หยิกแกมหยอก ขบกัดกันแบบพิลึกพิลั่น แนวคนชอบประชดประชันอะไรทำนองนั้น
เมืองที่กำลังจะไปนี้ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของออสเตรีย ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจ และมีความงดงามขนาดไหนต้องไปดูกัน
Salzburg (ซาลส์บูร์ก) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของออสเตรีย และยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีระดับโลกอย่าง โวล์ฟกังก์ อมาเดอุส โมซาร์ท เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูกันดี ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง หรือทำนองดนตรีที่ไพเราะ อีกทั้งท่วงทำนองดนตรีของโมซาร์ทยังช่วยในการพัฒนาสมองของเด็กๆ อีกด้วย
เมืองซาลส์บูร์ก เต็มไปด้วยงานศิลปะแบบบาโรค ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม และรวมถึงงานศิลปะแขนงอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบาโรคเลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่เมืองนี้เป็นที่ชุมนุมของศิลปิน และเหล่าบรรดาผู้ที่หลงใหลในเสียงดนตรี นอกจากนี้ เมืองซาลส์บูร์กยังตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ซาลซักค์ (Salzach) ซึ่งเป็นเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเทือกเขาแอลป์ เพื่อที่จะข้ามไปสู่ประเทศเยอรมันนี เนื่องจากอยู่ติดชายแดนระหว่างสองประเทศพอดิบพอดี จึงทำให้มีธรรมชาติที่งดงามดุจดั่งภาพเขียนย อีกทั้งยังมีคูคลองพาดผ่านตัวเมือง เลยกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนออสเตรียและนักท่องเที่ยวทั่วไป ไม่ว่าจะมานั่งเล่นดนตรี หรือมานั่งละเลงสีบนผืนผ้าใบ ทำเอาคันไม้คันมือตามไปด้วย
ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองซาลส์บูร์กส่วนใหญ่พูดภาษาเยอรมัน นั่นก็อาจเป็นเพราะอยู่ติดชายแดน อีกทั้งมีการเข้าออกของคนเยอรมัน จึงไม่แปลกที่ชื่อเมืองนี้จะมีความหมายว่าตามภาษาเยอรมันว่า ปราสาทเกลือ เพราะคำว่า ซาลส์ ในภาษาเยอรมันแปลว่า เกลือ หากแปลตามตัวก็อาจจะเป็นการเปรียบเทียบเรือขนเกลือจำนวนมากที่เปรียบเสมือนปราสาทนั่นแหละ เพราะสมัยก่อน ในดินแดนแถบนี้เป็นแหล่งค้าเกลือขนาดใหญ่ ซึ่งมันมีความจำเป็นมากสำหรับคนเมืองหนาว ที่ต้องมีเกลือเอาไว้ถนอมอาหาร หากในสมัยนั้นบ้านใดมีเกลือนี่นับว่ารวยพอๆ กับมีทองเลย ดินแดนแถบนี้เลยกลายเป็นดินแดนแห่งผู้มั่งมีตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน
ออกจากเมืองใหญ่แล้วค่อยๆ ถลาบินเลียบลงจอดที่เมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเมืองแห่งฮิตเลอร์
Linz (ลินซ์) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรีย และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองแห่งฮิตเลอร์ เพราะหากมาถึงเมืองลินซ์แล้ว ก็จะได้พบอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับฮิตเลอร์แน่ๆ เพราะพวกเขาคงไม่ซุกเรื่องราวต่างๆ สมัยนาซีครองอำนาจไว้ใต้พรมหรอก
