สวัสดี วันนี้...วันพระ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เมื่อใดเอาอยู่...เมื่อนั้นรู้ธรรม... (...หมายถึง รู้ตามความเป็นจริง ตามสภาพธรรมชาติ)
หากว่า...ยามเช้า!!! พระอาทิตย์ขึ้นเป็นธรรมชาติ...พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้า... ในยามเย็น ก็เป็นธรรมดา...
หากว่า...ยามเช้า ลมหนาวกระทบผิวทางกาย ใจก็สดชื่นเป็นธรรมชาติ...แต่ยามเย็น ไม่แน่.. ก็เป็นธรรมดา
หากว่า...เรามีความสุขเป็นธรรมดา...เราก็มีความทุกข์บ้างเป็นธรรมชาติ... นี่คือ รู้ธรรม... รู้ตามธรรมชาติ รู้ตามธรรมดา รู้ตามสภาพธรรม...ทุกๆ สรรพสิ่ง ล้วนมีที่มา...แล้วก็จากไป
ณ เหตุที่เกิดอาจจะต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่จบลงคล้ายๆ กัน คือ จบลงเป็นธรรมชาติ... สิ้นสุดลงเป็นธรรมดา ตาเนื้อเรามองแต่ไม่เห็นอาจจะ เอาไม่อยู่... ต้องใช้ ตาในมอง จึงจะเห็นเป็นสภาพธรรมจึงจะ เอาอยู่... เมื่อเอาอยู่...ก็รู้เท่าทัน เข้าใจ และยอมรับว่าเป็นธรรมดา...เป็นธรรมชาติ
ความจำ กับ ความจริง ทั้ง ๒ สิ่งนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เฉกเช่น การบริโภคข้อมูล ข่าวสารต่างๆ ทาง TV.บ้าง ทาง internet เสร็จก็ต่อด้วย facebook ลุกขึ้นโทรหาเพื่อนต่อ มันสะสมข้อมูลต่อเนื่อง... มันเอาไม่อยู่... (ขอโทษไม่สำรวมวาจา...ยิ้มๆ ไม่อยากให้เครียดมาก) เราต้องเอาให้อยู่เพื่อรู้ธรรม... การบริโภคข้อมูลข่าวสารก็เหมือนผู้หญิงแต่งหน้า... ถ้าแต่งน้อยเกินไปมองไม่เห็น แต่ถ้าแต่งมากเกินไปล่ะ...ฮ่ะ ฮา
ณ บัดนี้ วันพระนี้... ขอเธอโปรดสงบ สำรวมกาย สำรวมวาจา เมื่อรักษากาย รักษาวาจา...ไม่ได้ทำร้าย ผู้หนึ่ง ผู้ใด นี่ก็คือ ศีล ถ้ามีเวลาโปรดรักษา ใจ หรือสำรวมใจ...นี่ก็คือ สมาธิ เมื่อสำรวมได้ทั้ง กาย วาจา และใจ ได้ระยะหนึ่งพอสมควร ใจเราจะเงียบ...เงียบ สงบ และจะพบ ปัญญา เทอญ
เมื่อยอมรับความจริง...ก็วิ่งหาความสุข...
|
โคลงสี่สุภาพ
กรองมธุพจน์ร้อย............เรียบเรียง
ให้ท่านประสบเคียง..........คลี่พร้อม
ให้สุขสงบใสเสียง............สลอนสวาดิ
จันทร์รุ่งมาเลื่อนล้อม.......หลับไว้สวรรค์สม
จมจำกระทงผ่องแผ้ว........ผันมา
โลกฝั่งดาริกา..................กลับใกล้
หมายมาดมั่นปรารถนา......โน้มสนิท
ทรวงชิดเสน่ห์เคลิ้มให้.......ห่มห้วงถวิลหอม
ให้นฤมิตคิดด้วย..............ด่ำดวง
ท่ามพาทย์เพลงชิดทรวง...แทรกล้ำ
เหงาหงอยผ่านสุดสรวง.....สู่สวัสดิ์
ธรรมรสมาฉ่ำค้ำ..............เคลื่อนต้านตรมเส
เห่กล่อมจิตรุ่งเรื้อง............ร่วมสราญ
เริงร่ากว่าวันวาน................วับแพร้ว
ให้พานพบเลอสถาน...........ถึงซึ่ง ซึ้งเอย
กอบกล่อมใจจรัสแก้ว.........เกิดพร้อมสว่างไสว
โศกเศร้าไกลบทเบื้อง..........โบกโบย
หมายรูปรอยหมดโปรย.........เปิดสะท้อน
ให้นิมิตหัตถ์ผ่านโผย.............ผันสะกิด
ทุกท่านพบเพลงต้อน............แต่งแต้มพิลาสฝัน