Kross (เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง~
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
[แงะสาระออกมาจากการ์ตูน] [Spoil]Valkyria Chronicles 14 กับสงครามโลกครั้งที่2

พึ่งได้ดู วาคิเรียตอน 14 ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน OP2 งามแท้ๆ + กับตอน 14 ดูเป็นสงครามจริงจังกว่าปกติ และได้เห็นฉากการรบหลายๆอย่างคุ้นเคย กับประวัติศาสตร์ที่เคยศึกษามาเลย สรรหามาเล่าสู้กันฟังครับ กับสงครามจากเกมดัง ที่เดินเรื่องด้วยสาวทวินเทล หนุ่มเอ๋อ กับหล่อหน้าม่อ คนนึง ตอนแรกอยากเอาไปเขียนในหว้ากอ แต่กลัวโดนดีดออกมาเพราะเป็นการ์ตูนสะมากกว่า

OP2



1. Train-Artilily[รถไฟปืนใหญ่สนาม]

ป้อมปืนยักษ์ขนาดใหญ่บะเอ๊ก ที่น่าจะยิงได้ไกลสบายๆหลายสิบกิโลพร้อมกระสุนคลัสเตอร์บอร์ม อาจดูเหมือนโอเว่อร์ แต่ระบบอาวุธแบบนี้มีจริงๆ และใช้งานจริงๆด้วยในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง โดยสงครามโลกครั้งแรก เยอรมันใช้ปืนใหญ่แบบนี้ในการระดมยิงแนวรับของกรุงปารีสจากระยะไกลค่อดๆอย่างได้ผล (สมกับเป็นสงครามปืนใหญ่) และสงครามโลกครั้งที่ 2 ปืนใหญ่แบบนี้ถูกติดตั้งไว้เพียบเช่นกันตามแนวพรมแดนฝรั่งเศส, เบลเยี่ยม เสริมกับป้อมปราการ Eben-Emael เพื่อป้องกันการรุกรานของเยอรมัน ด้วยอำนาจการยิงมหาศาลและระยะยิงไกล หากใครเคลื่อนทัพใส่ซึ่งๆหน้ามีสิทธิเละเอาง่ายๆ

แต่ก็อย่างว่าทุกอย่างก็มีข้อเสีย ช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุทธวิธีส่งพลร่มไปทำลายแนวหลัง ตัดทางรถไฟ และรถถังจู่โจมสายฟ้าแลบแบบบริสกรีค ทำให้ป้อมปืนแสนอุ้ยอ้ายพวกนี้หมดค่าอย่างรวดเร็ว


เรื่องน่ารู้
Q: เอาปืนใหญ่ไปพ่วงกับรถไฟเพื่อ??
A: สมัยก่อนระบบถนนหนทางไม่ค่อยดี ปืนใหญ่มากๆอาจมีน้ำหนักหลายสิบตัน - หรือเกือบร้อยตันรวมกับคลังกระสุน ถนนมีสิทธิทรุดเอาง่ายๆ จึงต้องใช้รถไฟในการขนส่งเท่านั้น

Q: ปืนใหญ่ยิ่งใหญ่ยิ่งดี แล้วทำไมเดี๋ยวนี้ไม่มีปืนใหญ่รถไฟหละ??
A: ปืนใหญ่ที่ต้องเคลื่อนที่บนทางรถไฟเท่านั้น จะเป็นเป้าหมายที่เด่นมากจากการตรวจการทางอากาศ - ถูกคาดคะเนตำแหน่งยิงได้ง่าย - มีความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายต่ำ จัดว่าเสี่ยงอันตรายมาก ปัจจุบันนิยมใช้ปืนใหญ่ลากจูงปกติมากกว่า หากต้องการโจมตีระยะไกล หรือรุนแรงจริงๆมักพึ่งกำลังทางอากาศแทน

2. รถถังของฝั่งกัลเลีย/ สมาพันธ์แอตแลนติก

หลายๆคนอาจจะว่ามันดูกิ๊กก๊อก แต่รถถังช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยนั้นก็เป็นเช่นนั้นจริงๆนั่นแล ออกแบบมาให้มีตีนตะขาบเพื่อให้ปีนป่าย ภูมิประเทศที่ยากลำบากได้ ลุยกับระเบิดบุคคล ปีนข้ามลวดหนาม และป้องกันตัวเองจากปืนเล็กยาว และปืนกลเป็นหลัก

