เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 

มุ่งสู่ แชงกรีล่า ดินแดนแห่งสวรรค์บนดิน



แชงกรีล่า

แชงกรีล่า

แชงกรีล่า

แชงกรีล่า


มุ่งสู่ แชงกรีล่า ดินแดนแห่งสวรรค์บนดิน (Weekend)

Story & Photo : tongta

เช้านี้อากาศขุ่นมัวเหมือนเคย และที่สำคัญคือ รู้สึกแน่น อึดอัดยังไงบอกไม่ถูก หลาย ๆ คนบอกกับฉันว่าสงสัยขาดออกซิเจน เนื่องจากที่ลี่เจียงอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลค่อนข้างมาก และตอนก่อนนอนพวกพี่ ๆ เขายังเตือนให้นอนเปิดกระจก (แง้ม) ไว้นิดหน่อยเพื่อให้ระบายอากาศ หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย คณะทัวร์ก็เริ่มเดินทาง โปรแกรมวันนี้สุดยอดจริง ๆ เพราะพวกเราต้องไปเยี่ยมก๊วยเจ๋งกันที่ "อุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก" ก่อนขึ้นรถไม่ลืมที่จะซื้อ "ออกซิเจน" ติดมือกันคนละ 1 กระป๋อง ฉันลองฉีดเข้าจมูกและรู้สึกว่ามันโล่งขึ้นจริง ๆ ค่ะ

รถเริ่มไต่ขึ้นเขาไปช้า ๆ พร้อมกับหิมะที่ตกลงมาเรื่อย ๆ ข้างทางปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวบนต้นไม้ที่เปียกชื้น และตอนนี้เสื้อคลุมตัวหนาก็เกือบเอาไม่อยู่ รถพาพวกเราไปจอดยังจุดแรกเพื่อที่จะเปลี่ยนเป็นรถอีกคันหนึ่ง ไม่ ใช่ว่ารถบัสของพี่ตี๋ใหญ่จะขึ้นไม่ได้นะคะ แต่เป็นกฎของเขา ผู้ที่จะขึ้นไปยัง อุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก ต้องใช้ บริการรถบัสของทางอุทยานฯ ทุกคน หลังจากที่พวกเราเปลี่ยนรถแล้วไต่ขึ้นไปอีกนั้น อากาศก็เริ่มหนาวมากขึ้น เรื่อย ๆ รถจอดแผ่ว ๆ ตรงที่จุด 3,356 เมตร ซึ่งเป็นจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าพาส่งไปยังยอดเขา



อุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก

อุทยานภูเขาหิมะมังกรหยก


ฉันหยิบกระป๋องออกซิเจนออกมาสูดเข้าจมูก 1 เฮือก แล้วออกเดินไปต่อแถวขึ้นกระเช้า ภายในกระเช้านั่งได้ 4 คน มันพาเราขึ้นไปตามสายเคเบิลขนาดใหญ่ด้านล่างมองเห็นป่าสนที่ตอนนี้ปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ เมื่อถึงด้านบนฉันต้องรีบกระโดดลงจากกระเช้า เนื่องจากกระเช้าที่นี่เขาไม่จอดค่ะ แค่ไหลไปช้า ๆ แล้วให้ผู้โดยสาร เสี่ยงชีวิตกันเอาเอง ด้านในคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวทุกคนแออัดกันอยู่ที่ทางเข้า เพื่อรอที่จะเข้าไปถ่ายรูปยัง ก้อนหินขนาดยักษ์ที่มีลายสลักไว้เป็นตัวเลขขนาดใหญ่ "4506" ไม่ใช่หวยค่ะ แต่เป็นจุดสูงสุดที่คุณกำลังยืนอยู่ ขณะนี้ 4,506 เมตร จากระดับน้ำทะเลนั่นเอง

อากาศที่นี่ค่อนข้างแน่นและชื้นค่ะ ในหัวฉันเริ่มรู้สึกวิ้ง ๆ และมึน ๆ ดังนั้น กระบอกออกซิเจนจึงถูกหยิบขึ้นมาอีกครั้ง ฉันเดินมาถึงจุดสำหรับถ่ายภาพซึ่งเป็นลานขนาดกว้างมอง ไปเห็นแต่หิมะสีขาวโพลนและต้องคอยเดินจิกเท้าตลอดเพราะพื้นลื่นมาก จากนั้นก็เก็บแบบตามมีตามเกิด แล้ว ไหลลื่นไปตามทางที่จะขึ้นกระเช้าขาลง โอ้แม่เจ้า...กว่าจะขึ้นมาได้ใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมง แต่พอขึ้นมาแล้วอยู่ได้ สัมผัสแท่นหินไม่ถึง 5 นาที ต้องลงแล้ว ยังไม่ทันได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติเลยจริง ๆ ขอบอก

