|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ดอกกล้วยไม้
อุตสาหกรรมกล้วยไม้ของประเทศได้เจริญก้าวหน้าอย่างมาก และทำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นอับดับหนึ่งในจำนวนไม้ดอกไม้ประดับทั้งหมดที่มีการส่งออก ซึ่งการส่งออกดอกกล้วยไม้ และต้นกล้วยไม้มีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยตลอด ในปี 2535 กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์รายงานปริมาณการส่งดอกกล้วยไม้ 11,142 ตัน เป็นมูลค่า 701.3 ล้านบาท และส่งออกต้นกล้วยไม้ปริมาณ 939 ตัน มูลค่า 86.5 ล้านบาท สำหรับพื้นที่ปลูกกล้วยไม้ทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2530-31 จนถึงปัจจุบันค่อนข้างคงที่โดยมีพื้นที่ปลูกประมาณ 12,000 ไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ นครปฐม, สมุทรสาคร, ราชบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเหมาะกับการเจริญเติบโตของกล้วยไม้ ใกล้แหล่งน้ำ ตลาด และมีการคมนาคมขนส่งที่สะดวก และปัจจุบันพื้นที่ปลูกกล้วยไม้มีแนวโน้มที่จะย้ายจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น เนื่องจาก ที่ดินมีราคาสูงและมีปัญหามลภาวะของน้ำและอากาศ ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของกล้วยไม้ ลักษณะทั่วไปของกล้วยไม้กล้วยไม้เป็นพืชที่มีรากกึ่งอากาศ ลำต้นที่เห็นโผล่พ้นจากเครื่องปลูกแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ ลำต้นแท้จริง มีข้อ ปล้อง เหมือนพืชทั่ว ๆ ไป ที่ข้อมีตาซึ่ง สามารถเจริญเป็นหน่อใหม่หรือช่อดอก กล้วยไม้ประเภทนี้ได้แก่ สกุลแวนด้า แมลงปอ อีกประเภทหนึ่งเป็นลำต้นเทียม เรียกว่า ลำลูกกล้วย (pseudobulbs) ทำหน้าที่สะสมอาหาร ตาที่อยู่ตามข้อบน ๆ ของลำลูกกล้วยสามารถแตกเป็นหน่อหรือช่อดอกได้ ลำต้นที่แท้จริงของกล้วยไม้ป ระเภทนี้ คือ เหง้า (rhizome) ซึ่งเจริญในแนวนอนไปตามผิวของเครื่องปลูก ลักษณะของเหง้ามีข้อและปล้องถี่ กล้วยไม้ในกลุ่มนี้ได้แก่ สกุลหวาย ใบกล้วยไม้มีหลายลักษณะ ได้แก่ ใบ แบน, ใบกลม และใบร่อง สำหรับดอกกล้วยไม้ประกอบด้วย กลีบดอก 6 กลีบ โดยเป็นกลีบดอกชั้นนอก 3 กลีบ และกลีบดอกชั้นใน 3 กลีบ กลีบชั้นนอก 2 กลีบที่อยู่ด้านข้างหรือด้านล่าง มีลักษณะเหมือนกันอีก 1 กลีบ อยู่ด้านบน อาจมีลักษณะแตกต่างออกไป ส่วนกลีบชั้นในที่อยู่ด้านข้าง 2 กลีบ มีลักษณะ เหมือนกันอีก 1 กลีบ ที่อยู่ด้านล่างมีลักษณะแตกต่างไปเรียกว่าปากหรือกระเป๋า (lip) ซึ่งมีประโยชน์สำหรับล่อเมลงเพื่อช่วยผสมพันธุ์ ดอก กล้วยไม้เป็นดอก สมบูรณ์เพศ มีส่วนของก้านเกสรตัวผู้ ก้านและยอดเกสรตัวเมียรวมเป็นอวัยวะเดียวกันเรียกว่า เส้าเกสร โดยอับเกสรตัวผู้อยู่ที่ส่วนปลายเส้าเกสรและยอด เกสรตัวเมียอยู่ใต้อับเรณู ลักษณะเป็นแอ่งตื้น ๆ ภายในมีเมือกเหนียวเพื่อช่วย ประเภทของกล้วยไม้
