Love is All Around.
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
ลอง MAZDA-6 SKYACTIV


เมื่อ วันที่ 15 พฤษภาคม 2556 เวลา 09.30 น. บริเวณพิตที่จอดรถแข่งของสนามแข่งรถแก่งกระจาน ผมยืนมองรถ Mazda-6 รุ่นใหม่ล่าสุดทั้ง 4 คันที่ถูกพลางตัวด้วยสติกเกอร์ลวดลายคล้ายกับตุ๊กแก นี่คือรถทดสอบที่ใช้เทคโนโลยี SKYACTIC โดย Mazda Motor

เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมลงทำการขับ ทดสอบในสนามแข่งรถแก่งกระจาน เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของระบบต่างๆ เช่น เครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีให้เลือกทั้งแบบเบนซิน 2.0 ลิตรและดีเซลเทอร์โบคู่ 2.2 ลิตร แซสซีส์ที่แข็งแกร่งขึ้น ระบบส่งกำลัง 6 สปีดออโต้รุ่นใหม่กับนวัตกรรมในการบริหารเชื้อเพลิงที่ดี บนเรือนร่างของโมเดล 6 ซึ่งเป็นซีดานขนาดกลางถ่ายทอดรูปลักษณ์มาจากรถต้นแบบบนแนวคิดปรัชญา KODO- Soul Of Motion ผมเองก็ยังงงๆกับตัวรถโมเดล 6 ของ Mazda Motor ที่ถูกพลางด้วยสติกเกอร์จนไม่เห็นสีสันเส้นสายที่แท้จริง ทั้งๆ ที่รถรุ่นนี้ถูกวางขายในยุโรปและอเมริกามานานหลายเดือนแล้ว ทรงที่ค่อนข้างปราดเปรียวเพียวลมดูกลมกลืนกับขนาดของตัวถังที่อยู่ในระดับ เดียวกันกับรถคู่แข่งอย่าง Toyota Camry - Honda New Accord - Nissan Teana โดยมีสติกเกอร์ลายปวดลูกกะตาแปะอยู่ทั้งสี่คัน รถโมเดล 6 ที่ใช้ในการทดสอบวันนี้ เป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินสองคันและดีเซลเทอร์โบอีกสองคัน เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นเป็นเครื่องแถวเรียงสี่สูบ 16 วาล์ว เหมือนกัน มีอัตราส่วนกำลังอัดเท่ากันพอดิบพอดีที่ 14.0:1 ความจุ 2.0 ลิตรในเครื่องเบนซินและ 2.2 ลิตรในเครื่องดีเซล ใช้เทคโนโลยี SKYACTIC เช่นเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ตัวหนึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินอีกตัวเป็นเครื่องดีเซล เทอร์โบคู่





จาก ข้อมูลรายละเอียดของตัวรถที่วิศวกรชาวญี่ปุ่นให้มานั้นบอกว่า Mazda 6 คือรถซีดาน 4 ประตูแบบ 2+2 ที่นั่ง เป็นรถที่ได้รับอิทธิพลเส้นสายที่พริ้วไหวมาจากรถต้นแบบ Takeri จากความลาดเอียงของเสาหน้า แนวหลังคาและเสาท้าย เทคโนโลยี SKYACTIV เริ่มจากโครงสร้างของตัวถังแบบใหม่ที่มีน้ำหนักเบาขึ้นแต่กลับแข็งแกร่งมาก ยิ่งขึ้น วิศวกรของ Mazda ทำการตัดโครงสร้างในส่วนที่ไม่จำเป็นออก แล้วทำการคำนวณผ่านการวิเคราะห์ของคอมพิวเตอร์ในขั้นตอนของการพัฒนาโดยจัด วางโครงสร้างของ Mazda 6 ใหม่ทั้งหมด ท่อนหน้าและท่อนหลังของโครงแซสซีส์ออกแบบให้ยุบตัวได้ง่ายเมื่อเกิดการชน ปะทะ การถ่ายเทแรงกระแทกที่ดีจะส่งผลให้โครงสร้างในส่วนของห้องโดยสารยังสามารถคง สภาพไว้ได้ SKYACTIV-Body ใช้การวางโครงสร้างใน Mazda 6 โดยใช้ลักษะวงแหวนเพื่อปกป้องห้องโดยสาร โครงสร้างรูปวงแหวนทั้งสี่มุมหมายความว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะได้รับการ ปกป้องจากแซสซีส์ที่ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เทคโนโลยี SKYACTIV-Chassis ได้เข้ามาปรับปรุงระบบรองรับหรือชุดกันสะเทือนใหม่ทั้งหมด เป้าประสงค์ในการลดทอนน้ำหนักใต้สปริงหรือ Unsprung Weight มีส่วนช่วยให้ช่วงล่างทำงานช้าลงเล็กน้อยขณะเคลื่อนผ่านสภาพผิวทางที่มีความ ขรุขระ รูปแบบของการจัดวางช่วงล่างใน New Mazda 6 ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพแก๊สพร้อมเหล็กกันโคลง กับด้านหลังที่ใช้แบบมัลติลิงก์ถูกจัดวางด้วยการคำนึงถึงหลักของเรขาคณิต โดยที่แขนยึดทั้งหมดจะพยายามรักษาสภาพของการตั้งฉากหน้ายางกับพื้นผิวถนนให้ ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ไม่ว่าล้อทุกล้อทั้งสี่มุมจะเต้นขึ้นหรือลงก็ตาม





