|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
หลับ by Yoshimoto Banana
ชื่อ : หลับ ผู้เขียน : โยชิโมโตะ บานานา ผู้แปล : เพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย สำนักพิมพ์ : บลิส พับลิชชิ่ง ( Bliss ) BGM : Raining by FT.Island ( ลองกดฟังตรง4sharedข้างๆนะคะ แนะนำให้ฟังไปอ่านไปค่ะ ^__^ )
PS. รูปเราเป็นปกเก่านะคะ ตอนนี้เรื่องนี้เปลี่ยนปกแล้วค่ะ
คุณว่า...คุณหลับเพราะอะไรคะ?
หลายคนอาจบอกว่า การหลับคือการพักผ่อนขั้นพื้นฐานของร่างกาย
ซึ่งใครๆก็ต้องหลับเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ถ้าใครคนหนึ่งเกิดไม่รู้สึกแบบนั้นขึ้นมาล่ะ
ถ้าการนอนหลับไม่ได้เป็นแค่การพักผ่อน คุณว่ามันจะเป็นอะไรไปได้อีก
ลองมาหาคำตอบไปกับนิยายเรื่องนี้ไหมคะ
หลับเป็นนิยายที่รวม 3 เรื่องสั้นของผู้หญิง 3 คน
ซึ่งการหลับมีความหมายต่อพวกเธอแตกต่างกันไป
หลับที่ 1 หญิงสาวผู้ซึ่งหลับเพื่อหลีกหนีความเดียวดาย
เรื่องนี้พูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่เกิดไปรักกับชายที่มีภรรยานอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ในโรงพยาบาล
พวกเขาคบกันแบบลับๆ เพื่อที่จะคบกับเขาเธอจึงเลิกทำงาน
เลิกทำทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต มีชีวิตอยู่ไปวันๆรอให้เขาโทรมาหา
ใช้เวลาว่างทั้งหมดไปกับการหลับใหล จนกลายเป็นการเสพย์ติด
และจะตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาเท่านั้น
จากที่อ่านเราคิดว่าผู้หญิงในเรื่องแรกน่าจะหลับเพื่อหนีความเหงาของตัวเอง
หนีจากชีวิตที่ไม่มีอะไรเลย ทั้งจุดมุ่งหมายหรือแม้กระทั่งภารกิจประจำวัน
เราว่าความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของเธอกับคนรักนี่แหล่ะที่เป็นเหตุผลใหญ่
เขารักเธอ แต่ก็ไม่สามารถเขียนใบหย่าให้กับภรรยาโชคร้ายที่นอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ได้
การนอนหลับนี้เองที่กลืนกินเธอไปเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่ายิ่งเธอหลับ
และพยายามไม่รับรู้เรื่องราวใดๆมากเท่าไหร่
ชีวิตของเธอมันก็ยิ่งหมดแรงหมดพลังไปมากเท่านั้น
เหมือนกับร่างกายของเธอกำลังเน่าเปื่อยผุพังและตายลงไปช้าๆ
ที่สุดแล้วเธอจะรู้ตัวและกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้รึเปล่าก็ต้องไปลองอ่านกันดูนะคะ ไม่อยากสปอยมากกว่านี้แล้วอ่ะ
ที่เราเคยบอกว่ามีประสบการณ์คล้ายๆผู้หญิงคนนี้ในบล๊อกที่แล้วเนี่ย
ไม่ใช่ว่าเราไปเป็นชู้กับใครเค้านะคะ 555+ แต่มีช่วงนึงที่เราอยู่หอคนเดียว
เราเลยเหงามากๆ ไม่รุ้จะทำอะไรดีเลย เพราะว่าเพื่อนๆในกลุ่มเราเป็นเด็กไป-กลับกันหมด
พอเพื่อนๆกลับเชื่อมั้ยว่าเราไม่ได้คุยกับใครอีกเลยจนถึงเวลาเข้านอน ยกเว้นตอนไปซื้อข้าว
