ชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง...ไปวิ่งเล่นที่ญี่ปุ่นกัน 12-17 มีนาคม 2558 ตอนจบ
วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2558 และวันอังคารที่ 17 มีนาคม 2558 เป็นวันที่ 4 และ 5 ของการเดินทาง เราจะเขียนบล็อกรวม 2 วันเลยนะคะ เพราะวันที่ 17 มีนาคม ไม่มีอะไร นอกจากออกจากโรงแรม แล้วไปสนานบินเลยค่ะ 

วันนี้เราจะเก็บในโตเกียวกัน ซึ่งเราจะใช้ตั๋ว เมโทร + โทเอ พาส เป็นวันสุดท้ายเช่นกัน ยังจำกันได้นะคะ ตั๋วนี้เราซื้อมา ตอนมาถึงสนามบินนาริตะ ญี่ปุ่น เราซื้อแบบเหมา 3 วัน เราเริ่มเปิดใช้วันที่ 14 มีนาคม 2558 จะหมดอายุวันที่ 16 มีนาคม 2558 ^_^ 

เกริ่นมาซะยาวเชียว 555 โปรแกรมวันนี้ เชงตั้งเป้าจะไปตลาดปลาซึกิจิ ช็อปปิ้ง และล่องเรือไปโอไดบะ กันค่ะ มาดูกันว่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้ไหม ^^

วันนี้ว่าจะตื่นสายๆ แล้วนะ แต่เพราะจะไปตลาดปลากันเลยต้องตื่นเช้า อีกละ 555 จัดการอาหารเช้าที่โรงแรมก่อน ตุนพลังงานไว้ แล้วเก็บของ ฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้ให้เรียบร้อย ก่อนไปตลาดปลาซึกิจิ

ตลาดปลาแห่งนี้ห่างจากที่พักเราไม่มากนัก เดินทางแป๊บเดียว เชงขึ้นรถไฟที่สถานี Nishi-kasai (T16) ไปลงสถานี Monzen-nakacho (T12, E15)แล้วเปลี่ยนสายไปนั่งสาย Oedo Line ไปลงสถานี Tsukijishijo (E18) Exit A1 โผล่ขึ้นมาจากสถานี ก็งงๆ นิด ตามประสา 555 แล้วก็มองซ้ายมองขวา เดินตามๆ คนหมู่มาก คิดว่าไม่น่าจะหลงกันนะคะ ^_^

บรรยากาศยามเช้า วุ่นวายดีค่ะ เดินๆ ระวังรถกันหน่อยนะคะ เค้าเร่งส่งของสด กันค่ะ 

images by free.in.th

มีของสดขายเยอะแยะเลยค่ะ รวมทั้งของแห้งทั้งหลาย ร้านรวงมากมาย รวมทั้งร้านอาหารเพียบค่ะ อยู่ในซอยเล็กซอยน้อย เดินกันเมื่อยเลยค่ะ 

images by free.in.th

แล้วเราก็เลือกที่จะไปต่อคิว สักร้าน ที่ดูแล้วคิวน้อยที่สุด มั๊ง 5555

images by free.in.th

ยืนรออยู่ ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ไม่ขยับเลยวุ้ย เสียเวลายืนรอนานมาก เลยคุยกับสมาชิก ผ่านเต๊อะ ไม่ไหวจะรอละ จะได้ไปที่อื่นต่อ สรุปอดกินนะคะ 555 เลยได้แค่ ขนมอะไรสักอย่าง ไส้สตรอเบอรี่ มันอร่อยมากกกกก ขอบอก ^___^

images by free.in.th

บรรยากาศรวมๆ ก่อนกลับ ได้ของมาหลายอย่างเลย รวมทั้งค้อนไม้ด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า

images by free.in.th

ออกจากตลาดปลาซิกิจิ เราตั้งใจจะไปวัดอาซากุซะ ตอนเช้าแก้มืออีกรอบ แล้วจะได้ไปขึ้นเรือไปโอไดบะต่อ แต่เห็นว่ายังเช้าอยู่ เลยแวะ สวนอูเอโนะกันสักหน่อย เผื่อจะเห็นซากุระ ฮ่าฮ่าฮ่า