แต่ช่วงหลังๆของสงครามรถถังของแต่ละฝ่ายเริ่มมีปืนใหญ่ที่โหดขึ้น กับอาวุธต่อต้านรถถังที่รุนแรงขึ้นทุกที เลยไม่ต้องแปลกใจที่ รถมันจะคันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับเอลเดสไวส์ ต้นแบบของรถถังฝั่งกัลเลีย น่าจะใกล้เคียงกับ โซมัวร์ S35 ของฝรั่งเศสมากที่สุด และแน่นอนไอ้รถถังรุ่นนี้โดนทัพนาซียิงกระจุยกระจายเป็นว่าเล่นเลย


Physical characteristics
Weight 20 t
Length 5.3 m
Width 2.12 m
Height 2.62 m
Armour 55 mm
Maximum speed 40 km/h
ระบบอาวุธ
Main: 47 mm tank gun
Secondary: 7.5 mm machine gun

โดยรวมพอสู้กับรถถังเยอรมันระดับเบสิคๆ ได้แต่สู้กับแพนเซอร์รุ่นหลังๆ หรือไทเกอร์ไม่ได้แน่ (ยิงเกราะพวกนั้นไม่เข้า)


3.ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ (ระเบิดดาวกระจาย)

โดยปกติถูกออกแบบมาให้อากาศยานใช้เป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้กับปืนใหญ่ที่มีขนาดลำกล้องมากพอได้ อาวุธชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสังหารเป้าหมายที่ไม่แข็งแกร่ง และสามารถทำให้ปืนใหญ่/อากาศยานจำนวนน้อย โจมตีเป้าหมายบริเวณกว้างได้มากกว่ากระสุนระเบิดหัวรบเดี่ยวแบบปกติ



แม้อำนาจการทำลายน้อยลง แต่สำหรับเป้าหมายบุคคล หรือยานเกราะขนาดเล็ก ก็สร้างความเสียหายได้ไม่ยาก (เพราะเกราะด้านบนมักจะออกแบบมาให้ไม่แข็งแรงเท่าด้านหน้าอยู่แล้ว) โดยปกติกระสุนปืนใหญ่มักใส่ระเบิดย่อยได้ประมาณ 12 -40 ลูกขึ้นไปแล้วแต่ชนิดของกระสุน


อนึ่งการใช้ครัสเตอร์บอม์โจมตีชาวดันเซนที่หลบหนีใน Vakylie จัดได้ว่าสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมากๆ เพราะ
- พื้นที่จำกัดสองข้างทางเป็นผาสูง ไม่มีทางหลบออกด้านข้าง
- ระเบิดกระจายออกตามแนววิ่งกระสุน ซึ่งแนวเดียวกับทางหนีพอดี เรียกได้ว่าโดนเต็มๆ
- วิธีการหลบหนีจากระเบิดพวกนี้แบบนึง ทีทหารไทยเราใช้กันตอนรบกับลาว/เวียดนามคือ "ระเบิดลงตรงไหน...ให้รีบไปซุกอยู่ในหลุมระเบิดนั้นๆ" อาจดูน่าขำ แต่การหลบอยู่ในหลุมพวกนี้จะทำให้โอกาสโดนสะเก็ดระเบิด (45องศา จากพื้น) น้อยลงยากมาก และตรงไหนที่โดนระเบิดแล้วมักไม่โดนซ้ำอีก

4.เซมิ-ออโต้ไรเฟิล

ไรเฟิลที่อลิเซียและกองทัพกัลเลียถือค่อนข้างคล้ายกัน M1-Cabine อันเลื่องลือของกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามโลก (พวกเราน่าจะคุ้นกับเชื่อ ปลย 87 ในรด มากกว่า-- ปืนบางกระบอกที่เราใช้ฝึกกันอยู่ผมว่าอายุมากกว่าพ่อผมอีก -*- ทหารสหรัฐมีมาฝึกกับเรายังตะลึงเลยว่าปืนสมัยปู่ทวดเขายังยิงได้) ที่น่าสนใจอีกอย่างคือปืนพวกนี้มีความทนทาง และแม่นยำสูงมากเมื่อเทียบกับปืนกล หรือปืนไรเฟิลอัตโนมัติ (Full-auto)แบบอื่นๆ