แบ่งตามลักษณะการเจริญเติบโตได้ 2 ประเภทคือ 1.ประเภทแตกกอ (Sympodial) ได้แก่ กล้วยไม้ในสกุลหวาย แคทลียา และรองเท้านารี กล้วยไม้ประเภทนี้มีส่วนของเหง้าเจริญ ไปตามแนวนอนของ เครื่องปลูก และที่โคนลำลูกกล้วยติดกับเหง้าจะมีตาที่สมบูรณ์ 2 ตา เมื่อลำลูกกล้วยเจริญจนสุดลำตาที่โคนตาหนึ่งจะแตกออกมาเป็น ลำใหม่ ส่วนตาอีกข้างหนึ่งพักตัว ลำที่เกิดก่อนซึ่งเป็นลำที่มีอายุมากเรียกว่าลำหลัง ส่วนลำที่แตกใหม่มีอายุน้อยกว่าเรียกว่าลำหน้า สำหรับตาที่อยู่บนลำที่เจริญเต็มที่ก็จะเปลี่ยนเป็นตาดอก
2. ประเภทแวนด้า (Monopodial) เป็นกล้วยไม้ที่มีการเจริญเติบโตขึ้นไปทางส่วนยอด คือ ตาที่ยอดจะแตกใบใหม่เจริญขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนโคนต้นจะออก รากไล่ตามยอดขึ้นไป ได้แก่ กล้วยไม้สกุลแวนด้า ช้าง กุหลาบ เข็ม และแมลงปอ
กล้วยไม้ที่เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้ตัดดอกควรมีจุดเด่นทั้งในด้านดอกและการเจริญเติบโต คือ เป็นต้นที่ปลูกเลี้ยงง่าย ต้านทานโรค เจริญเติบโตเร็ว รูปทรง ต้นแข็งแรง ให้ดอกดก ดอกขนาดใหญ่ สีสด กลีบดอกหนา รูปทรงดอกสมบูรณ์ ก้านช่อแข็งแรง ก้านยาวตรง ดอกเรียงบนช่อได้ระเบียบสวยงามและบานได้ทนนาน
พันธุ์กล้วยไม้ที่นิยมปลูกเป็นการค้า พันธุ์กล้วยไม้ที่นิยมปลูกเป็นการค้า ได้แก่ สกุลหวาย (Dendrobium sp.) : สีม่วง พันธุ์มาดามปอมปาดัวร์ สีขาว - พันธุ์วอลเตอร์โอมาย, แจกเกอลีนโทมัส สีชมพู - พันธุ์อินทุวงศ์, แพนด้า, ซีซาร์ และซอนเนีย สีเหลือง พันธิ์เกษมโกลด์ สกุลอะแรนด้า (Aranda sp.) : พันธุ์คริสติน สกุลอะแรนเธอรา (Aranthera sp.) : พันธุ์เจมส์สตอริไอ สกุลอะแรคนิส (Arachnis sp.) : พันธุ์แม็กกี้อุย สกุลออนซิเดียม (Oncidium sp.) : พันธุ์โกลเด้นโชว์เวอร์, โกรเวอร์แรมเซย์ สกุลแวนด้า (Vanda sp.) :พันธุ์รอทไซล์เดียนา, แซนเดอรานา, วิรัตน์ สกุลม็อคคาร่า (Mokara sp.) : พันธุ์จักก๊วน, พรรณี สกุลซิมบิเดียม (Cymbidium sp.) : พันธุ์ Valley Knight Vanessa, Floripink Feline การขยายพันธุ์กล้วยไม้ ก. การขยายพันธุ์กล้วยไม้ประเภทแตกกอ (Sympodial) ทำได้หลายวิธี คือ 1. การตัดแยกลำหลัง กล้วยไม้ที่จะตัดแยกควรมีลำลูกกล้วยอย่างน้อย 4 ลำ ใช้มีดหรือกรรไกรตัดกิ่งชนิดใบบางสอดเข้าไประหว่างลำลูกกล้วยตัดให้ ขาด และใช้ปูนแดงทาแผนให้ทั่ว ลำหลังที่ถูกตัดขาดจะแตกหน่อเป็นลำใหม่ขึ้น เมื่อลำใหม่นี้เริ่มมีรากโผล่ก็ยกออกปลูกได้ 2. การตัดชำ ใช้กับกล้วยไม้สกุลหวายที่ตาที่โคนลำแห้งตายไปแล้ว โดยนำลำหลังของหวายที่ตัดใบ ตัดรากออกหมดมาปักชำให้โคนลำฝังไปในทรายหยาบประมาณ 2-3 ซม. ห่างกัน 4-5 ซม. เก็บในที่มีแสงแดดค่อนข้างจัด รดน้ำให้โชก ตาที่อยู่ใกล้ปลายลำจะแตกเป็นลำใหม่ เรียกว่า ตะเกียง เมื่อลำ ตะเกียงเริ่มเกิดรากก็ตัดเอาไปปลูกได้ 3. การตัดแยกลำหน้า ใช้มีดหรือกรรไกรตัดแยกลำหน้า 2 ลำติดกันแล้วนำไปปลูกได้เลย ซึ่งต่างจากการตัดแยกลำหลังที่ต้องปล่อยทิ้งไว้ให้แตกหน่อใหม่ จึงจะนำไปปลูกได้ ระยะเวลาที่เหมาะสำหรับตัดแยกลำหน้า คือ เมื่อลำหน้าสุดเริ่มมีรากและรากยาวไม่เกิน 1 ซม. ข. การขยายพันธุ์กล้วยไม้ประเภทแวนด้า (Monopodial) 1. การตัดยอด ถ้าเป็นพวกปล้องถี่ เช่น แอสโคเซนด้า, แวนด้าใบแบนยอดที่ตัดต้องมีรากติดมาอย่างน้อย 1 ราก ส่วนพวกข้อห่าง เช่น แมลงปอ อะแรนดา ควรให้รากติดมา 2 ราก และตอที่เหลือต้องมีใบติดอยู่เพื่อให้สามารถแตกยอดใหม่ได้ 2. การตัดแยกแขนง กล้วยไม้ประเภทนี้สามารถแตกหน่อหรือแขนงที่กลางต้นได้ จะตัดแยกเมื่อหน่อหรือแขนงมีใบ 2-3 คู่ และมีรากโดยตัดให้ชิดต้นแม่ นอกจากนี้แล้วชาวสวนยังนิยมใช้ต้นกล้วยไม้ที่ขยายพันธุ์โดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพราะการขยายพันธุ์วิธีนี้ ทำให้ได้ต้นที่มีลักษณะเหมือนต้นแม่ ในปริมาณมากโดยใช้ระยะเวลาที่สั้น และเป็นต้นที่ปลอดโรค การปลูก การเลือกทำเลปลูกเลี้ยงกล้วยไม้เพื่อตัดดอกขายนั้นควรใกล้แหล่งน้ำที่สะอาด pH ของน้ำประมาณ 5.2 มีสภาพอากาศดี การคมนาคมสะดวกเพื่อความรวดเร็วในการขนส่งดอกกล้วยไม้ ซึ่งเสียหายได้ง่าย การปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ให้ได้ดอกที่มีคุณภาพดีนั้นนอกจากต้องมี การดูแลที่ดีมีการให้ปุ๋ย ฉีดยาป้องกันโรค และแมลงในระยะที่เหมาะสมแล้วยังจำเป็นต้องมีโรงเรือน วัสดุที่ใช้ปลูกกล้วยไม้ 1.กระดินเผา 2.กระพลาสติก 3.กาบมะพร้าว,กระบะมะพร้าว,ลูกมะพร้าว 4.กระเช้าไม้
เครื่องปลูกชนิดต่างๆ 1.ออสมันด้า 2.กาบมะพร้าวอัด 3.กระถางทุบ,เศษกระถาง 4.ถ่านไม้ 5.ขอนไม้ 6.เพอร์ไลท์, เม็ดโฟม 7.หินภูเขาไฟ 8.ใบไม้ผุ
ถ้าเพื่อนๆต้องการข้อมูลรายละเอียดคลิกไปที่เคยโพลส์ไว้ตั้งแต่ปี 2004 สิค่ะ ที่นั้นจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับกล้วยไม้มากๆค่ะ ตามลิงค์เลยค่ะ
//forum.sanook.com/forum/index.php?topic=1307964.0 เชิญแวะไปชมดูได้ค่ะ
Create Date : 29 มิถุนายน 2550 |
Last Update : 29 มิถุนายน 2550 2:01:12 น. |
|
5 comments
|
Counter : 8413 Pageviews. |
|
|
|
โดย: สาว17 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:2:02:45 น. |
|
|
|
โดย: Malee30 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:2:17:57 น. |
|
|
|
โดย: ROJIN วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:7:22:03 น. |
|
|
|
โดย: samelaa (samelaa ) วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:7:47:39 น. |
|
|
|
โดย: mimo IP: 203.113.17.172 วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:18:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
Color Codes ป้ามด
เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย ดูอย่างต้นไม้ซิ มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี อดทนและอดทน เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข
|
|
|
|
|
|
|
|