พื้นฐานพุทธศาสนา เรื่องอาหาร ๔ ตอนที่ ๒
คราวนี้เรามาศึกษาธรรมมะ เรื่องอาหาร ๔ ในเรื่อง ผัสสาหาร ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ได้เปรียบเทียบให้เราได้เข้าใจในเรื่องนี้ไว้เช่นกัน "[๒๔๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ผัสสาหารจะพึงเห็นได้อย่างไร เหมือนอย่างว่า แม่โคนมที่ไม่มีหนังหุ้ม ถ้ายืนพิงฝาอยู่ ก็จะถูกพวกตัวสัตว์อาศัยฝาเจาะกิน ถ้ายืนพิงต้นไม้อยู่ ก็จะถูกพวกสัตว์ชนิดอาศัยต้นไม้ไชกิน หากลงไปยืนแช่น้ำอยู่ ก็จะถูกพวกสัตว์ที่อาศัยน้ำตอดและกัดกิน ถ้ายืนอาศัยอยู่ในที่ว่าง ก็จะถูกมวลสัตว์ที่อาศัยอยู่ในอากาศเกาะกัดและจิกกิน เป็นอันว่าแม่โคนมตัวนั้นที่ไร้หนังหุ้มจะไปอาศัยอยู่ในสถานที่ใดๆ ก็ถูกจำพวกสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ กัดกินอยู่ร่ำไป ข้อนี้ฉันใด เรากล่าวว่าพึงเห็นผัสสาหารฉันนั้นเหมือนกัน เมื่ออริยสาวกกำหนดรู้ผัสสาหารได้แล้ว ก็เป็นอันกำหนดรู้เวทนาทั้งสามได้ เมื่ออริยสาวกกำหนดรู้เวทนาทั้งสามได้แล้ว เรากล่าวว่าไม่มีสิ่งใดที่อริยสาวกพึงทำให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว" เมื่อเราได้อ่านดูจากพระสูตรแล้วจะเห็นได้ว่า เมื่อมีผัสสะมากระทบเราจะต้องกำหนดรู้เวทนาทั้ง ๓ (สุข ทุกข์ อุเบกขา) เพื่อที่จะได้ไปทำ โยนิโสมนสิการโดยมีสติปัฎฐาน ๔ เป็นตัวปฎิบัติ ให้ไปเห็นเหตุคือตัวสมุทัยในขั้นต่อไป ผมได้อ่านครบทั้ง ๔ อย่างแล้วทำให้ได้รู้ว่าการปฎิบัติธรรมในพุทธศาสนานั้น ลึกซึ้ง ละเอียด ไม่ง่ายๆ อย่างที่คนทั่วไปเข้าใจ เราจะต้องปฎิบัติธรรมโดยมีผัสสะมากระทบสัมผัส เราจะต้องโยนิโสมนสิการ เราจะต้องธรรมวิจัย เราจะต้องเลือกว่าธรรมที่เป็นกุศลควรสังขาร ธรรมที่เป็นอกุศลควรประหาร ไม่ใช่ว่าเราต้องไม่รับรู้อะไร ไม่ทำอะไร สิ่งที่ต้องปฎิบัติมีเยอะไปหมดตามอาหารสูตรก็เช่นกัน
Free TextEditor
Create Date : 03 กันยายน 2553 |
Last Update : 3 กันยายน 2553 10:07:10 น. |
|
1 comments
|
Counter : 586 Pageviews. |
|
|
|