ระบบ กันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ถูกปรับปรุงจุดยึดและแขนยึดใหม่หมดเมื่อเทียบ กับระบบกันสะเทือนหลังแบบเก่าใน Mazda 6 โมเดลที่ผ่านมา การกระจายแรงสั่นสะเทือนของแขนยึดหรือลิงก์ที่เปลี่ยนไปเพื่อการให้ตัวที่ มากยิ่งขึ้น ดูดซับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากทางด้านหลัง ขณะเดียวกันโช้คอัพหลังยังรับแรงกระแทกน้อยลงจากคุณลักษณะของการออกแบบ ช่วยให้อายุของช่วงล่างยาวนานมากขึ้นในส่วนของโช้คอัพ สำหรับระบบบังคับเลี้ยวหรือพวงมาลัยใน New Mazda 6 ใช้แรคพวงมาลัยแบบเพาเวอร์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยน้ำหนักของพวงมาลัยใน New Mazda 6 จะแปรผันไปตามความเร็ว ยิ่งขับเร็วเท่าไรน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นไปตามความเร็วนั้นจนถึงขั้นมอเตอร์ ไฟฟ้าของปั๊มหยุดทำงานเมื่อความเร็วถึงจุดสูงสุดเพื่อทำให้น้ำหนักของพวง มาลัยส่งถ่ายความรู้สึกที่มั่นคงอย่างยิ่งยวด ผู้ขับจะรับรู้ถึงน้ำหนักและประสิทธิภาพของระบบบังคับเลี้ยวแบบใหม่ซึ่ง เปลี่ยนจากเพาเวอร์สายพานที่ค่อนข้างกินกำลังเครื่องยนต์มาเป็นระบบปั๊ม ไฟฟ้า มันจะแตกต่างจากพวงมาลัยไฟฟ้ารูปแบบอื่นที่เบาหวิวจนขาดสัมผัสที่ชัดเจนและ แม่นยำ





เครื่อง ยนต์เบนซิน SKYACTIV -G และเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ที่วางลงใน New Mazda 6 เป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนามาเพื่อการให้กำลังโดยเน้นการใช้เชื้อเพลิงอย่าง ประหยัด มีแรงบิดที่ดีและปล่อยมลพิษน้อยลงตามเป้าประสงค์ของการใช้งานเครื่องยนต์ใน อนาคต สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV -G เป็นเครื่องยนต์แบบแถวเรียง 4 กระบอกสูบ ปริมาตรความจุ 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี 16 วาล์วพร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน Sequential Valve Timing S-VT ความกว้างกระบอกสูบ 83.5 มิลลิเมตร ช่วงชักยาว 91.2 มิลลิเมตร มีแรงม้าสูงสุด 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตรที่ 4,000 ต่อนาที กำลังอัดสูงที่สุดในกลุ่มเครื่องยนต์เบนซินที่ระดับ 14.0:1 กับมาตรฐานการปล่อยมลพิษระดับ EURO-5 แรงอัดที่สูงมากมีระบบป้องกันการน็อกด้วยการเปลี่ยนทางเดินท่อร่วมไอเสียให้ เป็นแบบ 4-2-1 เพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับของไอเสียไปยังห้องเผาไหม้ ลำดับของการจุดระเบิดในเครื่องยนต์ตัวนี้ยังคงอยู่บนตัวเลข 1-3-4-2 โดยที่ท่อไอเสียของสูบที่ 1 จับคู่กับสูบที่ 4 ขณะที่สูบ 2 จับคู่กับสูบที่ 3 ก่อนที่ท่อทางของไอเสียทั้งหมดในแต่ละคู่จะถูกรวมเข้าไว้ด้วยกัน ลักษณะของการวางท่อทางไอเสียแบบนี้ช่วยลดโอกาสของการไหลย้อนกลับของแรงดันไอ เสียไปเข้าสูบอื่นที่มีลำดับของการจุดระเบิดต่อเนื่องกันได้เป็นอย่างดี สำหรับการควบคุมป้องกันการไหลย้อนกลับไปยังห้องเผาไหม้ของไอเสียนั้น Mazda ใช้ระบบวาล์วแบบแปรผันทั้งวาล์วฝั่งไอดีและฝั่งไอเสียมาช่วยขจัดอาการโอ เวอร์แล็บ รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิจากไอเสีย ทำให้ลดอาการน็อกของเครื่องยนต์ตัวนี้ที่มีอัตราส่วนแรงอัดสูงที่สุดในกลุ่ม เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ




หัว ลูกสูบของเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ออกแบบให้เป็นหลุมในช่วงปลายจังหวะของการอัดหลังศูนย์ตายบนมาเล็กน้อย ขณะที่ลูกสูบเคลื่อนตัวเข้าไปปะทะกับฝอยละอองของเชื้อเพลิงที่มีแรงดันสูง ถึง 30-200 บาร์จากหัวฉีดแบบ Piezo ในระบบไดเรคอินเจคชั่น ปลายหัวฉีดมีรูถึง 6 รูช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรวมตัวของไอดี (เชื้อเพลิง+อากาศ) สิ่งที่วิศวกรของ Mazda ได้จากการพัฒนาเครื่องยนต์ SKYACTIV -G คือเครื่องยนต์สามารถสร้างแรงบิดได้เพิ่มขึ้นในรอบกลางๆ ถึงรอบสูงสุด แม้จะใช้อัตราส่วนกำลังอัดที่สูงถึง 14.0:1 ก็ตาม ค่าย Zoom Zoom เปิดตัวโมเดล 6 รุ่นใหม่ด้วยเครื่องยนต์เบนซินสองขนาด บล็อกแรกคือเครื่อง Standard Power สร้างเรี่ยวแรงได้ 145 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร อีกแบบคือเครื่องยนต์คือ High Power ให้แรงม้า 165 ตัวที่ 6,000 ต่อนาที โดยมีตัวเลขแรงบิดที่เท่ากันกับเครื่อง Standard Power ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV -G สี่สูบขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลัง 192 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที และมีแรงบิดสูงสุด 256 นิวตันเมตรที่ 3,250 รอบต่อนาที เครื่องยนต์เบนซินนวัตกรรม  SKYACTIV -G ยังมีน้ำหนักที่เบากว่าเครื่องยนต์คู่แข่งถึง 50 กิโลกรัมจากการย่อขนาดและลดการใช้ชิ้นส่วนรวมถึงการปรับแก้ด้านวัสดุที่ใช้ หล่อเป็นบล็อกเครื่องกับกลไกชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ต้องรับแรงและเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา





เมื่อ มาดูตัวเลขสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV -D ก็จะพบว่า มันคือเครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 กระบอกสูบ อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่แบบ 2 Stage Turbo ปริมาตรความจุ 2.2 ลิตร 2,191 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 86.0 มิลลิเมตร มีแรงม้าสูงสุด 175 แรงม้าที่ 4,500 รอบต่อนาที แต่มีแรงบิดมากมายมหาศาลถึง 420 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ด้วยการใช้เทอร์โบตัวแรกที่มีขนาดกลีบเทอร์ไบน์เล็กลง เพื่อรองรับกับปริมาณของไอเสียที่น้อยในรอบต่ำโดยจะไปหมุนใบของเทอร์ไบน์และ ทำงานในรอบต่ำถึงรอบปานกลาง ส่วนเทอร์โบอีกตัวที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวแรกจะเข้ามารับหน้าที่สร้างแรงบูสต่อ จากเทอร์โบตัวแรกในรอบเครื่องปานกลางถึงสูงสุด เครื่องยนต์ดีเซล  SKYACTIV -D ยังมีน้ำหนักประมาณ 240 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบอัดเทอร์โบของคู่แข่งจะพบว่าเครื่องดีเซล  SKYACTIV -D เบากว่าเครื่องยนต์ของคู่ต่อสู้ถึง 60 กิโลกรัม การออกแบบที่มีความกะทัดรัดยังช่วยให้การวางลงในห้องเครื่องยนต์ของ New Mazda 6 มีความง่ายดายมากยิ่งขึ้น มาดูที่การทำงานจากคำอธิบายของวิศวกร Mazda ในขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศจนร้อนจัดกระทั่งหัวฉีด ปล่อยละอองน้ำมันแรงดันสูงเข้าไปปะทะกับอากาศที่มีความดันและอุณหภูมิที่สูง ด้วยเช่นกันจึงเกิดปฏิกริยาการสันดาปที่รุนแรงและก่อให้เกิดมลพิษบางชนิดที่ ปะปนออกมากับไอเสียที่ถูกระบายไปยังบรรยากาศด้านนอก ซึ่งก็คือก๊าซไนโตรเจนออกไซค์และเขม่า วิศวกรของ Mazda จึงทำการลดกำลังอัดในเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ตัวนี้ให้เหลือเพียงแค่ 14.0:1 แทนที่จะมีตัวเลขกำลังอัดสูงเท่าเดิมที่ 16.0:1 การลดกำลังอัดทำให้ไนโตรเจนออกไซด์และเขม่ามีค่าที่ลดลง เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่  SKYACTIV -D ยังผ่านมาตรฐานไอเสียระดับ EURO-6 อีกด้วย



