เมืองนี้..ใช่เลย
ภูหลวง สถานที่แรกที่เราจะพาไปตระเวนกันในวันนี้
ภูหลวง มีความหมายที่เป็นมงคลว่า ภูเขาที่สูงใหญ่ หรือ ภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน ตามที่คนโบราณตั้งไว้ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 848 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 530,000 ไร่ ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และกิ่งอำเภอภูหลวง จังหวัดเลย โดยมีการกำหนดเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงขึ้นใหม่ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2534 เนื่องจากมีการผนวกพื้นที่เพิ่มเติมและเพิกถอนพื้นที่บางส่วน มีเนื้อที่ประมาณ 897 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 560,593 ไร่
และด้วยความที่ยังคงสภาพป่าไม้ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นที่ภูหลวงแห่งนี้จึงเป็นแหล่งศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้เขตหนาวหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเมเปิ้ล สนแผง บ้วยจีน นอกจากนั้นยังพบพันธุ์กล้วยไม้อีกไม่น้อยกว่า 170 ชนิด และดอกไม้ป่าอีกกว่าร้อยชนิด ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกดอกตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ ภูหลวง ยังมีจุดท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โคกห้วยเตย โคกยาว รอยเท้าไดโนเสาร์ ผาเตลิ่น ผาสมเด็จ โคกนกกระบาก ลานสุริยัน ผาเยือง โคกพรหมจรรย์ ป่าไม้ดำ น้ำตกตาดเลย ภูหอ น้ำตกตาดหลุ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้ามีเวลาแค่ 1 คงจะเที่ยวชมไม่ทั่วอย่างแน่นอน
ชมความงาม และสูดอากาศบริสุทธ์ จนฉ่ำปอดแล้ว เราจะพาไปต่อที่ อุทยานแห่งชาติภูเรือ หรือที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เรียกว่า ภูเรือ ซึ่งนับว่าเป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากยอดภูอยู่บนเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี ช่วงที่เหมาะกับการเดินทางมาเที่ยว เห็นจะเป็นช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคม มีนาคม
ทั้งนี้ ภูเรือ ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ซึ่งเราเองก็ได้มีโอกาสได้ขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูเช่นกัน โดยถนนหนทางที่จะขึ้นสู่ยอดภูนั้น ดูจะสะดวกสบายมากกว่าการขึ้นภูอื่น ๆ เพราะทำเป็นถนนคอนกรีตอย่างดี อึดใจเดียวเราก็มาถึงยอดภู แต่ด้วยเวลาที่เราขึ้นมานั้น ต้องรอพระอาทิตย์ตื่นนอนอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ทำให้เราฆ่าเวลาด้วยการเต้นแร้งเต้นกา เพื่อบรรเทาความหนาว เพราะลมหนาวบนยอดภูช่างแรง และเย็นจริง ๆ เต้นอยู่นานจนเหนื่อย ก็ได้เวลาชมพระอาทิตย์ขึ้นพอดี
แสงสีเหลือง-แดง ค่อย ๆ สาดส่องแยงตาเรายิบ ๆ บวกกับลมแรง ๆ ที่มาปะทะร่าง ทำให้การดูพระอาทิตย์ครั้งนี้โรแมนติกอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะได้ยืนดูกับคนรู้ใจ แต่อาจเป็นเพราะ ไม่บ่อยนักที่จะได้นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า
และแน่นอน หลังจากที่โบกมือทักทายกับแสงแรกของวันแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพตัวเองคู่กับป้าย ยอดภูเรือ ไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเราก็มาถึงที่นี่แล้วเหมือนกัน
นอกจากการชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ภูเรือ ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ผาโหล่น้อย ผาซับทอง น้ำตกห้วยไผ่ ถ้ำหินแตก หินวัวนอน หินพระศิวะ ทุ่งหินเหล็กไฟ ฯลฯ
