สวัสดี ...วันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ "ตาเนื้อเห็นทุกข์...ตาในพบสุข" (คำว่า ตาใน ในที่นี้คือ ปัญญาพิจารณา)
บุญใดไหนจะเท่า บุญ...บรรพชา บรรพชาในที่นี้หมายถึง การงดเว้นจากความชั่ว หรือการถือปฏิบัติดี การงดเว้นจากความสบาย ถ้าเราสบาย นั่นคือ เราทำตามใจ กิเลส แต่ว่าถ้าเรางดเว้นความสบาย สักอาทิตย์ละวันหรือทุก ๆ วันพระ หรือมากกว่านี้ ตามแต่เธอ จะสะดวก เธอจะพบว่า...ไม่ค่อยสบายกาย...ไม่ค่อยสบายใจ มันเป็นทุกข์
นี่แหล่ะ...คือธรรม ธรรมดา ของการถือปฏิบัตินั้น ต้องยาก...ต้องอดทน...ต้องลำบากเพื่อ บุญ เสมือนหนึ่งว่า...นักกีฬาเหรียญทองเวลาฝึก เขาต้องอดทน นานนับเดือน บางคน หลายปีถึงจะประสบความสำเร็จ... ถ้าเราถือปฏิบัตินั้นเปรียบได้ดั่งนักกีฬาเหรียญทอง ป่านนี้...เราทั้งหลายคงสำเร็จกันแล้ว...
ให้เธอ...น้อมกาย สำรวมใจ พิจารณาให้เห็นทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ... ให้เธอค่อย ๆ ปฏิบัติ และปฏิบัติแบบยืดหยุ่น เดินสายกลาง ดังนี้เช่น...
อาหารทางกาย ถ้าเป็นวันพระ งดเว้นเนื้อสัตว์ หรือเธอผู้ปฏิบัติบางคนงดเนื้อสัตว์ แต่ทานไข่หรืองดเว้นเนื้อสัตว์ด้วยและทานแค่ ๒ มื้อด้วย เริ่มแรกอาจจะยาก... (อันนี้สำคัญมาก แต่ถ้าผ่านไปได้... ก็ได้เหรียญทองแดง) ผลบุญ หรือ ผลดี เกิดทันที...ก็คือว่า ท้องไม่อึดอัด หลับก็สบาย ร่างกายก็ไม่โทรมมาก เนื่องจากไม่มีเนื้อสัตว์ต้องให้ย่อย
พักทางใจ ให้ตั้งสติรู้อยู่เสมอว่า วันนี้...วันพระ วันนี้...วันพระ พิจารณาทำภาระกิจต่าง ๆ ช้าลง...ช้าลง...และไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น ทั้งที่ยินดี หรือ ยินร้าย ให้กลับมาอยู่กับตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ใจจะค่อย ๆ สงบลง...ค่อย ๆ สงบลง...เท่านี้ใจเธอก็ไม่ดิ้นรน ทุรนทุรายเพื่อหาสิ่งที่ ยินดี หรือยินร้าย มากเกินกว่าเหตุ... หมายความว่า ใจก็ได้พัก (เวลากายเหนื่อย... ก็ต้องการพักกาย ฉันใด...)
นี่แหล่ะ...ตาเนื้อเห็นทุกข์ เรื่องอาหารทางกาย... ตาในจะพบสุขจากการพักทางใจ คนป่าหาธรรม
|
นักปฏิบัติธรรม - อดทน ฝึกฝน - สงบสุขทางใจ - บุญ (ตายได้ใช้,เป็นความสุขที่แท้จริง ยั้งยืน)