เครื่อง ยนต์ดีเซลที่มีอัตราส่วนกำลังอัดในระดับ 14.0:1 จะสตาร์ตติดได้ยากมาก เนื่องจากอากาศที่ช่วงปลายจังหวะของการอัดมีอุณหภูมิและความดันลดลง รวมถึงยังมีอาการรอบเดินเบาไม่นิ่งไปจนถึงทำให้เครื่องดับหรือหยุดทำงานไป เลย จากอากาศที่ถูกอัดในกระบอกสูบมีอุณหภูมิไม่สูงมากพอที่จะทำให้เกิดการเผา ไหม้ที่สมบูรณ์แบบได้ นวัตกรรม SKYACTIV -D ในเครื่องยนต์ดีเซลแก้ปัญหาใหญ่ดังกล่าวด้วยการใช้หัวเทียนแบบเซรามิกหรือ Ceramic Grow Plugs ช่วยสร้างการจุดระเบิดขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ในสภาวะอุณหภูมิต่ำ การใช้ระบบวาล์วแปรผัน Sequential Valve Timing S-VT โดยทำหน้าที่ปรับระยะยกตัวของวาล์วฝั่งไอเสีย ไอเสียสามารถไหลออกจากห้องเผาไหม้ได้มากหรือน้อย เร็วหรือช้าได้ด้วยการทำงานของชุด  Sequential Valve Timing S-VT รวมถึงการกักไอเสียเอาไว้จะช่วยทำให้เครื่องยนต์เข้าสู่อุณหภูมิทำงานที่ ปกติได้เร็วมากยิ่งขึ้น การลดอัตราส่วนกำลังอัดในเครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ให้เหลือเพียงแค่ 14.0:1 รวมถึงการขยับจังหวะของการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงของหัวฉีดแบบ Piezo ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นนั้นช่วยทำให้เกิดการสันดาปที่สมบูรณ์ ในเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV -D หัวฉีดแบบ Piezo มีรูเล็กๆ มากถึง 10 รู 360 องศารอบทิศทาง ทำงานด้วยแรงดันแบบแปรผันตามโหลดในระดับ 2,000 บาร์ หัวฉีด Piezo จะเริ่มต้นการทำงานตั้งแต่ช่วงปลายจังหวะของการอัด ขณะที่ลูกสูบเลื่อนขึ้นไปยังศูนย์ตายบน วัฏจักรของการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบสามารถฉีดเชื้อเพลิงได้ถี่ยิบ ติดๆ กันถึง 9 ครั้งโดยแบ่งการฉีดเชื้อเพลิงออกเป็นการทำงานหลักๆ ได้ 3 แบบคือฉีดล่วงหน้าแบบ Per-Injection / แบบฉีดตามจังหวะปกติหรือ Main-Injection / และการฉีดแบบหลังจากจังหวะของการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงปกติหรือ Post-Injection หัวฉีดเชื้อเพลิงแบบ Piezo ของMazda สามารถคอนโทรลได้ทั้งจังหวะและปริมาณของการฉีดจ่าย ช่วยให้เกิดการลุกไหม้ของไอดีอย่างทั่วถึง ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนขณะทำงานที่เป็นปัญหาพื้นฐานของเครื่องยนต์ ดีเซลจนให้ความรู้สึกขณะขับขี่และเดินเบาแทบจะไม่แตกต่างจากเครื่องยนต์ เบนซินเท่าใดนัก

