ทะเลหมอกและดอกซากุระ "ดอยอ่างขาง"
สวัสดีปีใหม่
เพื่อน ๆ ชาว Bloggang ทุกท่าน ห่างหายไปจากพื้นที่นี้นานเลยค่ะ ในปีใหม่นี้ก็ขออวยพรให้เพื่อน ๆ ทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง เฮง ๆ รวย ๆ กันทุกคนนะคะ
วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวการเดินทางขึ้นสู่ยอดดอยกันอีกครั้ง และครั้งนี้เราเลือกเดินทางไปยัง "ดอยอ่างขาง" ช่วงระหว่างก่อนเดินทางนั้น ทางภาคเหนือจะมีฝนตกตลอดทุกวัน ซึ่งกำหนดการเดินทางของเราคือวันที่ 7 มกราคม 2560 ก็ลุ้นตลอดว่าในวันที่เราเดินทางนั้นฝนจะหยุดมั้ย และแล้วฟ้าดินก็เป็นใจ ฝนที่ตกกระหน่ำทุกวันเริ่มหยุดตกในเย็นวันที่ 6 ก่อนการเดินทางเพียง 1 วัน
"ดอยอ่างขาง"
ตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาว ต. แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร เป็นที่ตั้งของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ว่า ให้เขาช่วยตัวเอง เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาวที่สร้างรายได้ดีกว่าเก่าก่อน ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางจะมีที่เที่ยวมากมาย แปลงทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว พืชผักเมืองหนาวและแปลงไม้ดอกที่สวยงามมากมาย ท้อ บ๊วย พลัม สตรอเบอร์รี่ สาลี่ ราสเบอรี่ ลูกพลับ
ออกเดินทางกันในเช้าวันที่ 7 มกราคม 2560 จากเชียงราย ระหว่างทางเราก็ได้เห็นสายหมอกลอยละล่องอยู่ระหว่างภูเขาหลายลูก ช่วงที่นั่งอยู่ในรถก็ลุ้นตลอดว่าน่าจะมีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกบนดอยอ่างขาง สวยงามแน่ ๆ เลย
พระเจดีย์แก้ว บนวัดท่าตอน
แม่น้ำกก
เราเดินทางขึ้นทาง ไชยปราการ ซึ่งเส้นทางคดเคี้ยว ลาดชันตลอด ถ้าเพื่อน ๆ เดินทางมาเส้นนี้ให้เช็ครถและคนขับให้พร้อมก่อนนะคะ
และเมื่อเราขึ้นมาถึงตรงด่านตรวจทหารแยกที่จะไป อ.เชียงดาว สิ่งที่เราได้เห็นตรงหน้าก็คือ "ทะเลหมอก" หยุดรถสิคะ สิ่งที่เราตามหามานาน ลอยมาให้เห็นตรงหน้าเรานี่แล้ว
ถ่ายภาพรัว ๆ แบบไม่ยั้ง ฮ่าๆๆๆ
เราจอดรถถ่ายรูปตรงด่านทหารนานมาก แล้วก็ไปต่อยังฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง ซึ่งหมอกเริ่มฟุ้งหายไปบ้างแล้ว
นั่นไง เส้นทางที่เราขึ้นมา ชันและโค้งมาก
หลังจากถ่ายรูปทะเลหมอกจนพอใจแล้ว และอากาศก็เริ่มร้อน เราก็เดินทางต่อไปยังสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ที่นี่จะมีค่าธรรมเนียมเข้าคนละ 50 บาท รถคันละ 50 บาท
สังเกตุดูว่าใบเริ่มออกแล้ว เพราะช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าดอกซากุระจะบานถึงสิ้นเดือน มกราคม นี้หรือเปล่านะคะ
จุดนี้อยู่ด้านหลังสโมสรอ่างขาง ในสวนกุหลาบอังกฤษ ซึ่งซากุระตรงนี้สีสวยมาก
ถ่ายรูปกับลูกชายซะหน่อย
วนรถออกมาด้านหน้า จะมีทุ่งปอเทืองนิดหน่อย
ดอกกุหลาบในแปลงก็สวยงามไม่แพ้ซากุระ
นั่งจิบกาแฟในบรรยากาศที่สวยงามที่สุดค่ะ
เราใช้เวลาอยู่ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางกันนานพอสมควร ก็ได้เวลาเดินทางกลับ แต่ก่อนกลับบ้านโชเฟอร์ก็พาเราแวะเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งค่ะ นั่นก็คือ "บ้านไม้หอมฮิโนกิ"
ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.ไชยปราการ ห่างจากปากทางขึ้นดอยอ่างขางไปทางเชียงใหม่ประมาณ 3 กม. เท่านั้นเองค่ะ
ก่อตั้งโดยคุณอนิรุทธิ์ แซ่จึง เป็นชาวศรีสะเกษ มาแต่งงานกับภรรยาที่เป็นชาว อ.ไชยปราการ นับได้ว่าเป็นแห่งเดียวของประเทศไทยที่สร้างขึ้นจากไม้หอมฮิโนกินำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งหลัง ซึ่งใช้ไม้สักทองหนา 4 นิ้วปูพื้น และเฟอร์นิเจอร์ของบ้านทำจากไม้ฮิโนกิอายุหลายร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า เตียงนอน โต๊ะ เก้าอี้ ล้วนสร้างมาจากไม้หอม ฮิโนกิ ทั้งสิ้น ราคาก่อสร้าง 170 ล้านบาท ใช้เวลาสร้าง 2 ปี ฮิโนกิ แปลว่า "ไม้แห่งไฟ" ชาวญี่ปุ่นถือว่าเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เปิดทุกวัน 8.00 - 17.00 น. เข้าชมฟรี
เดินเข้ามาภายในบริเวณบ้าน ก็จะได้กลิ่นหอมของไม้ฮิโนกิ ตลบอบอวลไปทั่วเลยค่ะ
ฟูกนอนจะทำจากไม้ฮิโนกิทั้งหมดค่ะ
ไม้แผ่นเดียว นำเข้าจากประเทศลาว สามารถนั่งทานข้าวได้ 40 คน ยาว 8.58 เมตร กว้าง 2 เมตร หนา 8 นิ้ว
สระน้ำแร่ ระบบน้ำอุ่น มีห้องอบไอน้ำ ห้องซาวน่า
กำลังผลิตที่นอนจากไม้หอมฮิโนกิ
มุมนี้เป็นร้านเครื่องดื่ม
จบทริปดอยอ่างขาง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ
Create Date : 13 มกราคม 2560 |
|
8 comments |
Last Update : 13 มกราคม 2560 20:33:58 น. |
Counter : 3911 Pageviews. |
|
|
|