วันนึงเราก็ค้นพบว่าการหลับนี่แหล่ะดีที่สุด เราเลยใช้เวลาทั้งหมดไปกับการหลับค่ะ
พอกลับมาถึงหอก็หลับเลย แล้วค่อยตื่นมาตอนเย็นๆเวลาที่หิว
ตอนที่เป็นแบบนี้มันรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วดีค่ะ แต่ก็แอบรู้สึกเหมือนกันนะ
ว่ายิ่งหลับตัวเองยิ่งหดหู่ยังไงไม่รู้ เหมือนฝันๆอยู่ตลอดเวลาอ่ะค่ะไม่ตื่นซักที
ช่วงนั้นเพื่อนๆบ่นก็ใหญ่เลยค่ะว่าทำไมโทรมาทีไรเราหลับทุกที
แต่ก็ไม่นานหรอกค่ะ พอเข้าช่วงสอบก็ไม่มีเวลาหลับแล้วล่ะ
เราเลยกลับมาเป็นปกติ ยังดีนะเนี่ยที่เราไม่หลับจนแห้งเหี่ยวตายไปซะก่อน
ต้องขอบคุณการสอบจริงๆ
หลับที่ 2 หญิงสาวผู้ไม่อาจข่มตาหลับ
เรื่องนี้ค่อนข้างจะตรงข้ามกับเรื่องแรกเลยค่ะ
โดยพูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่เริ่มเดินเรื่อยเปื่อยตอนกลางคืนหลังจากที่สูญเสียคนรัก
เธอไม่อาจข่มตาหลับลงในเวลากลางคืนได้เพราะยังคงรักและรอคอยให้เค้ากลับมา
ดังนั้นเธอจึงเดินเรื่อยเปื่อยไปในตอนกลางคืนเหมือนคนละเมอ
ใช้เวลายามค่ำคืนให้หมดไปที่ไหนซักแห่ง ไม่ว่าจะเป็นในบาร์หรือร้านมินิมาทร์
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องคิดถึงเขา และคิดถึงเขาไปในเวลาเดียวกัน
จากที่อ่านเราว่าเธอคนที่สองยังไม่อาจยอมรับความจริงได้ว่าคนรักตายไปแล้ว
เพราะพวกเขาผูกพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น วันไหนที่เธอหลับลงได้
วันนั้นก็คงเป็นวันที่เธอยอมรับความจริงได้เสียที
สำหรับเรา เราว่าเราชอบเรื่องนี้นะคะ แบบว่าตอนแรกๆที่เราอ่านเรื่องหลับตอนเด็กๆเนี่ย
เราชอบเรื่องแรกค่ะ แต่พอมาอ่านตอนโตและเคยผ่านประสบการณ์ความรักมาบ้างแล้วเนี่ย
เรากลับชอบเรื่องนี้ค่ะ เพราะพออ่านแล้วรู้สึกว่าคนเขียนเนี่ย
เขาเขียนได้เข้าถึงความรู้สึกของคนที่เป็นฝ่ายรอคอยดีจริงๆ
มันทั้งเหงา และก็เศร้า เหมือนร่างกายและจิตใจ
มันไปติดอยู่ที่ไหนสักที่หนึ่งระหว่างความฝันกับความเป็นจริงน่ะค่ะ
ตอนที่เราอกหักรุนแรงมากๆ จำได้ว่าตอนนั้นพอหลังเลิกเรียนเราไม่อยากกลับบ้านเลยค่ะ
เราเลยได้แต่เดินเรื่อยเปื่อยที่ห้างบ้างที่โน่นที่นี่บ้างจนค่ำๆ ซัก 2-3 ทุ่ม แล้วค่อยกลับ
เพราะหวังแค่ให้คนรักของเราโทรมาบอกว่าเจอกันหน่อยเถอะ อะไรประมาณนั้น
ก็เลยคิดว่าเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงในเรื่องที่สองนี่นิดหน่อยค่ะ
หลับที่ 3 หญิงสาวกับมิตรภาพแบบผีเห็นผี
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารู้สึกว่าเล่ายากที่สุดใน 3 เรื่องเลยค่ะ แต่จะลองเล่าให้ฟังดูนะคะ
เรื่องนี้เล่าถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่มักจะตื่มหนักและผลอยหลับไปอยู่เสมอ
ช่วงที่เธอกำลังเคลิ้มหลับด้วยความมึนเมานี่เองที่เธอมักได้ยินเสียงเพลงประหลาด
เสียงนี้ทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน ฟังทีไรก็มีความสุข