สำหรับ การอัดอากาศในเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ตัวนี้ เป็นหน้าที่ของเทอร์โบคู่แบบ 2 Stage Turbo โดยเทอร์โบตัวแรกที่มีขนาดเล็กรองรับการอัดอากาศในรอบต่ำถึงรอบกลาง เนื่องจากปริมาณของไอเสียในรอบต่ำที่จะไปหมุนเทอร์ไบน์มีไม่มากนัก การออกแบบเทอร์โบเพื่อทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพที่ดีตั้งแต่การออกตัว จึงมีความจำเป็นที่จะใช้เทอร์โบที่มีขนาดเหมาะสมสำหรับการสร้างบูสในรอบต่ำ โดยที่เทอร์โบตัวเล็ก ซึ่งจะเริ่มทำงานตั้งแต่การออกตัวถูกออกแบบให้มีการต้านแรงเฉื่อยที่ดีขึ้น กลีบใบเทอร์ไบน์มีสัดส่วนที่พอดีกับปริมาณไอเสียในรอบต้นๆ ซึ่งน้อยกว่ารอบกลางและรอบสูงสุด ส่วนรอบกลางถึงรอบสูงสุดนั้น  (3,000-5,200 รอบต่อนาที) เทอร์โบอีกลูกที่มีขนาดโตกว่าจะเข้ามารับหน้าที่ต่อจากเทอร์โบตัวแรก เทอร์โบแบบ 2 Stage Turbo ของ Mazda ในเครื่องยนต์ SKYACTIV-D สามารถสร้างแรงดันอากาศประจุเข้าไปยังห้องเผาไหม้ได้อย่างต่อเนื่องและครอบ คลุมทุกย่านของกำลัง ระบบ 2 Stage Turbo มีแรงบูสถึง 2.7 บาร์ อัตราส่วนกำลังอัดที่ต่ำเพียงแค่ 14.0:1 ช่วยทำให้คาบเวลาของการเผาไหม้ถูกปรับอย่างเหมาะสม เมื่ออัตราส่วนกำลังอัดในเครื่องยนต์ดีเซลต่ำลง อุณหภูมิและความดันในการอัด ณ ศูนย์ตายบนจะลดลง ส่งผลให้การจุดระเบิดยาวนานขึ้น แม้ว่าเชื้อเพลิงจะถูกฉีดใกล้กับศูนย์ตายบน ทำให้เกิดการผสมกันระหว่างอากาศกับเชื้อเพลิงดีขึ้น ทำให้ก๊าซไนโตรเจนและเขม่าลดลงตามไปด้วย การฉีดเชื้อเพลิงและการเผาไหม้ใกล้กับศูนย์ตายบนในเครื่องยนต์ SKYACTIV-D ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้มีประสิทธิภาพสูง อัตราส่วนของการขยายหรือปริมาณของแรงที่ได้รับจากเครื่องยนต์ตัวนี้จะ มากกว่าเครื่องยนต์ดีเซลแบบอื่นที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงกว่า ช่วงเวลาของการเผาไหม้ที่มีความเหมาะสม หมายถึงเครื่องยนต์ SKYACTIV-D บริหารเชื้อเพลิงได้ดีกว่า เป็นที่มาของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลง 20%

ระบบ ส่งกำลังหรือเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV - DRIVE เป็นการผสมผสานข้อดีของเกียร์แบบ CVT (Continuously Variable Transmission) เกียร์คลัตซ์คู่ (Dual Cluth Transmission) เข้าไว้ด้วยกันทั้งสองระบบ การเปลี่ยนอัตราทดในเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV - DRIVE เป็นไปอย่างรวดเร็วและราบเรียบตามภารกรรมของเครื่องยนต์ตั้งแต่รอบต่ำ รวมถึงช่วงที่ต้องการขับขี่แบบประหยัดเชื้อเพลิง หัวใจสำคัญของระบบ SKYACTIV - DRIVE คือชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์พร้อมเกียร์เดินหน้าแบบ 6 อัตราทดที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดร่วมกับระบบคลัตช์ล็อกอัพทุกเกียร์ อัตราทดของคลัตช์แบบล็อกอัพได้เพิ่มจาก 64% ของเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด หรือคิดเป็น 89% ระหว่างการทำงาน การล็อกอัพจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกระหว่างที่เครื่องยนต์และเกียร์โดยทอร์ คคอนเวอร์เตอร์ ทำให้กำลังที่ผลิตได้จากเครื่องยนต์ถูกส่งผ่านตรงไปยังล้อขับเคลื่อน (ล้อคู่หน้า) ลดการสูญเสียกำลังขณะเร่งความเร็ว เกียร์ถูกออกแบบให้ส่งความรู้สึกในการขับขี่มากยิ่งขึ้น ป้องกันกรสูญเสียกำลังและช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ระบบไฮดรอลิกในเกียร์มีความแม่นยำสูงจากการควบคุมของสมองกลเกียร์แบบโมดู ลแมคคาทรอนิกส์ สำหรับ SKYACTIV - DRIVE มีเกียร์สองรุ่นทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัต 6 สปีด ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมและความต้องการ





