ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี
เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ปวงพสกนิการทุกหมู่เหล่าและทุกภาคส่วนต่างมีความปลาบปลื้มยินดี และเรียกร้องขอมีส่วนร่วมในการถวายความจงรักภักดี และร่วมงานเฉลิมพระเกียรติในทุกหนทุกแห่งตลอดห้วงปีมหามงคล 2550 นี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและเทิดพระเกียรติให้ยิ่งใหญ่ ให้เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่ายากลืมเลือน
ทางคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดแสดงพลุดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้กรอบการสนับสนุนและการดำเนินงานของรัฐบาลและมูลนิธิเอกชนพัฒนาภูมิภาค จึงดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อดำเนินการจัดแสดงพลุและดอกไม้ไฟงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลในห้วง ระหว่างวันที่ 4-8ธันวาคม 2550 ให้ครบ 80,000 นัด ภูริช มหาดำรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด และ ไซโก โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ขอมีส่วนแสดงความจงรักภักดีพร้อมกับปวงชนชาวไทย ด้วยการจัดแสดงพลุดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติฯ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม นี้ด้วย บริษัท ไซโก โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถได้เสด็จเยี่ยมบริษัทไซโก ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2506ทำให้กิจการของบริษัทไซโกเจริญรุ่งเรื่องขึ้นมาโดยลำดับ บริษัทไซโก จึงถือว่าการเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนั้นเป็นสิริมงคลอันสูงสุดแก่บริษัท เนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปี พ.ศ. 2550 ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ บริษัท ไซโก โฮลดิ้ง คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นมีความปลื้มปิติยินดีที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองกับประชาชนชาวไทยอีกครั้ง โดยการจัดแสดงดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติชุดพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80พรรษา 5 ธันวาคม โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 และถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของไซโก ในการจัดแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ ติดต่อกันเป็นครั้ง พลุที่ทางเราเตรียมไว้คือพลุชุดพิเศษ "ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี 80 พรรษา มหาราชา"ซึ่งได้ถูกตระเตรียมและออกแบบให้วิจิตรงดงามตระการตายิ่ง กว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยสื่อความหมายถึงการร้อยเรียงดวงใจ และเป็นหนึ่งในตัวแทนการแสดงความจงรักภักดีของปวงชนชาวญี่ปุ่นทั้งหลาย เพื่อน้อมถวายแด่องค์ภูมิพลมหาราชาพ่อแห่งแผ่นดินสยาม ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ อีกทั้งยังเป็นการร่วมฉลอง 120 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์การทูตไทย-ญี่ปุ่น ในการสร้างเสริมมิตรภาพและความเข้าใจอันดีระหว่างประ ชาชน และทุกภาคส่วนของทั้งสองประเทศ และในครั้งนี้ยังได้รวบรวมดอกไม้ไฟที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งชุดดอกไม้ไฟที่ได้ออกแบบและผลิตเป็นพิเศษเพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูริช เล่าใฟ้ฟัง ซึ่งในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ จะมีการจัดแสดงพลุและดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม ณ สนามราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) โดยบริษัทไซโก้ ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้สนับสนุน โดยใช้ชื่องานว่า "ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี 80 พรรษามหาราชา" ซึ่งปีนี้รวบรวมที่สุดของดอกไม้ไฟที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันในญี่ปุ่น และชุดพิเศษที่ออกแบบมาร่วมถวายพระพร ในชุด ดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี 80 พรรษามหาราชา งดงามตระการตา สว่างไสวเต็มท้องฟ้ามากถึง 1,017 นัด นานถึง 30 นาที ซึ่งมี Firework Aritist จากญี่ปุ่นจำนวน 12 ท่าน เข้าร่วมออกแบบ โดยจัดเป็นชุดการแสดงทั้งสิ้น 14 ชุดดังนี้
1. สลุตความจงรักภักดี พลุและดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติฯ เริ่มต้นด้วยเสียงการยิงสลุตที่ก้องกังวานโดยใช้เสียงซาวน์เอฟเฟคเป็นเสียงพลุ นับเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ในเดือนธันวาคมของทุกปี ที่พสกนิกรชาวไทยทั่วหล้าจะได้ชื่นชมพระบารมีองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์พร้อมหน้า เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองระดับชาติ และนับเป็นค่ำคืนพิเศษค่ำคืนหนึ่งที่ท้องฟ้าจะถูกประดับประดาด้วยดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งทางไซโก รู้สึกซาบซึ้งและภาคภูมิใจที่ได้รับเกียรติ อันสูงสุด ในการร่วมเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้พร้อมกับปวงชนชาวไทย (เป็นพลุขนาด ๔ จำนวน ๒๐ นัด และ เป็นพลุขนาด ๕ จำนวน ๒๐ นัด)
2. เฉลิมฉลอง 120 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย - ญี่ปุ่น Thai & Japan National Flower Colour ปีพ.ศ. 2550 เป็นวาระครบรอบ 120 ปีแห่งการลงพระนามสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีและพาณิชย์ ระหว่างประเทศไทย (ซึ่งในขณะนั้นคือประเทศสยาม) กับประเทศญี่ปุ่น โดยสัญลักษณ์ที่ใช้เพื่อรำลึกถึงการครบรอบความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการนี้ คือดอกไม้ประจำชาติของทั้ง 2 ประเทศ นั่นก็คือ ดอกราชพฤกษ์ของประเทศไทยและดอกซากุระของประเทศญี่ปุ่น การเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษานี้ จะแต่งแต้มท้องฟ้าให้งดงามด้วยดอกไม้ไฟสีเหลืองและสี ชมพู ให้ระลึกถึงสัมพันธภาพและความเข้าใจอันดีที่มีต่อกัน มายาวนาน และจะยั่งยืนตลอดไป (เป็นพลุขนาด 3 จำนวน 40 นัด, ขนาด 4 จำนวน 80 นัด, ขนาด 5 จำนวน 40 นัด และ ขนาด 6 จำนวน 25 นัด)
3. ชุดดอกไม้ไฟแห่งความจงรักภักดี 80 พรรษา มหาราชา ทรงพระเจริญ 80 Years Long Live The King" เป็นการแสดงความยินดีเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยดอกไม้ไฟจำนวนมากจะถูกยิงขึ้นไปเป็นตัวเลข " 80 " เป็นเลขอารบิก และเลขไทย การจุดดอกไม้ไฟดังกล่าวในค่ำคืนนั้นจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ " ทรงพระเจริญ " ของมหาชนชาวไทยทั่วหล้า (เป็นพลุขนาด ๖ จำนวน ๒๔ นัด)
4. ดอกไม้บานที่ยิ่งใหญ่และยาวนาน Largest & Longest in bloom ดอกไม้ไฟรูปดอกเบญมาศและดอกโบตั๋นขนาดมหึมาซึ่งใช้เทคนิคแบบดั้งเดิม อันเป็นเอกลักษณ์ ที่พัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น มีความสลับซับซ้อน เปี่ยมด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ ดอกไม้ไฟในชุดนี้ยังสื่อแนวความคิดที่สะท้อนถึงการการเบ่งบานครั้งยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุดของมวลบุปผา ซึ่งเปรียบได้กับ ความจงรักภักดีที่มีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพสกนิกรชาวไทย ซึ่งแผ่ไพศาลทั่วแผ่นดินและยั่งยืนนานโดยไม่มีวันจบสิ้น (เป็นพลุขนาด 6 จำนวน 15 นัด, ขนาด 8 จำนวน 4 นัด และ ขนาด 12 จำนวน 3 นัด)
