พระราชวังสนามจันทร์ ทรงคุณค่าเปี่ยมล้นมนต์เสน่ห์
พระราชวังอันทรงคุณค่าซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ไทย และยังคงได้รับการบูรณะรักษาให้คงความสวยงาม สืบทอดให้คนรุ่นหลังได้รู้จักและสัมผัส ไม่มีใครไม่รู้จัก
พระราชวังสนามจันทร์ ปีพุทธศักราช 2450 ซึ่งตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า อยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระ ราชวังแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นตาม พระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ครั้งยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เพื่อทรงใช้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานในโอกาสเสด็จฯ มาสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ และเพื่อประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงพระราชดำริให้ใช้พระราชวังสนามจันทร์เป็นที่มั่นเตรียมพร้อมสำหรับรับวิกฤติการณ์ของประเทศอันอาจเกิดขึ้น เพราะพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็ทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับการซ้อมรบเสือป่าด้วย
พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม อยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ไปทางตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2546 คณะกรรมการอำนวยการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ ได้น้อม เกล้าฯ ถวายคืนพระราชวังสนามจันทร์ โดยส่งมอบพระที่นั่ง พระตำหนักต่าง ๆ และเรือนข้าราชบริพาร คืนให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ดูแลตามพระราชดำริในสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณ วดี โดยปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชมความงดงามของพระที่นั่ง และพระตำหนักต่าง ๆ อันได้แก่ พระที่นั่งพิมานปฐมและห้องพระเจ้าภายในพระที่นั่งพิมานปฐม พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ เทวาลัยคเณศร์ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ พระตำหนักทับขวัญและอนุสาวรีย์ย่าเหล พระที่นั่งพิมานปฐม เป็นพระที่นั่งองค์แรกที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2450 เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น แบบตะวันตก แต่ดัดแปลงให้เหมาะกับเมืองร้อน ช่องระบายลมและระเบียงลูกกรงโดยรอบฉลุสลักเป็นลวดลายตามแบบไทยอย่างประณีต งดงาม พระที่นั่งชั้นบนประกอบด้วย ห้องต่าง ๆ ซึ่ง ยังมีป้ายชื่อปรากฏอยู่จวบจนปัจจุบัน ได้แก่ ห้องบรรทม ห้องสรง ห้องบรรณาคม ห้องภูษา ห้องเสวย และห้องพระเจ้า ซึ่งเป็นหอพระ มีพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาอยู่องค์หนึ่ง และยังมีภาพเขียนจิตรกรรม ฝาผนังฝีมือ พระยาอนุศาสน์จิตรกร ซึ่งงดงาม น่าชมมาก
พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์ เป็นพระที่นั่งที่เชื่อมต่ออยู่กับพระที่นั่งวัชรีรมยา โดยมีโถงใหญ่และหลังคาของพระที่นั่งทั้งสององค์เชื่อมติดต่อกัน เครื่องประดับตกแต่งหลังคาเหมือนกัน ขณะที่ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ เป็นพระตำ หนักที่มีลักษณะคล้ายปราสาทขนาดย่อม ลักษณะสถาปัตย กรรมแบบเรอเนซองส์ของฝรั่งเศส กับอาคารแบบฮาล์ฟ ทิมเบอร์ของอังกฤษ แต่ดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศในประเทศไทย ถัดมาที่ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ เป็นพระตำหนัก 2 ชั้น สร้างด้วยไม้สักทอง ทาสีแดง มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาส สิกของประเทศแบบตะวันตก แต่ได้มีการปรับปรุงองค์ประกอบบางส่วนให้เหมาะกับภูมิอากาศแบบเมืองร้อน พระตำหนักองค์นี้สร้างขึ้นคู่กับพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ โดยมีฉนวนทางเดินทำเป็นสะพานจากชั้นบนด้านหลังของพระตำหนักชาลีฯ ข้ามคูน้ำเชื่อมกับชั้นบนด้านหน้าของพระตำหนักมารีฯ สะพานดังกล่าวหลังคามุงกระเบื้อง และติดหน้าต่างกระจกทั้งสองด้านตลอดความยาวของสะพานที่เชื่อมติดต่อถึงกัน
พระตำหนักทับขวัญ ดูเหมือนจะแตกต่างจากพระตำหนักอื่น ตรงที่มีความเป็นเรือนไทยสมบูรณ์แบบ ประกอบด้วย กลุ่มเรือน 8 หลัง ได้แก่ เรือนใหญ่ 4 หลัง เรือนเล็ก 4 หลัง ซึ่งได้สร้างให้หันหน้าเข้าหากัน 4 ทิศ เรือนหลังใหญ่เป็นหอนอน 2 หอ อีก 2 หลังเป็นเรือนโถง และเรือนครัวซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน ส่วนเรือนเล็ก 4 หลังนั้นตั้ง อยู่ตรงมุม 4 มุม ๆ ละ 1 หลัง ได้แก่ หอนก 2 หลัง เรือนคนใช้ และเรือนเก็บของ เรือนทุกหลังมีชานเรือนเชื่อมกันโดยตลอด บริเวณกลางชานเรือนปลูกต้นจันไว้ให้ร่มเงา จุดสุดท้ายที่ผู้มีโอกาสเข้ามาในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ไม่ควรพลาดที่จะแวะไปเยี่ยมชม พร้อมกราบนมัสการ ขอพรนั่นก็คือ เทวาลัยคเณศร์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นศาลเทพารักษ์สำหรับ พระราชวังสนามจันทร์ เป็นที่ประดิษฐานพระคเณศร์ หรือพระพิฆเนศวร เทพเจ้าผู้มีเศียรเป็นช้าง โดยเมื่อมองจากพระที่นั่งพิมานปฐมจะเห็นพระปฐมเจดีย์ เทวาลัยคเณศร์ และพระที่นั่งพิมานปฐมอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน ปัจจุบัน พระราชวังสนามจันทร์ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม เพื่อใช้เป็นที่ศึกษาประวัติความเป็นมา สำหรับอนุชนรุ่นหลัง แน่นอนว่า แม้วันเวลาจะผ่านไปนับ 100 ปี แล้ว แต่พระราชวังแห่งนี้ก็ยังคงความงดงาม พร้อมทำหน้าที่เล่าขานมนต์เสน่ห์แห่งพระราชวังไทยได้อย่างไม่มีวันจืดจาง.
100 ปี พระราชวังสนามจันทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวัง ร่วมกับจังหวัดนครปฐมและมหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินการจัด งานฉลอง 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์ ณ พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ที่ทรงโปรดเกล้าฯ สร้างพระราชวังสนามจันทร์ซึ่งมีอายุครบ 100 ปี ในปีพุทธศักราช 2550 นี้ สำหรับรูปแบบการจัดงาน จะใช้พื้นที่ภายในพระราชวังสนามจันทร์เกือบทั้งหมดในการจัดกิจกรรมพิเศษที่ยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ ประกอบด้วย ขบวนแห่ยิ่งใหญ่อลังการในพิธีเปิดงาน 4 ขบวน คือ พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า ทั่วดินถิ่นนครปฐม มหาธีรราชเจ้าจอมราชันย์ และพระราชวังสนามจันทร์ 100 ปี, การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกจากโครงการส่วนพระองค์, การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีชื่อเสียงของจังหวัด, นิทรรศการการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่ปี 2475 จนถึงปัจจุบัน, การแสดงตำนานเสือป่า, การแข่งขันฟุตบอลโบราณ และนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย รวมทั้งนิทรรศการเกี่ยวกับกีฬาที่เริ่มในสมัยรัชกาลที่ 6 ฯลฯ ด้านความบันเทิงภายในงาน บริเวณลานกิจกรรมเวทีใหญ่ พบกับกิจกรรมการแสดง มหกรรมคอนเสิร์ตไทยร่วมใจถวายสดุดีงานฉลอง 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์ จากศิลปิน ดารารับเชิญ จากค่ายดัง ๆ มากมาย พร้อมเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศของ พระราชวังสนามจันทร์ ยามค่ำคืนเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกในรอบ 100 ปี ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของงาน จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในงานฉลอง 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์ โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ เป็นองค์ประธานเปิดงานในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา 17.00 น. บัตรราคาเดียวเที่ยวได้ตลอดงาน เด็กนักเรียน นักศึกษา ราคา 20 บาท ผู้ใหญ่ราคา 50 บาท.
โดยเดลินิวส์ออนไลน์
เพลงประกอบจาก
//www.esnips.com/doc/d8079da6-5140-4eab-bd95-f2a64a4eb667/เพลงขิม---พม่าเริง
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2550 |
|
9 comments |
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2550 1:55:04 น. |
Counter : 6620 Pageviews. |
|
|
|
แวะมาทักทายกันครับ
เอาทริปมิสเตอร์ฮองตะลุยเวียดนามตอนที่ 19 ทริป Balloon ปากช่องมาฝากครับผม
คลิกที่รูปเพื่อตามมาเที่ยวด้วยกันครับ