ผม เริ่มต้นการทดสอบขับขี่ Mazda 6 SKYACTIV-G ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 165 แรงม้า ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น Mazda 6 SKYACTIV-D เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.2 ลิตร 175 แรงม้า ความยาวต่อรอบของสนามแข่งรถแก่งกระจาน 3 กิโลเมตร จำนวนสองรวม 6 กิโลเมตรต่อรถหนึ่งรุ่นมีระยะทางสั้นๆ ไม่มากมายอะไร แต่ก็พอจะซึมซับประสิทธิภาพของ Mazda 6 ทั้งสองรุ่นได้บ้างจากการควบคุมพวงมาลัยและการตอบสนองของระบบส่งกำลังบนสนาม ที่ใช้แข่งขันรถยนต์ทางเรียบ รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 165 แรงม้านั้น มีแรงบิดที่ 210 นิวตันเมตร วิศวกรของ Mazda เคลมว่ามันเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 10.1 วินาที และมีความเร็วปลาย 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อออกสตาร์ตจากจุดปล่อยตัว ผมกดคันเร่งลงลึกทันที ในโหมดขับเคลื่อน D ของตำแหน่งเกียร์ออโต้ 6 สปีด ความรู้สึกที่ได้รับไม่แตกต่างจากการควบคุม New Accord 2.0 ลิตรมากนัก เพียงแต่ช่วงล่างของ Mazda 6 ค่อนข้างกระชับมากกว่าเล็กน้อย เนื่องจากขับบนแทรคที่มีโค้งยาวและลึกแถมยังไม่มีจุดให้คุณได้แก้ตัวหากใส่ เข้ามาจนเกินลิมิต ผมจึงใช้ความเร็วเท่าที่จะเอื้อยอำนวยประคองรถให้อยู่รอดปลอดภัย

สนาม แก่งกระจานเต็มไปด้วยโค้งที่พร้อมจะเหวี่ยงให้คุณและรถหลุดออกไปนอกทางวิ่ง ได้อย่างง่ายดายหากไม่รู้จักบันยะบันยัง สภาพของสนามในวันนั้นถูกปรับรูปแบบด้วยการตั้งกรวยไพล่อนเพื่อบีบความเร็ว ให้มีความปลอดภัยรวมถึงการใช้กรวยยางสร้างสถานีทดสอบต่างๆ ซึ่งมีทั้ง Slalom / Brake Alert / Lane Change ให้ได้ลองสมรรถนะของ Mazda 6 กันอย่างจุใจ ย่านของกำลังที่ยืดหยุ่นกับน้ำหนักของตัวรถและแรงบิด 210 นิวตันเมตรไม่ได้มากมายอะไรที่จะทำให้มันกลายเป็นรถบ้าพลัง พวงมาลัยให้ความรู้สึกดี กระชับและแม่นยำมากกว่าคู่แข่งอยู่นิดหน่อย อัตราทดตอบสนองได้ปกติไม่ได้โดดเด่นอะไรจากน้ำหนักตัวที่มากกว่าซีดานรุ่น 3 ทำให้การเร่งความเร็วด้อยกว่ารุ่นดีเซลอย่างชัดเจน นี่คือรถยนต์ที่มี Performance ของระบบส่งกำลังและระบบบังคับเลี้ยวกับช่วงล่างที่เป็นเอกเทศแตกต่างจากรถ ยุ่นทั่วๆ ไป ซีดานขนาดกลางคันนี้มีทั้งความหนักแน่นและแม่นยำแม้จะไม่แรงจนกระชากกันทุก เกียร์แต่มันเป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการขับขี่ใช้งาน กลุ่มคนที่เลือก Mazda มักเป็นคนที่รักการขับรถและชอบรถยนต์ที่ให้ความรู้สึกหลังพวงมาลัยที่ชัดเจน มากกว่าที่จะเลือกซื้อรถตลาด




ลง จากเจ้า 6 เครื่องยนต์เบนซินเทคโนโลยี SKYACTIV-G ผมเดินมาขึ้น Mazda 6 โฉมใหม่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 2.2. ลิตร SKYACTIC-D เพื่อนๆ ที่ขับไปก่อนหน้านี้บอกว่ามันขับได้สนุกกว่ารุ่นเครื่องยนต์เบนซินมาก จากแรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ทะลักมาให้ตั้งแต่เริ่มต้นออกตัว ระหว่างที่จอดอยู่ในพิตรอการปล่อยตัวออกจากเส้นสตาร์ต ระบบ i-Stop ทำงานทันทีที่ผมกดแป้นเบรกคาไว้ เป็นการลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษของเทคโนโลยี SKYACTIV เครื่องยนต์จะติดตัวเองขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อผมถอนเท้าออกจากแป้นเบรก ในรอบเดินเบา เสียงของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ SKYACTIV-D ทำงานเบาจนแทบไม่ได้ยินเสียงดังสนั่นลั่นทุ่งเหมือนเอกลักษณ์ของเครื่อง ดีเซลในยุคก่อน แถมยังมีเสียงที่สร้างความรู้สึกเร้าใจของจังหวะการเร่งที่ใช้ได้เลยทีเดียว เมื่อสัญญาณปล่อยตัวซึ่งเป็นธงสีเขียวถูกโบกขึ้นจากเจ้าหน้าที่สนาม ผมกดคันเร่งลงลึกสุดทันที แรงดึงที่เกิดขึ้นจากการบูสของเทอร์โบตัวแรกที่เริ่มต้นทำงานให้ความรู้สึก ว่ามันแรงกว่ารุ่นเบนซินอย่างชัดเจน ตัวเลข 8.4 วินาที ในการตะกายไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนน้ำหนักตัว 1,430 กิโลกรัม ค่อนข้างไวและปราดเปรียวใช้ได้เลยทีเดียว มันทำให้ผมคิดถึง BMW 520D ที่เคยควบทดสอบไปเมื่อปีก่อน TwinPower Turbo ของค่ายใบพัดสีฟ้าขาวกำลังจะถูกท้าทายด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV แม้อัตราเร่งของเจ้า New 6 จะเป็นรอง 520D อยู่เล็กๆ (BMW 520D 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 7.8 วินาที) แต่แรงดึงและการยึดเกาะบนโค้งนั้นใกล้เคียงกันมาก