ถึงแม้ว่าฮิตเลอร์ไม่ได้เกิดที่เมืองลินซ์ แต่เขาก็มาพำนักอยู่ที่เมืองนี้เป็นเวลาถึง 9 ปี อีกทั้งยังคิดแผนการใหญ่อย่าง การที่จะสร้างเมืองที่ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดินาซีบนแม่น้ำดานูบ การที่จะสร้างโรงแรมระดับห้าดาวโดยให้ชื่อว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ หรือหอระฆังขนาดสูงเพื่อเป็นที่เก็บศพของพ่อและแม่ และอีกมากมาย แต่ฮิตเลอร์ก็ไม่สามารถสร้างฝันทั้งหมดให้เป็นความจริงได้ หากใครชอบที่จะเรียนรู้เรื่องราวของผู้นำนาซีจอมเผด็จการคนนี้แบบถึงกึ๋น ต้องเข้าไปที่ พิพิธภัณฑ์อัพเพอร์ ออสเตรียน สเตท ที่เมืองลินซ์ เพราะจะมีการจัดแสดงเรื่องราวต่างๆ เมื่อครั้งนาซีเรืองอำนาจ พร้อมมีออดิโอไกด์คอยบรรยาย รับรองอิ่มสมอง
เป็นเรื่องน่าแปลก ที่ผู้คนทั่วไปต่างพากันจงเกลียดจงชังผู้นำจอมเผด็จการคนนี้ แต่เมืองลินซ์กลับได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป แล้วทางตัวเมืองลินซ์เอง ก็ยังเอานามฮิตเลอร์มาเป็นตัวชูโรง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่สำหรับเราแล้วคิดว่ามันก็น่าสนใจดี ที่ได้รับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่แสนสาหัสของดินแดนหนึ่งบนโลกใบนี้ แต่สำหรับคนยุโรปแล้ว ความรู้สึกมันต่างตรงที่ว่า พวกเขาได้รับความเจ็บปวดทรมานจากการกระทำที่ผ่านมาของผู้นำจอมเผด็จการ เหมือนแผลลึกในใจที่ยากต่อการลบเลือน ก็คงต้องรอดูว่า ลินซ์ จะสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้หรือไม่
อิ่มสมองแบบหนักๆ บนความรู้สึกที่สนุกปนสลดใจอย่างบอกไม่ถูก แต่อดีตมันก็ผ่านไปแล้ว มาเริ่มต้นใหม่กันดีกว่านะ ลินซ์ เมื่อภาระกิจในเมืองลินซ์เสร็จสิ้นจึงซอยเท้า ลั้น ลา ต่อทันทีที่พิพิธภัณฑ์สุดพิลึก
Nonseum (นอนเซียม) คือพิพิธภัณฑ์ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากกรุงเวียนนาออกมาประมาณหนึ่งชั่วโมง ใน แฮร์นบามการ์เทน (Herrnbaumgarten) ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนสาธารณรัฐเช็ก
เป็นหมู่บ้านที่มีความพิลึกทั้งการแสดงออก และนิสัยของชาวบ้าน ประมาณว่าเป็นหมู่บ้านของกลุ่มคนที่มีอารมณ์เสียดสี และชอบประชดประชันแบบแปลกๆ แต่ก็อัธยาศัยดีนะ บางทีก็ดีเว่อร์ ในหมู่บ้านนี้มีพิพิธภัณฑ์นอนเซียม ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่มีใครต้องการ อืม แค่ฟังคอนเซ็ปก็รู้แล้วว่าแดกดัน เอาแค่ว่าเพียงก้าวเท้าเข้าไปยังหมู่บ้านนี้ก็รู้สึกถึงความแปลกแล้ว ก็มีอย่างที่ไหน บ้านอะไรเนี่ย เล่นเอาเทคไทมาขึงเป็นราวแขวนติดผนังเป็นร้อย นี่กำลังประชดอะไรอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ ยังมีพวกถุงเท้า ที่ถูพื้น อะไรอีกมากมาย เออ ดีแฮะ จะว่าไปก็น่าสนใจ เพราะเป็นการระบายออกที่ไม่ต้องเดือดร้อนใครดี
โบกมือบายออสเตรียด้วยความมึนงงกับหมู่บ้านพิลึก แล้วเซบายให้จอมเผด็จการ ขอบคุณที่ทิ้งเรื่องราวมากมายให้ได้ศึกษา ทั้งที่มันยังคงความเจ็บปวด แต่ในวันนี้ขอบอกว่าออสเตรียได้เปลี่ยนไป ความสดใสและความรุ่งเรื่องได้เข้ามาแทนที่ แล้วโอกาสหน้าคงได้เจอกันอีก
Written by Omyim
ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info
ติดตามบทความ ท่องเที่ยว หรืออ่าน แมกกาซีน
(ติดต่อขอใช้บทความที่ฝ่ายการตลาด โทร. 02 713 5220)
ที่มาข้อมูล : //www.e-magazine.info