คณะทัวร์พาฉันไปรับประทานอาหารที่ห้องอาหารหรูหรา บนโต๊ะมีอาหารมากมายเหมือนเคย ขอแนะนำอีกอย่างเรื่องการรับประทานอาหารนะคะ ชาวจีนเขาไม่ชอบให้รับประทานอาหารจนหมดจาน คือต้องเหลือไว้บ้างอย่างละนิดละหน่อย เพราะเขาเชื่อว่าถ้าเราเหลืออาหารไว้จะทำให้มีอาหารรับประทานตลอดไป



แชงกรีล่า


พออิ่มแปล้กับมื้อกลางวันพวกเราเดินทางต่อไปดูโชว์ "จางอี้โหม่ว" ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีนที่เป็นผู้จัดการแสดงโชว์ทั้งหมดในโอลิมปิก (ปักกิ่ง) ครั้งล่าสุดนี่ล่ะค่ะ "Impression Lijiang" เป็นโชว์ชุดสุดอลังการ เพราะสามารถดูได้รอบทิศ (360 องศา) แต่ผู้ที่เข้าไปชมต้องหาหมวกหรือเสื้อคลุมเข้าไปเองนะคะ เพราะเป็นแบบกลางแจ้ง การแสดงโดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีการดำเนินชีวิตของ "ชนเผ่าน่าซี" จบจากการแสดงสุดอลังฯ ฉันก็เดินตัวนิ่มออกไปขึ้นรถบัส หลาย ๆ คนตัวนิ่มเหมือนกัน สาเหตุก็เพราะพวกเราดูโชว์เคล้าไปกับหยาดฝนนั่นเอง จะให้ลุกออกมาก็เสียดายตังค์ คืนนี้ฉันจึงต้องกระดกยาแก้ไข้เข้าไป 2 เม็ด ก่อนที่จะนอน และไม่ลืมแง้มหน้าต่าง ไว้เล็กน้อยเพื่อระบายอากาศ



แชงกรีล่า


วันนี้ฉันตื่นเต้นเป็นพิเศษ เนื่องจากโปรแกรมของวันนี้ คือ "แชงกรีลา" มีกำหนดการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยจึง ทำให้มีเวลาว่างขึ้นในตอนเช้า ฉันต้อนรับมื้อเช้าด้วยการเข้าไปหาของพื้นเมืองกินในเมืองโบราณลี่เจียง ร้านค้าเปิดไม่มากนักในตอนเช้ามีเพียงร้านขายอาหาร ไม่กี่ร้านกับร้านขายของที่ระลึก ฉันเดินตรงไปยังขวดสีขาวสะอาดที่วางเรียงกันว่า "เหมา นิว ชวน ไห่น" ภายในบรรจุโยเกิร์ตรสอร่อยดื่มแล้วสดชื่นมากค่ะ

ส่วนของอีกอย่างที่อยากลอง "น่าซี ปิ่ง" เรียกอีกอย่างว่าขนมปัง น่าซี แต่หน้าเหมือนโรตีใส่ไส้มากกว่าค่ะ ด้านในมีไส้ให้เลือก 2 รส คือหวานกับเค็ม ฉันเลือกมาอย่างละ 1 ชิ้น แล้วเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ แล้วก็พบกับ "ตงปา" หรือ หมอผีที่ชาวลี่เจียงนับถือ ตงปา แต่งกายเต็มยศยืนอยู่ ด้านหน้าประตูรอให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายภาพ ฉันเก็บภาพจากที่ไกล ๆ เพราะไม่อยากเดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง



แชงกรีล่า

แชงกรีล่า


"ช่องแคบเสือกระโจน" เป็นสถานที่แรกของวันนี้นับว่า เป็นทางผ่านที่จะไปยังดินแดนแห่งสวรรค์ (แชงกรีลา) ซึ่งควรแวะเป็นอย่างยิ่งทางที่รถกำลังเคลื่อนไปนั้นค่อน ข้างแคบแลดูน่าหวาดเสียว ด้านล่างเป็นแม่น้ำสายสำคัญ นามว่า "แยงซีเกียง" ที่ไหลผ่าระหว่าง เทือกเขาหิมะมังกรหยก และ เทือกเขาหิมะฮาบา น้ำที่ไหลผ่านช่องแคบนี้แรงมาก อีกทั้งมีความลึกเกือบ 4 กิโลเมตร ถือ เป็นช่องแคบที่ลึกที่สุดในโลกแห่งหนึ่งทีเดียว ตรงจุดแคบที่สุดระหว่าง 2 เทือกเขานี้มีหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งมีคนเล่าว่าเสือใช้หินก้อนนี้เป็นจุดพัก เพื่อกระโดดข้ามไปฝั่งตรงข้าม

ใครที่อยากลงไปสัมผัส ช่องแคบเสือกระโจน แบบเต็ม ๆ คงต้องเหนื่อยกันหน่อยค่ะ ขาลงไม่เท่าไหร่เพราะเป็นบันไดเดินลงไปแบบสบาย ๆ ประมาณ 500 ขั้น ด้านล่างมีผลไม้ อาหารเบา ๆ และเครื่องดื่มจำหน่าย ส่วนขาขึ้นนั้นก็เป็นบันไดเหมือนกันค่ะ แต่ต้องแบกเอาน้ำหนักตัวเองขึ้นมาด้วยอีก 500 ขั้นเหมือนขาลง ดังนั้น ฟิตร่างกายให้พร้อม และไม่ควร นำสัมภาระลงไปด้วยค่ะ

อาการปวดขาหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อรสบัสคันย่อมของพวกเราจอดให้ช้อปปิ้ง ด้านในกระโจมขนาดใหญ่ยักษ์มี สินค้าให้เลือกละลายตา "หินทิเบต" ใครมาต้องซื้อ ของจริงของปลอมดูไม่ออกเหมือนกันค่ะ รู้แต่ว่าเดินไปทาง ไหนแม่ค้าก็เรียกแล้วพูดว่า "สวยจริง ๆ, สวยมาก ๆ" พอถามว่าลดราคาได้มั๊ยเธอก็ตอบว่า "สวยมาก ๆ, สวย จริง ๆ" ตกลงว่าตั้งโปรแกรมมาให้พูดได้แค่นี้ใช่มั๊ยห๊ะ



แชงกรีล่า

แชงกรีล่า


บรรยากาศรอบตัวรถบัสเริ่มเงียบและสงบมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้างทางเต็มไปด้วยทุ่งนาที่มีสีขาวของหิมะปกคลุมอยู่ทั่วไป จามรีฝูงเล็ก ๆ มองเห็นได้ตลอดทาง บ้านเรือนในแถบนี้เริ่มแปลกตาไปกว่าที่เคยเห็น "วัดลามะซงจ้านหลิง" เป็นอีกแห่งหนึ่งที่หยุดแวะ บริเวณด้านหน้ามีของขายเล็ก ๆ น้อย ๆ มีจามรีตัวโตไว้ให้ถ่ายภาพด้วย แต่ถ้าใครจะถ่ายภาพคู่กับจามรีเขาคิดเงินนะคะ ฉันเดินตรงดิ่งเข้าไปยังประตูบานกว้าง มองไปด้านบนเห็นนักท่องเที่ยวกำลังค่อย ๆ ไต่บันไดขึ้นไปชมวัด และเนื่องจากที่มีความกดดันอากาศต่ำจึงทำ ให้ฉันต้องค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดทีละชั้น ที่สำคัญคือต้องค่อย ๆ หายใจ ไม่อย่างนั้นจะทำให้เหนื่อยมาก ๆ

บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ระหว่างบันไดนั้นดูเงียบสงบ ฉันเดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งขึ้นยืนอยู่บนจุดสูงสุดของ บันได จากนั้นก็หันกลับลงมามองบรรยากาศด้านล่าง ขอบอกว่าสวยสุด ๆ ค่ะ สีขาวของหิมะตัวกับสีสันที่ สวยงามของบ้านเรือนสไตล์ธิเบต ก่อนหน้าที่จะมาเที่ยวครั้งนี้ฉันได้หาข้อมูลและเปิดดูภาพถ่ายของเมืองนี้บ้างแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นภาพของท้องทุ่งสีเขียวสลับกับสีเหลืองและแดงเป็นหย่อม ๆ ซึ่งต่างกันลิบกับภาพที่ฉันมองเห็นอยู่ในขณะนี้