จากสถานี Tsukijishijo (E18) เรานั่งไปลงสถานี Ueno-okachimachi (E09) ทีเดียวจบ โผล่ ขึ้นมาก็มองเห็นสวนอูเอโนะ แล้วค่ะ (น่าจะเป็นด้านข้างสวน) เดินเข้าไปเลยค่ะ แล้วจะเห็นหน้าสวนอยู่ด้านซ้าย มองเห็นต้นซากุระ อยู่ 2 ต้นทางด้านหน้าสวน ดอกบานเต็มต้นเลยค่ะ งานนี้ มีพนัน 555 ให้ทายกันว่าต้นจริงหรือต้นปลอม กร๊ากกกกกกกกกก (ระหว่างทางเดินมา ไม่เห็นซากุระบานสักต้น) สรุปน้องสาวเสียพนันค่ะ เอิ๊กๆๆๆ คนข้างบ้านบอก ถ้าดอกปลอม มันก็ต้องปลอมนกด้วยละว่ะ 555 (แอบเห็นนกบินเข้าบินออก) 

images by free.in.th

ถ่ายรูปไป อย่างบ้าคลั่ง 5555

images by free.in.th

แล้วก็เดินเข้าไปในสวน เริ่มมีซากุระ บานให้เห็นบ้างแล้วค่ะ สวยๆๆๆ ถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่งต่อไป.............555

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

คุณพี่ค่ะ หันหน้ามาให้ถ่ายหน่อยซิค่ะ คุณพี่ส่องอะไรค่ะนั้น ^____^

images by free.in.th

ไหว้พระขอพรสักหน่อย 

images by free.in.th

อีกศาลเจ้า ก็เหมือนเดิมก่อนขึ้ันก็ทำการบ้วนปาก ล้างมือ ^_^

images by free.in.th

images by free.in.th

ก่อนจาก สวนอูเอโนะ อีกสักรูป 555

images by free.in.th

แล้วก็เดินไป ตลาดอะเมโยโกะ ช็อปปิ้ง หามื้อกลางวันกินกันที่นี่ค่ะ มื้อนี้หมดไป 3,450 เยน ได้เกาลัด อีก 1 ถุง 500 เยน 

images by free.in.th

images by free.in.th

กินอิ่ม มีแรงเดินต่อ มองนาฬิกา อ้าวววววว ไม่น่าจะทันรอบเรือละ 555 อดล่องเรือไปโอไดบะ นะคะ งั้นเปลี่ยนแผน ไปช็อปปิ้งตึกม่วงแทนละกัน แล้วค่อยไปโอไดบะโดยรถไฟแทน 555

การเดินทางไปตึกม่วง หาข้อมูลมาให้ ประมาณนี้ค่ะ นั่งรถไฟ สาย Hibiya line มาลงสถานี(H16) Exit A3 โผล่ออกมาก็เจอเลย แต่ของเรา พอดี ไปหาข้อมูลหน้างาน จำไม่ได้ละ ว่าขึ้น ลงสถานีอะไร รู้แต่ นั่งรถไฟไปแน่ๆ แล้วงม หาตึกม่วงอีกนิด หาไม่ยากนัก เพราะตึกมันสีม่วง............5555

แล้วก็ไร้ซึ่งรูป เพราะช็อปปิ้งเพลิน เราคงไปสาขาเก่า ตึกเล็กๆ มีหลายชั้นมาก มีลิฟท์ขึ้นลง ชั้นล่างเป็นเหมือนซุปเปอร์ มีแต่ของกิน พวกขนม กาแฟ ชา ฯลฯ ช็อปมาเยอะเลยค่ะ ทั้งถั่ววาซาบิ ป๊อกกี้ ทาโร่งา ชาเขียว แล้วก็ไปจ่ายที่ด้านข้างอาคาร เพราะเราจะต้องทำ Tax Refund ด้วย แปลกดีเนอะ ถือสินค้า ออกประตูร้านไป 555 ออกจากร้านที่ประตูด้านข้างแล้วเลี้ยวซ้าย ถึงจะเจอตามรูป