Q: เซมิ-ออโต้ (Semi-Auto) คืออะไร
A: คือปืนที่สามารถบรรจุกระสุนเข้าใส่รังเพลิงด้วยตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใช้ขึ้นลำลูกเลื่อนใหม่ ดังนั้นสามารถเหนี่ยวไกยิงได้อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหมดแมก แต่ยังไม่สามารถกดไกค้างเพื่องยิงรัว (Full-auto)


5. เอลเดสไวส์- ยานเกราะกับการรบในเมือง

รถถัง จัดเป็นพาหนะยานเกราะที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยเกราะ/อำนาจการยิง และความเร็วในการเคลื่อนที่ โดยปกติจะแสดงประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดีในที่โล่งแจ้ง แต่กับการยุทธ์ในเมืองมันก็ยังสามารถถูกใช้เป็นโล่ห์และหอกได้ดี เพียงแต่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีทหารราบคุ้มกัน

ใน OP2 ของวาลคิเรีย จะเห็นรถถังนี่พุ่งทะลุกำแพงอย่างเท่ห์ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ทะลุง่ายขนาดนั้นครับ ส่วนใหญ่จริงๆจะเป็นการดันกำแพงให้ล้มมากกว่า ข้อน่าสังเกตอย่างใน OP นี่คือ



- พลขับรู้เส้นทางเป็นอย่างดี มั่นใจว่าพังกำแพงแล้วไม่เจอเหว -*-
- เมืองที่ทำการต่อสู้เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศค่อนข้างแตกต่างมาก เพราะพอวิ่งจากถนนทะลุกำแพงก็มาเจอหลังคาบ้านเลย ดังนั้นเมืองนี้ต้องมีเนินสูงต่ำค่อนเข้างเยอะ
- ทหารราบหน่วยที่ 7 ช่วยทำการสนับสนุน (ระวังหลัง /ด้านข้าง ที่เป็นมุมอับ เพราะในเมืองมีตรอกซอกซอยเยอะ ถ้าไม่มีคนคุ้มกันจะโดนลอบโจมตีง่าย)
- เอลเดสไวส์ อาศัยเกราะกับปืนใหญ่ตัวเองยิงเบิกทาง ด้วยปืนใหญ่ที่ใหญ่กว่ารถถังทั่วไปมาก + ลำกล้องที่ยาวช่วยให้กระสุนมีความเร็วต้นสูง = แม่นยำ +เจาะเกราะได้ง่าย


คนส่วนใหญ่ถ้าพูดถึงสงครามรถถังแล้วมักจินตนาการถึง นายพลแพ็ตตันแห่งสหรัฐ หรือ แม่ทัพรถถังเอกอย่างรอมเมลแห่งเยอรมัน แต่สนามรบของพันธมิตรฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่กับไม่ใช่รถถังนัก และมักสู้กับนอกเมืองมากกว่า + เยอรมันใช้กำลังแค่ราวๆ 1 ใน4 ในการป้องกันทัพพันธมิตร (US,UK,Cannada,France)


ส่วน 75% ที่เหลือเยอรมันเทไปทางแนวรบตะวันออกเพื่อหยุดยั้งรัสเซียมากกว่า ..ว่ากันตามตรงเยอรมันกลัวรัสเซียจัด และรบกันดุเดือดมาก ชลงเชลย-รัสเซียไม่คิดเก็บ ฆ่าทิ้งกับข่มขืนอย่างเดียวแก้แค้นที่นาซี ดังนั้นทุ่มเทสู้กันชนิดตายเป็นตาย เพียงแต่ไม่ค่อยมีบันทึกเพราะช่วงสงครามเย็นข่าวสารประวัติการรบของโซเวียตเดิมถูกเก็บเงียบหมด เมื่อเปรียบเทียบกับวาลคิเรียแล้ว ผมนึกถึงสงครามเมืองเคียฟ หรือศึกปลดปล่อยกรุงเวียนนาแห่งออสเตรียจะใกล้เคียงกว่า เนื่องจากเป็นการรบที่ดุเดือดกลางเมืองที่สวยงามมากๆ อย่างถึงพริกถึงขิง และทหารหลายหมื่นไม่มีบาดเจ็บ-เชลย มีแต่ตายล้วนๆ โดยเป็นทหารราบเคียงข้างยานเกราะรบกันทั่วเมืองทีเดียว