5. มนต์เสน่ห์แห่งช่อดอกไม้ A Bouquet for the king ช่อดอกไม้แห่งการเฉลิมฉลองที่งดงามวิจิตร นำเสนอผ่านการแสดงดอกไม้ไฟชุดพิเศษที่ออกแบบโดยศิลปินชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงความงามของดอกไม้ไฟที่เบ่ง บานอย่างไม่มีที่ติบนท้องฟ้า จะเป็นมนต์เสน่ห์ที่ติดตรึงตรา ตราบนานเท่านาน (เป็นพลุขนาด 3 จำนวน 20 นัด, ขนาด 4 จำนวน 40 นัด, ขนาด 5 จำนวน 20 นัด และ ขนาด 6 จำนวน 9 นัด)
6. ภาพวาดความทรงจำแห่งวัยเยาว์ Sketches in Fireworks Our Childrens Future ดอกไม้ไฟชุดนี้สื่อถึงความทรงจำในวัยเด็ก เช่น ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม รูปปลา รูปลูกเจี๊ยบ ซึ่งเป็นรูปที่เรามักวาดกันเสมอในวัยเยาว์ เป็นการย้อนรำลึกเรียกคืนความทรงจำในวัยเด็กให้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง เพื่อย้ำเตือนถึงความรักต่อเด็กๆ ในเมืองไทย ที่คือความหวังของชาติไทยในอนาคต (เป็นพลุขนาด 6 จำนวน 15 นัด, ขนาด 8 จำนวน 4 นัด และ ขนาด 12 จำนวน 3 นัด)
7. น้อมเกล้าฯ สดุดีแด่องค์ราชินี Tribute to Her Majesty the Queen การแสดงดอกไม้ไฟที่ล้วนเป็นสีฟ้า อันเป็นสีประจำวันศุกร์ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อเป็นการสรรเสริญพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ที่ทรงทุ่มเทถวายงานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งในฐานะพระประมุขของชาติและทั้งงานส่วนพระองค์ ตลอดช่วงการครองสิริราชสมบัติอันยาวนาน (เป็นพลุขนาด 3 จำนวน 20 นัด, 4 จำนวน 40 นัด, 5 จำนวน 20 นัด และ จำนวน 6 จำนวน 9 นัด) 8. สวนดอกไม้ต้องมนตรา แสงระยิบระยับจากดอกไม้ไฟมากมายเหลือคณานับบนท้องฟ้า ดูราวกับสายธารดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่เปล่งความสุกสว่างทั่วผืนฟ้า ราวกับประกายไหมที่ทอใยเป็นสีเงินและสีทองอย่างวิจิต ร ราวนิรมิตด้วยมนตรา (เป็นพลุขนาด 6 จำนวน 15 นัด, ขนาด 8 จำนวน 4 นัด และขนาด 12 จำนวน 3 นัด) 9. พรายแสงดาว สกาวทั่วฟ้าไทย Bright Stars over Thailand ด้วยเทคนิคดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ ได้สร้างสรรค์ให้ค่ำคืนอันมืดมิด กลับเจิดจรัสด้วยประกายแสงสายฟ้าแลบที่วิ่งฉวัดเฉวียนทั่วท้องฟ้า ราวกับเป็นอุปรากรจากมวลสะเก็ดดาว ซึ่งเดินทางมาจากจักรวาล อันไกลโพ้น เพื่อส่องสว่างเฉิดฉายเรืองรองในห้วงยามอันเป็นมหามงคลของแผ่นดินนี้ (เป็นพลุขนาด 3 จำนวน 20 นัด, ขนาด 4 จำนวน 40 นัด, ขนาด 5 จำนวน 20 นัด และขนาด 6 จำนวน 9 นัด) 10. ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ด้วยเทคนิคที่ละเอียดอ่อนและทักษะอันสูงส่งซึ่งสืบทอด มาหลายชั่วอายุคนของกลุ่มศิลปินญี่ปุ่น ผู้สร้างสรรค์ดอกไม้ไฟ การแสดงชุดนี้ตั้งใจสื่อถึงความงดงามของดอกไม้ในสวนสวย เฉกเช่นการดำเนินผ่านไปในราชอุทยาน ซึ่งเตือนใจให้ระลึกถึงว่า แผ่นดินไทยในรัชสมัยของพระองค์ท่าน เจริญรุ่งเรืองเพียงใด (เป็นพลุขนาด 6 จำนวน 15 นัด, ขนาด 8 จำนวน 4 นัด และ ขนาด 12 จำนวน 3 นัด) 11. ดินแดนแห่งรอยยิ้มอันอบอุ่น Celebratory Flowers (National Flag & Crown Chrysanthemums) ปาล์มเป็นต้นไม้สำคัญของประเทศไทยที่สามารถพบเห็นได้ ทั่วไป ทั้งให้ร่มเงาและสามารถดื่มเพื่อ ดับกระหาย ในขณะที่ดอกทานตะวันผลิบานเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผล ก็เป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองและเมื่อพันธุ์ไม้ทั้งสองนี้ส่องสว่างอยู่เหนือท้องฟ้าด้วยกัน ก็ชวนให้ระลึกถึงประเทศไทย ดินแดนแห่งรอยยิ้ม ที่แสนอบอุ่น (เป็นพลุขนาด 3 จำนวน 20 นัด, ขนาด 4 จำนวน 40 นัด, ขนาด 5 จำนวน 20 นัด และ ขนาด 6 จำนวน 9นัด) 12. มงกุฎทองล้ำเลอค่าของปวงชนชาวไทย ดอกไม้ไฟอันสง่างาม ที่ถูกคัดสรรให้ขึ้นไปเฉิดฉายบนท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ ยิ่งใหญ่ราวกับมองผ่านกล้องดูดาวขนาดยักษ์ สื่อสัญลักษณ์แทนอัญมณีล้ำเลอค่า ที่มีชื่อของเมืองไทย เช่นสีเขียวของ มรกต สีแดงของทับทิม และสีเงินของเพชร แสดงถึงความมั่งคั่งของทรัพยากรธรรมชาติบนผืนแผ่นดิน ไทย (เป็นพลุขนาด 6 จำนวน 10 นัด, ขนาด 8 จำนวน 5 นัด และ ขนาด 12 จำนวน 4 นัด) 13. เทิดไท้ องค์ราชัน กษัตราผู้ยิ่งใหญ่ ดอกไม้ไฟสีแดง ขาวและน้ำเงิน สื่อถึงธงไตรรงค์ของไทยเป็นการแสดงความเคารพต่อประเทศอันยิ่งใหญ่และเทิดทูนพระมหากษัตริย์ผู้ทรงนำประเทศ ไทยให้รุ่งเรืองภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระองค์ (เป็นพลุขนาด 3 จำนวน 60 นัด, ขนาด 4 จำนวน 120 นัด, ขนาด 5 จำนวน 60 นัด และ จำนวน 6 จำนวน 18 นัด 14. ชุดฟินาเล่ Finale ส่วนการยิงชุดดอกไม้ไฟเป็นรูปมงกุฎดอกเบญจมาศแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ได้แต่งแต้มท้องฟ้าให้เต็มไปด้วยเส้นสายสีทองซึ่งตกลงมาราวเม็ดฝนขนาดมหึมา เปรียบได้ดั่งพระมหากรุณาธิคุณที่หล่อเลี้ยงทุกชีวิต บนผืนแผ่นดิน การแสดงชุดนี้เป็นการถวายพระพรแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้พระองค์ทรงพระเจริญ และอวยพรให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองสืบไป (เป็นพลุขนาด 8 จำนวน 4 นัด และ ขนาด 12 จำนวน 4 นัด) นอกจากนั้นยังมีเสียงซาวด์เอฟเฟคของดอกไม้ไฟที่จะดังก้องวังวานเพื่อนเป็นการปิดการแสดง (เป็นพลุขนาด 4 จำนวน 20 นัด และขนาด 5 จำนวน 20 นัด) อีกด้วย ที่กล่าวมาทั้ง 14 ชุดนั้นเป็นเพียงการแสดงแสง สี เสียง ภายในวันเดียวเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทางคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดแสดงพลุดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติได้จัดงานเพื่อให้พี่น้องชาวไทยในทุกภาคของประเทศ ได้มีส่วนร่วม และได้สัมผัสบรรยากาศจริงของการจุดพลุและและดอกไม่ไฟเฉลิมพระเกียรติ ดังนั้นจังมีการจัดสถานที่ให้ประชาชนได้ติดตามชมการแสดงดอกไม้ไฟตามสถานที่ต่างๆ ดังต่อไปนี้ ปวงประชาทั่วหล้าถวายพระพร วันพุธที่ ๕ ธันวาคม จัดการแสดงพลุและดอกไม้ไฟ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างสะพานพระราม ๙ และสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม และริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และการจุดไฟพะเนียงและอักษรสวรรค์ บริเวณหน้าคลังสินค้า บริษัท สยาม แอลแอนด์พี จำกัด จำนวน 9 ชุด ประมาณ 10,000 นัด พร้อมทั้งจัดการจัดนิทรรศการ และกิจกรรมสดุดีเทิดพระเกียรติบริเวณใน อาคารคลังสินค้า บริษัท สยาม แอลแอนด์ พี จำกัด งานจะเริ่มเวลาประมาณ 18.30 น. และจุดพลุประมาณ 20.00 น. หรือ หลังเสร็จสิ้นพิธีที่ ท้องสนามหลวง แด่บิดรล้นเกล้าชาวไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม การจัดแสดงพลุและดอกไม้ไฟ ณ ราชกรีฑาสโมสร ถนนอังรีดูนังค์ ซึ่งจะเป็นพลุที่สวยงาม หวานซึ้ง ตามเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นรวมจำนวน 9 ชุด ซึ่งมีพลุขนาดตั้งแต่ 1-2 จำนวน 3,000 นัด อศิรวาทราชสดุดี วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม การจัดแสดงพลุและดอกไม้ไฟ ณ บริเวณชายหาดแม่พิมพ์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยจะจุดพลุบนเรือท้องแบนขนาดใหญ่ จำนวน 6 ลำ เป็นพลุแบบ Fantastic Fireworks มากกว่า 20,000 นัด ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยประกอบเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงเทิดพระเกียรติ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที นอกจากนั้นยังจะแสดงพลุสวยงามขนาดใหญ่ โดยเทคโนโลยีของญี่ปุ่นจำนวนประมาณ 100 นัด เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาพระบารมีเกริกฟ้า ก้องปฐพี ส่วนในวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม จะมีการจัดแสดงพลุและดอกไม้ไฟ ณ สวนน้ำในสวนเบญจกิติและศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานเป็นการจุดพลุขนาด 3 12 จำนวนกว่า 3,000 นัด โดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอังกฤษ ************** สถานที่ชมพลุ และพื้นที่จอดรถ วันอังคารที่ 4 ธันวาคม จัดแสดงพลุ ณ ราชตฤณมัยสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สวนสัตว์ดุสิต บริเวณอาคารสูงโดยรอบ พื้นที่อาคารสูงหรือพื้นที่โล่ง ห่างจากจุดแสดงพลุ ประมาณ 1.5 กม. วันพุธที่ 5 ธันวาคม จัดแสดงพลุ ณ บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างสะพานพระราม 9 กับสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม ฝั่งพระนคร วัดด่าน,รร. เจ้าพระยาวิทยาคม,จตุจักรพระราม 3,วัดปริวาสราชสงคราม,วัดทองบน,วัดดอกไม้,สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 9,โรงแรมมณเฑียรริเวอร์ไซด์ และสวนศิลาฤกษ์ ฝั่งธนบุรี สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 9 ฝั่งพระประแดง สวนลัดโพธิ์ใต้สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม,วัดคันลัด,วัดทรงธรรมวรวิหาร,วัดรวก,วัดกลาง,วัดไพชยนต์พลเสพย์ราช วรวิหาร วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม จัดแสดงพลุ ณ ราชกรีฑาสโมสร ถนนอังดูรีนังต์ สถานที่ชมพลุ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สวนลุมพินี และบริเวณอาคารสูงโดยรอบ วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม จัดแสดงพลุ ณ หน้าชายหาดแม่พิมพ์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง สามารถชมพลุได้บริเวณหน้าชายหาดตลอดแนวระยะทางประมาณ 3 กม. วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม จัดแสดงพลุ ณ บึงน้ำ สวนเบญจกิติ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถชมพลุได้ที่ สนามฟุตบอลการท่าเรือแห่งประเทศไทย,สวนลุมพินี และบริเวณอาคารสูงหรือพื้นที่โล่ง ระยะห่างประมาณ 1.5 กม.
โดย ผู้จัดการรายวัน
Create Date : 04 ธันวาคม 2550 |
Last Update : 4 ธันวาคม 2550 2:42:03 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1125 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ส.พัน.2 พล.ร.2 รอ. IP: 125.27.125.192 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:15:35:04 น. |
|
|
|
|
|
๒. พระผู้ให้ ให้ทุกอย่างกับราษฎรของพระองค์ ความทุกข์ยาก ทุรกันดาร ความแห้งแล้ง ล้วนแต่เป็นอุปสรรคของการดำรงชีวิตของราษฎร แต่พระองค์ท่าน ได้แก้ไขปัญหาเหล่านั้น จนทำให้ราษฎรทุกหมู่เหล่า ลืมตาอ้าปาก ทำมาหากินมีอาชีพทุกครัวเรือน ภายใต้ปรัชญาพอเพียง
๓. พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งการช่าง
๔. พระองค์ทรงส่งเสริมการปลูกป่าชายเลน
๕. พระองค์ทรงส่งเสริมด้านการกีฬา
๖. ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
๗. พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของความพอเพียงที่ยั่งยืน
๘. พระองค์ทรงริเริ่มโครงการเขื่อนเก็บน้ำ
๙. พระองค์ทรงสถิตในดวงใจไทยทั่วหล้าเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
๑๐. พระองค์ทรงริเริ่มโครงการเศรษฐกิจพอเพียงโลก
๑๑. ด้วยพระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทำให้ประชาชน ชาวไทยร่มเย็นเป็นสุข