images by free.in.th

ช็อปปิ้งกันเสร็จ เราก็ไป โอไดบะ กันค่ะ โดยนั่งรถไฟ ไปลงสถานี Shimbashi แล้วต้องเปลี่ยนขบวนต่อ ซึ่งเราได้หอบหิ้วของที่ช็อปปิ้งมาด้วย กลัวเป็นภาระในการเที่ยว เดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก เลยเอาไปฝากไว้ที่ตู้หยอดเหรียญค่ะ ราคา 300 เยน 

images by free.in.th

ฝากของเรียบร้อยก็ตัวเบากันละ 555 เราไปซื้อตั๋วรถไฟ ไปโอไดบะกันค่ะ จากตรงนี้ เมโทร+โทเอ พาส ไม่สามารถใช้ได้นะคะ มันเป็นรถไฟ แยกต่างหากรถไฟสาย Yurikamome เป็นรถไฟที่ไม่มีคนขับนะคะ ค่าตั๋ว 320 เยน ไปลงสถานี ODAIBA-KAIHINKOEN เราซื้อตั๋วไปกลับเลยนะคะ 

images by free.in.th

images by free.in.th

รถไฟ ข้ามทะเล มาก็เจอ ฝนตกค่ะ T T แบบนี้จะเที่ยวยังไงละนี่ กระซิก กระซิก กระซิก พอถึงสถานี Odiba-Kaihinkoen ก็ งง กันไป ตามสเต็ป 555 ต่อจากนี้ ก็ไร้แผน นะคะ เดินหาทะเลอย่างเดียวเลย เอิ๊กๆๆๆ ได้ภาพมาแค่นี้ละ ทำไร มะได้ฝนตก ฟ้าเน่า แงๆๆๆๆๆๆ

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

ได้รูปภาพมาแค่นี้ละ 555 แล้วก็กลับเลยค่ะ อยู่ต่อคงไม่สนุกละ ไปไหนไม่สะดวก แหะๆๆ ก็กลับทางเดิม ซื้อตั๋ว กลับไปลงสถานี Shimbashi แล้วไปเอาของที่ฝากไว้ที่ตู้หยอดเหรียญ แล้วเปลี่ยนขบวนไปนั่งสาย Asakusa Line (A10) ไปลงสถานี Nihombashi (A13) แล้วเปลี่ยนขบวนอีกครั้ง ไปนั่งสาย Tozai Line (T10) ไปลงสถานี Nishi-Kasai (T16) เพื่อไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม แพ็คของให้เรียบร้อย แล้วเราจะไป โรงแรม เมอร์เคียวนาริตะกันค่ะ

ตารางรถไฟ ตามรูปข้างล่างเลยค่ะ เราจะต้องไปลงสถานี Keisei-narita 

images by free.in.th

จากสถานี Nishi-Kasai (T16) ไปลงสถานี NISHI-FUNABASHI (T23) ใช้ เมโทร + โทเอ พาสได้ฟรี ต่อจากนี้ซื้อตั๋วเป็นเที่ยวละ เราจะต้องซื้อตั๋ว ไปลงสถานี FUNABASHI อีก 140 เยน โดยนั่งรถไฟขบวน JR Chuo/Sobu Line Local Service พอถึงสถานี FUNABASHI  ก็เดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี KEISEI-FUNABASHI เป็นรถไฟของ Keisei Main Line Ltd. Exp.ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม อีกคนละ 540 เยน เพื่อไปลงสถานี Keisei-narita เดินทาง กันแบบ งงๆ นะคะ แต่ไม่มีหลง สนุกดีค่ะ ได้ใช้บริการ เจ้าหน้าทีตามสถานีรถไฟ ด้วย เฮฮา กันไป บางสถานีเจ้าหน้าที่ ก็ออกมากดตั๋วรถไฟให้ด้วย หน้าตาดีแล้วยังใจดีอีก ขอบคุณมาก นะคะ ^__^

images by free.in.th

images by free.in.th

ถึงสถานี Keisei-narita ก็ออกมาหน้าสถานี เดินตรงไป แล้วเลี้ยวซ้าย เดินต่ออีกนิด ก็เจอโรงแรม เมอร์เคียว นาริตะ แล้วค่ะ หาง่ายมาก 

