"บ้านแม่กำปอง" จ.เชียงใหม่
"บ้านแม่กำปอง"
สถานที่ที่หลายคนอยากเดินทางไปสัมผัส และมีการกล่าวถึงมากในปีที่ผ่านมาด้านโฮมสเตย์ต้นแบบ ที่มีหลายจังหวัดมาดูงานที่นี่ และได้ทราบมาว่าที่หมู่บ้านแห่งนี้มีประมาณ 130 หลังคาเรือน มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 300 กว่าคน
เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นหุบเขา และเนินเขา มีต้นน้ำและแม่น้ำไหลผ่านตลอดหมู่บ้าน และเป็นแหล่งพันธุ์ไม้ที่อุดมสมบูรณ์นานาชนิด มีบรรยากาศที่เย็นสบายตลอดปี มีอากาศที่บริสุทธิ์
อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ย 1300 เมตร จากประวัติที่ผู้เฒ่า ผู้แก่ ได้เล่าต่อ ๆ กันมาว่า บ้านแม่กำปอง ได้ก่อตั้งขึ้นมานานกว่า 200 ปี มีชาวบ้านที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายมาจากอำเภอดอยสะเก็ด เพื่อมาเก็บใบเมี่ยง ใบชา และได้ตั้งรกรากทำสวนเมี่ยงเรื่อยมาจนยึดเป็นอาชีพหลักของหมู่บ้าน โดยตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณลำห้วยที่ไหลผ่านหมู่บ้าน ที่มีต้นดอกกำปองขึ้นอยู่ตลอดแนว จึงเรียกชื่อหมู่บ้านตามดอกกำปองว่า "บ้านแม่กำปอง" มาจนถึงปัจจุบัน
เอาละพอทราบประวัติคร่าว ๆ แล้ว วันนี้เราได้มีโอกาสได้เดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ ซึ่งเราได้ออกเดินทางจาก จ.เชียงราย แต่เช้าตรู่ของวันที่ 29 กันยายน 2559 โดยรถตู้ส่วนตัว ตามไปเที่ยวชมหมู่บ้านด้วยกันเลยค่า
หลังจากเดินทางมาตามเส้นทางคดเคี้ยวน่าเวียนหัว เราก็มาถึงหน้าหมู่บ้านที่เห็นอยู่ท่ามกลางผืนป่าสูงใหญ่
เราขับรถผ่านถนนในหมู่บ้านมาที่ร้านนี้ก่อนเลยค่ะ "ชมนก ชมไม้" ซึ่งก่อนมาถึงบนร้านนี้ถนนแคบ และชันมาก รถต้องใช้เกียร์ 1 เพื่อขึ้นมาให้ถึงร้านกันเลยทีเดียว แอบมีความเสียวเล็กน้อย
และที่ได้รู้อีกเรื่องคือ เจ้าของร้านนี้ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แต่เป็นคนกรุงเทพฯ ที่เข้ามาเปิดกิจการที่นี่ค่ะ
จุดเด่นของร้านกาแฟแห่งนี้คือ การได้อยู่มุมสูงที่มองเห็นหมู่บ้านแม่กำปอง
ได้มานั่งจิบชา กาแฟ ในบรรยากาศที่สดชื่น และผืนป่าที่เราเห็นข้างหน้า ด้านล่างจะเป็นสวนเมี่ยง ไร่ชา และไร่กาแฟ ที่ชาวบ้านปลูกไว้
และเผอิญได้รู้มาว่าวันที่เราไปนั้น ทางร้านและหมู่บ้านกำลังมีการพัฒนาทิวทัศน์พอดี คุณลุงกำลังตัดต้นไม้ที่บังด้านหน้าเราอยู่ เพื่อให้เราได้มองเห็นหมู่บ้านได้ชัดเจนขึ้น
แต่เพียงตัดไปได้แค่ 2 ต้น ฝนก็เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้ลูกค้าในร้านต้องมานั่งรวมกลุ่มกันในที่ที่พอจะหลบฝนได้