แชงกรีล่า

แชงกรีล่า


ก่อนนี้แชงกรีลามีชื่อว่า "จงเตี้ยน" ซึ่งแปลว่า "ทุ่งหญ้า" และถูกเปลี่ยนชื่อเมื่อครั้งทึ่นิยายดังของฝรั่ง (Lost Horizon) ถูกตีพิมพ์ขึ้น บทความของนิยายเล่มนี้บ่งบอกถึงสถานที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนทุ่งโล่งสีสดใส มีภูเขาหิมะ สายน้ำ และทะเลสาบ ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่าย เป็นดินแดนงดงามลี้ลับ แลดูคล้ายกับดินแดนแห่งสวรรค์ ทางการจีนเห็นว่าเมืองจงเตี้ยนมีรูปลักษณ์คล้ายกับที่ในนิยายกำหนดไว้ จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "แชงกรีล่า" ตามนิยายเล่มดัง ชื่อนี้จึงกระฉ่อนไปทั่วโลก และทำให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายหลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย เพียงเพื่ออยากมาชมความงามที่ได้อ่านจากนิยายเล่มโปรด

ถ้าถามว่าภาพที่เห็นที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้านี้สวยไหม ฉันขอตอบเลยค่ะว่า "สวย...แต่" ไม่เหมือนกับภาพที่วาดไว้ ฉันวาด ฝันเอาไว้มากกับการเดินทางมาครั้งนี้ แต่เพราะอากาศที่หนาวเหน็บทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ภาพที่คิดว่าสวยสวยสุด ๆ ก็ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ฉันเดินเซ็ง ๆ ไปตามทาง และแอบมานั่งอยู่คนเดียวตรงขอนไม้ข้างบ่อน้ำขนาดใหญ่ ก่อนนั่งไม่ลืมที่จะปัดเอาหิมะก้อนขาว ๆ ออกก่อน พระอาทิตย์ค่อย ๆ เลื่อนไหลลงมาช้า ๆ แสงสีขาวอ่อนปกคลุมไปทั่วบริเวณ ฉันมองเห็นประกายแดดอ่อน ๆ นั้นกระทบลงบนผิวน้ำ ฉันไม่ลืมที่จะเก็บภาพเหล่านั้นกลับมาด้วย พร้อมกับบอกตัวเองว่า "ดีเหมือนกัน...ภาพถ่ายของฉันจะได้ไม่เหมือนใคร"



แชงกรีล่า

แชงกรีล่า

อยากบอกจริง ๆ

ข้อแรก...ที่อยากแนะนำสำหรับผู้ที่อยากมาเที่ยวประเทศจีนคือ คุณต้องพูดภาษาจีนได้ ถ้าคุณพูดไม่ได้แนะนำให้หาไกด์ท้องถิ่นเพื่อนำทางคุณ เนื่องจากคุณจะเหมือนคนตาบอดมาก ๆ ถ้าพูดภาษาจีนไมได้

ข้อสอง...ไม่แนะนำให้นั่งเครื่องจากคุนหมิงไปแชงกรีลาโดยตรงค่ะ เพราะความกดอากาศต่างกันมาก ควรเดินทางด้วยรถมากกว่า เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับระดับความกดของอากาศ

ข้อสาม...ใครที่มีโรคประจำตัว อาทิ ความดันสูงม หัวใจหรือภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการเดินทาง และควรพกยาประจำตัวไปด้วย

ข้อสุดท้าย...เวลาซื้อของกรุณาต่อแบบสุด ๆ ประมาณว่า ของราคา 100 บาท ต่อเหลือ 10 บาทไปเลยค่ะ เพราะ ราคาที่เขาตั้งขึ้นนั้นก็เพื่อโขกคนไทยโดยเฉพาะ ที่สำคัญเวลาส่งของกับส่งเงินให้นั้นต้องจ้องตาเลยนะคะ ไม่งั้นโดนเปลี่ยนของไม่รู้ด้วย








ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก






Free TextEditor




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2554
3 comments
Last Update : 26 ธันวาคม 2554 17:29:06 น.
Counter : 1586 Pageviews.

 

เพลิดเพลินได้ความรู้ดี ครับ

 

โดย: wildbirds 26 ธันวาคม 2554 18:24:47 น.  

 

 

โดย: Kavanich96 27 ธันวาคม 2554 10:11:21 น.  

 

ข้อมูลดี ภาพสวย เพลงเพราะด้วย ขอบคุณค่ะ

 

โดย: PPJULY IP: 118.172.95.50 13 กุมภาพันธ์ 2555 19:40:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.