ภายในห้อง โอเค นะคะ แต่ทางเดินมาห้องพักนี่ซิ ไม่ไหวจะเคลียร์ ดูโทรมมากถึงมากที่สุด เหมือนตึกกำลังซ่อม วอลล์เปเปอร์ฉีกขาดเป็นทางยาว ดูหลอนเลย 555 ประตูห้องบางห้องก็พัง น่ากลัวอ่ะ หรือห้องที่เราได้ เค๊าไม่ได้เปิดใช้หวา เห่อๆๆๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย มีแต่รูปในห้อง 555

เตียงนอน นอนสบายดีค่ะ ห้องใหญ่ ความสะอาดดีพอสมควรค่ะ แต่ห้องมันดูเก่านะ 

images by free.in.th

มีฮาด้วย เปิดก๊อกน้ำไม่เป็น 555 แบบว่าภาษาง่อยมากอะนะ มันมีแปะไว้ตรงก๊อกให้อ่าน แต่ตัวเล็กมาก มองไม่ค่อยเห็นอ่ะ เปิดงัยก็ไม่ได้ เลยได้โทรไปหาฟร้อน ด้วยภาษาง่อยๆ ฟร้อนก็พยายามอธิบายอะนะ แต่เราฟังเค๊าไม่ออกงัย พนักงานเลยว่า ok เดี๋ยวเธอจะมาสอนเปิดที่ห้อง 555  เราก็มางมๆ ต่อ อะไรจะเปิดยากป่านนั้นฟร่ะ กว่าจะประสบความสำเร็จ เปิดก๊อกน้ำได้ เธอก็มาเคาะหน้าประตูห้องพอดี 555  อายจุง ^^

เสร็จเรื่องก๊อกน้ำ แล้วเราก็ออกไปหาอะไรกินค่ะ แต่สมาชิกอีก 2 คน ไม่ไหวละ ขอพักเลย เชงเลยออกมากับคนข้างบ้านกัน 2 คน เดินไปซุปเปอร์มาร์เก็ต ตรงข้ามสถานีรถไฟค่ะ ได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาหลายกระป๋องเลย น่ากินไปหมด 555 อิ่มแล้วก็รีบเข้านอนค่ะ รีบแล้วนะคะ ยังปาไปเที่ยงคืนกว่าเลย กร๊ากกก

ตื่นแต่เช้า อีกแล้วครับท่าน 555 ต้องรีบจัดการเก็บกระเป๋า สัมภาระทั้งหมด พร้อมแล้วก็เช็คเอาท์ค่ะ แถวๆ เค้าเตอรื มีกิโลให้ชั่งน้ำหนักกระเป๋าด้วยค่ะ จัดไป แต่ละคน น้ำหนักไม่มีเกินที่ซื้อมาเลยค่ะ สบายๆ 555

พร้อมแล้วก็ลากกระเป๋า ไปสถานีรถไฟ Keisei Narita เพื่อไปสนามบินกันค่ะ มือวางอันดับ 1 เรื่องหยอดตู้ 555 เธอหยอดทุกตู้ ไม่ว่าของกิน เครื่องดื่ม รวมทั้งตั๋วรถไฟ ด้วย ^___^

images by free.in.th

ได้ตั๋วแล้วก็เข้าสถานีรถไฟ เลยค่ะ เดินกันแบบ งงๆ อีกละ ดันมี หลายชานชลา ก็งง ซิค่ะ ป้ายเขียน นาริตะ แอร์พอร์ตให้เดินลงบันได ก็ลงจิ แบกกระเป๋าลงเลย พอลงไป อ้าว มันกลายเป็นเดินลอดรางรถไฟ ไปอีกชานชลา แต่ดูแล้วทิศทางมันไม่ใช่อ่ะ ก็แบกกระเป๋าขึ้นบันไดมาอีก 555 ท่าจะไม่ดี ถามเจ้าหน้าที่ดีกว่า กร๊ากกกก ทำไม ไม่ถามแต่แรกฟร่ะ ^_^  