นั่งรอสักพักฝนเหล่านั้นก็หายไป ฟ้าเริ่มสว่างและเราก็ได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามนี้อีกครั้ง
สถานที่ต่อไปที่เราจะไปเที่ยวกันคือ "น้ำตกแม่กำปอง"
ด้านหน้าน้ำตกจะมีร้านเล็ก ๆ ร้านนี้ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวด้วย
และถนนเส้นที่เราเห็นในภาพนี้สามารถเดินทางไปถึง แจ้ซ้อน ด้วยระยะทางประมาณ 27 กม. แต่เป็นเส้นทางที่ทั้งโค้ง ชัน และคับแคบ น่าจะยากพอสมควร
เดินเล่นแถว ๆ น้ำตกเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางลงไปยังหมู่บ้านด้านล่างกันค่ะ
จากสภาพถนนในหมู่บ้านที่แคบพอสมควร เราจึงตัดสินใจจอดรถไว้ในวัดคันธาพฤกษา หรือวัดแม่กำปอง แห่งนี้แล้วปั่นจักรยานเที่ยวชมภายในหมู่บ้านดีกว่าค่ะ
แต่ก่อนจะไปเดินเที่ยวชมหมู่บ้าน ด้านข้างวัดจะมีอุโบสถกลางน้ำ เราเดินลงไปชมกันก่อนดีกว่าค่ะ
ภายในอุโบสถกลางน้ำ
ตรงข้ามอุโบสถก็จะมีน้ำตกเล็ก ๆ มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา สดชื่น เย็นสบายที่สุดเลยค่ะ
ได้เวลาไปเที่ยวชมหมู่บ้านกันแล้วค่ะ
เดินเที่ยวไปตามถนนหลักเส้นนี้นะคะ
ร้านกาแฟสุดฮิตอีกร้านของที่นี่ อยู่ติดถนนเส้นหลักนี้เลยค่ะ ลุงปุ๊ด - ป้าเป็ง
บรรยากาศภายในร้าน ลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง
ร้านอาหารข้าง ๆ ร้านกาแฟ ลุงปุ๊ด-ป้าเป็ง
ปั่นไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยย้อนกลับไปเอารถที่วัดค่ะ
ร้านขายโปสการ์ด แต่วันนี้ร้านปิด
มุมถ่ายรูปยอดฮิตจริง ๆ ค่ะร้านนี้
เราไม่แน่ใจว่า การท่องเที่ยว จะทำให้ที่นี่เปลี่ยนแปลงไปอีกมาก น้อย แค่ไหน
ลานจอดรถในบริเวณโรงเรียน
อยากแนะนำ หากใครจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่หมู่บ้านแม่กำปอง โดยการนำรถยนต์ส่วนตัวมานั้น หากเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวเกรงว่าจะไม่มีที่จอดรถอย่างเพียงพอนะคะ เพราะเท่าที่เห็นนั้น สามารถจอดรถได้ที่โรงเรียน และที่วัด ส่วนที่อื่น ๆ ก็จอดได้เพียงแค่ไม่กี่คันเท่านั้น หรือสามารถจอดรถได้ที่โครงการหลวงตีนตก แล้วนั่งรถโดยสารขึ้นมาเที่ยวหมู่บ้านได้จะสะดวกกว่านะคะ
สำหรับเส้นทางจากบ้านห้วยแก้ว ถึงบ้านแม่กำปอง ระยะทางประมาณ 10 กม. นั้นทางแคบ โค้ง และชันพอสมควร คนขับต้องมีความชำนาญในการขับขี่และต้องระมัดระวังด้วยนะคะ
Create Date : 03 ตุลาคม 2559 |
|
4 comments |
Last Update : 3 ตุลาคม 2559 15:46:25 น. |
Counter : 2227 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณที่นำภาพงามๆ มาฝากค่ะ
เจิม