ต่อจากการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดภูเรือแล้ว เราจะพาไปชมความงดงามที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นกันบ้าง กับพื้นที่ที่ถูกขนานนามว่า คุณหมิงเมืองไทย หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สวนหินผางาม หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนอินไทยแลนด์ แต่จะอันซีนขนาดไหน เราจะพาไปชมกัน
เมื่อมาถึงที่ สวนหินผางาม เราจะเจอกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ที่จะพาเราเยี่ยมชมมตามจุดต่าง ๆ ซึ่งเมื่อเดินเข้าสู่ทางเข้า เราก็จะพบกับหินที่ถูกจินตนาการให้เป็นรูปร่างต่าง ๆ ตามที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นรูปไดโนเสาร์ ช้างร้องไห้ หรือจะเป็น หินตาเดียว เมื่อมองดี ๆ ที่ผาหินขนาดย่อม จะมีรูปของดวงตา คล้ายว่ามีผู้ไปสลักไว้ แต่จากคำบอกเล่า ก็ได้รับการยืนยันว่า เป็นลายเส้นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เหลือเชื่อจริง ๆ
เดินไปอีกไม่ไกลเราก็จะเจอกับทางเข้า ถ้ำลับแล ซึ่งจะมีปริศนาธรรมวางอยู่หน้าถ้ำให้เราได้คิดกันเล่น ๆ โดยมีการนำเขาสัตว์วางบนตาชั่งฝั่งหนึ่งของถ้ำ เมื่อเราเดินออกมาอีกฝั่งหนึ่งก็จะพบว่ามีตาชั่งอีกอันหนึ่ง มีหัวมันวางอยู่บนตาชั่ง ซึ่งหมายถึง ชั่งเขา-ชั่งมัน ปริศนาธรรมที่แสดงถึงการปล่อยวาง
จากนั้นเราก็จะเข้าสู่เส้นทางของ เขาวงกต แดนมหัศจรรย์ โดยเราจะต้องเดินผ่าน เนินท้อแท้ เส้นทางขึ้นสู่ผาที่มีความสูงชัน จนบางคนอาจเกิดอาการท้อแท้ตามชื่อ ด้านบนเราจะพบกับ ฟอสซิลหอย ที่ทำให้หลายคนเชื่อว่าบริเวณนี้เคยเป็นดินแดนใต้ทะเลมา
หลังจากนั้น ไกด์ ของเราก็จะพาเราชมความงดงามตามจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซุ้มคารวะ ที่ที่ไม่ว่าใครจะใหญ่มาจากไหนก็ต้องก้มหัวให้ เนื่องจากถ้าอยากจะผ่านจุดนี้ไปได้ ต้องก้มตัว เก็บหัวลง เพื่อลอดช่องหินไปยังอีกฝั่งหนึ่ง ถ้ำอรทัย หินอนาคอนดา ช่องสรีระ สี่แยกพิศวง ผาทาร์ซาน ลอดท้องช้าง หินกรอบรูป ที่มีลักษณะเป็นช่องสีเหลี่ยมคล้ายกรอบรูปให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพเป็นที่ระลึก เป็นต้น
ส่วนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ ก็เห็นจะเป็น จุดชมวิวริมหน้าผา ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ นอกจากเป็นจุดชมวิวแล้ว ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมายืนเก๊กหล่อ เก๊กสวยถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอีกด้วย
เมื่อเดินกลับลงไปด้านล่าง เราจะเจอกับ ผาบ่อง ภูเขาหินปูนที่ซีกหนึ่งทะลุเป็นช่องขนาดใหญ่ โดยมีตำนานพื้นบ้านเหล่าขานของที่มาของช่องทะลุนี้ว่าเกิดจากพรานที่สูงแปดศอก ได้มาทดลองปืนของตนว่ามีอนุภาพขนาดไหนด้วยการยิงปืนใส่ภูเขาทะลุเป็นช่องขนาดใหญ่ที่เราได้เห็นอยู่ ณ ตอนนี้
เดินมาก็นานเริ่มเหนื่อย ขอนั่งรถอีแต๊กกลับไปยังจุดเริ่มต้นก็แล้วกัน สนนราคาค่าบริการคนละ 10 บาท แลกกับการนั่งรถชมวิวสัก 10 นาที ถือว่า คุ้ม
กว่าจะได้ธรรมชาติที่สวยงามอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ธรรมชาติต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน เพื่อจะสรรสร้างความสวยงามต่าง ๆ นี้ขึ้นมาได้ ไปเที่ยวครั้งหน้า จงอย่าเป็นผู้ทำลาย แต่จงเป็นผู้รักษาจะดีกว่า
พาเที่ยว จ.เลย มาจนเกือบจะทั่วแล้ว แต่ใครที่อยากจะมาสัมผัสกับความสวยงามของวัดวาอาราม และธรรมชาติที่สวยงาม และหนาวเย็นแบบนี้ เมืองเลย ก็พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ...
เดลินิวส์ เว็บ
Create Date : 01 ธันวาคม 2550 |
|
3 comments |
Last Update : 1 ธันวาคม 2550 14:32:32 น. |
Counter : 3442 Pageviews. |
|
|
|
ยอดภูเรือ 6.5 องศา
พื้นราบ 8 องศา
บ้านหินสอ ต.ปลาบ่า
หมู่บ้านที่หนาวเย็นที่สุด
ของประเทศไทย
สมาชิกทุกท่านมา
สัมผัสหมอกหนา
ไอหนาว......
ได้แล้วครับ......
ขอบคุณเจ้าของเรื่อง
ที่สวยงาม...
ขอบคุณด้วยใจครับ....