6.ระเบิดมือแบบมีด้าม

ทหารเยอรมัน-กองทัพคอมมิวนิสต์นิยมค่อนข้างมาก แม้ระเบิดแบบมีด้ามจับจะเกะกะ และนน เยอะแต่ช่วยให้ ผู้ใช้ปาได้ไกลและแม่นยำมากขึ้น ระเบิดพวกนี้มักเป็นชนวนหน่วงเวลา 3-5 วินาที นิยมใช้ในการเคลียร์พื้นที่ สงสัยตรงไหนปาไปก่อนสักลูกสองลูกแล้วค่อยเอาทหารราบตาม



7.การย้อนแสงอาทิตย์ (Reflex sunlight)

ช่วยให้บันทึกภาพ กกน ได้ยากขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเงาจะบดบังทัศนวิสัยของตากล้องเบื้องล่างอย่างฉับพลัน ดังนั้นอลิเซียสามารถกระโดดสูงได้อย่างสบายใจ และตากล้องสมัยโบราณคงไม่มีแฟลชความไวสูงเท่าไหร่

8. สัญญาณมือ

บอกตามตรงว่าดูไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ที่กำมือหมุนๆ นั่นเหมือนจะบอกให้เข้าประชิดเป้าหมาย? ส่วนที่่เหลือ งง????

9. การลอบจู่โจมฐานทัพ

กลุ่มอลิเซียหลังจากยิง ไฟสป็อตไลท์ให้พังหมดแล้ว จะได้เปรียบอย่างรวดเร็วเนื่องจากเข้ามาถึงใจกลางฐานได้ จะสร้างความสับสนให้ทหารฝ่ายตรงข้ามว่า มีกำลังจริงๆเท่าไหร่ และอยู่ตรงไหนกันบ้างแน่ ซึ่งมีข้อสังเกตหลายอย่างดังนี้

- ฐานทัพอยู่ในความมืดเกือบสนิท แต่มีไฟสลัวๆ พอให้ฝั่งเหล่านักรบทวินเทลเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน
- ด้านหลังอลิเซียมี ไฟอ่อนๆจากอาคารอยู่นิดหน่อย ทำให้เป็นการพรางตัวได้อย่างดีขึ้น ..หากมืดสนิท จะเห็นประกายไฟปากลำกล้องได้ชัดเจน แต่พอเป็นไฟสลัวจะทำให้ตาพร่าได้ง่าย และหน่วยจู่โจมใช้วิธียิงทีละนัด ปืนเซมิออโต้มีความแม่นยำสูงกว่าเยอะเมื่อเล็งประณีต
- การที่ฐานทัพโดนบุกถึงด้านใน โดยศัตรูไม่ทราบจำนวนปักหลักอยู่กลางฐานจัดว่าเป็นอัตรายอย่างร้ายแรง


ผู้นำที่ฉลาดโดยปกติจะมีทางเลือกจำกัด คือ
a) สั่งทหารราบบุกเข้าไปตายให้หมด แม้จะเสียเปรียบเพราะไม่รู้ตำแหน่งชัดเจนในความมืด (กรณีต้องการยึดพื้นที่ฉับพลัน และฝ่ายตนไม่เสียดายกำลังพล)
b) ค่อยๆโอบล้อมทางปีก และพยายามลอบโจมตีจากด้านหลัง บังคับให้ฝ่ายที่ตั้งรับต้องกระจายกำลัง ซึ่งทำให้การป้องกันอ่อนแอลง (เสียเวลา)
c) ใช้ยานเกราะเข้าสนับสนุน หรืออาศัย ปืนใหญ่ยิงทำลายที่มั่นต้องสงสัยที่ศัตรูแทรกซึมอาศัยอยู่ (ต้องใช้อาวุธหนัก)
d) ยอมทิ้งฐานทัพไปเลย แล้วไปปิดทางหนีศัตรูแทน

กรณีนี้เกรเกอร์เลือกแบบ C ครับ


10. แฟร์ (พลุไฟ)

ทางทหารเรียกเป็นกระสุนส่องสว่าง โดยปกติจะเป็นสารเคมีที่มีอัตราการเผาไหม้และเปล่งแสงสูง (ราวๆ1 แสน-1ล้านแรงเทียน) จะมีร่มชูชีพขนาดเล็กๆ ติดอยู่ ใช้ในการรบกลางคืน แต่โดยปกติต้องระวัง เพราะอาจเป็นการเปิดเผยที่ตั้งของฝ่ายเดียวกันด้วย (แต่ในวาลคิเรีย ตอน14 นี่ มันคงไม่สนแล้วหละ เปิดเผยสะขนาดนี้)