แต่ขณะเดียวกันเธอก็สงสัยว่าเจ้าเสียงเพลงที่เธอได้ยินอยู่ทุกคืนนี้มันคืออะไรกันแน่
เมื่อลองปรึกษาแฟนหนุ่ม เขาก็บอกเธอว่ามันเหมือนกับความเชื่อเรื่องที่คนที่ตายไปแล้ว
พยายามจะพูดบางอย่างกับเรา ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนที่สนิทกันมากๆ
ในตอนนั้นเธอจึงนึกถึงผู้หญิงอีกคนในความทรงจำขึ้นมาได้ คนๆนั้นชื่อฮารุ
เธอและฮารุเคยตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งพร้อมๆกัน
ดังนั้นพวกเธอจึงตกลงไปในรักสามเศร้าแสนประหลาดพิลึกพิลั่น
เธอกับฮารุมักไปขลุกอยู่ที่บ้านของเขา เมื่อพบเจอกันทั้งสองเป็นต้องทะเลาะกันทุกครั้งไป
ทั้งถ้อยคำสาปแช่ง ด่าทอสาดเสียเทเสีย จนบางครั้งถึงกับลงไม้ลงมือ
แต่เธอก็ยังคงอยู่ที่บ้านหลังนั้นกัน 2 คนเพื่อรอคอยชายที่เธอตกหลุมรัก
แม้ว่าอีกฝ่ายที่อยู่ด้วยจะเป็นผู้หญิงที่ใช้ผู้ชายร่วมกันกับเธอเองก็ตาม
สุดท้ายชายคนนั้นก็หนีหายไปเพราะเหนื่อยหน่ายกับการอยู่ร่วมกัน 3 คนเต็มที
เขาไม่กลับมาอีกเลย
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮารุจึงจบลง ณ เวลานั้น
หลังจากนั้น ผู้หญิงคนนี้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
ในขณะที่ฮารุหนีไปอยู่ปารีสและตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังที่นั่น
สุดท้ายแล้ว ฮารุต้องการบอกอะไรกับผู้หญิงคนที่สามคนนี้ ก็ลองไปอ่านกันดูนะคะ
ในความเห็นเรานะ เราว่าความสัมพันธ์ของผู้หญิงคนนี้กับฮารุเนี่ย
มันเป็นมิตรภาพแบบผีเห็นผีค่ะ
ลองคิดดูสิ ที่เธอตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวกันในเวลาเดียวกัน
มันน่าจะเป็นเพราะพวกเธอเป็นคนที่เหมือนกันมากๆไม่ใช่หรอ?
คนที่เหมือนกัน เข้ากันอย่างลึกซึ้ง แค่มองตาก็รู้ใจ
ยิ่งทะเลาะกันมากขึ้น ก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น
ถึงมันจะเป็นมิตรภาพที่ดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย
แต่มันก็เป็นสายสัมพันธ์ที่สวยงามอันหนึ่งเลยนะถ้าถามเรา
เรื่องมันอาจจะเข้าใจยากไปบ้าง
แต่การอ่านเรื่องนี้มันก็ไม่ได้ยากขนาดที่ต้องไปใช้ผู้ชายร่วมกับใครถึงจะเข้าใจได้หรอกค่ะ
ลองเปิดใจแล้วอ่านกันดูนะคะ
วันนี้เราอัพบล๊อกซะยาวเป็นกิโลเลย แต่ยังไงก็หวังว่าจะมีคนทนอ่านจนจบนะคะ
ขอให้มีความสุขกับชีวิตและการอ่านค่ะ
วันนี้ไปแล้ว บ๊ายบาย ^___^
Create Date : 21 มีนาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 21 มีนาคม 2553 17:41:05 น. |
Counter : 516 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ไหมจ๊ะ 23 มีนาคม 2553 15:09:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ท่าทางน่าอ่าน แต่ตอนนี้คงต้องขอบาย เดี๋ยวอาการช้ำรักมันจะเป็นหนักกว่าเก่าน่ะค่ะ