BlogGang.com : : Kross_ISC : ปี 2008 งบประมาณกองทัพทั่วโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปี 2008 งบประมาณกองทัพทั่วโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แหล่งข่าวจาก BBC
//news.bbc.co.uk/1/hi/business/8086117.stm
//www.sipri.org/
By By Jorn Madslien

Global military spending rose 4% in 2008 to a record $1,464bn (£914bn) - up 45% since 1999, according to the Stockholm-based peace institute Sipri.

งบประมาณของกองทัพทั่วโลกเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4% เทียบกับปี 2008 โดยมีมูลค่ารวมถึง 1.464 ล้านล้าน$ หรือเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับปี 1999 อ้างอิงข้อมูลตาม SPRI (Stockholm-based peace institute)

ซึ่งนับเป็นเรื่องประหลาดที่ตรงข้ามกับอุตสาหกรรมการบินพลเรือน และเหล่าสายการบินอย่างมาก ธุรกิจในแวดวงกองทัพยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราห์ของ SIPRI ให้ความเห็นไว้ว่า
''วิกฤติการทางการเงินทั่วโลกนั้นยังไม่ส่งผลกระทบ ต่ออุตสาหกรรมยุทธโปกรณ์เหล่านี้ ผลประกอบการ ผลกำไร และยอดสั่งซื้อยังคงทยอยมีมาอย่างต่อเนื่อง"

ภารกิจรักษาสันติภาพ
เรื่องน่าสนใจอีกอย่างคือ ปฎิบัติการรักษาความสงบตามสมรภูมิต่างๆทั่วโลก (Peace-keeping operations) ยังส่งผลบวกต่อบริษํทยุทธปัจจัยเหล่านี้ - กำไร 11% ได้เพิ่มขึ้นวัดจากปีที่ผ่านมา ด้วยภารกิจต่างๆตามจุดที่เป็นปัญหาใหม่ๆ อย่างเช่น ดาร์เฟอร์ ในสาธารณรัฐคองโก ซึ่งตัวเลขของหน่วยปฎิบัติการเหล่านี้สูงขึ้นอย่างน่าถึง ปีที่ผ่านมา SIPRI ประเมินจำนวนเจ้าหน้าที่เหล่านี้ว่าสูงถึง 187,586 นายทีเดียว

อุตสาหกรรมอาวุธ
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า (June 2009) การประชุมใหญ่ระห่างเหล่าผู้ผลิตช้ั้นนำของอุตสาหกรรมการบิน และการทหารในปารีส จะมีการริเริ่ม ถึงการเปลี่ยนเฟสการผลิตจากผลกระทบที่รุนแรงของภาวะศก ถดถอย อุตสาหกรรมพลเรือนจำนวนมากกำลังทยอยเข้าร่วมกับสายการผลิตทางทหาร เช่นเครื่องบินขับไล่และอุปกรณ์การรบอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในอนาคตอันใกล้

Top 10 global arms producers

Boeing $30.5bn
BAE Systems $29.9bn
Lockheed Martin $29.4bn
Northrop Grumman$24.6bn
General Dynamics $21.5bn
Raytheon $19.5bn
EADS (West Europe) $13.1bn
L-3 Communications $11.2bn
Finmeccanica $9.9bn
Thales $9.4bn
Source: Sipri

อำนาจการซื้อเพื่อสันติภาพ
นับแต่ปี 2002 เป็นต้นมา 100 บริษัทค้าอาวุธมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึง 37% และโดยภาพรวมแล้ว เฉพาะในช่วงปี2007 เพียงแค่ 100 บริษัทชั้นนำก็ได้มีการขายอาวุธยุทธโปกรณ์มูลค่าถึง 347 พันล้าน$ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นบริษัทอเมริกันและยุโรป โดย
61 % จากอเมริกา
31% จากรัสเซีย ญี่ปุ่น อิสราเอล และอินเดีย

Top 10 military ที่ใช้จ่ายมากที่สุด

USA $607bn
China $84.9bn
France $65.74bn
UK $65.35bn
Russia $58.6bn
Germany $46.87bn
Japan $46.38bn
Italy $40.69bn
Saudi Arabia $38.2bn
India $30.0bn

เหล่ากองทัพชั้นนำของโลก ตั้งแต่อเมริกาไปจนถึงรัสเซีย (อันดับ 5) มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก และ ''ยังวางแผนจะเพิ่มขึ้นเองในระหว่างวิกฤติเศรษฐกิจ'
ขณะที่กองทัพของชาติตะวันออกกลาง มีการลดการใช้จ่ายลงเล็กน้อย แต่เหล่านักวิเคราะห์ยังมองว่าเป็นการตกลงของยอดขายเพียงชั่วคราว เพื่อจัดระเบียบภายในให้เรียบร้อยเสียก่อน และประเทศเหล่านี้ยังคงมีแผนการจัดซื้ออีกจำนวนมาก ยกเว้นเพียง 1 ประเทศในอาหรับ, อิรัก งบประมาณทางทหารเพื่มขึ้นถึง 133% ในปี2008 เพราะอิรักยังต้องพึ่งพายุทธปัจจัยทางทหารจาก US ในจำนวนที่สูงมากจึงมีความพยายามสร้างกองทัพชดเชยโดยเร็ว

เฉพาะกองทัพ US ประเทศเดียว มีการใช้งบประมาณทางทหารคิดเป็นยอดถึง 58% ของกองทัพทั่วโลก และยังไม่นับรวมงบประมาณอีกไม่น้อยระหว่าง สงครามอัฟกันและอิรัก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ $903bn.

ปัญหาต่อไป ?
''การใช้จ่ายงบทางการทหารอย่างมหาศาล ย่อมสร้างปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แม้แต่ประเทศที่ร่ำรวยที่สุด' Sipri ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่าตลอด 8 ปีของสงครามต่อต้านการก่อการร้าย กองทัพUS ใช้งบประมาณมากมายเทียบเท่ากับตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่สองทีเดียว

อย่างไรก็ตามเหล่าบริษัทค้าอาวุธจะต้องเผชิญกับ ยอดสั่งซื้อที่จะลดลงอย่างแน่นอนในอนาคต เฉกเช่นเดียวกับที่เพิ่มอย่างมากมายในช่วงไม่กี่ปีทีผ่านมา ..เมื่อรัฐบาลเรื่มตัดงบประมาณทางทหารลงในอนาคตอันใกล้นี้

Arranged by Kross

Create Date : 12 มิถุนายน 2552

Last Update : 12 มิถุนายน 2552 4:17:54 น.

1 comments

Counter : 983 Pageviews.

อือ เพราะอะไรอ่ะ
แทนที่เอาเงินไปพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่

โดย: p_tham

วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:7:47:56 น.