สรุป คุณไม่ต้องเดินไปไหนหรอก 555 เข้าชานชลามา ก็ตรงนั้นละ แบกเป๋าขึ้นลงให้เมื่อยทำไมฟร่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า

images by free.in.th

images by free.in.th

ใช้เวลาเดินทางแป๊บเดียวค่ะ กี่นาทีไม่แน่ใจ 555 ถึงสนามบินแล้วก็เดินๆ ตามกันไป ดู เทอร์มินัลเราด้วยนะคะ ของเรา เทอร์มินัล 2 ค่ะ สายการบิน แอร์เอเซีย เอ๊กซ์ ถึงแล้ว ก็ไปต่อแถวโหลดกระเป๋า ของแอร์เอเซีย เอ๊กซ์ เคาเตอร์จะอยู่หลบมุมหน่อยนะคะ มีป้ายบอกทางไปอยู่นะคะ แต่มีงง 555 

ตอนโหลดกระเป๋า เคาเตอร์มีงง นิดหน่อย กับน้ำหนักกระเป๋าที่เราซื้อมา พอดีแยกบุคกิ้ง จอง พนักงานเลยงง ทำให้เราได้ใช้ภาษาง่อยๆ ของเราอีกละ กร๊ากกก แต่ก็รอดมาได้ นะ ขอบอก...... ^_^

โหลดเรียบร้อยแล้วก็ยังเข้าข้างในไม่ได้นะคะ ตม.ยังไม่เปิดทำงาน 555 มาเช้าเกิ๊น.... เลยได้ไปซื้อ ของกินในซุปเปอร์ในสนามบินนะคะ กดกาแฟ แก้ง่วง ละลายเหรียญเยนกันค่ะ 

images by free.in.th

images by free.in.th

เดินเล่นจนเมื่อย กว่า ตม.ก็เปิดทำงาน 555 ไปๆ ไปละลายเงินเยนกันข้างในต่อดีกว่าค่ะ อิอิ

images by free.in.th

พอเข้าข้างในแล้วก็เหมือนปล่อยลิงเข้าป่ากล้วยนะคะ นึกภาพออกไหมค่ะ 555 4 คน เดินกันคนละทิศละทาง ขาดการติดต่อ กร๊ากกกก ช่วงนี้ เชงใช้ไวไฟของสนามบินแล้วค่ะ เพราะตัวพ๊อกเก็ตไวไฟ อยู่กับคนข้างบ้าน แล้วหายเข้าป่ากล้วยไปละ ส่วนน้องกับพี่ก็หายเข้าป่ากล้วยอีกคู่ 555 แล้วมาป่ะกันอีกที ก็ที่ร้านขายขนมร้านสุดท้ายหน้าเกท นะคะ ละลายเหรียญ ที่เหลือจริงๆ ละ 555 แต่ละคน ถุงเต็มมือ อิอิ

แล้วก็ต้องอำลา ประเทศญี่ปุ่นกันแล้วค่ะ ไว้มีโอกาส จะกลับมาเที่ยวใหม่นะคะ บายยยยย และขอจบรีวิวไว้ด้วยภาพนี้เลยค่ะ พบกันใหม่ รีิวิวหน้านะคะ บาย.... ^______^

images by free.in.th



























Create Date : 24 พฤษภาคม 2558
Last Update : 26 พฤษภาคม 2558 19:05:40 น.
Counter : 2336 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฮุยเฉง
Location :
พิษณุโลก  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]



พฤษภาคม 2558

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog