวเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นห้องเก็บของในทันทีเมื่อนึกได้ถึงความจริงนั้น

เธอเข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว ว่าระหว่างช่วงสิบวันที่ผ่านไปนั้นมีอะไรเกิดขึ้น

ไม่สิ...เข้าใจตั้งแต่วินาทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว...

แต่หัวใจส่วนที่เปราะบางเกินกว่าจะทานทนได้กลับชักนำเธอออกจากความจริงอันโหดร้ายนั้น

" ได้โปรด...ได้โปรดออกมาเถอะค่ะรุ่นพี่ ชั้น...ชั้นอยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ...ถ้าไม่มีรุ่นพี่...ถ้าไม่มีรุ่นพี่อยู่ ด้วยละก็...รุ่นพี่ รุ่นพี่ รุ่นพี่คะ----------!!!!"

เด็กสาวซบหน้าลงกับฝ่ามือ ก่อนจะกรีดเสียงร้องไห้ออกมาอย่างปวดร้าว ในใจนึกไปว่าทำไมตัวเองถึงไม่เป็นบ้าไปเสียเลยเพราะความเจ็บปวดนี้

แต่ ที่เด็กสาวทำได้ในตอนนี้ ก็มีเพียงแค่ปล่อยให้ความเจ็บปวดและความโศกเศร้าทั้งหมดให้ไหลไปกับหยาด น้ำตาที่รินหลั่ง...เพียงเท่านั้น...

ฤดูหนาวอันเจ็บปวดและยาวนานของซากุระสิ้นสุดลงแล้ว...

เด็กสาวเป็นอิสระจากโซ่ตรวนที่พันธนาการร่างกายและหัวใจของเธอมากว่าสิบปี...

แต่ก็ต้องแลกมา...ด้วยการสูญเสียสิ่งมีค่ามากที่สุดในชีวิตไปชั่วนิรันดร์...


------------------------------------------------------

ฉากจบ Heaven's Feel แบบ Normal ของภาค Ralta Nua ส่วนที่ 1 ครับ

เสียงพากย์ของซากุระเหมือนจะขาดใจเอาจริงๆ เลย... T_T


ถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว...

หลังจัดการเรื่องราว ต่างๆ ทั้งเรื่องการสืบสวนของสมาคมเวทมนตร์ ทั้งเรื่องผู้รับช่วงดูแลต่อจากโคโตมิเนะ คิเรย์ เรียบร้อยหมดแล้ว รินก็ชวนซากุระกลับมาอยู่บ้านเดียวกันอีกครั้ง แม้จะดีใจที่พี่สาวชวนไปอยู่ด้วย แต่ซากุระก็ปฏิเสธไปอย่างสุภาพ เธอตัดสินใจจะลุกขึ้นยืนหยัดให้ได้ด้วยตัวเอง แม้จะยังหวาดกลัวและไม่แน่ใจว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองได้หรือไม่ รินเห็นความตั้งใจของน้องสาวก็พยักหน้ารับ และบอกว่าเธอจะอยู่ที่บ้านจนเรียนจบนั่นแหละ เพราะงั้นถ้ามีเวลาก็มาเยี่ยมกันบ้างนะ

หลังจากนั้น ซากุระก็ตัดสินใจขายคฤหาสน์มาโต้ และย้ายมาอยู่บ้านชิโร่เป็นการถาวรเพื่อรอชิโร่ที่นั่น การตัดสินใจของซากุระสร้างความกังวลให้กับ อ.ฟูจิมูระ เป็นอย่างมาก แต่เมื่อเห็นว่าซากุระตั้งใจแน่วแน่จะรอชิโร่อยู่ที่บ้านหลังนี้ก็ไม่พูด อะไรอีก นอกจากยิ้มอวยพรให้เท่านั้น

นับแต่วันนั้น ซากุระก็ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านของชิโร่ตามลำพังมาตลอด ระลึกถึงความหลังระหว่างเธอกับเขาไปพลาง เฝ้าคอยฤดูใบไม้ผลิปีต่อไปไปพลาง ระหว่างนั้น เด็กสาวก็เริ่มคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่หลีกเลี่ยงที่จะพูดคุยกับผู้อื่นเช่นกัน แม้ในใจจะยังนึกหวาดกลัวอยู่บ้าง เนื่องจากการอยู่กลางหมู่ผู้คนทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด มันปลุกความชั่วร้ายในอดีตของเธอ ทำให้เธอนึกถึงความผิดบาปทั้งหลายที่เธอเป็นผู้ก่อขึ้น ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจอยู่ตลอดเวลา เธออยากไถ่ถอนความผิดเหล่านั้น แต่ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าตัวเองจะไถ่ถอนความผิดเหล่านั้นได้อย่างไร มีอะไรที่คนอย่างเธอจะทำเพื่อคนอื่นได้

หลังจากคิดอยู่นาน ซากุระก็คิดว่าในเมื่อเธอไม่อาจทำอะไรเพื่อชดใช้ให้คนอื่นได้อีกแล้ว ก็ขอทำสิ่งนี้เพื่อแทนการไถ่ถอน แม้จะฟังดูเป็นการทำเพื่อตัวเองเกินไปก็ตาม

เธอตัดสินใจว่า ในฤดูใบไม้ผลิของทุกๆ ปี เธอจะปลูกดอกไม้หนึ่งดอก เพื่อแทนการไถ่ถอนต่อความผิดบาปทั้งปวง

และแทนคำสัญญาว่าจะรอ "เขาคนนั้น" ตลอดไป...


--------------------------------------------------------------------


เวลา ล่วงเลยไป จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากปีเป็นสิบปี จากสิบปีเป็นหลายสิบปี นานเสียจนซากุระแทบจะลืมไปแล้วว่านี่เป็นฤดูใบไม้ผลิครั้งที่เท่าไหร่นับจาก วันแห่งสัญญานั้น

ซากุระในวันนี้ไม่ใช่สาวน้อยแรกรุ่นอีกต่อไปแล้ว เวลาหลายสิบปีสอนให้ซากุระรู้จักที่จะอยู่กับตัวเอง และพูดคุยอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสะดวกใจมากขึ้น บัดนี้เธอเป็นอาจารย์สอนวิชาเวทมนตร์ให้กับหลานสาวของรินซึ่งจะขึ้นเป็นผู้ สืบทอดตระกูลโทซากะคนต่อไป หลานสาวตัวน้อยยอมรับและเรียกเธอว่าอาจารย์อย่างเต็มปาก แม้เธอจะเป็นเพียงจอมเวทฝีมืออ่อนด้อยผู้แทบไม่เคยได้เรียนรู้เวทมนตร์มาเลย ก็ตาม เด็กหญิงมักจะใช้เวลาขลุกอยู่ที่บ้านซากุระครั้งละนานๆ ช่วยทำงานบ้านแทนซากุระที่เริ่มเดินเหินไม่สะดวกบ้าง ฟังซากุระเล่าเรื่องราวในอดีตอย่างสนุกสนานบ้าง ซึ่งซากุระเองก็ยินดีที่จะเล่าเรื่องราวเหล่านั้นเพื่อรำลึกถึงช่วงเวลาอัน แสนสุข...ที่เหลือแต่เพียงคำบอกเล่าจากอดีตเท่านั้น...

ชีวิตของซากุระในวันนี้สงบสุขและร่มเย็น แต่เธอก็ยังคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองอยู่เสมอ

สัญญาที่จะปลูก "ดอกไม้แห่งการไถ่ถอน" ปีละต้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี...

และสัญญาว่าจะรอชิโร่ตลอดไป...ไม่ว่าฤดูใบไม้ผลิจะผ่านไปอีกกี่ครั้งก็ตาม...


-------------------------------------------------------------


แล้วฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนอีกครั้ง...พร้อมกับภาพที่เธอทั้งคาดหวังและไม่คาดหวังว่าจะได้พบเห็นอีกในชั่วชีวิตนี้

ตรง นั้น... ณ ทางเดินขึ้นเนินที่เต็มไปด้วยต้นซากุระเรียงรายอยู่เต็มสองข้างทาง...ดอกไม้ แห่งการไถ่ถอนที่เธอเป็นผู้ปลูกเองทุกๆ ปี... ซากุระมองเห็นร่างของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางกลีบซากุระที่โปรย ปราย...

เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผมสีส้มสั้นเกรียนเกือบติดหนังหัว เสื้อยืดแขนยาวตัวสีขาวแขนสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน กำลังเดินขึ้นมาหาพร้อมโบกมือยิ้มร่าให้...ด้วยท่าทางร่าเริงไม่เปลี่ยนไป จากเดิมแม้แต่น้อย...






ฉากจบของ Heaven's Feel แบบ Normal End จบลงแค่ตรงนี้

ใน บรรดาฉากที่เขียนมาทั้งหมดนั้น ฉากสุดท้ายถือว่าเขียนยากสุดครับ เพราะฉากนั้นไม่ได้บอกไว้แน่ชัดว่าหลังจากเห็นเงาร่างของชิโร่ท่ามกลางต้นซา กุระที่บานสะพรั่งแล้ว ซากุระจะตายหรือไม่ แม้ว่าอะไรหลายๆ อย่างจะชวนให้อนุมานได้เช่นนั้นก็ตาม (ตัวผมเองก็อนุมานว่าเป็นอย่างนั้น แต่ก็กลัวเกินกว่าจะเขียนลงไป) แต่ผมก็เชื่อแน่ชัดว่า ท้ายที่สุดแล้ว ความสงบจักกลับมาสู่ดวงวิญญาณของซากุระอย่างแน่นอน ไม่ว่าเธอจะมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปในฉากนั้นก็ตาม



Note เล็กน้อย
ใน ฉากที่พูดถึงซากุระกับลูกศิษย์ที่มาเรียนกับซากุระนั้น ในตัวต้นฉบับจริงอ.เห็ดบรรยายแบบทิ้งให้ผู้อ่านคิดเอาเองเหมือนกันว่านัก เรียนคนนั้นน่าจะเป็นหลานสาวของรินที่มาเรียนเวทมนตร์กับซากุระ (ตรงนี้ผมก็งงนะ มันเป็นฉากเหมือนกับว่าซากุระกำลังรดน้ำ แล้วจู่ๆ เด็กคนนี้ก็เข้ามาในฉาก แล้วก็มีบทบรรยาย) ส่วนที่บอกว่าเรียนเวทมนตร์นั้นจริงๆ ในต้นฉบับก็ไม่ได้พูดไว้เช่นกัน แต่บอกแค่ว่า "ถึงฉันจะเป็นพวกเรียนด้วยตัวเองมีฝีมืออยู่แค่ท่าสองท่า แต่ก็ยังมีเด็กมาขอเรียนวิชาด้วย" ซึ่งถ้าลองนึกดู ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่านอกจากเวทมนตร์ ซากุระจะมีอะไรไปสอนให้คนอื่นได้อีก เลยเขียนออกมาเป็นทำนองนั้น หากมีใครคิดต่างอะไรไปจากนี้ก็เชิญแย้งได้เลยครับ


ฉากจบ Heaven's Feel แบบ Normal ของภาค Ralta Nua ส่วนที่ 2 ครับ



Create Date : 08 กรกฎาคม 2552
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 0:30:30 น. 0 comments
Counter : 6758 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Kross_ISC
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]




Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
New Comments
Friends' blogs
[Add Kross_ISC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.