11. การวางระเบิดรางรถไฟ

อันนี้เป็นอันนึงที่น่าคิด จำนวนระเบิดน้อยกว่าที่ควรจะเป็นมากทีเดียว ตอนแรกผมคาดว่าจะเป็นการพังสะพานทั้งหมดไปพร้อมๆกับรถไฟ ซึ่งกรณีนั้นควรวางระเบิดที่ช่วงฐานด้านล่างของสะพาน เพื่อให้สะพานเกิดทรุดและรับน้ำหนักไม่ได้ แต่เหมือนชาวดัลเซนยังต้องการเก็บสะพานไว้แฮะ

จุดน่าคิดอีกบางอย่าง
- วางระเบิดปกติน่าจะวางใต้ไม้หมอนรางรถไฟ เพราะจะได้ตรวจพบเจอได้ยาก
- จำนวนระเบิดค่อนข้างน้อย แม้ว่างรถไฟจะอ่อนแอจากการระเบิดช่วงล่างค่อนข้างมากก็เถอะ แต่ก้ยังดูน้อยอยู่ดี โดยปกติน่าจะเป็นการทำให้รถไฟตกรางมากกว่า (แต่ถ้าพลิกคว่ำตกเหวไปเลยก็มี เฮ)
- ไม่มีทหารเฝ้าแถวนั้นเลยรึ ?? หรือโดนเก็บไปหมดแล้ว ??
- ตอนแรกผมสงสัยว่าทำไมรถไฟต้องไปยิงกลางสะพานเด่นเป็นสง่าขนาดนั้น ถึงพึ่งมาบางอ้อตอนนี้ ว่าตลอดทางมันเป็นซอกเขาล้วนๆ ไม่มีมุมให้ยิงปืนใหญ่ เลยต้องวิ่งมาสะกลางสะพาน

12. จุดอ่อนของรถถัง

ตั้งแต่เกิดมา 70 ปีของรถถัง จุดอ่อน3 จุดที่เคยมีก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย นั่นคือ - สายพาน(วิ่งไม่ได้) - รอยต่อป้อมปืน(ระเบิดคลังกระสุน) - ห้องเครื่องท้ายรถ (เครื่องยนต์/เชื้อเพลิง) อย่างในวัลคิเรียนี้พี่แกยิงตรงซอกคอที่เป็นรอยต่อป้อมปืนพอดีครับ เป็นจุดที่มีโอกาสโดนทหารด้านในมากที่สุดด้วย



13. อาวุธประจำกายของพลขับรถถัง

ทำไมเป็นปืนไรเฟิลซุ่มยิงฟะ (Sniper) ???? แต่ที่ดูไม่เมคเซ้นส์เหลือเกิน นั่นคือรถถังไฟไหม้อยู่ทำไมพี่แกยังใจเย็นยืนเล็งตั้งนาน (จะระเบิดตูมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้)


14. ทหารฝั่ง Empire

พี่แกเล่นไรเฟิลออโต้ รัวกันยิกๆ เลย อาวุธดีกว่าเห็นๆ โดยปกติไรเฟิลพวกนี้มักแจกให้ทหารระดับจ่า หรือหัวหน้าหน่วยเป็นหลักมากกว่า


แถมท้ายกับ Tiger สุดยอดรถถังสมัย WWII ที่น่าจะเป็นต้นแบบของเอลเดสไวท์ฬฯ Vakylie chronicle ครับ ขึ้นชื่อลือช่าที่สุด รถถังพันธมิตรทุกคันเป็นแค่เหยื่อด้วยเกราะสุดหนากับปืนใหญ่สุดแรง แต่ต้องพ่ายแพ้ไปเพราะเยอรมันไม่มีน้ำมันเติม



Create Date : 08 กรกฎาคม 2552
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 5:54:53 น. 1 comments
Counter : 15089 Pageviews.

 
ยอดเยี่ยมมากครับ(ตามมาจากเฉลิมไทย)


โดย: nadashiko (nadashiko ) วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:17:30:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Kross_ISC
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 79 คน [?]




Blog จับฉ่ายของ Kross ครับ เทคโนโลยี, การทหาร,Military Expert, การ์ตูน, Anime, Manga, Review, Preview, Game, Bishojo Game, Infinite Stratos (IS), Hidan no Aria, Light Novel (LN)

ติดตามเพิ่มเติมได้ทาง Twitter ที่ @PrameKross
New Comments
Friends' blogs
[Add Kross_ISC's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.