Group Blog All Blog
|
ฉันจะไปญี่ปุ่น ตอน เมื่อฉันต้องนั่งรถเมล์ (รูปภาพจาก : allabout-japan.com) ก่อนอื่นสิ่งที่ต้องรู้ก็คือ แล้วรถเมล์สายไหนละที่วิ่งผ่านหน้าโรงแรมที่พัก และที่สำคัญอีกอย่างคือ ต้องไปยืนรอรถเมล์ที่ป้ายประจำทางเบอร์ไหน อันนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญมากคะ สำหรับการขึ้นรถเมล์ในญี่ปุ่น เพราะไม่ใช่ว่าทุกป้ายรถเมล์ทุกคันจะจอดนะคะ เค้ามีกำหนดเอาไว้ว่าป้ายไหนรถเมล์เบอร์อะไรจอดได้บ้าง หลังออกมาจากสถานีรถไฟ ก้อยก็เดินไปหาป้ายรถเมล์ถ้าจำไม่ผิดต้องไปยืนรถที่ป้ายเบอร์ 1 เพื่อรถขึ้นรถเมล์เบอร์ 26 ยืนรอสักพักรถเมล์ก็มา ทุกคนยืนรอเข้าแถวเป็นระเบียบทยอยเดินขึ้นตรงบริเวณประตูรถด้านหลัง จังหวะที่กำลังเข้าแถวรอขึ้นก้อยก็เห็นว่าที่ประตูด้านหน้ามันว่างไม่เห็นมีคนขึ้น ก็เลยรีบพุ่งตัวไปที่ประตูด้านหน้าเพื่อจะได้ขึ้น ปรากฏว่าพอจะก้าวเท้าขึ้นไปได้ยินเสียงคนขับพูดอะไรสักอย่าง(ฟังไม่รู้เรื่องหรอกคะ)แต่เห็นเค้าทำท่าโบกมือแล้วก็ชี้นิ้วไปที่ประตูหลัง ตอนนั้นเองก้อยถึงได้รู้ว่า รถเมล์ที่ญี่ปุ่นนั้น เค้าให้ขึ้นที่ประตูหลัง และลงที่ประตูหน้าคะ ตอนนั้นรู้สึกอายมากเลยอ๊ะ ก็เลยต้องกลับไปต่อแถวขึ้นที่ประตูหลังเหมือนเดิม ระหว่างนั้นก็สังเกตเห็นว่าทุกคนที่เดินขึ้นรถเมล์จะต้องเอื้อมมือไปหยิบอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างๆตรงประตู ซึ่งสิ่งที่ทุกคนหยิบก็คือ ตั๋วรถเมล์นั่นเอง เห็นเค้าหยิบ ก้อยก็หยิบ เสร็จก็ไปหาที่นั่ง ระหว่างนั้นก็นั่งสังเกตการณ์ไปด้วย ตรงบริเวณหน้ารถเมล์จะมีป้ายไฟอันใหญ่พอสมควร ที่ป้ายนั้นแบ่งเป็นช่องๆและแต่ละช่องก็จะมีตัวเลขอยู่ด้วยคะ ก้อยก็เลยหยิบตั๋วรถเมล์ขึ้นมาดู ที่ตั๋วระบุเลขเบอร์ 0 ซึ่งที่ป้ายหน้ารถนั้นมีช่องเบอร์ 0 อยู่ด้วย ที่ช่องนั้นมีตัวเลขอยู่ที่ 270 และหลังจากช่อง 0 ไปแล้ว ตัวเลขจะลดจำนวนลง ก้อยก็เลยคิดเอาว่านั่นน่าจะเป็นจำนวนเงินค่าโดยสารที่ต้องจ่าย แล้วก็จริงอย่างที่คิดไว้คะ (รูปภาพจาก : allabout-japan.com) แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าถึงป้ายที่เราจะลงแล้ว ก็ที่ป้ายไฟด้านหน้ารถอันเดิมที่บอกราคานั่นแหละคะ ด้านบนจะมีตัวอักษรบอกอยู่ว่าป้ายต่อไปเป็นที่ไหน (ข้อระวัง!!! รถเมล์บางพื้นที่มีแต่อักษรภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียวนะคะ ดังนั้น เราต้องพกชื่อสถานที่ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นไปด้วยคะ) เวลาจะลงรถเมล์ก็ใช้วิธีกดกริ่งแบบบ้านเราคะ แต่ที่ต่างไปก็คือ กริ่ง ของเค้ามีติดไว้ตรงบริเวณเบาะที่นั่งทุกเบาะเลยคะ ไม่ต้องลุกขึ้นยืนกดแบบบ้านเราคะ และเมื่อเรารู้แล้วว่าป้ายหน้าเป็นป้ายที่เราจะลงก็กดบอกล่วงหน้า แล้วรอจนรถจอดสนิทที่ป้ายแล้วเราจึงค่อยลุกขึ้นไปจ่ายเงินคะ (ห้ามลุกขึ้นแล้วไปยืนรอที่ประตูแบบบ้านเรานะคะ เพราะที่ญีปุ่นเค้าถือเรื่องความปลอดภัยดังนั้น ห้ามลุกขึ้นเดินไปมาจนกว่ารถจะจอดสนิทที่ป้ายคะ) (หน้าตาปุ่มกด) แล้ววิธีการจ่ายเงินละทำยังไง จากที่นั่งสังเกตการณ์ ก็เห็นบางคนถือบัตรอะไรสักอย่างไปแตะตรงแท่นที่ตั้งอยู่ข้างๆคนขับคะ บางคนก็หยิบเหรียญใส่ลงไปในเครื่องตรงแท่นข้างๆคนขับเหมือนกันคะ แต่ปัญหาของก้อยก็คือ มีเหรียญไม่พอจ่าย ทำไงดี !! ตั้งแต่นั่งมายังไม่เห็นมีใครจ่ายโดยใช้แบงค์เลยอ๊ะ แสดงว่าเค้าไม่มีระบบเงินทอนแน่เลย ต้องเตรียมเงินพอดีอย่างเดียวสินะ เอาไงดีละเรา แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์ทรงโปรดป้ายก่อนที่ก้อยจะลง มีผู้หญิงวัยทำงานหนึ่งท่านหยิบแบงค์ออกมา เรางี้รีบจ้องตาไม่กระพริบ ผู้หญิ่งคนนั้นหยิบแบงค์พันแล้วสอดเข้าไปที่ช่องตรงบริเวณเครื่องเก็บเงิน สักพักก็มีเสียงเหรียญบาทไหลลงมาตรงช่อง เสร็จแล้วเธอก็หยิบเหรียญจากช่องตรงนั้นไปใส่ที่เครื่องเก็บเงิน ส่วนที่เหลือเธอก็เก็บใส่กระเป๋า อ๋อออ แบบนี้นี่เอง ที่เครื่องเก็บเงินก็มีช่องสำหรับแลกเงินด้วยนี่เอง สุดยอดไปเลยอ๊ะ (รูปภาพจาก : allabout-japan.com) เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นดีจริงๆ กับการนั่งรถเมล์ที่ญี่ปุ่น ถ้ามีโอกาสเพื่อนๆก็ลองไปใช้บริการดูบ้างนะคะ จะได้เก็บประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังบ้างคะ เพื่อนๆสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บนี้เลยคะ โดย: สมาชิกหมายเลข 1307335 วันที่: 8 กรกฎาคม 2559 เวลา:17:09:55 น.
|
มาดามกิม
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] Friends Blog Link |