บน โค้งยาวๆ ช่วงล่างที่ถูกปรับมาให้ไวมากขึ้นทำให้นักขับบางคนสนุกไปกับมันจากการกวาด ท้ายออกจากโค้ง การเร่งสปีดความเร็วจากปลายโค้งสู่ทางตรงทำได้ดี ที่แม่นยำและให้ความรู้สึกถึงกริ้บที่แตกต่างคือจังหวะของการสลาลม อาการเอียงตัวเกิดขึ้นบ้างแต่ไม่มากจนย้วย พวงมาลัยที่แม่นยำปรับการทำงานด้วยเซ็นเซอร์ผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะคอยหน่วง น้ำหนักให้มากขึ้นนิดๆ จนกระชับเมื่อความเร็วทะยานไปถึง 170 กิโลเมตร บนทางตรงแล้วยกคันเร่งแตะเบรกหักหัวเข้าสู่โค้งรูปตัวยู Mazda 6 SKYACTIV-D ขับได้ดีตามสั่งแม้จะตัวโตระดับบิ๊กซีดานกึ่งๆ ซาลูนหรู ภายในที่งดงามให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่าคู่แข่งร่วมสัญชาติที่มักทำภายในของรถ ไซส์กลางออกไปทางผู้ใหญ่มากกว่าจะให้อารมณ์ซิ่งแบบ 6 SKYACTIV-D ภายในของมันทำให้ผมนึกถึง LEXUS GS250 F-SPORT มันมีรูปแบบบางจุดที่คล้ายกันอยู่บ้าง โดยภาพรวมแล้ว หน้าปัดมาตรวัดท่ี่มีผิวพื้นคล้ายกับนาฬิกาสวิสราคาแพงทำให้มันดูดีกว่าคู่ แข่งแบบเห็นๆรวมถึงการขับขี่ควบคุมที่เน้นภาพลักษณ์สปอร์ตซีดานมากกว่าจะ เน้นความหรูหราอลังการ



สัมผัส ในช่วงของการมุดเข้า-ออกไพล่อนบนจุดที่วิ่งผ่านสลาลมบอกผมว่า เจ้า New Mazda 6 รุ่นนี้มีท้ายที่ค่อนข้างไวจากการปรับเซตมาจากโรงงาน บั้นท้ายที่ไวใช้ช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงก์ แขนยึดโยงกับโช้คอัพแก๊สบนล้อขอบ 17 นิ้ว พร้อมด้วยยาง Bridgestone รุ่น Turanza ar10 ไซส์ 225/55/R17 หากคุณมีฝีมือในการควบคุมมากพอก็สามารถที่จะสาดท้ายใส่โค้งบนรถคันนี้ได้ อย่างเมามันส์ การเร่งความเร็วออกจากปลายโค้งทำได้ดี คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองได้ไวพอๆ กันกับเกียร์ 6 สปีด เมื่ออัดเข้าโค้งแรงขึ้นเรื่อยๆ จากความคุ้นชินในรอบที่สอง ยาง Bridgestone จะส่งเสียงโหยหวนทุกครั้งที่ต้องรับภารกรรมน้ำหนักกดทับขณะที่ล้อด้านในของ โค้งถูกกระหน่ำด้วยน้ำหนักตัวและแรงต้านการหมุนจากสัมผัสของหน้ายางที่บดลง ไปยังพื้นผิวของสนาม Mazda 6 SKYACTIV-D เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่เป็นรถที่ขับได้มันส์คันหนึ่งในวงการ งานสปอร์ตซีดาน 4 ประตูขนาดกลางของค่าย Zoom Zoom ไม่ทำให้ผมผิดหวังสำหรับการทดสอบในวันนี้ ที่ชอบมากคือย่านของแรงบิดที่มีให้ตั้งแต่รอบต้นๆ การถ่ายเทมวลน้ำหนักในโค้งให้ความรู้สึกที่หนึบแน่นของช่วงล่างเหมือนเคย อาการเอียงตัวเกิดขึ้นบ้างแต่เป็นธรรมชาติและไม่มากจนน่ากลัว สไตล์ที่ไม่เปลี่ยนของ Mazda ในการสร้างรถยนต์ที่มี Performance ของต้นกำลังและ Dynamic ของระบบรองรับกับระบบบังคับเลี้ยวสูงกว่าคู่แข่งร่วมสัญชาติอยู่นิิดๆ กับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่อิงแอบกับความเป็นสปอร์ตคาร์ทำให้ผมชอบ Mazda ตั้งแต่เริ่มต้นผลิต RX-7 NA รุ่นแรกจนมาถึง MX-5 NC ในปัจจุบัน



เทคโนโลยี i-stop ของ Mazda คือระบบสตาร์ตและดับเครื่องยนต์ที่ถูกเปิดตัวในปี พศ 2552 โดยเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล SKYACTIV จะทำงานร่วมแกนกับระบบ i-Stop อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ จะถูกติดตั้งเข้าไปเพิ่มเติม สำหรับระบบเบรกแบบสะสมพลังงานนั้น วิศวกรของ Mazda กำลังพัฒนาเพื่อนำมาใส่ไว้ในรถยุคใหม่ร่วมกับเทคโนโลยี SKYACTIV เพื่อเหนี่ยวนำพลังงานที่เกิดจากการเบรกหมุนเวียนกลับมาใช้งานใหม่อีกครั้ง ส่วนเทคโนโลยี Hybrid นั้น Mazda อยู่ในขั้นตอนของการทดสอบเพื่อที่จะผสมผสานระบบ Hybrid ซึ่งใช้มอเตอร์เสริมแรงให้เข้ากับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ SKYACTIV จากเป้าหมายในการลดการใช้พลังงานในรูปของเชื้อเพลิง ลดการปล่อยมลพิษให้เหลือน้อยที่สุด คาดการณ์ว่า รถ Mazda ที่วางระบบ Hybrid ควบคู่ไปกับ SKYACTIV จะออกสู่ตลาดภายในปี 2558 นี้.

Mazda 6 SKYACTIV-D Specifications

Engine type...............................................turbocharged diesel
Engine manufacturer................................Mazda
Engine code..............................................SKYACTIV-D
Cylinders Straight .................................4
Capacity...................................................2.2 litre 2,189 cc (133.581 cu in)
Bore  Stroke...........................................86.0 mm  94.2 mm 3.39  3.71 in
Bore/stroke ratio......................................0.91
Valve gear................................................DOHC 4 valves per cylinder 16 Total valves
maximum power output........................175.4 PS (173 bhp) (129 kW) at 4,500 rpm
Specific output..........................................79 bhp/litre 1.3 bhp/cu in
maximum torque....................................420 Nm (310 ftlb) (42.8 kgm) at 2,000 rpm
Specific torque.........................................191.87 Nm/litre 2.32 ftlb/cu3
Engine construction..................................?
Sump.........................................................wet sumped
Compression ratio.....................................14:1
Fuel system...............................................common rail direct diesel injection
Bmep (brake mean effective pressure)......2411.1 kPa (349.7 psi)
Engine coolant..........................................Water
Unitary capacity........................................547.25 cc
Aspiration..................................................2 Stage Turbo D Compressor
Intercooler..................................................
Catalytic converter....................................Y
Acceleration 0-100km/h...........................8.4 s
Maximum speed.......................................211 km/h
Engine position........................................front
Engine layout............................................transverse
Drive wheels.............................................front wheel drive
Torque split...............................................N/A
Steering.....................................................rack & pinion EPAS
Front suspension........................................Macpherson strut
Rear suspension.........................................Multi Link
Wheel size front........................................71/2J x 17
Wheel size rear..........................................71/2J x 17
Tyres front.................................................Bridgestone Turanza ar10 225/55 R 17
Tyres rear...................................................Bridgestone Turanza ar10 225/55 R 17
Brakes F/R.................................................VeDi/Di-S-ABS-EBD
Front brake diameter..................................297 mm
Rear brake diameter...................................278 mm
Gearbox......................................................6 speed Auto

Wheelbase.................................................2,800 mm 110.2 in
Track/tread (front)......................................1,585 mm 62.4 in
Track/tread (rear)........................................1,575 mm 62 in
Length........................................................4,865 mm 191.5 in
Width..........................................................1,840 mm 72.4 in
Height..........................................................1,450 mm 57.1in
Ground clearance.........................................?
length:wheelbase ratio.................................1.74
Kerb weight.................................................1,430 kg 3097 lb
Fuel tank capacity........................................62 litres 13.6 UK Gal 16.4 US Gal

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

//www.roddb.com/images/banners/RodDB_88x31.gif



Create Date : 21 พฤษภาคม 2556
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 9:33:34 น. 0 comments
Counter : 745 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

poprockcool
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




พื้นที่โฆษณาพิเศษ
Friends' blogs
[Add poprockcool's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.